สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 550 สาวใช้ตัวแสบ454

ตอนที่ 550 สาวใช้ตัวแสบ 454
“อืม” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า น้ำตาไหลลงไม่หยุด
เย่เชินหลินกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน เธอน้ำตาไหล แต่ในใจของเขาเหมือนเลือดกำลังไหล
กอดไว้นานพอสมควร เซี่ยชีหรั่นไม่มีท่าทีจะสงบลงได้
เย่เชินหลินจับไหล่ของเธอไว้ ขยับตัวเธอออกห่างเล็กน้อย มองเธออย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องร้องแล้ว เด็กโง่ ฉันไม่ดีเอง ฉันไม่รู้จริงๆว่าต้องทำอย่างไรให้เธอมีความสุขทุกๆวัน”
อย่างไรแล้วเธอก็ไม่มีทางมีความสุขได้ เพราะเธอรักเขา แล้วเธอจะมีความสุขได้อย่างไร
ก็เหมือนหลายวันที่ผ่านมา ตั้งแต่รู้เรื่องส้งหลิงหลิงกับลูกของเธอ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจทุกนาที
เวลาสามารถรักษาบาดแผลนี้ได้หรือ
ในจุดนี้เธอไม่รู้จริงๆ เธอหมดความ เธอไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ยังมีน้ำตาอยู่บนใบหน้าของเธอ เย่เชินหลินก้มลงค่อยๆจูบที่น้ำตาของเธอ
เขาอยากจะจูบเธอ เพื่อเก็บความทรงจำที่สวยงามของเธอไว้ เซี่ยชีหรั่นกัดริมฝีปาก อยากจะผลักเขาออก สาเหตุสุดท้ายเพราะจะจากกันแล้วก็เลยไม่ได้ทำ
เธอค่อยๆหลับตาลง จูบของเย่เชินหลินเลื่อนจากใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอไปที่ริมฝีปากของเธอ กดลงไปเบาๆอย่างอ่อนโยน
ณ วินาทีนั้น เซี่ยชีหรั่นหัวใจเต้นรัว แต่ความเจ็บปวดนั้นทำให้หายใจไม่ทั่วท้อง
เย่เชินหลินกอดเธอไว้แน่น จูบเธออย่างดุเดือด พวกเขาจูบกันอย่างเมามันด้วยอารมณ์ที่สิ้นหวัง การสื่อสารด้วยริมฝีปากและฟันทุกครั้งเป็นการบอกว่าถึงความไม่เต็มใจและเสียใจ
ร่างกายของเขาตอบโต้อย่างรุนแรง เขาต้องการที่จะมีเธออีกครั้ง แต่เขาไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าความรักที่เขามีต่อเธอนั้นเกิดจากร่างกายเท่านั้น  
เขาควบคุมตัวเองไว้ ผลักเธอออก พูดด้วยเสียงแหบ “พอแล้ว คุณนอนพักอีกสักพักนะ ถ้าเช้าแล้วคุณอยากไปคุณก็ไปได้เลย คุณก็สามารถอยู่ต่อได้ ถ้าคุณเต็มใจ คุณกลับมาได้ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะกลับมาเมื่อไหร่ คุณก็ยังคงเป็นเจ้าของของที่นี่ หนึ่งเดียวเท่านั้น”
พูดจบ เย่เชินหลินลงจากเตียง ใส่รองเท้า แล้วเปิดประตูออกไป
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ร้องไห้ เธอเกร็งหลัง แล้วพูดกับตัวเองว่า ในเมื่อจะไป ก็อย่าได้ลังเลอะไรอีก อย่ากังวลอะไรอีก
เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอ เธอจะมีธุรกิจของตัวเอง ชีวิตคนเราไม่ได้อยู่กับความรักเพียงอย่างเดียว เธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับความรักอีก เพราะมันเจ็บปวดเกินไป
เธอจะใช้เวลากับแม่ให้มากๆ รอเธอมีกำลังมากพอ เธอก็จะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น เช่นเด็กกำพร้าที่น่าสงสารเหล่านั้น
เมื่อคิดอย่างนี้ เธอดูเหมือนจะรู้สึกดีขึ้น

เย่เชินหลินไปที่ห้องหนังสือ เขานั่งเงียบๆในห้องหนังสือ คิดหลายๆเรื่อง

สุดท้ายหยิบปากกาบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เขียนหนังสือโอนทรัพย์สินที่เขียนด้วยลายมือหนึ่งฉบับ เขาเอาทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็น

สังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์ แบ่งให้เซี่ยชีหรั่นอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

เรื่องนี้ หลังเลิกงานเขาจะให้หลินต้าฮุยไปจัดการให้

ในใจของเขา เซี่ยชีหรั่นเป็นภรรยาของเขา ตามกฎหมายการแต่งงานใหม่ ทรัพย์สินก่อนแต่งงานไม่ต้องแบ่ง แต่สำหรับเขาแล้ว ทรัพย์สินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอะไร

เขาเป็นผู้ชาย เขาสามารถเริ่มต้นสร้างเนื้อสร้างตัวได้เสมอ ไม่มีเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

แต่ผู้หญิงของเขาไม่เหมือนกัน ถ้าเลิกกับเขาแล้ว เขาต้องการที่จะอยู่รอด ต้องยืนขึ้นอีกครั้ง เขาจำเป็นต้องมีกำลัง ในอนาคตจะได้ไม่ต้องถูกคนอื่นควบคุม

เซี่ยชีหรั่นไม่ได้นอนต่อ เธอตื่นมาแต่เช้า จัดของที่เก็บแล้วอีกรอบ สุดท้ายเธอก็หยิบกระดาษโน้ตในลิ้นชัก คัดลอกเบอร์โทรศัพท์ทั้งหมดในโทรศัพท์แล้วเก็บไว้ในกระเป๋า ปิดโทรศัพท์แล้วเก็บไว้ในลิ้นชัก

หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว เธอนั่งบนเตียงคิดถึงอนาคตของเธอ

เธอจะไม่กลับไปทำงานที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปอีกแล้ว ดังนั้นเธอจะต้องหางานใหม่ ไปเริ่มต้นที่อื่นใหม่ สำหรับเธอแล้วเป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะเรื่องของโม่เสี่ยวจุน ทำให้เธอไม่ได้รับประกาศนียบัตร

สมัยนี้บริษัทที่ดีๆ ถ้าไม่มีวุฒิการศึกษาเขาก็จะไม่รับเข้าทำงาน

โชคดีถึงเธอไม่ได้รับประกาศนียบัตรจากวิทยาลัย แต่วุฒิมัธยมปลายยังมี อย่างน้อยเธอก็หาที่ที่จะเริ่มต้นจากศูนย์ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย

เซี่ยชีหรั่นคิดถึงสิ่งนี้ จึงสามารถออกจากความเศร้าที่มีต่อเย่เชินหลินได้

คิดอยู่คิดอยู่ ก็กลับไปที่ตัวเขาอีกครั้ง เธอก็บังคับให้ตัวเองไปคิดเรื่องอื่นต่อ

เวลาอาหารเช้า จิ่วจิ่วมาเคาะประตู ขณะนั้นเซี่ยชีหรั่นก็แต่งตัวเปลี่ยนชุดที่พร้อมจะออกไปข้างนอกเรียบร้อยแล้ว

“ชีหรั่น คุณร้องไห้เหรอ เขารังแกคุณ” จิ่วจิ่วถามด้วยความโกรธ

เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่นะ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้รังแกฉัน ยังยอมให้ฉันไปจากที่นี่ด้วย”

“จริงเหรอ เขาทำไมถึงทำเช่นนี้ รู้สึกผิดหวังจริงๆ มันไม่น่าจะเป็นเช่นนี้นะ” จิ่วจิ่วขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ

“คุณเป็นคนบอก ให้ฉันไปจากที่นี่ไง เด็กโง่” เซี่ยชีหรั่นเหมือนคนไม่รู้สึกอะไร ลูบหัวจิ่วจิ่วหนึ่งครั้ง

“โอ๊ย ใครอยากให้คุณไปจริงๆหล่ะ ฉันแค่คิดว่า…….” เธอแค่คิดว่าถ้าเซี่ยชีหรั่นยืนยันขนาดนี้ หลังจากนั้นคุณชายรู้ว่าคนที่เขารักเป็นเซี่ยชีหรั่น เขาจะยอมทำเพื่อเธอโดยเอาเด็กคนนั้นออก เช่นนี้พวกเขาทั้งสองก็จะมีชีวิตที่มีความสุขเหมือนในนิยาย

ใครจะไปคิด คนไม่เอาไหนคนนั้น จะยอมให้เซี่ยชีหรั่นไปจากชีวิตเขา โดยไม่ยอมเอาเด็กคนนั้นออก

เกินไปจริงๆ ยังจะมาพูดว่าเขาจะรักเซี่ยชีหรั่นตลอดไป รักบ้าอะไร ดูท่าคำพูดของผู้ชายนั้นเชื่อไม่ได้จริงๆ

เขารักมากขนาดนั้น ทำไมถึงยอมปล่อยเธอไป เขาต้องรั้งไว้ให้ถึงที่สุดสิ ทำผิด ก็ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง พยายามขอให้เซี่ยชีหรั่นยกโทษให้

ช่างเหอะ ฉันคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ ชีหรั่น ถ้าคุณจะไป ก็ช่วยพาฉันไปด้วย ฉันก็จะไม่อยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว ฉันเห็นผู้ชายคนนั้น ก็จะโมโห”

เซี่ยชีหรั่นเคยคิดว่าจะไม่แยกจากจิ่วจิ่ว เธอเป็นเพื่อนของเธอ เพื่อนที่หาได้ยาก

แต่ว่า หลังจากพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก รู้สึกว่าถ้าเธอพาจิ่วจิ่วไปด้วย จะไม่มีผลดีต่อจิ่วจิ่วเลย

“ในอนาคตฉันก็ต้องไปหางานทำ จิ่วจิ่ว คุณอยู่ที่นี่นะ เขาจะปฏิบัติต่อคนที่ทำงานให้เขาเป็นอย่างดี ส่วนนี้คุณก็รู้ ถ้าคุณไปกับฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องลำบากแค่ไหน แม้แต่ใบปริญญาฉันก็ยังไม่มีเลย ในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรเลย”

แม้ว่าทุกคนรอบตัวเธอจะเป็นคนมีกำลังความสามารถ แต่เธอก็ไม่อยากพึ่งพาใคร

เมื่อก่อนเธอโหยหาการพึ่งพาตนเอง ถึงได้ออกไปทำงาน

“ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะไปกับเธอ ชีหรั่น ไม่แน่พวกเราอาจจะสามารถเริ่มต้นธุรกิจด้วยกันได้ ฉันจะแอบบอกเธอ ฉันมีเงินออมอยู่บ้างเล็กน้อย เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราเปิดร้านเล็กๆ แล้วค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น เช่นนี้ไม่ดีหรือ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนฉันมาเพราะไอดอลของฉัน ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกลายเป็นเป้าหมายของการอยากอาเจียน”

แน่นอน เธอจิ่วจิ่วไม่ได้มาเพราะไอดอลเพียงอย่างเดียว เธอยังเห็นว่าเงินเดือนน่าสนใจด้วย

แต่ตอนนี้ เธอรู้สึกว่าเซี่ยชีหรั่นน่าสงสารมาก ในฐานะที่เป็นเพื่อนเธอ ถึงแม้ตอนนี้เธอต้องทิ้งงานที่มีรายได้ดีไป ก็จะอยู่ข้างๆเธอ เป็นเพื่อนเธอช่วงเวลาที่เธออกหักนี้

เซี่ยชีหรั่นถูกคำพูดของจิ่วจิ่วทำให้หัวเราะออกมา เวลานี้เย่เชินหลินที่กำลังเดินขึ้นตึกเห็นรอยยิ้มของเธอพอดี

นี่น่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อสุดท้ายที่พวกเขาจะได้ทานด้วยกัน ดังนั้นเขาจึงอยากจะมาเชิญเธอไปทานข้าวด้วยตัวเขาเอง

รอยยิ้มของเธอทำให้เขากะพริบตา ยิ้มของเธอสวยงามเสมอ เป็นสิ่งที่เขาชอบมอง แต่ในเวลานี้ เธอสามารถยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้ เขาน่าจะยินดีกับเธอ แต่ในใจเขากลับรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

เซี่ยชีหรั่น ฉันคิดว่าคุณจะเสียใจ ที่แท้คุณสามารถมีความสุขได้เร็วขนาดนี้ เก่งกว่าฉันมาก

ดวงตาทั้งสองพบกันในอากาศ เซี่ยชีหรั่นดึงมุมปากเธอเล็กน้อย แล้วยิ้มให้เขา

จะจากกันแล้ว ไม่ว่ายังไง เธอก็ยังรู้สึกขอบคุณเขา เขาทำให้เธอรู้ว่ารักคืออะไร เขาทำเพื่อเธอมากมาย ให้เธอสัมผัสความรักที่สวยงามที่อยู่ในฝ่ามือเขา

แม้ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะจบลง เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการทำตามสัญญาที่ให้ไว้คือดูแลเธอจนถึงวินาทีสุดท้าย

ดังนั้น เธอต้องขอบคุณเขา และอวยพรเขา ไม่ใช่มีประโยคหนึ่งพูดว่าเลิกกันไปด้วยดี วาสนาที่มีต่อกันหมดแล้ว ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ เธอก็จะไม่โกรธเขา

เธอแค่รู้สึกว่าชีวิตคนเรา ควรให้อภัยกันมากๆ

มีคนรักคุณ ดีกับคุณ เขาไม่ได้มีหน้าที่จะมาดีกับคุณคนเดียวตลอดไป ถ้าวันหนึ่งเขาไม่รักแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกรธเกลียดเขา ยังต้องขอบคุณที่เขาเคยรักเรา นี่เป็นสิ่งที่เธอคิด

บางทีในความเห็นของทุกคน เธอเป็นฝ่ายที่ถูกหลอก เธอก็มีอารมณ์ด้านลบเช่นกัน มีช่วงที่ไม่พอใจเหมือนกัน

เมื่อจะจากไปจริงๆ เธอเปิดใจกว้างยอมรับได้แล้ว

เธอไม่อยากจากกันด้วยความโกรธ ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับเขาได้ เธอรู้ว่าอาจจะเป็นเพราะเธอรักเขาไม่มากพอ ดังนั้นจะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ได้

ถ้าเธอรักเขามากเหมือนส้งหลิงหลิง แม้ว่ารอบตัวเขาจะมีคนอื่นอยู่แล้ว เธอก็ยังยืนยันจะอยู่กับเขา ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่สนว่าใครจะว่าอย่างไร ก็ยังจะยืนยันต่อไป ไม่แน่เธออาจจะไม่ไปก็ได้

เธอนึกขึ้นได้ว่า บางครั้งต้องนับถือส้งหลิงหลิงด้วยซ้ำ ไม่ได้นับถือพฤติกรรมของเธอ แต่นับถือความวิริยะของเธอ

แล้วอะไรคือรักแท้ เลิกกันคือรักแท้ หรือยืนยันอยู่ด้วยกัน หรือคิดว่าตัวเองเท่านั้นที่สามารถนำความสุขที่แท้จริงมาให้อีกฝ่ายได้ อย่างไรก็ไม่ยอมเลิกกัน จะเป็นจะตายยังไงก็จะอยู่ด้วยกัน คือรักแท้

“กินข้าวสิ” เย่เชินหลินพูดเบาๆ เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า

จิ่วจิ่วจ้องมองเย่เชินหลินอย่างแรง กอดคอเซี่ยชีหรั่นแล้วเดินลงมาพร้อมกัน

“คุณเย่ ฉันมีเรื่องจะขอคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ได้ไหม”

เซี่ยชีหรั่นพอจะเดาออกว่าจิ่วจิ่วจะพูดอะไรกับเย่เชินหลิน เธอดึงจิ่วจิ่วไว้ ใช้สายตาคุยกับเธอ บอกเธอไม่ต้องไปพูด

“ได้ ตามฉันไปที่ห้องรับแขก” เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าจิ่วจิ่วจะพูด เย่เชินหลินก็รู้

“รอฉันห้านาที เราจะทานอาหารเช้าด้วยกัน” เย่เชินหลินพูดกับเซี่ยชีหรั่น

“อืม” เซี่ยชีหรั่นรู้นิสัยของจิ่วจิ่ว ถ้าไม่ให้เธอพูด เธอคงจะอึดอัดใจ เย่เชินหลินตอบตกลงแล้ว ไม่ดีที่เธอจะขัดขวาง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset