สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่526 สาวใช้ตัวแสบ430

ตอนที่526 สาวใช้ตัวแสบ430
จงหวีฉวนมักไม่ชอบคนอื่นรู้ทันความคิดของเขา เขาจึงยิ้มเหมือนไม่ใส่ใจ
“เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของคนวัยรุ่น หากมีโอกาสพวกเธอก็ลองแนะนำให้เธอดูสิ พ่อแม่อย่างพวกเราจะหวังยังไงก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
ไม่รอให้เย่เชินหลินตอบ เซี่ยชีหรั่นเลยตอบก่อน:“ ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปบอกให้พี่เหอไท้ เรื่องแบบนี้ต้องให้ผู้ชายเป็นฝ่ายเข้าหาก่อนค่ะ”
จงหวีฉวนไม่ได้ตอบรับและไม่ได้ปฏิเสธ แสดงได้ธรรมชาติมาก เขายังแกล้งเปลี่ยนเรื่อง คุยเรื่องอื่น
“ชีหรั่นปกติเวลาพักผ่อน ทำอะไรบ้าง? ฉันดูเธอกับหยุนซางมีนิสัยคล้ายๆ กันอยู่ มีโอกาสก็ไปเล่นกับเธอบ่อยๆ สิ”
เซี่ยชีหรั่นได้ยินแบบนี้ คำพูดของเขาเมื่อกี้เหมือนอยากให้พวกเขาสองพี่น้องมีความสัมพันธ์ที่ดี เธอก็ต้องมีความสุขอยู่แล้ว
หลังทานข้าวเสร็จ จงหวีฉวนเสนอขึ้นมาว่าอยากคุยกับเขาสองคนเป็นการส่วนตัว
เย่เชินหลินรู้ว่านี่ค่อยเป็นประเด็นหลักของเขา แต่เขาไม่ได้พูดอะไรเลย คอยเปลี่ยนตามสถานการณ์
ทั้งสามคนเดินเข้าไปห้องรับแขกชั้นหนึ่งของบ้านเย่เชินหลิน หลังจากนั่งลง จงหวีฉวนก็โทรศัพท์สั่งให้คนขับรถเอา เสื้อโค้ตที่อยู่หลังรถเข้ามา หลังจากที่คนขับรถตอบรับไม่นาน เสื้อโค้ตที่ได้รับการห่อไว้อย่างสวยงามก็เข้ามาส่งให้ประธานจง
หลังจากที่คนขับรถเดินออกไป จงหวีฉวนนำเสื้อโค้ตวางไว้ตรงหน้าของเซี่ยชีหรั่น เธอชะงักไปชั่วครู่ แล้วหันไปพูดกับจงหวีฉวนด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มว่า :“ ฉันแค่อยากจะพบคุณ ส่วนเสื้อโค้ตนี่ ฉันไม่อยากรับไว้ค่ะ ฉันดูสีนี้เหมาะกับพี่หยุนซางมาก ฉันไม่เก่งและฉลาดเหมือนเธอ ฉันไม่เหมาะหรอค่ะ”
“พวกเธอสองคนเป็นลูกสาวฉัน ฉันดูก็สวยทั้งคู่ แม่เธอสวยกว่าแม่หยุนซางซะอีก เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องสง่างามกว่า รับไว้เถอะ อย่ารู้สึกว่าของขวัญที่พ่อให้นั้นน้อยก็พอ” จงหวีฉวนมองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาที่รักใคร่ แต่เธอก็ยังยืนยันและส่ายหัวเหมือนเดิม
“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ ฉันรับรู้ความรู้สึกคุณแล้วค่ะ เสื้อที่เชินหลินซื้อให้ยังมีอยู่เต็มตู้อยู่เลย คุณเอากลับไปเถอะค่ะ เผื่อพี่หยุนซางชอบ ถ้าเธอใส่ฉันจะมีความสุขมากกว่านี้”
จงหวีฉวนจะยื่นให้เธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นเย่เชินหลินเป็นคนรับแล้วเอามาไว้ข้างตัว แล้วพูดว่า :“ ชีหรั่นไม่ค่อยชอบใส่เสื้อโค้ตแบบนี้ครับ เธอเป็นคนเมตตาจิตใจดี เธอทนไม่ได้ที่จะส่วมใส่เสื้อที่ทำมาจากหนังสัตว์ คุณจะให้เธอ เธอก็ไม่ใส่อยู่ดี คุณเอากลับไปเถอะครับ”

จงหวีฉวนหน้าเสียไปเล็กน้อย เซี่ยชีหรั่นทนดูไม่ได้จึงย้ำอีกครั้ง:“ ฉันรู้ว่าคุณมีฉันอยู่ในใจ ไม่มีความแตกต่างระหว่างพ่อลูก คุณใส่ใจฉันจากใจจริง ฉันก็ดีใจแล้วค่ะ”

หลังจากฟังจบ จงหวีฉวนจึงไม่ดื้อดึงเรื่องเสื้ออีกต่อไป เขามองเซี่ยชีหรั่นด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“พูดตามตรงนะ ลูกรัก พ่อแค่อยากดูแลเอาใจใส่ลูก ในขณะที่พ่อยังสามารถดูแลได้ ลูกก็รู้พ่อทำอาชีพนี้ ทำให้คนไม่พอใจหลายคน ช่วงนี้ก็ไม่รู้ไปทำให้ใครไม่พอใจ เอาเรื่องพ่อในอดีตไปฟ้องที่รัฐบาลกลาง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องใส่ร้าย แต่พ่ออาจจะต้องไปขึ้นศาลแล้วโดนพิพากษา ถึงตอนนั้นพ่ออาจจะต้องจำคุก อย่าว่าแต่ส่งของให้ลูกเลย อิสระในการมาเจอลูกก็อาจจะไม่มี”

ใบหน้าของเย่เชินหลินยังคงปกติ แต่ในใจเขากลับลุกเป็นไฟ นี่มันเป็นเรื่องระหว่างผู้ชาย มันยังมีหน้ามาทำตัวน่าสงสารต่อหน้าลูกสาวเขาอีก ไร้ยางอายจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของผู้หญิงเขา เขาไล่ตะเพิดแขกคนนี้แล้วล่ะ

เขาเป็นถึงประธานของหอการค้าจังหวัด ใครกันไม่กลัวเขา เขาเย่เชินหลินก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะได้หรือเปล่า แต่เขารู้สึกว่าผู้คนชายคนหนึ่งควรเป็นลูกผู้ชาย ต่อให้ตายก็จะไม่คุกเข่าให้ใคร เขาไม่อยากเล่นละครจอมปลอมแบบเขา

คิ้วของเซี่ยชีหรั่นขมวดขึ้นมาทันที และมองไปที่เย่เชินหลินโดยไม่รู้ตัว สายตาหยุดลงที่ใบหน้าที่นิ่งขรึมของเขาเพียงไม่กี่วินาทีก็หันมามองหน้าของพ่อเธอต่อ ถามอย่างเป็นห่วงว่า:“ มีเรื่องแบบนี้จริงเหรอคะ? แล้วคุณจะทำยังไงต่อ ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนบริสุทธิ์ค่ะ น่าจะไม่เคยทำเรื่องไม่ดีอะไร คุณเองก็บอกว่าเป็นการใส่ร้าย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ?”

เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเป็นห่วง ไม่ว่ายังไงเขาก็คือพ่อของเธอ เขาจะเป็นคนดีหรือคนเลว เขาสามารถที่จะไม่สนใจลูกสาวคนนี้ได้ แต่ให้เธอไม่สนใจพ่อเธอ เธอทำไม่ได้

“ปัญญาใหญ่หรือไม่ ยังไม่ชัดเจน แต่พ่อดีใจมากที่มีลูกค่อยเป็นห่วงพ่อแบบนี้ ไม่เป็นไร ต่อให้ต้องติดคุก ก็ถือว่าต้องชดใช้ให้ลูกและแม่ของลูก เด็กสมัยนี้ชอบพูดอยู่คำหนึ่งไม่ใช่เหรอ ออกมาคลุกเคล้าต้องชดใช้เสมอ พ่อมีความผิด แต่แค่ไม่เต็มใจ ความบริสุทธิ์ทั้งชีวิต ถึงแก่แล้วยังจะต้องติดคุกอีก”

จงหวีฉวนถอดให้ใจอย่างหนัก เซี่ยชีหรั่นสังเกตเห็นผมของเขาขาวไปหมดแล้ว คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือพ่อที่ให้กำเนิดเขา เวลาที่เขาถอนหายใจหนัก ช่างเหมือนกับคนแก่ที่หมดหนทางจริงๆ

เขาเล่นละคร เขาคิดว่าเธอดูไม่ออก

เขาลืมไป เธอเป็นเด็กกำพร้า เธอเติบโตมาจากตระกูลโม่ เรื่องที่เธอเก่งที่สุดก็คือสังเกตคน ถ้าเรื่องแค่นี้เธอยังไม่เป็น เธอจะเอาตัวรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกัน

ตอนที่พวกเขาคุยโทรศัพท์กัน แค่ฟังเสียงเธออาจจะแยกไม่ออกว่าเขาคิดจริงหรือไม่จริง แต่ถ้าวิเคราะห์ดูดีๆ ก็จะรู้ ว่าเขาไม่มีทางที่จะยอมรับเธอได้ในเวลาสั้นๆ นี้ ใจเขาไม่ได้อยู่เหนือกว่าความรัก

เธอเพียงแค่พยายามหลอกตัวเองและพูดกับตัวเองว่า ที่พ่อติดต่อมาก่อนก็แสดงว่าเขารักเธอไง เธอจะไปสงสัยเขาได้ยังไง?

ตอนเธอเสิร์ฟอาหาร เขายังคงยิ้มแบบจอมปลอม เธอก็ยิ้มตอบ เธอมีความสุข แต่เป็นความสุขที่เธอฝืนตัวเอง พ่อที่ให้กำเนิดนั่งอยู่ตรงหน้า ทำไมเธอถึงไม่มีความสุขล่ะ?

เขาไม่ชอบกินอาหารที่เธอทำ เพราะว่าเขาไม่ชอบกินเผ็ด แต่เขากลับปิดบัง ไม่ใช่เพราะว่ารักหรอก แต่เป็นเพราะเขามีจุดประสงค์อย่างอื่น ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ เธอเพียงแค่ไม่อยากรับรู้

เธอแค่คิดว่า ขอแค่เขายอม แม้จะเป็นการดูแลเอาใจใส่เธอที่จอมปลอม ขอแค่เขายิ้ม เธอก็จะทำเหมือนว่าเขามีความสุขจริงๆ เธอก็มีความสุข เธอยอมที่จะแกล้งเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

เมื่อเธอเห็นเสื้อโค้ตหนังเสือดาวตัวนั้น สิ่งที่เธอแกล้งอำพรางทั้งหมดเกือบหลุดออกมา มันชัดเจนเกินไป เสื้อโค้ตตัวนั้นเป็นเสื้อโค้ตที่จงหยุนซางเคยใส่ไปร่วมปาร์ตี้

เซี่ยชีหรั่นชะงักทันที รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจจนน้ำตาจะไหล พ่อเธอเข้าหาเธออย่างมีจุดประสงค์ แม้แต่เสื้อที่ให้เธอนั้นก็ไม่ได้เตรียมให้เป็นพิเศษ แต่กลับหยิบเอามาจากลูกสาวอีกคนจงหยุนซาง

สำหรับเซี่ยชีหรั่น ความรักเป็นสิ่งสำคัญ และเธอก็คาดหวังที่จะได้มัน

เธออยากถามว่าทำไม ถามพ่อเธอ ว่าเธอไม่ดีตรงไหน สายเลือดที่ข้นกว่าน้ำ ทำไมเขาถึงไม่เคยมองเธอเลย

แต่เธอสามารถทำเช่นนั้นได้หรือ?

พ่อบอกว่าเขาทำให้ศัตรูทางการเมืองไม่พอใจ จนมีคนไปฟ้องเขา ไม่ต้องเดาเธอก็รู้ว่าคนที่เขาพูดถึงไม่ใช่ศัตรูทางการเมือง แต่เป็นคนรักของเธอเย่เชินหลิน

หากเธอแสดงอาการไม่พอใจอะไรออกมา เย่เชินหลินรู้ มีแต่จะสู้กับพ่อเขาอย่างหนักขึ้นเรื่อยๆ

เขาอายุเยอะแล้ว คงสู้เย่เชินหลินไม่ไหว ถ้าเกิดเขาแพ้สิ่งที่เขาพยายามทำมาตลอดหลายปีก็จะสูญเปล่า หากเขาชนะ สิ่งอาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะเขาคือประธานของหอการค้าจังหวัด เป็นเครื่องมือของจังหวัด จุดศูนย์ถ่วงของตระกูลฟู้ยังอยู่ที่ตงเจียง นักธุรกิจย่อมไม่สู้กับข้าราชการอยู่แล้ว ถ้าเกิดเขาเกิดไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ สั่งตรวจสอบตระกูลฟู้ ผลลัพธ์อาจจะยิ่งแย่ลง

สองคนนี้ตอนนี้ก็เหมือนคนหนึ่งเป็นไฟ คนหนึ่งเป็นน้ำ อยู่ร่วมกันไม่ได้ แค่แกล้งอยู่ต่อหน้าเธอ ตอนนี้เธอเป็นเหมือนสะพานของทั้งสองคน เพราะฉะนั้นเธอต้องเป็นสะพานนี้ให้ดี เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจในใจนับครั้งไม่ถ้วน แต่หน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอพูดกับพ่อเธอเบาๆ :“ คุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ คงไม่ถึงขั้นต้องติดคุกหรอก ฉันเป็นลูกสาวคุณเย่เชินหลินเป็นลูกเขยคุณเขามีความสามารถมากพอ คงไม่ทนดูพ่อตาตัวเองลำบาก แล้วไม่สนใจหรอก โม่ คุณว่าใช่ไหม เพื่อฉันคุณจะช่วยคุณพ่อใช่ไหม?”

เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินด้วยสายตาที่คาดหวัง เขาไม่ตอบแค่จับผมเธอเบาๆ แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

จงหวีฉวนรอแต่คำนี้ของเซี่ยชีหรั่น ถึงแม้ว่าเสื้อไม่ได้ส่งออกไป แค่บรรลุเป้าหมายที่ต้องการก็พอ

“โม่ คุณพ่อก็อายุเยอะแล้ว คุณตอบรับหน่อยสิ ฉันไม่เห็นกังวลกับเรื่องพวกนี้ ฉันรู้ ขอแค่คุณยอม ยังไงคุณก็มีวิธีช่วยเขาอยู่แล้ว ใช่ไหม?”

เซี่ยชีหรั่นถามอีก เธออยากจะแก้ไขความขัดแย้งระหว่างของทั้งสองคนให้คลี่คลาย ไม่ใช่แค่เพื่อพ่อเธอ แต่ยังเพื่อคนรักของเธออีก

ประธานจงเป็นถึงประธานหอการค้าจังหวัด สิ่งที่เขาทำ ใครจะไม่รู้

ดูภายนอกเขาทำดีกับถูกคน จริงๆ แล้วแม้แต่ญาติเขาก็สามารถทิ้งได้ แม้แต่เธอที่เป็นลูกสาวเขายังไม่สนเลย สำหรับเขา สุดท้ายเย่เชินหลินที่เป็นลูกเขยอะไรก็ไม่ใช่ เขาไม่มีวันให้หน้าเย่เชินหลิน พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าหากวันไหนเย่เชินหลินเผลอทำอะไรผิดพลาดและทิ้งหลักฐานไว้ในมือเขา นั้นอาจจะเป็นหายนะที่แท้ของเย่เชินหลิน

เธอรักเขา เธอไม่อยากให้เขาได้รับอันตรายแม้แต่นิดเดียว

ประธานจงก็กำลังรอเย่เชินหลินตอบรับ เขารู้ว่าคนตระกูลเย่พูดคำไหนคำนั้น ไม่มีวันผิดคำพูด

แม้เขาจะพูดเพื่อให้ผู้หญิงของเขาสบายใจ เขาบังคับให้เย่เชินหลินพูดออกมาว่าจะช่วยเขา เขาก็จะคำไหนคำนั้น

เย่เชินหลินตบมือเล็กของเซี่ยชีหรั่นเบาๆ พูดอย่างอ่อนโยน :“ คุณวางใจเถอะ ถ้ามีอะไรที่ผมช่วย ผมช่วยอยู่แล้ว ประธานจงเป็นคนระมัดระวัง เลยชอบคิดไปล่วงหน้า คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เขาทำงานในราชการตั้งหลายปี เรื่องอะไรไม่เคยเจอ ไม่มีอะไรทำไมถึงต้องติดคุกล่ะ แต่เรื่องนี้ผมขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวหน่อย เรื่องการเมือง คุณก็ไม่เข้าใจ คุณไปรอผมที่ห้องนะ”

“แต่…..” เซี่ยชีหรั่นไม่ค่อยไว้ใจ จงหวีฉวนเลยหัวเราะแล้วพูด:“ ไปเถอะ ฉันเป็นพ่อตาเขา เราสองคนจะคุยกันแบบส่วนตัว เธอไม่ไว้ใจอะไรกัน”

เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น เห็นจงหวีฉวนมองนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือ :“ เชินหลินอ่า ดูเหมือนว่าเราต้องรีบคุยแล้วหล่ะ เดี๋ยวฉันยังต้องไปพบส้งหลิงหลิงอีก เด็กนี่ยิ่งใจร้อนอยู่ด้วย เดี๋ยวทนรอไม่ไหวจะมาหาที่นี่เอา”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset