สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่448 สาวใช้ตัวแสบ352

ตอนที่448 สาวใช้ตัวแสบ 352
ครั้งนี้เขาคิดดีแล้ว ถ้าหากยัยตัวเล็กไม่ยอมก่อน ไม่มาหาเขาก่อน เขาจะเย็นชากับเธอไปตลอดชีวิต แต่ว่าตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงเขา แถมยังรอเขายันดึก เขาก็คิดได้อัตโนมัติว่ายัยตัวเล็กยอมเขาแล้ว
เขายื่นมือออกไปกอดร่างของเธอเข้าหาตัว โอบเอาไว้ในอ้อมแขนของตน ถึงแม้เธอจะมองไม่เห็น เขาก็ยังทำสีหน้าเย็นชา กลัวว่าใครจะเห็นว่าเขากอดเธอมันจะขายหน้าเอา
“อืออ……” มีความรู้สึกอุ่นๆ ที่หน้าอก เซี่ยชีหรั่นในฝันร้องเรียกออกมา ทำให้ตัวเธอแนบชิดเข้าไปอีก
กอดแน่นขนาดนี้ แถมเซี่ยชีหรั่นยังครางออกมาทั้งเสียงเบาและน่าฟัง แล้วมือของเธอยังล้วงเข้าไปในชุดนอนของเขาอีก ประมาณว่าไม่ชอบขนบนชุดนอนของเขา เธอล้วงไปล้วงมาอยู่หลายครั้ง มือเล็กก็ลูบไปที่หน้าอกของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เย่เชินหลินเริ่มค่อยๆ หายใจอย่างไม่สม่ำเสมอ
เขากดมือของเธอไว้ แล้วเตือนเสียงเบา: “ถ้ายังกล้าขยับ ฉันจะจัดการเธอซะ!”
เมื่อเธอบิดร่างเล็กๆ ของเธอโดยไม่รู้ตัวจนไปถูเข้ากับใครบางคน ใครบางคนนั้นก็ทนไม่ไหวส่งเสียงหึออกมา แล้วพลิกตัวคร่อมเธอไว้
ผู้หญิงของเขา ทำไมเขาต้องทน อีกอย่างเขาก็เตือนเธอแล้ว เธอข้ามเส้นเอง ก็อย่ามาหาว่าเขารบกวนเธอนอนแล้วกัน
เธอลืมตาขึ้นและมองอย่างไม่น่าเชื่อไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาที่อยู่ใกล้หน้าเธอมากๆ นั้น แล้วจึงร้องออกมาเสียงแข็ง: “ห้ะ ใครน่ะ? นายจะทำอะไร?”
“จะเป็นใครล่ะ? คนอื่นเขาจะทำเรื่องแบบนี้กับเธอเหรอ?”
ยัยตัวเล็ก ก็มีแค่ผู้ชายของเธอเท่านั้นที่จะมีขนาดใหญ่เท่านี้ วันต่อมาก็อีก…… เซี่ยชีหรั่นดูเหมือนจะได้สติแล้ว แต่ว่าไม่นานก็โดนความเจ็บเล่นงานจนเกือบสลบไป
ก็เหมือนกับความฝัน ตอนเช้าตื่นมา แม้แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนนั้นเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า
แต่เมื่อรู้สึกได้ว่าร่างของตนทั้งท่อนบนท่อนล่างไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมเลย แถมผู้ชายที่แนบชิดอยู่ข้างเธอก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยเช่นกัน เซี่ยชีหรั่นจึงเข้าใจว่า มันไม่ใช่ความฝัน
เธอหน้าแดงแล้วค่อยๆ ขยับตัว ก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองปวดเหมือนโดนของหนักๆ ทับไว้อยู่เลย
ยังต้องไปทำงานด้วยสิ เมื่อเธอคิดว่าจะต้องไปทำงานก็หดหู่
ผู้ชายคนนี้สงสัยคงจะกลับมาดึกมาก แถมบวกกับการออกกำลังอย่างบ้าคลั่ง ถึงได้นอนหลับปุ๋ยเลย เซี่ยชีหรั่นไม่อยากรบกวนเขา เธอขยับเล็กน้อย ตั้งใจจะลอดแขนเขาออกไป ใครจะรู้ว่าพอขยับ เธอก็ไปโดนเข้ากับสิ่งที่จะถูกปลุกในทุกเช้าของใครบางคน ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงแหบของคนแซ่เย่บางคน: “นี่เธอกำลังยั่วฉันอยู่เหรอ?”
ที่แท้เขาตื่นอยู่! โชคดีที่เธอด่าเขาว่าเป็นอสูรแค่ในใจ ถ้าหากพูดออกมา เขาคงจะไม่เป็นคนอีกแน่ๆ
“นายนอนต่อเถอะ ฉันจะลุกแล้ว” เซี่ยชีหรั่นบังคับให้ตัวเองสงบลง เพราะกลัวว่าเขาจะจัดอีกรอบ น้ำเสียงก็ยังสั่นเครือเล็กน้อย

“จะลุกแล้ว?” จู่ๆ เขาก็ลืมตาขึ้น จ้องมองเธออย่างเจ้าเล่ห์ พอเห็นใจของเซี่ยชีหรั่นก็กระวนกระวายสุดๆ

“อื้อ จะลุกแล้ว ฉันยังต้องไปทำงานนะ”

“รีบไปทำงานขนาดนี้ เพราะอยากจะไปเจอเซียวแย่เหรอ?” เย่เชินหลินเปลี่ยนสีหน้า หมายความว่าไม่ค่อยพอใจ

สุดท้ายแล้วเขาก็เอ่ยปากพูดเรื่องนี้ ถ้าเขาไม่พูด เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ค่อยกล้าที่จะพูด แต่ถ้าไม่พูดก็กลัวว่าเขาจะไปเล่นงานเซียวแย่

“หลิน นายเข้าใจผิดแล้ว ที่เขาพูดกับฉันแบบนี้ เมื่อวานเป็นครั้งแรก อีกอย่าง ฉันคิดว่าเขากำลังล้อฉันเล่น ไม่ใช่เรื่องจริง นายอย่าใส่ใจ อย่าไปเล่นงานเขา ได้มั้ย? นายก็รู้ว่าเขาทำงานดีมาก ถ้าเป็นเพราะแค่เขาล้อเล่นไม่กี่คำแล้วโดนไล่ออกหรือว่าไปลงโทษเขา มันถือเป็นการสูญเสียของบริษัทเลยนะ”

สีหน้าของเย่เชินหลินไม่เปลี่ยน รอให้เซี่ยชีหรั่นพูดจบ เขาจึงถามขึ้นมานิ่งๆ : “พูดจบแล้ว?”

“พูดจบแล้ว นายหมายความว่าอะไรกันแน่?”

“ไม่ได้มีความหมายอะไร พูดจบแล้วก็มาทำอย่างเป็นทางการเถอะ!”

เวลาอาหารเช้า เซี่ยชีหรั่นก็ยังอยากจะพูดเรื่องของเซียวแย่ แต่เย่เชินหลินก็ไม่ให้โอกาสเธอได้เปิดปากพูด ไม่ว่าเธอจะพูดยังไง เขาก็จะทำเป็นไม่ได้ยิน หรือไม่ก็เปลี่ยนเรื่อง

เซี่ยชีหรั่นคิดๆแล้ว ว่าเปลี่ยนวิธีพูดดีกว่า เธออมยิ้มแล้วถามเสียงเบา: “เสี่ยวหนงบอกว่าบริษัทที่ล้มละลายเมื่อวานคือคนทำร้าย…..เป็นผู้ชายที่ทำร้ายเธอ เป็นฝีมือนายใช่มั้ย?”

เย่เชินหลินหึในลำคอ มันก็จริงที่เขาให้คนไปลงมือ ก็แค่ให้คนคนนั้นล้มละลาย ไม่ได้ทำร้ายเขา เป็นเพราะว่าคนที่ถูกทำร้ายคือโม่เสี่ยวหนง เธอในความทรงจำเขานั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“มองจากมุมนี้ นายเป็นคนที่ยุติธรรมดี แถมยังแยกถูกผิด ฉันชื่นชมนายมากๆ!” เซี่ยชีหรั่นพูดยกยอเขาเล็กน้อย

สาวใช้คนอื่นได้ยินบทสนทนา ก็แอบยิ้มในใจ ก็มีแต่ฟางลี่น่าที่ในใจคิด: ยัยแซ่เซี่ยคนนี้ตอแหลจริงๆ ประจบประแจงได้ตั้งแต่เช้า

“จริงเหรอ?” เย่เชินหลินถามกลับคำนึง มุมปากก็กระตุกเล็กน้อย

ยัยตัวเล็กนี่ อยากจะให้เขาหลงคารมอีกแล้วสินะ คิดว่ามันจะใช้ได้ทุกครั้งเหรอ?

เซี่ยชีหรั่นฉวยโอกาสพูดเรื่องดีๆ ขึ้นมาอีก เย่เชินหลินเก็บรอยยิ้มไว้ สุดท้ายก็แค่มองเธอหน้าตึงๆ แล้วเตือนเธอ: “กินยาเสร็จ ก็ควรไปทำงานได้แล้ว”

หลังจากอาหารเช้า จิ่วจิ่วกับหมอห่าวก็นำยาคุมอุ่นๆ มาให้เซี่ยชีหรั่น หลังจากเธอดื่มมัน ก็ได้เวลาที่ควรจะไปทำงานสักที

แต่ในใจก็ยังไม่ค่อยวางใจ ไม่รู้ว่าที่เธอพูดไปตั้งเยอะจะมีผลกระทบต่อความคิดของเย่เชินหลินมั้ย

หรือบางทีเขาอาจจะไม่ทำอะไรกับเซียวแย่เลย? เซี่ยชีหรั่นปลอบใจตัวเองขณะเดินทาง ยังไงมันก็เป็นแค่การคาดเดาของเธอ แซ่เย่คนนั้นเขาก็ไม่ได้บอกว่าจะเล่นงานเซียวแย่นี่น่า

หลังจากที่ถึงบริษัท ทุกอย่างก็ปกติ คนที่นินทาเธอก็นินทาเธอตามปกติ เซียวแย่ก็นั่งอยู่ในออฟฟิศตามปกติ

หลังจากเสร็จประชุมเช้า เลขาของผู้อำนวยการก็ประกาศให้หัวหน้าของแผนกเข้าประชุม เซี่ยชีหรั่นนับว่าเป็นระดับล่างๆ เลย ดังนั้นจึงทำได้แค่นั่งอยู่ตรงที่นั่งของตัวเองแล้วตั้งใจทำงานของเธอ

เธอคิดๆ ดู จึงตัดสินใจว่าจะไม่บอกเรื่องบอกอี๋ปิงให้เย่เชินหลินรู้ ถ้าหากเธอพูดไป แล้วเขารู้ว่าแผนงานของอี๋ปิงเป็นของเซี่ยชีหรั่นละก็ คงต้องถูกตรวจสอบแน่ๆ การแข่งขันครั้งนี้ก็จะไม่ยุติธรรม

การประชุมของหัวหน้าแผนกก็ไม่ได้ประชุมกันนานนัก แค่ประมาณยี่สิบนาที พวกหัวหน้าแผนกก็ต่างคนต่างกลับไปที่ออฟฟิศของตัวเอง

“เซี่ยชีหรั่น หัวหน้าเซียวเรียกเธอไปหาที่ห้องทำงานน่ะ!” ตอนสิบโมงกว่า หัวหน้าฝ่ายการตลาดก็เรียกเซี่ยชีหรั่น

ไม่ต้องบอก การเรียกเมื่อกี้ก็ได้ดึงดูดสายตาแปลกๆ จากพนักงานผู้หญิงคนอื่นเช่นกัน

“ขอบคุณค่ะ!” เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น ไม่ได้สนใจรอบข้างคนอื่นจะคิดยังไงก็คิดไป เธอเชิดหน้า ในขณะที่มีสายตาจับจ้องอยู่นั้นเธอก็เดินไปที่ประตูด้านนอกห้องของเซียวแย่ แล้วเคาะประตู

ประตูห้องของเซียวแย่เปิดอยู่ พอได้ยินเสียงเคาะประตู เขาที่กำลังเก็บของอยู่ก็เงยหน้าขึ้น: “เชิญเข้ามา!”

เซี่ยชีหรั่นเข้าห้องไป เซียวแย่ก็เหลือบมองไปที่ประตู แล้วพูดกับเธอ: “ปิดประตู ฉันอยากจะคุยกับเธอหน่อย!”

ที่จริงแล้วเธอไม่อยากปิดประตู ไม่อยากเป็นขี้ปากของคนอื่นยิ่งกว่าเดิม แต่เมื่อเซียวแย่พูดแล้ว เธอก็ต้องเดินกลับไปปิดประตู แล้วก็กลับมาที่หน้าโต๊ะทำงานของเซียวแย่

เห็นโต๊ะทำงานเขานั้นสะอาดสะอ้าน เอกสารของเขาทั้งหมดถูกเก็บอยู่ในกล่อง แค่ดูก็รู้ว่าจะออกจากงาน

เซี่ยชีหรั่นรู้สึกหนักใจ ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ไม่ต้องพูด ก็รู้ว่าเป็นฝีมือของคนแซ่เย่นั่นแน่ๆ หรือที่เธอขอร้องเขาอยู่ตั้งนาน ไม่ได้เข้าหูเขาเลย?

“คุณจะไปแล้วเหรอ? หัวหน้าเซียว!” เซี่ยชีหรั่นไม่อยากจะคิดกับเย่เชินหลินในแง่ร้ายไป จึงถามเซียวแย่ไปคำนึง

“อืม!” เซียวแย่พยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ สายตาไม่ได้มองไปที่เซี่ยชีหรั่นเลยแม้แต่น้อย หัวคิ้วขมวดเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น: “ถ้าหากฉันไม่ได้เดาผิด แฟนหนุ่มอันเพอร์เฟคของเธอวันนั้น คือประธานเย่ของเราใช่มั้ย?”

ประโยคนี้ของเขาเหมือนจะตอกย้ำความคิดของเซี่ยชีหรั่น ครั้งนี้ที่เขาไป แน่นอนว่าเป็นเพราะเย่เชินหลินไม่ผิดแน่ ไม่งั้นเขาจะไปเร็วขนาดนี้เหรอ ไม่มีแม้แต่สัญญาณล่วงหน้า

เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เซียวแย่รู้ว่าเขาเดาถูก

“ชีหรั่น ถ้าฉันพูดหรือทำอะไรผิดพลาด ขอให้เธอยกโทษให้ฉันนะ ฉันจะไปแล้ว ตำแหน่งนี้อาจจะไม่ได้มีคนมาแทนใหม่เร็วนัก ตอนนี้คงจะเป็นหัวหน้าหวังดูแลไปก่อนชั่วคราว แผนงานของเธอ ฉันยังไม่ทันได้ตรวจสอบเลย ขออภัยจริงๆ แต่ว่าฉันเชื่อในความสามารถของเธอ แผนงานของเธอต้องชนะแน่ๆ!”

เซี่ยชีหรั่นมาทำงานได้ไม่นาน และก็รบกวนเซียวแย่แนะนำเธอไม่น้อย ตอนนี้มาได้ยินว่าเขาจะไปแล้ว แถมยังเป็นเพราะเรื่องของเธอ ใจของเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกไม่ดี

เขาจะต้องไปแล้วยังพูดแต่เรื่องของแผนงานเธอ ถึงกระทั่งช่วยแนะนำว่าจะต้องแก้ไขตรงไหน นี่เป็นปัญหาที่เซี่ยชีหรั่นไม่ได้นึกถึงเลยตั้งแต่แรก

เธอรู้สึกขอบคุณและก็รู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน และก็รู้สึกว่าคนเก่งๆ อย่างเขา บริษัทไม่ควรจะเสียไป

“หัวหน้าเซียว ขอบคุณค่ะ!” พอฟังเซียวแย่พูดจบ ก่อนที่เซี่ยชีหรั่นจะออกไป ก็พูดแค่หกคำ

เธอไม่ได้กลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอ แต่หันไปทางประตูและเดินออกไปยัง ห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุดของเย่เชินหลิน

ลิฟต์เฉพาะสำหรับเขามีบอดี้การ์ดเฝ้าไว้อยู่ ถึงแม้จะเคยเห็นเซี่ยชีหรั่นมากี่ครั้ง แต่ไม่มีคำสั่งจากเย่เชินหลิน พวกเขาก็ไม่ปล่อยเข้าไป

เซี่ยชีหรั่นโทรหาเย่เชินหลิน บอกว่าต้องการเจอเขาเดี๋ยวนี้

เย่เชินหลินให้เธอยื่นโทรศัพท์ให้บอดี้การ์ดที่ดูแลลิฟต์ เขาออกคำสั่ง บอดี้การ์ดก็เปิดประตูลิฟต์แล้วพาเซี่ยชีหรั่นขึ้นไปยังชั้นบนสุด

“เข้ามา!” เย่เชินหลินได้ยินเซี่ยชีหรั่นเคาะประตู จึงพูดขึ้นเสียงเข้ม

หน้าเล็กๆ ของเธอดูโกรธมากๆ เย่เชินหลินเชิดมุมปาก วันนี้เขามีความสุขจริงๆ

“เย่เชินหลิน! ตอนเช้าฉันขอร้องนายอยู่ตั้งนาน ทำไมนายยังไล่หัวหน้าเซียวออกล่ะ? เขาเป็นคนมีความสามารถ นายไม่รู้เหรอ? เขาก็แค่ล้อเล่น ก็ไล่เขาออกแล้ว นายทำมากเกินไปรึเปล่า?”

หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นเข้าห้องไปบอดี้การ์ดก็ปิดประตูลง แล้วเซี่ยชีหรั่นก็เริ่มบ่นเย่เชินหลิน

เย่เชินหลินไม่ได้พูดอะไร ไม่มีสีหน้าอะไรเลยสักนิด รอเธอพูดให้จบอย่างใจเย็น แล้วจึงพูดขึ้นอย่างช้าๆ : “มานี่ ยัยตัวเล็ก!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset