สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่511 สาวใช้ตัวแสบ 415

ตอนที่511 สาวใช้ตัวแสบ 415
เขากำลังถือโทรศัพท์ ทั้งวันไม่รับสาย ฝู้เฟิ่งหยีเห็นว่าเขาผิดจึงแย่งโทรศัพท์ในมือมา แล้วเอ่ยกับประธานจงด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ขอบคุณที่เป็นห่วง คุณควรแก้ปัญหาของคุณให้ดีเสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน เรื่องในตระกูลเราคงไม่ต้องรบกวนให้คุณต้องเปลืองแรง!” พูดจบ ก็วางโทรศัพท์ลงอย่างแรง
เย่เห้าหรันเอนตัวพิงเบาะหลังของรถยนต์อย่างอ่อนแรง ฝู้เฟิ่งหยีเอ่ยปลอบเสียงเบาว่า “เอาน่า คุณก็อย่าเพิ่งโกรธไปเลย รู้ว่าจงหวีฉวนไม่เอาถ่านขนาดนี้ คุณก็ยังไปโกรธเขาอีก ไม่เห็นต้องขนาดนั้นเลย”
“ผมโกรธเขาเสียที่ไหน? ผมโกรธไอ้ลูกหมานั่นต่างหาก คุณเห็นรึยังเล่า! เขาปกป้องผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น พ่อพูดอะไรไปก็ไม่ฟังกันสักคำ!”
“พอแล้วนะคะ โม่เอ๋อเป็นคนใจอ่อน คุณเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ตอนคุณหนุ่มๆก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง? นี่มันชีวิตคนนะคะ ใครมันจะไปแข็งใจได้”
“แข็งใจไม่ได้ก็ต้องแข็งให้ได้! ผมไม่เชื่ออะไรแล้ว พรุ่งนี้! พรุ่งนี้ผมจะหาหมอมาให้เธอ!” เย่เห้าหรันตะโกนประโยคนี้ออกมาด้วยเสียงที่กำลังสั่น
ฝู้เฟิ่งหยีเอ่ยปลอบประโลมเขาอย่างอ่อนโยน เขาจะพูดอะไรก็ได้ ขอแค่อย่าเพิ่งตื่นเต้นไปก่อน เรื่องของพรุ่งนี้ก็ไว้ค่อยคุยกันใหม่วันพรุ่งนี้
รถของเย่เชินหลินขับตามรถของเย่เห้าหรันมาตลอด ทว่าก็ทิ้งช่วงระยะห่างจนถึงบ้านของพวกเขา เมื่อกลับถึงบ้านแล้วเขามองดูพ่อเดินได้อย่างราบรื่นอยู่ไกลๆ ไม่ได้มีเรื่องอะไรอีกก็หมุนตัวกลับอย่าวางใจ
นับตั้งแต่เย่เชินหลินจากไป เซี่ยชีหรั่นและแม่มักจะพูดเสมอว่าไม่มีสมาธิเอาเสียเลย เอาแต่คิดย้ำไปครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไร
เห็นบอกว่าไปทำธุระ ก็คงเป็นเรื่องงานราชการ
จ้าวเหวินอิงอยากนอนกับลูกสาว เพราะเธอกลัวว่าคืนนี้เธอจะคิดถึงเย่เชินหลินจนนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาจนแม่เธอเองก็พลอยนอนไม่หลับไปด้วย พอเธอไม่ได้เต็มใจจ้าวเหวินอิงก็ไม่ฝืนบังคับ
แล้วเธอก็นอนไม่หลับจริงๆ เธอนอนอยู่บนเตียง ดูโทรศัพท์เป็นพักๆสลับกับปีนขึ้นไปดูนอกหน้าต่าง
ดึกแล้ว จู่ๆเธอกลับได้ยินเสียงกลอนประตูดังขึ้นเบาๆ เธอลุกขึ้นนั่งพิง ค่อยๆย่องๆเปิดประตูห้องนอนเบาๆแล้วลงไปข้างล่างอย่างระมัดระวัง
หลังจากลงบันไดก็เห็นว่าเย่เชินหลินกลับมาแล้ว เธอก้าวไปหาเขาอย่างรวดเร็ว
โม่ คุณกลับมาแล้ว! ในใจเธอร้องออกมาเช่นนั้น กระทั่งเดินไปข้างกายเขาก็กระโจนเข้าหาอ้อมกอดของเขา
ราวกับว่าที่เขาหายไปไม่กี่ชั่วโมงนั้นเป็นเวลาเนิ่นนานราวศตวรรษ เธอคิดถึงเขา คิดถึงเขาจริงๆนะ
พอเธอพุ่งตัวเข้าหาเขาแบบนี้แล้ว ความร้อนใจทั้งหมดของเย่เชินหลินคล้ายจะมลายหายไปทันที
เขากอดกระชับเธอแน่น จูบอันอ่อนโยนก้มลงประทับบนผมที่ส่งกลิ่นหอมของเธอ เนิ่นนานคล้ายไอยากแยกจากกัน หลังทั้งคู่กอดกันครู่ใหญ่ เขาจับไหล่ของเธอแล้วมองเธอด้วยความรักลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กดจูบลงบนริมฝีปากของหญิงสาว
เซี่ยชีหรั่นเขย่งปลายเท้าขึ้น แล้วเป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้าหาเขา
มีแค่วิธีนี้ที่ทำให้เธอยังรู้สึกว่าเขายังอยู่เคียงข้างกัน ยังรักกันอยู่

ในใจคล้ายกับถูกแผดเผาด้วยไฟ เธอรู้สึกว่าการจูบหลังจากที่แยกห่างกันนั้นสวยงาม มันทำให้เธอใจเต้นและตื่นเต้น

โม่ เย่เชินหลิน ฉันคิดว่าฉันขาดคุณไม่ได้แล้วจริงๆ จะทำยังไงดี? คุณจะรักฉันแบบนี้ตลอดไปไหม?

ผมจะรักคุณ รักคุณแบบนี้ตลอดไป!

เย่เชินหลินโน้มตัวลงอุ้มเซี่ยชีหรั่นแล้วสาวเท้ากลับขึ้นห้อง ทำอย่างไรเขาก็จูบไม่เคยพอ เมื่อถึงห้องจูบของเขาก็เริ่มร้อนแรงขึ้น

ทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่มอ่อนหวาน ขณะเดินไปที่เตียง

ราวกับคู่ข้าวใหม่ปลามันที่มาสามารถต้านทานได้ จูบของทั้งคู่ยิ่งทวีความร้อนแรงและดูดดื่มขึ้น

เธอคิดว่าเธอคิดถึงเขามากจริงๆ แต่ว่าเธอมองไปรอบๆห้องแวบหนึ่ง ที่นี้เธอไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ แล้วก็รีบร้อนผลักไสเขาออก

“ไม่ได้ ไม่ได้ค่ะ เราทำที่บ้านของแม่ไม่ได้นะ…”

แม้ว่าเย่เชินหลินจะไม่เชื่อไสยศาตร์แต่เขาก็เคารพความคิดของเธอ ดังนั้นจึงหยุดทุกการกระทำทันที

“ก็ได้ งั้นเราหยุดแค่นี้ ให้ผมกอดคุณสักพักนะที่รัก ผมคิดถึงคุณ คิดถึงจนแทบบ้า” เขาเองก็คิดถึงเธอ ตอนที่เขาเห็นท้องของส้งหลิงหลิงแล้วอยากยื่นมือไปลูบ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท้องนั้นจะเป็นของเซี่ยชีหรั่น

ถ้าเป็นเธอเขาคงไม่ลังเลสักนิด แถมยังจะลูบท้องนั้นอีกด้วย เขาอยากจะสื่อสารกับเด็กในท้องด้วยเสียงอันอ่อนโยน

เขาพบว่าเดี๋ยวนี้เขาคิดถึงผู้หญิงของตัวเองแทบจะตลอดเวลา กลับกันนั้นเขายิ่งรู้สึกรำคาญส้งหลิงหลิง เขารักเซี่ยชีหรั่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ รักทุกอย่างของเธอ

“ฉันก็คิดถึงคุณ โม่ คิดถึงมากๆ คุณไปไหนมาคะ? ดื่มมาเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นรับรู้ได้ถึงกลิ่นเหล้าจางๆตอนที่เขาจูบเธอ เธอรู้ดีว่าเขาดื่มเก่งแค่ไหน อาจพูดได้ว่าคอแข็งมากๆ เขาอาจดื่มไปบ้างแต่คงไม่ได้ดื่มมาเยอะ

“ดื่มมานิดหน่อย ไห่ลี่หมินกลับมาแล้วเขาก็ชวนผมไปดื่ม” เย่เชินหลินเอ่ย เลิกผ้าคลุมเตียงขึ้นแล้วโอบเซี่ยชีหรั่นไว้ในอ้อมกอด

ตอนที่เขากอดเธอ บางครั้งเธอก็รู้สึกว่าเธอเหมือนแมวตัวน้อยๆ

ร่างกายของเธอในอ้อมกอดนั้นดูเล็กลงและอ่อนระทวยลง คล้ายว่าจะแตกสลายได้

ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอด ปล่อยให้ร่างอ่อนนุ่มของเธอแนบชิดกับร่างแกร่งของเขายิ่งขึ้น

“บอกว่าคิดว่าคิดถึงผมอีกครั้งสิ” เขากระซิบเบาๆข้างหูของเธอ เซี่ยชีหรั่นใจสั่นอย่างช่วยไม่ได้

“ฉันคิดถึงคุณ คุณไม่คิดว่าการที่ฉันคิดถึงคุณจะทำให้คุณรำคาญเหรอคะ? ฉันรู้มาว่าผู้ชายมักไม่ชอบผู้หญิงที่ทำตัวติดกับเขา แต่ว่าฉัน… อื้อ…” เขาก้มลงจูบริมฝีปากเล็กที่เอ่ยแต่เรื่องไร้สาระของเธออีกครั้ง

เขาคงต้องบอกเธอผ่านการกระทำแล้วละว่าเขาไม่เคยนึกรำคาญใจเธอเลยสักนิด

หรือบางทีเซี่ยชีหรั่นอาจรู้สึกไม่มั่นคง เย่เชินหลินเองก็เช่นเดียวกัน

เขาทุ่มแรงต่อสู้กับประธานจงจนสามารถแทรกซึมไปได้ทุกที่ ทำให้เขากดดันอย่างมาก

เขามั่นใจและเชื่อใจว่าเซี่ยชีหรั่นไม่รู้เรื่องนี้ แต่ว่าคนไม่ใช่เทพ เขาเองก็หวาดกลัวว่าเรื่องจะรั่วไหล ระหว่างพวกเขาไม่สามารถอยู่ร่วมกันโดยไร้ความบาดหมางได้อีก

ทั้งคู่จูบกันเนิ่นนานจนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าร่างกายส่วนล่างของเขาเริ่มดันเธอ คล้ายต้องการใช้แรงปลดปล่อยสัมผัสส่วนอ่อนไหวของเธอ เธอจึงผลักเขาออกอย่างเขินอาย

“ผมว่าเราต่างคนต่างนอนดีกว่า แบบนี้หายใจไม่ค่อยออก” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าที่แดงของเธอแล้วหัวเราะ

แต่เสียงหัวเราะนี้กลับทำร้ายความภาคภูมิใจของใครบางคน เขาจึงตีหน้าเข้มข่มเธอว่า “ถ้าคุณยังหัวเราะอีก ผมจะปล้ำคุณ”

คราวนี้เธอไม่กล้าหัวเราะอีกแล้วแต่กลับยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าอันไร้ที่ติของเขาแทน คล้ายกำลังปลอบเด็กน้อย “อดทนหน่อยน้า เดี๋ยวเรากลับบ้านกันแล้วค่อยว่ากัน”

“นอนเถอะ ดึกแล้ว”

เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

“ถ้าคุณไม่ไหวจริงๆ…คุณก็ กลับไปเถอะ ฉันไม่เป็นไร แค่ได้เห็นหน้าคุณฉันก็นอนหลับสบายใจแล้ว”

“ผมทนไหว ขอแค่คุณอย่ายั่วผมก็พอ หลับตาได้แล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงอันอ่อนโยน พูดจบก็ขยับตัวออกห่างจากเธอเล็กน้อยแต่ก็ยังกอดเธอไว้

สำหรับเขาแล้ว โอบกอดเธอไว้แต่ไม่สามารถกินเธอได้ถือเป็นความทรมานอันแสนหวาน เขายินยอมที่จะกอดเธอไว้เช่นนี้ตลอดไป

เมื่อฟ้าใกล้สว่าง เขาก็ลุกขึ้นจากเตียงของเซี่ยชีหรั่น จุมพิตหน้าผากเธอแล้วไปที่โซฟาในห้องรับแขก

เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วก็ส่งข้อความไปหาหลินต้าฮุย หากว่าส้งหลิงหลิงยังไม่ดีขึ้นก็ห้ามออกนอกประเทศ ให้ซื้อตั๋วสามวันหลังจากนั้น ส่วนเรื่องการรักษาก็ให้เปลี่ยนโรงพยาบาล ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลแม่และเด็กอีกต่อไป จะทำอะไรก็ต้องระวังให้มากขึ้น

เพียงแต่เขากลัวว่าพ่อจะไม่เต็มใจ แล้วจัดการเรื่องทุกอย่างแทนเขาเอง

แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ วันที่สองเย่เฮ่าหรันก็จัดการหาหมอมาจริงๆ เพียงแต่ตอนที่เขากับฝู้เฟิ่งหยีไปหานั้นส้งหลิงหลิงก็ไม่อยู่แล้ว

เขาไม่เหมือนเย่เชินหลิน และก็ไม่ใช่ประธานจง ไม่ได้ทำอะไรเป็นการส่วนตัวเลย ดังนั้นการที่จะเอาตัวของส้งหลิงหลิงที่ถูกเย่เชินหลินดูแลอยู่นั้นไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย

แต่เขาก็ไม่ล้มเลิก สั่งให้เลขาของเขารีบนำตัวเธอออกมา

“แม่ครับ แม่ไปพักที่วิลล่ากับผมแล้วก็ชีหรั่นสักพักดีไหม” ก่อนที่เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นจะกลับ เย่เชินหลินก็เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา จ้าวเหวินอิงส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ไปหรอก แม่ไม่รู้ว่าพ่อเราจะกลับมาตอนไหน ไม่อยากให้เขากลับมาเสียเที่ยว ถ้าพวกเธอว่างก็กลับมาบ่อยๆนะ อีกอย่าง ชีหรั่น…” เธอเองชักไม่วางใจ เกิดความลังเลขึ้น เย่เชินหลินรู้เจตนาของเธอจึงเอ่ยรับปากว่า “แม่ครับ ผมจะดูแลเธอให้ดี วางใจได้”

จ้าวเหวินอิงพยักหน้ารับรู้ ความกังวลใจจึงไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมา

เย่เชินหลินคิดว่า ยังไงก็ต้องรอให้ส้งหลิงหลิงไปต่างประเทศเสียก่อน ผ่านไปสักพักบางทีแม่ยายของเขาอาจเลิกกังวลเรื่องนี้ไปเอง

เมื่อกลับถึงวิลล่า หลังจากที่ทั้งเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นเสร็จสิ้นภารกิจอันเร่าร้อนแล้ว เย่เชินหลินก็บอกให้เซี่ยชีหรั่นพักผ่อนอยู่บ้าน ตอนนี้เขาต้องรีบไปประชุมระดับสูง

“โอเคค่ะ ฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้านนะคะ คุณอยากทานอะไร ฉันจะทำให้ทาน” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถามเสียงอ่อนละมุน

“ผมแค่ชอบอาหารที่คุณทำ คุณเหนื่อยแล้ว วันนี้พักเถอะนะ” เขาเองก็ลูบผมเธออย่างอ่อนโยนเช่นเดียวกัน เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างมีความสุข ใช้สายตามองส่งเขา

จงหยุนซางนั่งเงียบๆริมหน้าต่างคาเฟสีเขียวคนเดียว เธอมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ สายตาแฝงไปด้วยแววเศร้าโศก

วัยสาวของเธอคงต้องผ่านความโศกเศร้าไม่รู้จบเช่นนี้ เธอไม่อาจไปทำลายความสุขของคนที่เธอชอบได้ ทำได้เพียงเก็บความทรงจำที่เศร้าหมองนี้ไว้ลำพัง

อันที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้มีอดีตอะไรนักหรอก เธอกับเย่เชินหลินเองก็ไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อนกันด้วยซ้ำ

ก็เหมือนเช่นคาเฟ่แห่งนี้ที่เธอมาที่นี่ทุกวัน เพราะเพลงเพลงหนึ่ง แค่ได้ฟังเธอก็คิดถึงเขาขึ้นมา

เขามักปิดปากตัวเองแน่น คล้ายว่าไม่ใส่ใจเรื่องใดบนโลกใบนี้

เวลาที่เขามองผู้หญิงมันแฝงไปด้วยท่าทางที่คนระดับสูงมองลงมา เหมือนกับว่าขอแค่เขาพอใจ เขาก็แค่กระดิกนิ้วแล้วผู้หญิงพวกนั้นก็พร้อมบินทะยานไปหา ซึ่งความเป็นจริงแล้วเขาก็มีคุณสมบัติเหล่านั้น ผู้หญิงที่เคยติดต่อกับเขาแล้วใครบ้างละจะไม่ติดพัน

เธอเคยคิดนับครั้งไม่ถ้วนว่าผู้หญิงแบบไหนกันนะที่เขาจะยอมลดความเย่อหยิ่งของตัวเองลง กลายเป็นผู้ชายอบอุ่นอ่อนโยน เธอคิดมาเสมอว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีอยู่จริง ทว่าเธอคิดผิด ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัวแล้ว แถมยังเป็นน้องสาวต่างแม่

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset