สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่447 สาวใช้ตัวแสบ 351

ตอนที่447 สาวใช้ตัวแสบ 351
เขาค้นพบว่าหลังจากรู้สำนึกแล้ว ทุกวันก็ใช้ใจคอยดูแลเย่เชินหลิน ดูแลเซี่ยชีหรั่น สภาพจิตใจเขาก็ดีขึ้น แม้แต่ร่างกายก็ดีขึ้นด้วย
ดังนั้นที่เขาพูดว่าเป็นมนุษย์ต้องรู้จักสำนึกบุญคุณนั้น เป็นที่ที่ออกมาจากใจของเขา
ส้งหลิงหลิงเก่งที่จะใช้เงินเพื่อซื้อใจคน เซี่ยชีหรั่นไม่ทำอย่างนั้น แต่เซี่ยชีหรั่นใช้ความจริงใจและคิดถึงคนอื่น พ่อบ้านรู้ว่าทั้งสองมีปัญหากัน เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ หวังแค่ว่าจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ จะช่วยให้เซี่ยชีหรั่นมีหน้ามีตาต่อหน้าสาวใช้
หลังจากที่เธอมีอิทธิพลแล้ว นายท่านกลับมา ก็จะเห็น แล้วเข้าใจว่าภรรยาแบบนี้นั้นหายาก ทั้งในบ้านและนอกบ้านก็สามารถจัดการได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามนี่คือตระกูลใหญ่ ดูอ่อนโยน แต่ทำงานบ้านไม่ได้ ในตายสายคนอื่นก็ยังถือว่าเป็นภรรยาที่ไม่ผ่าน
“ทุกคนอย่าเกรงใจเลย ขอโทษด้วย ที่ฉันไม่เคยทำอะไรให้พวกเธอเลย” เซี่ยชีหรั่นดูเหมือนจะทนไม่ได้ จึงยืนขึ้น ก้มหัวเล็กน้อย โค้งคำนับกลับให้ทุกคนเช่นกัน
“พวกเราทุกคนเข้าใจค่ะ รอคุณได้เป็นคุณนายเย่อย่างเป็นทางการ คุณคงจะให้โบนัสพวกเราแน่ๆ ” พ่อบ้านพูดแบบนี้ และโน้มน้าวความคิดของสาวใช้ทุกคนได้อย่างธรรมชาติ
คุณนายเย่……ชื่อนี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นงงเล็กน้อย กลัวว่ามันจะห่างไกลอีกเยอะ หรืออาจจะไม่ใช่แค่ห่างไกล ชีวิตนี้ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นหรือเปล่าน่ะสิ ใครจะไปรู้
ระหว่างเธอกับเย่เชินหลินไม่เคยโดนขัดเพราะความเปลี่ยนแปลง สิ่งที่น่ายินดีคือการได้ตกหลุมรัก ความรู้สึกของทั้งสองคนได้ลึกซึ้งเข้าไปอีก
ไม่ทันได้รู้ตัว เย่เชินหลินก็ให้ความเคารพเธอกว่าที่ผ่านมา แถมเขายังไม่รุนแรงกับเธอ เรื่องของเซียวแย่วันนี้ เขาไม่ได้พูดเรื่องความสัมพันธ์ของเราออกไป ก็ถือว่าเป็นการเคารพเธออย่างหนึ่ง
ความขี้หึงของเขาเธอรู้ดี วันนั้นถึงกับทิ้งร่มของเซียวแย่ วันนี้เซียวแย่จีบเธอต่อหน้าเขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาคงจะหึงเอามากๆ สามารถอดทนได้นี่ไม่ง่ายเลย
“โอเค ทุกคนไปกินข้าวเถอะ!” พ่อบ้านสั่งเสร็จ สาวใช้ทั้งหมดก็ออกไป เหลือแค่เขากับจิ่วจิ่ว
จิ่วจิ่วยังคงยืนอยู่ข้างหลังเธอ คอยดูแลเธอ
ที่จริงแล้วทุกครั้งที่เห็นจิ่วจิ่วดูแลเธอ จนตัวเองไม่ได้กินข้าว เซี่ยชีหรั่นก็ไม่สบายใจ เธอก็เคยพูดให้จิ่วจิ่วกินข้าวกับเธอ จิ่วจิ่วกับพ่อบ้านก็ยังยืนยันว่าทุกคนมีฐานะของตัวเอง ไม่สามารถล่วงเกิน
เซี่ยชีหรั่นจัดการอาหารเย็นอย่างเร็ว แล้วยืนขึ้นพูดกับพ่อบ้าน: “ขอบคุณนายจริงๆ ที่ตั้งใจช่วยพูดเรื่องดีๆ ของฉัน”
พ่อบ้านอมยิ้มและส่ายหน้า: “อย่าพูดขอบคุณเลย ถ้าหากเธอไม่ได้เห็นใจทุกคนจริงๆ ผมอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี ชีหรั่น แต่ก่อนผมทำผิดไปตั้งเยอะ ทำร้ายจนเธอเกือบจะ……”

“เรื่องนั้นอย่าไปพูดถึงเลย” เซี่ยชีหรั่นรับคำของเขา แล้วพูดขึ้น: “นายรอวันไหนที่คุณเย่อารมณ์ดีๆ ไปแสดงความคิดเห็นกับเขา ทุกๆ วันให้คนงานกินข้าวกันเร็วขึ้น อีกอย่างพวกเราหลังจากเลิกงานกลับถึงบ้านก็หกโมงกว่าแล้ว ให้พวกเขาห้าโมงครึ่งกินข้าวจะดีกว่า ไม่งั้นหิวตายกันพอดี”

ที่เธอพูดเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เพราะว่าพ่อบ้านอวยเธอ เธออยากจะพูดมาตั้งนานแล้ว แค่รู้สึกว่าสถานะของตัวเองก็ไม่ได้มีอำนาจมากนัก จะพูดคงไม่ค่อยดี

ตอนนี้ ถ้าหากเธอไปคุยเรื่องนี้กับเย่เชินหลินด้วยตัวเอง เธอก็บกไม่ได้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยายังไง ทำไม่ดีอาจจะหาว่าเธอหาพรรคพวกอีก

“โอเคครับ ผมจะบอกกับคุณเย่เองครับ” พ่อบ้านตอบรับคำ

“ไม่ต้องบอกว่าเป็นความเห็นของฉันนะ” เซี่ยชีหรั่นตั้งใจพูดไว้อีกครั้ง พ่อบ้านก็พยักหน้า

“พวกเธอก็รีบไปกินข้าวเถอะ! ลำบากพวกเธอแล้ว” เซี่ยชีหรั่นพูดจบ ก็เดินออกไปทางประตูห้องอาหาร เหลือแค่พ่อบ้านกับจิ่วจิ่วทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะพูดคุยกันสักพัก บอกว่าถ้าหากเซี่ยชีหรั่นแต่งงานกับเย่เชินหลิน นั่นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีของพวกพนักงานในบ้านตระกูลเย่แล้ว

เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าเย่เชินหลินไปไหน เธออยากจะโทรหาเขา แต่ก็รู้สึกว่าหาเหตุผลดีๆ ที่จะโทรหาเขาไม่ได้

ขณะนั้นเย่เชินหลินกำลังอยู่ในโรงพยาบาล มองไปยังร่างที่อิดโรยของไห่ฉิงฉิง เธอบอกไม่กินข้าวก็ไม่กิน แม้กระทั่งน้ำยังไม่ดื่ม

คุณนายไห่ช้ำใจแทนลูกสาวเสียใจจนไม่รู้ว่าร้องไห้ไปกี่ครั้งแล้ว เธอขอร้องสามี ให้เขาตอบรับคำขอของไห่ฉิงฉิง

“ไม่ได้! ถ้าเธอไม่กินข้าวแล้วยอมอ่อนข้อให้เธอ ชีวิตนี้ทั้งชีวิตไม่รู้ว่าจะต้องยอมให้เธอไปอีกกี่ครั้ง!”

“หรือว่าพี่จะให้ลูกหิวตายงั้นเหรอ?” คุณนายไห่ร้องไห้ไปพร้อมกับถามสามีของตน

“แค่หิวไม่ตายหรอก ยังฉีดสารอาหารเข้าไปให้ได้!”

ช่วงปีที่ผ่านมาหลังจากที่พ่อของไห่ลี่หมินปลดเกษียณก็ไม่ได้ออกไปพบปะผู้คนเลย ถ้าหากต้องการจะทำอะไรเขาก็จะสั่งให้ไห่ลี่หมินลูกชายของตนไปทำ

ดังนั้นครั้งนี้ที่ร่างกายของไห่ฉิงฉิงมีปัญหา ต้องให้สารอาหาร เขาก็โทรศัพท์บอกไห่ลี่หมิน สั่งให้เขาโทรไปเตรียมการไว้ที่โรงพยาบาล

หลังจากที่ไห่ลี่หมินติดต่อเสร็จ ก็กลัวว่าพ่อแม่จะทำให้ไห่ฉิงฉิงเจ็บปวดไม่ลง จึงติดต่อเย่เชินหลิน เรียกให้เขารีบไปที่บ้านตระกูลไห่คอยช่วย

ไห่ฉิงฉิงโดนส่งไปที่โรงพยาบาล และฉีดสารอาหารให้ เธอก็ยังไม่ยอมอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงกับอยากจะกระชากเข็มออก แต่ตอนนี้เธอไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย จึงทำได้แค่นอนมองเพดาน สารอาหารก็ได้ถูกฉีดเข้าเส้นเลือดของเธอต่อเรื่อยๆ

คุณไห่โกรธลูกสาวของตัวเอง จึงไม่ได้มาดูที่โรงพยาบาล คุณนายไห่ก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด แถมยังขอร้องเย่เชินหลิน: “ลูกช่วยพูดกับฉิงฉิงหน่อยเถอะ ให้น้องเขาคิดได้สักที บนโลกนี้มีผู้ชายดีๆ มากมาย ทำไมถึงต้องยอมตายแบบนี้? ที่พวกเราทำทั้งหมดก็เพื่อน้อง ไม่อยากให้น้องโดนเขาหลอก!”

เย่เชินหลินนั่งอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย มองไปที่หน้าเหลืองๆ ของไห่ฉิงฉิง ตั้งแต่เล็กจนโต เขาแค่รู้ว่าสุขภาพของน้องสาวคนนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่ไม่เคยเห็นเธอในสภาพนี้เลย

“ฉิงฉิง!” เขาเรียกเธออย่างปวดใจ ไห่ฉิงฉิงแค่เหลือบตามองเขา แล้วพูดกับเขา: “ฝากบอกพ่อกับพี่ชายหนูด้วยว่า ถ้าหากไม่ปล่อยโม่เสี่ยวจุนไป และไม่ยอมรับเรื่องการแต่งงานของเรา งั้นก็เตรียมฉีดสารอาหารให้หนูไปตลอดชีวิตแล้วกัน”

ปฏิกิริยาของเธอยังดื้อด้านอยู่ ทำให้เย่เชินหลินเปลี่ยนอารมณ์อย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่ช้ำใจเพราะไห่ฉิงฉิง และยิ่งอดไม่ได้ที่จะเกลียดโม่เสี่ยวจุนที่ทำให้เธอทรมาน

ให้ตายเถอะ! เขาควรจะส่งมันไปลงนรกตั้งแต่มันโผล่หัวออกมาแล้ว ไม่งั้นเขาคงไม่เป็นแบบนี้ ทำให้เซี่ยชีหรั่นเสียใจอยู่ทุกๆ วัน แถมยังทำให้ไห่ฉิงฉิงไม่อยากจะมีแม้แต่ชีวิต

เสียงของไห่ฉิงฉิงแหบแห้ง เสียงพูดนั้นเล็กมาก และเบามาก แต่ตาก็ยังมีประกาย

เธอเชื่อ ขอแค่เธอยืนหยัด เธอจะจัดการอุปสรรคของเธอกับโม่เสี่ยวจุนได้ภายในครั้งเดียว

ถึงแม้ว่าไห่ฉิงฉิงจะอ่อนแอจนไม่มีแรง แต่เย่เชินหลินก็ยังเป็นห่วงว่าเธอจะวิ่งหนีออกไปกลางดึก เธอหิวมาสองสามวันแล้ว ถ้าเกิดกลางดึกหาวิ่งออกไปจริงๆ ทำอะไรไม่ดีแม้แต่ชีวิตอาจจะไม่มีเลยก็เป็นได้

เขาไปกล้าไป อยู่เฝ้าที่โรงพยาบาลจนถึงตีสามกว่าๆ ไห่ลี่หมินที่รีบกลับมาก็มาถึงแล้ว ตอนที่เขามาถึง ไห่ฉิงฉิงก็อิดโรยมึนๆ และหลับไป

ชายทั้งสองเดินออกไปที่ระเบียง เงียบใส่กันอยู่นาน

“ไห่ ฉันว่า ปล่อยไอ้สวะโม่เสี่ยวจุนนั้นไปดีมั้ย? ฉิงฉิงทำแบบนี้ ก็ไม่ใช่ทางเลือกแล้ว เธอบอกว่าจะอดอาหาร เธอก็ทำมันแล้ว ตอนนี้เธอบอกว่า ถ้าไม่ปล่อยโม่เสี่ยวจุน ไม่ยอมรับการแต่งงานระหว่างสองคนนั้น เธอจะอดอาหารไปตลอดชีวิต นายทนดูน้องทรมานตัวเองแบบนี้ไหวเหรอ?”

เมื่อกี้ไห่ลี่หมินดูน้องสาวอยู่ครู่หนึ่ง ก็อยากจะไปอัดโม่เสี่ยวจุนอีกสักหมัด ถ้าเขาไม่ได้มาหลอกล่อไห่ฉิงฉิง เด็กที่ทั้งร่าเริงและเป็นมิตรอย่างเธอ จะได้รับโทษแบบนี้ได้ยังไง?

มีแว๊บนึง ที่เขาอยากจะปล่อยโม่เสี่ยวจุนไปจริงๆ แต่เขาทำไม่ลง ความคิดของเขาเหมือนกับพ่อ

เรื่องนี้มันเกี่ยวกับความสุขทั้งชีวิตของไห่ฉิงฉิง พวกเขาไม่คิดว่าโม่เสี่ยวจุนคนที่เขาหาเธอเพราะมีจุดประสงค์จะทำให้เธอมีความสุขได้ ดังนั้นพวกเขาจึงยืนหยัด ตอนนี้ก็เหมือนสงครามประสาท ใครก้มหัวก่อน คนนั้นก็แพ้

ถ้าพวกเขาแพ้ ก็เท่ากับว่าความสุขทั้งชีวิตของไห่ฉิงฉิงก็แพ้เหมือนกัน

ดังนั้นถึงจะช้ำใจก็ต้องยืนหยัดต่อ จะให้เธอสมหวังไม่ได้

ไห่ลี่หมินไม่ได้พูดอะไร แต่เย่เชินหลินก็มองความคิดของเขาออก เขาตบไปที่ไหล่ของไห่ลี่หมิน แล้วปลอบเขา: “ปล่อยมันไป ก็ไม่จำเป็นต้องยอมรับเรื่องของสองคนนั้น บางคนก็เป็นแบบนี้ ยิ่งไม่ได้ ยิ่งรู้สึกดีด้วย ยิ่งเห็นค่า เอาเป็นปล่อยมันไป ให้ฉิงฉิงไปมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง ใครจะรู้ไม่นานเธออาจจะเลิกชอบมัน แล้วไม่อยากอยู่กับมันก็ได้?”

คำพูดของเย่เชินหลินทำเอาไห่ลี่หมินนิ่งอยู่นาน จากนั้นเขาดูเหนื่อยมากแล้วจึงขยี้ผมตัวเอง แล้วพูดขึ้นเสียงเบา: “นายกลับไปก่อนเถอะ ฉันขอคิดก่อน”

ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน ไห่ลี่หมินไม่เคยลังเล แต่นี่มันเป็นเรื่องของน้องสาว แถมน้องสาวยังไร้เหตุผลอีก เขาจัดการกับมันไม่ได้จริงๆ

เย่เชินหลินเห็นว่าช่วงนี้ไห่ลี่หมินผอมสูบลงไปเยอะ แม้แต่เบ้าตาก็ดูสูบลงไป เมื่อกี้ก็บอกว่าตัวเองยุ่ง ช่วงนี้ยังต้องมาเหนื่อยกับไห่ฉิงฉิงอีก นิดๆ หน่อยๆ ก็ไปกลับภายในคืนเดียว ผู้ชายแข็งแรงแค่ไหนก็เอาไม่อยู่

เขาพูดเสียงเย็นชาและมองไปที่ไห่ลี่หมิน: “รีบไสหัวไปนอนได้และ หน้าอย่างกับผี ฉันจะอยู่ที่นี่ดูเธอเอง”

“ไม่เป็นไร รอฉิงฉิงตื่น ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอสองคนหน่อย นายกลับไปเหอะ!” พอไห่ลี่หมินพูดจบอย่างไร้เรี่ยวแรง เขาก็หันหลังกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วย

ตอนที่เย่เชินหลินกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไปตีสี่แล้ว เขาจอดรถที่หน้าบ้านใหญ่ สีหน้าที่เย็นชา แม้กระทั่งอากาศก็ยังเย็นถึงกระดูก

อากาศแบบนี้ เวลาแบบนี้ เป็นเวลาที่เหมาะกับการกอดคู่รักนอนที่สุด แต่ผู้หญิงของเขา ในใจยังกังวลถึงผู้ชายคนอื่นอยู่ ไม่คิดจะเข้าใกล้เขาเลย

พอคิดถึงยัยตัวเล็ก สีหน้าเขาก็เริ่มบูด หลังจากเดินเข้าประตูมา เขายืนอยู่ที่ที่ระเบียงตรงหน้าห้องของเซี่ยชีหรั่นอยู่สักครู่ มือวางลงลูกบิดประตู แต่พอนึกถึงไม่กี่วันก่อนที่เธอเย็นชาใส่เขา เขาจึงเอามือออก

แล้วจึงหันกลับไปเปิดประตูห้องของตัวเอง เย่เชินหลินมองไปรอบๆ ห้อง เมื่อมองเห็นว่ามีร่างเล็กๆ ขดตัวอยู่บนเตียง สายตาเขาก็เซอร์ไพรส์เล็กน้อย จากนั้นจึงขมวดคิ้ว

ยัยผู้หญิงคนนี้ แม้แต่ผ้ายังไม่ห่ม ก็นอนหลับบนเตียงซะแล้ว

คิดแล้วเหมือนเธอจะรอเขาอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่ารอมานานแค่ไหนแล้ว เลยหลับไปโดยไม่รู้ตัวสินะ

เขาเข้าไปห่มผ้าให้เธอก่อน ห่มให้เธอดีๆ จากนั้นจึงเข้าห้องอาบน้ำในห้องไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอนขึ้นเตียง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset