สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 547 สาวใช้ตัวแสบ 451

ตอนที่ 547 สาวใช้ตัวแสบ 451
เขาเกือบจะพูดออกมาว่าจะยอมปล่อยเธอไป เพราะเขาไม่เคยง้อผู้หญิงมาก่อน สำหรับเขาแล้ว จะไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตนเองเพียงเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวแน่นอน
สำหรับผู้ชายที่มีเสน่ห์และเพียบพร้อม ถึงจะไล่ผู้หญิงไป ผู้หญิงก็คงไม่ยอมไป แต่เขาในตอนนี้ ต้องการจะให้เธออยู่ เรื่องนี้สำหรับคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างเขา ก็เป็นเรื่องเสียหน้าพอสมควร
เย่เชินหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย เงียบไปสักพัก และพูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ฉันจะไม่ยอมให้เด็กคนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณ เขาจะไม่ได้อยู่กับพวกเรา ฉันไม่เคยคิดที่จะขอให้คุณเป็นแม่เลี้ยงของเขา ฉันรู้ว่าการเป็นแม่เลี้ยงมันไม่ง่าย ชีหรั่น ฉันรักคุณมากจริงๆ ไม่เช่นนั้นฉันคงจะไม่รั้งคุณไว้”
“อย่าพูดอีกเลย” เซี่ยชีหรั่นหยุดคำพูดของเขาด้วยเสียงเบาๆ หันไปด้านหลัง ใบหน้าเล็กๆเต็มไปด้วยน้ำตา
คำพูดของเขา เธอเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร
เธอควรจะเชื่อใจเขาใช่ไหม เชื่อว่าเขาจะสามารถจัดการปัญหาของเด็กคนนี้ได้ เชื่อว่าความรักของเขายังคงสวยงามเสมอ จะไม่มีทางถูกทำลาย
เย่เชินหลินรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้ เขาอยากกอดเธอไว้ในอ้อมแขนมาก อยากจะบอกเขาว่าขอโทษจริงๆ และสัญญากับเธอ เขาจะรักเธอตลอดไป ไม่อยากให้เธอเสียใจอีกต่อไป
คิ้วของเขาขยับเล็กน้อย นึกถึงคำตอบที่เธอจะตอบออกมา ถ้าเขาพูดเช่นนั้น แล้วเธอยังปฏิเสธ เขาจะทำอย่างไรดี
“ฉันยังไม่พูด ได้เวลาทานอาหารกลางวันแล้วไปที่ห้องอาหารกันเถอะ ถ้าคุณไม่มา ฉันจะให้คนยกอาหารมาที่ห้อง แล้วทานพร้อมคุณ”
เย่เชินหลินพูดจบ แล้วมองไปที่เธอ เธอยักไหล่เล็กน้อย แล้วเดินออกไป
การต่อสู้ทางอุดมการณ์บางอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว เรื่องบางเรื่อง ก็ต้องใช้เวลาเป็นตัวตัดสิน เขาไม่ควรบีบบังคับเธอมากเกินไป
ช่วงเวลาอาหารกลางวัน เซี่ยชีหรั่นไปทานที่ห้องอาหาร เธอรู้ว่าถ้าเธอไม่มา เย่เชินหลินก็จะไปทานกับเธอที่ห้องตามที่เขาขู่ไว้แน่นอน ถ้าจะต้องอยู่กันตามลำพังสองคนในห้อง เธอยอมมาทานที่ห้องอาหารพร้อมเขาดีกว่า อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีคนใช้อยู่หลายคน
ตอนบ่ายเย่เชินหลินไปที่บริษัท เซี่ยชีหรั่นล็อกตัวเองอยู่ในห้องชั้นสอง อ่านหนังสือ หลายๆครั้ง เธอก็ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังอ่านอะไรอยู่
เธอต้องรอ เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เย่เชินหลินถึงจะรู้ว่าการบังคับฝืนใจเธอให้อยู่ต่อนั้นไม่มีความหมายอะไรเลย แต่เธอก็จะยืนหยัดต่อไป
ประมาณสี่โมงเย็น โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นประธานจงพ่อผู้ให้กำเนิดเธอโทรมา
ครั้งที่แล้วเธอพูดกับเขาไปเช่นนั้นแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่รับสาย
เสียงโทรศัพท์ดังหลายรอบ ในใจของเธอกำลังนึกถึงภาพพ่อที่มีผมสีขาว เริ่มรู้สึกอดกลั้นไม่ไหว สุดท้ายก็รับสาย
“ชีหรั่น”
“ประธานจง มีธุระหรือ ฉันจำได้ว่าครั้งที่แล้วฉันพูดชัดเจนแล้วนะ ท่านไม่ต้องการลูกสาว ฉันก็ไม่ต้องการพ่อ ระหว่างเราไม่มีความจำเป็นอะไรต้องติดต่อกันอีก”
“คุณรู้เรื่องของส้งหลิงหลิงแล้วใช่ไหม” ประธานจงไม่สนใจว่าเซี่ยชีหรั่นจะพูดอะไร แต่ก็ถามไปหนึ่งประโยค

เซี่ยชีหรั่นคิดว่า ถึงแม้เธอจะรู้เป็นคนสุดท้าย ดูเหมือนพ่อของเธอจะรู้มานานแล้ว แต่ไม่ได้บอกเธอ

“ทราบแล้ว” เธอตอบอย่างเย็นชา

“จะทำอย่างไร ถ้าคุณต้องการที่จะทิ้งเขาไป ฉันจะช่วยคุณเอง ลูกสาวของฉัน ฉันจะไม่ยอมให้เขามารังแกได้ง่ายๆ”

เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างขมขื่น เธอรู้สึกว่าเธอไม่ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

เธอไม่รู้สึกถึงความจริงใจของเขา แต่ความเสียใจนั้นพอสัมผัสได้

“ขอบคุณมาก ประธานจง ไม่เป็นไร เรื่องของความรู้สึก ฉันสามารถจัดการเองได้”

“คุณเกรงใจอะไรกับฉัน ฉันเป็นพ่อของคุณนะ ทำไมคุณถึงทำเช่นนี้กับพ่อของคุณ” คำพูดของประธานจงมีความรุนแรงเล็กน้อย เขาไม่เชื่อว่าลูกสาวแท้ๆของเขา เขาจะไม่สามารถจัดการได้

เขาก็ไม่ได้ไร้มนุษยธรรมขนาดนั้น ก็คงจะไม่ทำเหมือนไม่สนใจลูกสาวของเขาเลยทีเดียวหลอก

เขาก็แค่ชั่งน้ำหนักความสำคัญเอง คนสมัยนี้จะทำอะไรก็ต้องชั่งน้ำหนักความสำคัญเสมอ

เซี่ยชีหรั่นเงียบ

ชีวิตของเธอได้มาจากเขา นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีเขา ก็จะไม่มีเธอ เรื่องนี้เธอรู้อยู่เต็มอก

“ฉันอาจจะไม่กตัญญูมากพอ ขอโทษจริงๆ ฉันแค่รู้สึกว่าพวกเราไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อกันอีก ยังยืนยันประโยคเดิม ขอบคุณท่านที่เป็นห่วง ฉันสามารถจัดการปัญหาของฉันด้วยตัวฉันเองได้”

ประธานจงคิดจะอาศัยโอกาสนี้ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังสับสนไม่มีที่พึ่ง เวลาที่กำลังอกหัก แล้วแสดงความห่วงใยกับเซี่ยชีหรั่นบ้างเล็กน้อย ทำให้เธอรู้สึกว่าพ่อของเธอก็ใส่ใจและเป็นห่วงเธอ

นึกไม่ถึงว่าจะเจอเช่นนี้ เขามีตำแหน่งที่สูงในสังคม ถูกคนปฏิเสธเช่นนี้ ในใจจะรู้สึกดีได้อย่างไร

“ก็ได้ ใครบอกให้ฉันเป็นหนี้เธอกับแม่เธอหล่ะ เธอจะทำเช่นนี้กับฉัน ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่เธอต้องจำไว้เสมอว่าฉันเป็นพ่อของเธอ ถ้าเธอต้องการหาฉันได้เสมอ” พูดจบ ประธานจงก็วางสายโทรศัพท์

เหมือนที่เธอคิด ตราบใดที่เธอต้องความช่วยเหลือจริงๆ ก็มีอีกหลายคนที่สามารถช่วยเธอได้ ไม่รู้ว่านี่เป็นความโชคดีในเวลานี้หรือไม่

เย่เชินหลินกลับไปที่วิลล่าหลังทำธุระเสร็จ ระหว่างทางกลับหลินต้าฮุยรายงาน เรื่องส้งหลิงหลิงว่าความรู้สึกของเธอค่อนข้างคงที่

อารมณ์ก็มีความเสถียรภาพมาก ไม่โวยวายอะไร

“รู้แล้ว” เขาตอบอย่างเย็นชา

อาหารเย็น ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกัน ใบหน้าเล็กๆที่เย็นชาของเซี่ยชีหรั่นทำให้เย่เชินหลินรู้สึกเศร้าใจ

หลังทานข้าวเย่เชินหลินดูออกว่าเซี่ยชีหรั่นไม่อยากคุยด้วย เขาไม่ได้ตามเธอไป ต้องการให้เธอมีเวลามากขึ้น

ตอนกลางคืน เซี่ยชีหรั่นก็นอนที่ห้องนอนใหญ่ เธอรู้ว่าเย่เชินหลินยืนอยู่หน้าประตู เหมือนเมื่อคืน เธอก็ทำใจดำเหมือนเมื่อคืนไม่สนใจเขา

เช้าตรู่ เย่เชินหลินเปิดประตูเข้าห้องมา นอนกอดเซี่ยชีหรั่นสักพัก ครั้งนี้เธอหลับสนิทจริงๆ จึงไม่รู้ตัวว่าเขาเข้ามา

วันถัดไปเซี่ยชีหรั่นยังคงนิ่งเฉยแต่สงบ เธอรู้สึกว่าเย่เชินหลินที่หยิ่งมีความเปลี่ยนแปลง เธอสามารถเห็นได้จากดวงตาที่จ้องมองเขาเป็นครั้งคราว

เย่เชินหลินไม่เริ่มคุยกับเซี่ยชีหรั่นก่อน เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ยอมคุยกับเขาก่อน สถานการณ์เช่นนี้ของทั้งสองยังคงดำเนินต่อไปจนถึงวันที่สาม

เนื่องจากจำคำพูดของหลี่เหอไท้ได้ว่า ในวันที่สามเย่เชินหลินสั่งให้หลินต้าฮุยส่งคนชุดดำมาที่วิลล่าหนึ่งชุด

ผู้หญิงของเขา ถ้าเขาคิดจะเลิก เธอไปจากเขาได้ แต่ถ้าเขาไม่ยอมปล่อย ใครก็อย่าหวังจะพาเธอออกไปจากชีวิตเขาได้

เวลาอาหารเย็น เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินทานข้าวด้วยกันอย่างเงียบๆ พ่อบ้านมารายงาน “คุณหลี่ อยู่ด้านนอกประตู เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูบอกว่ามีรถยนต์เข้ามาประมาณสิบคัน

เซี่ยชีหรั่นรู้สึกตกใจ ครั้งนี้หลี่เหอไท้ไม่ได้มาเล่นๆแน่นอน

รถยนต์สิบคันนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ต้องมีคนอยู่ข้างใน จะชิงตัวเธอเมื่อถึงเวลาจำเป็นเหรอ

เย่เชินหลินทานเสร็จพอดี หยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาอย่างสง่างามและเช็ดปากของเขา วางลงช้าๆ พูดเบาๆ “เชิญเข้ามา”

“แล้วรถคันอื่นๆหล่ะ จะปล่อยให้เข้ามาไหม” พ่อบ้านถาม

“ปล่อย ปล่อยเข้ามาให้หมด”

เขาอยากจะรู้ว่า หลี่เหอไท้จะพาคนออกไปได้อย่างไร

เย่เชินหลินสีหน้าปกติ แต่เซี่ยชีหรั่นเป็นกังวลมาก เธอไม่อยากเห็นความขัดแย้ง โดยเฉพาะความขัดแย้งที่เธอเป็นต้นเหตุ

เธอลุกขึ้นทันที เย่เชินหลินเอื้อมมือดึงเธอเบาๆ เธอจึงกลับไปนั่งที่เดิม

“ในเวลานี้ คนเหล่านี้อาจยังไม่ได้ทานอาหารเย็น พ่อบ้าน เตรียมอาหารให้ด้วย อย่าให้แขกต้องหิวในระหว่างที่สนทนากัน” เย่เชินหลินพูดจบ เม้มปากแล้วพูดกับเซี่ยชีหรั่น “พี่เหอไท้มาเยี่ยมพวกเรา พวกเราควรจะให้การต้อนรับอย่างดี ใช่หรือไม่”

“คุณ……” เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลิน ในดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล เขาดูสงบ แต่เธอรู้ดี สายตาเช่นนี้ของเขาไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรในใจ

ถ้าหลี่เหอไท้ยืนยัน เขาจะต้องเกิดความขัดแย้งขึ้นแน่นอน

ทั้งสองจ้องตากันสักพัก สองสามวันที่ผ่านมา พวกเขาไม่มีการติดต่อกันเลย เย่เชินหลินเห็นเธอกำลังมองไปที่เขา มันเป็นความรู้สึกในใจที่ไม่สามารถอธิบายได้

เธอยอมมองเขา แล้วพูดกับเขาแล้ว เขาถอนหายใจลึก ๆ ในใจ

ไม่นาน หลี่เหอไท้เดินตามพ่อบ้านที่คอยบอกทางไปที่ห้องอาหาร

คนที่เขานำมาด้วยเหล่านั้นไม่ได้ลงจากรถ สแตนด์บายอยู่ด้านนอก

“น้องชีหรั่น ฉันมารับคุณกลับบ้าน” หลังจากหลี่เหอไท้เข้ามา มองไปที่เซี่ยชีหรั่น พูดอย่างอ่อนโยน

“พี่เหอไท้ คุณทานข้าวมาหรือยัง” เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น มองเขาแล้วยิ้มให้

“ยัง พวกเรากลับไปทานที่บ้านกัน กลับไปกับฉัน” หลี่เหอไท้เดินเข้าไปข้างๆเซี่ยชีหรั่น เอื้อมมือไปหาเธอ

เรื่องในวันนี้เมื่อสองสามวันก่อนเขาเคยพูดคุยกับเย่เชินหลินแล้ว ครั้งที่แล้วขณะโทรคุยกับเซี่ยชีหรั่น เขาได้ยินเธอบอกว่า เรื่องของความสัมพันธ์เธอจะจัดการด้วยตัวของเธอเอง เขารู้ดีว่าถ้าเขาไม่มารับเธอด้วยตัวเอง เธอก็คงจะไม่สามารถจัดการเองได้

ตั้งแต่ต้นจนจบ หลี่เหอไท้ไม่มองเย่เชินหลินเลย สายตาของเย่เชินหลินจ้องไปที่ใบหน้าอันอ่อนโยนของเขา

“พ่อบ้าน เสิร์ฟอาหารให้คุณหลี่” เย่เชินหลินสั่งด้วยใบหน้าที่นิ่ง

“ไม่ต้องแล้ว ฉันไม่ได้มาทานข้าวเย็น เย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นเป็นน้องสาวของฉัน ฉันรู้ว่าคุณห้ามเธอไม่ให้ออกไป วันนี้ฉันจะพาเธอกลับไปให้ได้ กำลังคนของคุณมีเท่าไหร่ มีอำนาจมากแค่ไหนเอาออกมาใช้ได้เลย ขอแค่ฉันหลี่เหอไท้ยังมีชีวิตอยู่ คุณก็อย่าได้คิดที่จะรังแกเธอ ครอบครองเธออีกต่อไป”

หลี่เหอไท้ใบหน้าเคร่งเครียด ไม่มีท่าทีจะยอมถอยให้เลย

เย่เชินหลินยิ้ม เอื้อมมือไปจับมือเซี่ยชีหรั่นไว้ ให้เธอกลับมานั่งข้างเขาอีกครั้ง

สายตาของเขามองไปที่หลี่เหอไท้ พูดเบาๆว่า “ถ้าเป็นเช่นนี้ ฉันก็จะบอกคุณว่า ผู้หญิงคนนี้ฉันยังคงครอบครอง ถ้าคุณจะพาเธอไป ก็นองเลือดในบ้านฉันแล้วกัน ขอแค่ฉันเย่เชินหลินยังมีลมหายใจอยู่ คงจะยอมให้คุณสมหวังไม่ได้”

หลี่เหอไท้ก็ไม่พูดอะไรมาก เขาก็นำคนมามากพอสมควร วางแผนมาอย่างดี

แน่นอน เขาก็ไม่ใช่โจร เขาจะไม่ฆ่าคนวางเพลิงอย่างแน่นอน เขาได้สั่งคนของเขาไว้แล้ว แค่แย่งคน จะไม่ทำร้ายใคร

เขาพาคนมาเยอะขนาดนั้น เพียงแค่ต้องการควบคุมทุกคนในวิลล่านี้รวมถึงเย่เชินหลินเท่านั้น 

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset