สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 477 สาวใช้ตัวแสบ381

ตอนที่ 477 สาวใช้ตัวแสบ381
“คุณ​เย่ คุณ​ไล่ฉันออกเถอะ” หลิวเสี่ยวเจียวพูดอย่างมุ่งมั่นอีกครั้ง เย่เชินหลินก็ยิ่งแน่นอนกับการคาดเดาของเขา
ไห่ลี่หมินเตรียมคนที่เข้ามาแทนจงหยุนซาง แต่ก่อนเขานึกว่าคือเซี่ยชีหรั่น ต่อมาถึงรู้ว่าไม่ใช่เซี่ยชีหรั่น ถึงแม้เซี่ยชีหรั่นก็คือคนที่ประธานจงให้ไห่ลี่หมินบอกเธอว่ามาสมัครงานสาวใช้ที่นี่ แต่จริงๆแล้วเพื่อที่จะกระจายความสนใจของเขา
คนกลุ่มนั้น ภายหลังเขามาคิดๆแล้ว นอกจากเซี่ยชีหรั่นแล้ว ที่อาจจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือหลิวเสี่ยวเจียว
ดูแล้วเธอเป็นคนขี้ขลาดมาก จนกระทั่งไม่พูดไม่จาสักคำ น้อยคนที่จะจำได้ ความจริงเธอเป็นคนที่มีกลอุบายมากสุดในกลุ่มสาวใช้ที่เข้ามากลุ่มนั้น ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาบ้านพักตากอากาศ​ ก็ตามเซี่ยชีหรั่นไปทำกับข้าวเลยอัตโนมัติ​ เรื่องนี้ก็ดูออกได้อย่างชัดเจน
ภายนอกดูเหมือนเธอเป็นเพียงคนขี้ขลาด หรือว่าเพราะขยันเลยไปทำกับข้าว จริงๆแล้วเพื่อที่เธออยากจะอยู่ต่อ เลยตั้งใจทำขนาดนั้น
เย่เชินหลินก็จำได้ตอนที่เขากับเซี่ยชีหรั่นเกิดเหตุ​การณ์​ขัดแย้งกัน หลิวเสี่ยวเจียวไปเตือนเขา บอกว่าเซี่ยชีหรั่นชอบเขา ทำแบบนี้ก็เพียงแค่ความรู้สึกแบบเพื่อน ไม่ให้คนอื่นค้นพบถึงแรงดลใจของเธอง่ายๆ
แต่คนของไห่ลี่หมินตั้งแต่พักอยู่บ้านพักตากอากาศ​ไม่เคยมีเจตนาร้ายกับเขาเลย เขาขี้เกียจจะเดาแล้ว
คนที่ระมัดระวังขนาดนี้ อีกทั้งไม่ได้ดื่มเหล้ามากมาย ทำไมถึงทำกระถางต้นไม้หล่นได้ล่ะ?
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอตั้งใจจะเตือนเย่เชินหลิน เธอก็คงเป็นคนแจ้งข่าวของไห่ลี่หมิน เธอไม่ให้เปิดโปงได้ง่ายๆหรอก
ดูจากเช่นนี้แล้ว ประธาน​จงทางนั้นมีอะไรเคลื่อนไหว ไห่ลี่หมินไม่อยากเอาความลำบากมาให้พวกเขา ดังนั้นจึงเตรียมที่จะเปิดโปงสถานะของหลิวเสี่ยวเจียวอย่างสุดความสามารถ​ เพื่อให้เขาลาออก
ไห่ลี่หมินเป็นเพื่อนแท้จริงๆ เย่เชินหลินคิดอย่างลับๆ
แต่เขามีแนวคิดของเขา ประธาน​จงกับคนรักของเขาถ้าหากคิดจะทำอะไร จะไล่หลิวเสี่ยวเจียวออก พวกเขาก็ต้องวางแผนหาคนอื่นมาแทนอีก
สรุปก็ให้เธออยู่ที่นี่ต่อ ได้ผลประโยชน์ทั้งนั้น
“ไม่เป็นไร​ คุณก็พูดเองแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ กลับไปพักผ่อนเถอะ” เย่เชินหลินพูดอย่างนิ่งๆ แล้วโอบไหล่ของเซี่ยชีหรั่นกลับเข้าไปห้องรับแขก เซี่ยชีหรั่นรู้สึกขอบคุณเขามาก แล้วก็ไม่ได้คิดไปทางอื่นเลย
ทุกคนก็พูดคุยกันได้สักพัก สุดท้ายจ้าวเหวินอิงยังไม่ค่อยอยากจะลุกขึ้นเท่าไร แต่ก็บอกเวลาไม่ได้เช้าแล้ว ไม่ควรเสียเวลาวัยหนุ่มสาวทำงานกัน
ก่อนที่จะกลับ เธอดึงมึงของเซี่ยชีหรั่นไว้ มองไปที่เย่เชินหลินแล้วพูดว่า “ฉันกับชีหรั่นพลาดกันมา23ปี แทบจะอยู่พูดคุยด้วยกันทั้งวันทั้งคืน เชินหลิน ความหมายของฉันคือ อยากให้ชีหรั่นอยู่ที่นั่นกับฉันสักระยะ เธอว่าไงล่ะ ?”
คำพูดของจ้าวเหวินอิงนั้นสมเหตุสมผล เย่เชินหลินก็พอจะเข้าใจ ที่เธอพูดทั้งหมดนั้นคือเธออยากพูดคุยกับเซี่ยชีหรั่นอย่างใกล้ชิดไม่มีผิด เธอพูดขนาดนี้เกรงว่าจะมีอีกเหตุผลหนึ่ง คือเธอไม่อยากให้เซี่ยชี่หรั่นอยู่ในบ้านพักตากอากาศกับคนที่ยังไม่มีสถานะอะไร

“คุณน้า เจตนาของคุณนั้นผมเข้าใจ ผมสนับสนุน แล้วแต่เธอถ้าเธออยากไป ผมจะไม่รั้งเธอเอาไว้” เย่เชินหลินมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน พูดด้วยน้ำเสียงที่เบา

เซี่ยชีหรั่นอยากใกล้ชิดกับแม่กว่านี้หน่อย แน่นอนเธอต้องการ แต่เธอก็ไม่อยากแยกกับเย่เชินหลิน

ถึงเธอกับเย่เชินหลินมีสัญญาต่อกัน ตอนนี้เขาก็ดีกับเธอไม่มีผิด เธอก็ไม่สามารถลืมสถานะตัวเองได้ เธอยิ่งไม่สามารถถีบหัวส่งเขา ทำเหมือนเรื่องที่เมื่อก่อนเคยขอให้เขาช่วยเหลือไม่เคยเกิดขึ้น

เธอก็ไม่อยากปฏิเสธความเมตตาของแม่เธอ เธอก็เข้าใจความหมายของแม่ เธอเองเคยท้องก่อนแต่ง เรื่องนี้สำหรับเธอแล้วแน่นอนว่าแค้นใจตัวเองไปตลอดชีวิต แน่นอนว่าเธอไม่อยากให้ลูกสาวเดินตามรอยผิด เธอจึงอยากพาลูกไป และไม่แต่งงาน ไม่ให้พวกเขาก้าวก่ายเกินไป โดยเฉพาะไม่อยากให้เธอกับเย่เชินหลินมีลูกกันโดยเหตุสุดวิสัย  

“ชีหรั่น คืนนี้ก็ไปกับแม่นะ หรือจะพรุ่งนี้มั้ย?” จ้าวเหวินอิงรู้ว่านิสัยของเซี่ยชีหรั่นเหมือนกับเธอ ชอบคิดแทนคนอื่นไปทั่ว เธอคิดความรู้สึกของแม่ได้ ก็คิดความรู้สึกของเย่เชินหลินได้เหมือนกัน ยังใส่ใจเสนาธิการหลี่อีกด้วย

เธอถือโอกาสช่วยตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ที่เธอสามารถเลือกได้ก็คือคืนนี้หรือพรุ่งนี้

“แม่คะ คืนนี้ไม่ไปนะ ยังมีเรื่องอีกเยอะที่ต้องคุยกับเย่เชินหลินอีก” ทุกคนต่างก็จ้องมองที่เซี่ยชีหรั่น หน้าของเธอก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย

เธอมองแววตาเย่เชินหลินออก ถึงแม้เขาจะคล้อยตามเธอ แต่ตอนนี้แววตาเขาดูเงียบเหงามาก

เธอเดินเข้ามาบ้านพักตากอากาศ นอกจากครั้งก่อนที่กลับไปบ้านแม่เลี้ยงรอบหนึ่ง 2คนยังไม่ได้แยกจากกัน ก็คือช่วงนั้นที่เขาไปประเทศอเมริกา เขาก็จากไปแล้ว แต่เธอยังคงพักอยู่ในบ้านพักตากอากาศ เขาอยากเจอเธอ เมื่อไรก็เจอได้

เย่เชินหลินไม่พูดไม่จา เธอก็รับรู้ความรู้สึกของเขาที่ยังอาลัยอาวรณ์เธออยู่ตอนนี้ ทุกวันเลิกงาน เขามักจะรอเธอกลับบ้านพักตากอากาศพร้อมกัน ใช้คำพูดของเขาก็คือกลับบ้าน

ทุกๆคืน ตอนที่เธอยุ่งงานอยู่ในห้องอย่างโดดเดี่ยว เธอรับรู้ได้ถึงการรอคอยของเขา

เธอค่อยๆค้นพบว่าบางทีผู้ชายก็ต้องการอยู่เป็นเพื่อน

เธอบอกว่าจะไปก็คือไป บ้านพักตากอากาศที่ใหญ่โตคงเหลือแค่เขาคนเดียว แน่นอนยังมีสาวใช้ดูแลบ้านรอพวกคนงานอยู่ เพียงแค่พวกเขาไม่มีวิธีทำให้เขาไม่รู้สึกเหงาได้

สีหน้าของเย่เชินหลินไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ในใจก็ยังดีใจที่ผู้หญิงของเขาพูดอย่างนั้น

เสนาธิการหลี่เดินไปที่ข้างๆจ้าวเหวินอิงโอบที่ไหล่ของเธอไว้แล้วพูดว่า “พวกเรากลับกันเถอะ เรื่องนี้ไม่รีบ พรุ่งนี้ค่อยคุย”

จ้าวเหวินอิงพึ่งจะยอมรับกับลูกสาว ยังไม่ค่อยกล้าทำอะไรที่จะทำให้ลูกสาวเกลียดชัง เธอยิ้มให้เสนาธิการหลี่อย่างอ่อนโยน

“เธอดู ตลอดเวลาก็บอกว่าฉันนุ่มนวล ฉันก็รีบร้อนเป็นเหมือนกันนะ งั้นพวกเรากลับเถอะ พรุ่งนี้แม่ค่อยมาเยี่ยมเธอใหม่” พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมเธอ…… เย่เชินหลินรู้สึกได้ถึงแรงกดดันทันที

เขาก็ไม่ใช่ไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นใกล้ชิดกับแม่ เขาแค่กำลังคิด ดูท่าแม่ยายจะเห็นเขาเป็นเสือดุร้ายแล้ว จะพรากแมวน้อยไปจากเขาแน่นอน

เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างมีความสุขมากๆเลย พรุ่งนี้เธอจะได้เจอแม่อีก

เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นส่งพวกเขาออกจากประตู เย่เชินหลินยังคงเปิดประตูรถให้แม่ยาย

เสนาธิการหลี่ก่อนจะขึ้นรถไป ได้พูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า “ไง เด็กน้อย เธอยังไม่ได้เรียกฉันว่าพ่อเลยนะ!”

ใบหน้าเล็กๆของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้น กลับรู้สึกดีใจมาก เดินขึ้นไปข้างหน้าหาเสนาธิการหลี่ไม่ดีกว่า เรียกเขาอย่างเชื่อฟัง “คุณพ่อ!”

แม้ว่าเธอยังไม่เคยเรียกจงหยุนซางว่าพ่อ เวลานี้เห็นสายตาของพ่อเสนาธิการหลี่ เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกรักจากพ่อ นี่ทำให้เธอทั้งรู้สึกซาบซึ้งและปลื้มใจ

“ดี เด็กน้อยคนนี้ดีจริงๆ ทำไมไม่เจอเร็วกว่านี้หล่ะ!ผมหลี่หมิงจุ้นก็มีลูกสาวแล้ว แถมลูกสาวยังสวยขนาดนี้ คืนนี้ดีใจจนนอนไม่หลับแน่!”

ดูแล้วเขาจะดีใจจริงๆ ดูไม่ฝืนแม้แต่น้อย เซี่ยชีหรั่นดีใจจนนอนไม่หลับแล้วจริงๆ ความสุขนี้เหมือนสวรรค์มาโปรด ความปลื้มปีตินี้กว่าจะหายไป คงต้องใช้เวลานานมากถึงจะสงบลงได้

หลี่เหอไท้เคยจับมือเซี่ยชีหรั่นได้สักพัก ก็ถูกเย่เชินหลินดึงมือไป ก่อนที่เขาจะกลับ เขารู้ทันก็ไม่ได้จับมือเซี่ยชีหรั่นอีก เพียงแต่ยิ้มอย่างอบอุ่นพร้อมกับพูดว่า “อย่าลืมนะ ตระกูลหลี่ต้อนรับเธอกลับไปทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นที่นี่ หรือที่ปักกิ่ง เธออยากจะพักอยู่ชั่วคราว หรือจะพักอยู่ยาวก็ได้ เธอกลับบ้าน พวกเราทั้งครอบครัวต่างก็ดีใจนะ เธอมีพี่ชายแล้ว ใครที่มารังแกเธอ ให้เธอลำบาก ก็บอกพี่ชายเธอได้เลย”

ความหมายนี้ดูเหมือนว่าถ้าเกิดเจ้าหมอนี่กล้ารังแกเธอ เธอก็มาหาฉัน ฉันจะช่วยชกเขาให้เอง เป็นความหมายอย่างนี้สินะ

“ได้ ฉันไม่ลืมหรอก ขอบคุณนะพี่!”

เย่เชินหลินขมวดคิ้วขึ้น แล้วคิดในใจ คำว่าพี่ชายเรียกได้หวานเกินไปแล้วมั้ง? ปริมาณน้ำตาลสูงกว่าตอนที่เรียกเขาว่าหลินอีก ดูท่าต้องตักเตือนเธอซะหน่อยแล้ว ใครเป็นผู้ชายของเธอ ใช่มั้ย?

“อืม!” หลี่เหอไท้พยักหน้าอย่างภูมิใจ เปิดประตูเข้าไปในรถ

ทุกคนขึ้นรถหมดแล้ว เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นมองดูพวกเขา รอให้รถพวกเขาออกจากประตูใหญ่แล้วค่อยกลับห้อง

จ้าวเหวินอิงเลื่อนหน้าต่างลง สั่งว่า “รีบเข้าไปเร็วๆ ข้างนอกหนาวมาก!”

ความเอาใจใส่แบบนี้ สำหรับคนอื่นแล้วเจอบ่อยมาก แต่สำหรับเซี่ยชีหรั่นนั้นได้มายากมากเหลือเกิน

“เค่ะ ตอนนี้หนูจะเข้าไปแล้ว แม่ พรุ่งนี้ต้องมาให้ได้นะ! มากับพ่อและพี่พร้อมกันด้วย!” เซี่ยชีหรั่นพูดยังไม่ทันจบน้ำตาก็ไหลลงมา

“มาแน่ ต่อไปแม่พบลูกได้ทุกวันเลย เพียงแค่ลูกกับเชินหลินไม่รังเกียจไม่รำคาญแม่ก็พอแล้ว

“เขาไม่กล้าหรอก!” เซี่ยชีหรั่นเพื่อที่อยากให้แม่รู้สึกวางใจกับความรักของเขา เลยพูดด้วยเสียงออดอ้อน

พูดแล้วจะไป แต่ต่างคนต่างก็พูดอีกหลายคำ พวกเราทุกคนถึงจะล่ำลากันไป เย่เชินหลินดึงเซี่ยชีหรั่นเข้าไปบ้านเรือน ยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่มองไปที่ช่องกระจกด้านนอก มองพวกเขาตลอดจนออกประตูใหญ่ไป เซี่ยชีหรั่นราวกับรอคอยด้วยความวิตกกังวล

พ่อบ้านในเวลานี้ขอร้องความเห็นเย่เชินหลินอีกครั้ง “คุณเย่? เรื่องของหลิวเสี่ยวเจียว จะไม่เป็นไรจริงๆหรอครับ? ท่านดู ต้องการจะ…..”

“ไม่เป็นไร แต่ก่อนเป็นยังไง ภายหลังก็ให้เธอเป็นอย่างนั้น”

เย่เชินหลินพูดจบอย่างสั้นๆง่ายๆ ดึงมือเล็กๆของเซี่ยชีหรั่นพร้อมกับสาวเท้าเดินเร็วไปที่ห้องนอนของเขา

พ่อบ้านมองพวกเขาที่รีบสาวเท้าเดินไปอย่างเร็วนั้น มุมปากก็ผุดรอยยิ้มขึ้นมาพอประตูปิดลง เย่เชินหลินก็ดันเซี่ยชีหรั่นพิงไปที่ประตู แขนของเขาล้อมเธอไว้ในอ้อมกอด ไม่พูดไม่จาสักคำ จูบลงไปอย่างเร่าร้อนราวกับฟ้าถล่มทับลงมา แรงที่กระตือรือร้นนั้นก็เหมือนกับที่พวกเขาไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว

เซี่ยชีหรั่นไม่รู้เลยแม้แต่น้อยทำไมใครบางคนก็ได้หื่นกระหายขึ้นมาแล้ว เธอแทบจะก็ไม่มีทางได้คิด

เขาจูบอย่างเผด็จการอีกทั้งยังตั้งใจแบบนั้น ราวกับกวาดการตัดสินใจไปหมด ประกบปากเล็กๆของเธออย่างแน่น มือใบใหญ่ของเขาเหมือนลูบไล้ไปทั่วร่างกาย ผ่านไปที่ชุดทำงานของเธอ เขาใช้แรงขยี้ไปมา

ความเร่าร้อนของเธอก็ถูกเขาจุดไฟอย่างเร็ว เสียง2คนจูบกันในห้อง เสียงลมหายใจ ยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งจูบยิ่งหายใจไม่ออก

เธอเขย่งปลายเท้า จูบเขากลับอย่างเร่าร้อน เธอเอาอารมณ์ทั้งหมดนั้นปล่อยไว้ในจูบนี้หมดแล้ว คือความสุข เฉลิมฉลอง ยังเป็นความรักใคร่อย่างสุดซึ้งที่แยกจากกันไม่ได้

หลังจากที่จูบกันอย่างนาน เขากัดริมฝีปากเธอเบาๆ พูดเสียงต่ำว่า “อีกนิดเกือบจะพาเธอไปจากฉันแล้ว ฉันจะขยี้เธอให้ตายเลย!”

พูดไม่กี่คำ แรงจูบของเขาคนนี้ก็ยิ่งหนักขึ้นแล้ว ดึงคอเสื้อของชุดเครื่องแบบลงมา เขาก็เริ่มประทับรอยจูบลงไปทีละรอยๆอย่างชัดเจน

ความรู้สึกที่ดุเดือดแบบนั้น เซี่ยชีหรั่นรู้สึกถูกไหม้จนกระดูกกร่อนแล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset