สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 551 สาวใช้ตัวแสบ 455

ตอนที่ 551 สาวใช้ตัวแสบ 455
เธอไม่ได้ไปที่ห้องอาหารก่อน แต่ยืนรอตรงนั้นอย่างเงียบๆ รอให้พวกเขาสนทนากันจนเสร็จ
หลังจากเข้าไปที่ห้องรับแขก จิ่วจิ่วมีใบหน้าที่โกรธกำลังจ้องไปที่เย่เชินหลิน พูดอย่างเย็นชาว่า “คุณเย่ วันนี้ฉันมาเพื่อขอความยุติธรรมให้เซี่ยชีหรั่น ทั้งๆที่คุณเป็นคนทำผิดต่อเธอ ทำไมคุณไม่ขอโทษเธอ ขอให้เธอให้อภัยคุณ คุณคิดว่าการที่คุณปล่อยเธอไป เธอจะมีความสุขเหรอ คุณรู้หรือไม่ ครั้งที่คุณไปอเมริกา เธอคิดถึงคุณมากแค่ไหนที่วิลล่า เธอรักคุณมาก และอดทนขนาดนั้น คุณคิดว่าหลังจากที่คุณกับเธอแยกกันแล้ว เธอจะสามารถเริ่มต้นใหม่กับคนอื่นได้อีกเหรอ คุณผิดแล้ว คุณควรรับผิดชอบต่อความผิดพลาดของคุณ คุณควรรั้งเธอไว้ไม่ปล่อยเธอไป คุณไม่รู้จริงๆหรือว่าผู้หญิงมักจะพูดตรงข้ามกับใจ คุณคิดว่าเธอบอกว่าเธอจะไป หมายถึงต้องการไปจริงๆหรือ คุณสับสนแล้ว คุณให้คุณส้งเก็บลูกไว้อย่างไม่ละอาย คุณกำลังเลอะเลือนมาก ตอนนี้คุณจะปล่อยเธอไป คุณเลอะเลือนยิ่งกว่า ฉันมาเป็นสาวใช้ที่นี่ก็เพราะนับถือคุณ ใครจะไปรู้ว่าฉันมองคนผิด เป็นเพียงแค่……ช่างมันเหอะ ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ ในเมื่อคุณไม่ยินดีที่จะรั้งเธอไว้ ฉันก็จะไปกับเธอด้วย เมื่อถึงเวลานั้นคุณก็ส่งเธอไปให้คุณไห่แล้วกัน ฉันคิดว่าเวลาที่คุณเสียใจ คุณก็หามุมแล้วร้องไห้เองเถอะ”
จิ่วจิ่วต่อว่าสักพัก หลังจากได้ต่อว่าแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น
เย่เชินหลินเงียบฟังจนจบ พูดเบาๆว่า “คุณอยากไปกับเธอก็ไปเถอะ ดูแลเธอดีๆนะ ถ้าเธอสามารถรักไห่ลี่หมินได้ ก็เป็นสิ่งที่ดีกับเธอ เงินเดือนของคุณ พ่อบ้านจะให้คนโอนเข้าบัญชีของคุณให้ รบกวนคุณด้วย”
เขารู้ว่าตราบใดที่เด็กยังอยู่ เขาทำอะไรก็ดูผิดไปหมด
เซี่ยชีหรั่นรักเขา ชอบเขา ลังเลที่จะจากเขาไป แต่ถ้าเธออยู่กับเขาเธอก็จะไม่มีความสุข เมื่อคืนที่ผ่านมาความฝันทำให้เธอสะเทือนใจมาก แต่เขาสะเทือนใจกว่า เขาเห็นสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไร เธอก็ไม่มีความสุข
แทนที่จะเห็นผู้หญิงที่ตัวเองรักร้องไห้ต่อหน้า เขายอมให้เธอไปหัวเราะกับคนอื่นดีกว่า
จิ่วจิ่วมองเย่เชินหลินด้วยความตะลึง มีบางอย่างที่เธอไม่อยากจะเชื่อที่เธอได้ยินกับหู
ได้ยินมาว่าคุณชายไม่ใช่คนแบบนี้นะ เขาหยิ่งมาก ทำไมถึงยอมให้ผู้หญิงของเขาไปอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่นได้หล่ะ เขาบ้าไปแล้วแน่ๆเลย
เธอเหมือนอยากจะพูดอะไรอีก แต่เย่เชินหลินเดินออกไปแล้ว ปล่อยให้จิ่วจิ่วตะลึงอยู่ด้านหลัง
เย่เชินหลินเดินไปหาเซี่ยชีหรั่น เขาอยากจะจับมือเล็กๆของเธออีกครั้ง พาเธอไปห้องอาหารด้วยกัน
เขาแค่มองไปที่มือเล็กๆของเธอ สุดท้ายได้เพียงแค่พูดเบาๆว่า “ไปเถอะ ไปทานอาหารเช้า”
เซี่ยชีหรั่นเดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ เว้นระยะห่างกับเขาเล็กน้อย ระยะห่างเช่นนี้ ทำให้เธอเห็นความสูงสง่าของเขาจากด้านหลัง
หลังของเขาตรงมาก ไม่รู้เพราะอะไร ทั้งที่เธอยังไม่ได้จากเขาไป ก็เหมือนจะเห็นความโดดเดี่ยวของเขาแล้ว
เป็นความรู้สึกผิดของเธอ หรือเธอยังตัดใจไม่ได้
ทั้งสองเข้าไปในห้องอาหารทีละคน เย่เชินหลินเอื้อมมือไปดึงเก้าอี้ออกมาให้เธอ เธอนั่งลงด้วยอารมณ์ที่สับสน
พ่อบ้านเดินเข้าไป ดึงเก้าอี้ของเย่เชินหลินออกมา

เย่เชินหลินไม่พูดอะไร หยิบจานอาหารของเซี่ยชีหรั่นมา ทำเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ ตัดอาหารเช้าบนจานของเธอเป็นชิ้นเล็ก ๆ อย่างเงียบ ๆ

เธอไม่ถนัดทานอาหารตะวันตก เพราะไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้มาก่อน ดังนั้นจึงช้าหน่อยกับการตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ

เขามีรอยยิ้มเล็กน้อย หลังจากตัดเป็นชิ้นเล็กๆแล้วก็ยกไปไว้ตรงหน้าเธอ

นี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย พวกเขาคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย ยังไม่ทันได้เริ่มทาน เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ที่คอ

เย่เชินหลินสังเกตเห็นดวงตาของเธอหมุนไปรอบๆแต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา เขาทำสิ่งนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์จะรั้งเธอไว้ เขาแค่คิดว่า ก่อนจะจากกันเขาทำอะไรเพื่อเธอได้บ้าง เขาก็อยากจะทำ

เธอนิ่งอยู่นาน เย่เชินหลินหัวเราะ พูดเบาๆ “ทานสิ ทานให้หมด แล้วฉันจะส่งคุณกลับไปบ้านแม่”

ก่อนหมั้น เขาเป็นคนรับเธอมาจากมือคุณแม่ของเธอ

ไม่คาดคิดว่าแค่ช่วงเวลาสั้นๆนี้ พวกเขาจะแยกจากกัน เขารู้ว่าจะต้องถูกแม่ของเธอต่อว่าแน่นอน นี่เป็นสิ่งที่เขาสมควรจะได้รับ เขาส่งเธอกลับไปด้วยตัวเขาเองเพื่อไปกราบขอโทษ

“อืม” เซี่ยชีหรั่นตอบรับเสียงเบา แล้วเริ่มทานอาหาร

ขณะที่สองคนกำลังทาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูรายงานต่อพ่อบ้านผ่านชุดหูฟัง แจ้งว่านายหญิงมาแล้ว

“คุณเย่ คุณนายเย่ คุณนายมาแล้ว” พ่อบ้านรายงานอย่างสุภาพ เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นรีบวางช้อนส้อมลง ลุกขึ้นพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผู้ใหญ่ ตั้งแต่เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินหมั้นหมายกัน ก็นับถือแม่ของเขาเหมือนแม่แท้ๆของตัวเองแล้ว เธอสัญญาว่าจะกตัญญูต่อเธอ

แม้ว่าวาสนาของพวกเขาจะหมดเพียงเท่านี้ ก่อนที่เธอจะไปจากที่นี่เธอก็ควรจะอธิบายให้ท่านเข้าใจ ไม่ควรจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย

แน่นอน เธอก็ไม่อยากจะปิดบัง เรื่องแยกทางกันเธอก็จะไม่ปิดบังใคร

เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นเดินไปที่ประตูพร้อมกัน รถของฝู้เฟิ่งหยีมาถึงแล้ว เย่เชินหลินเดินเข้าไปเปิดประตูรถให้แม่ ฝู้เฟิ่งหยีเดินลงจากรถ

“แม่” เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นเรียกพร้อมกัน

“ดีๆ” ฝู้เฟิ่งหยียิ้มเบาๆ ลงจากรถจับมือของเซี่ยชีหรั่นไว้ เห็นเซี่ยชีหรั่นยังอยู่ในตระกูลเย่ เธอรู้สึกดีใจมาก

เย่เชินหลินสั่งให้หลินต้าฮุยไปส่งอาหารบำรุงร่างกายไปให้เย่เห้าหรันที่บ้านด้วย พอดีเย่เห้าหรันไม่อยู่ ฝู้เฟิ่งหยีจึงถามเขา ช่วงนี้เรื่องของเย่เชินหลินกับส้งหลิงหลิงเป็นอย่างไรบ้าง

ทุกครั้งที่เธอถามเย่เชินหลิน เย่เชินหลินก็จะตอบว่าไม่มีอะไร บอกเธอไม่ต้องเป็นห่วง

หัวใจของเธอ ไม่สามารถปล่อยวางได้ แล้วจะไม่ให้เป็นห่วงได้อย่างไร

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอรู้สึกว่าไม่ควรจะปิดบังเซี่ยชีหรั่น แต่ถ้าไม่ปิดบังเธอ เธอรู้ก็จะกระทบจิตใจของเธอ

เธอหวังว่าเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นจะรักกันชั่วนิรันดร์ มีลูกเร็วๆ มีความสุขตลอดชีวิต แต่เธอรู้สึกว่าเซี่ยชีหรั่นมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องจริง และมีสิทธิ์ที่จะเลือก

เมื่อวานฟังหลินต้าฮุยบอกว่าเซี่ยชีหรั่นรู้เรื่องนี้แล้ว ทั้งสองคนเย็นชาต่อกันเพราะเหตุนี้ เช้านี้เธอจึงรีบมา

“แม่ ท่านทานอาหารเช้าหรือยัง” เซี่ยชีหรั่นถาม

“ทานแล้ว พวกเธอหล่ะ ถ้ายังไม่ได้ทานก็รีบไปทานก่อน” ฝู้เฟิ่งหยีพูดด้วยความรักและเมตตา

เซี่ยชีหรั่นกำลังจะบอกว่าเธอทานแล้ว แต่เย่เชินหลินกลับพูดความจริง

“แม่ พวกเรากำลังทาน ท่านไปนั่งพักที่ห้องก่อนนะ เล่นๆเกม พวกเราทานเสร็จก็จะมาคุยเป็นเพื่อน”

“ไปเถอะ”

เซี่ยชีหรั่นก็ไม่เกรงใจมากแล้ว มองดูพ่อบ้านส่งฝู้เฟิ่งหยีไปห้องนอนที่ชั้นหนึ่ง เธอถึงตามเย่เชินหลินไปทานอาหารเช้าต่อ

หลังจากทานเสร็จ ระหว่างทางที่ทั้งสองเดินไปหาฝู้เฟิ่งหยี เซี่ยชีหรั่นพูดเบาๆว่า “ฉันอยากจะบอกเรื่องการแยกทางของเราสองคนกับท่าน คุณเห็นด้วยไหม ถ้าคุณมีความคิดอื่น ยังไม่อยากให้ท่านรู้ ฉันก็จะให้ความร่วมมือ”

“ไม่เป็นไร จะช้าจะเร็วอย่างไรท่านก็ต้องรู้ ฉันเดาว่าท่านอาจจะอยากคุยกับคุณก็ได้ คุณก็พูดไปตามความต้องการที่แท้จริงของคุณให้ท่านรู้ก็พอ”

“อืม” เซี่ยชีหรั่นตอบรับ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

“ช่วงนี้สุขภาพของพ่อฉันไม่ค่อยดี ท่านก็คงจะไม่อยู่ที่นี่นาน รอท่านกลับไปแล้ว ฉันก็จะส่งคุณกลับไปบ้านของแม่คุณ” เย่เชินหลินพูด

“พ่อสุขภาพไม่ค่อยดี เป็นอะไรหรือ” เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความกังวล เธอรู้สึกว่าเธอเป็นสะใภ้ที่ไม่ดีเท่าไหร่ แม้แต่คุณพ่อไม่สบาย เธอยังไม่รู้

“เขาอยากให้ฉันเอาลูกของส้งหลิงหลิงออก แต่ฉันไม่เห็นด้วย เขาก็เลยโกรธ ฉันเพิ่งรู้ว่าเขามีโรคหัวใจ แต่คุณไม่ต้องกังวล ได้รักษาแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว”

“ฉัน……..ขอโทษ ฉันทำได้ไม่ดีพอ ตอนที่พวกเราอยู่ด้วยกัน ฉันมัวแต่ทำงาน” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยความจริงใจ

“อย่าโทษตัวเองเลย เขาสุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอด แม้แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าเขามีปัญหาด้านนี้ จะโทษคุณไม่รู้ได้อย่างไร”

เย่เชินหลินพูดจบ ทั้งสองก็เดินมาถึงหน้าประตูห้องของฝู้เฟิ่งหยีแล้ว

เย่เชินหลินเคาะประตูเบาๆ ได้ยินเสียแม่บอกว่าเข้ามาถึงเข้าไป เซี่ยชีหรั่นเดินตามหลังเขา

“เย่เชินหลิน คุณออกไปก่อน ฉันอยากจะคุยกับชีหรั่นตามลำพัง”

“ชีหรั่น คุณเข้าไปสิ ฉันไปรอที่ห้องหนังสือ คุยเสร็จแล้วเรียกฉันด้วย” เย่เชินหลินพูดกับเซี่ยชีหรั่น หันหลังแล้วเดินออกประตูไป

เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปหาฝู้เฟิ่งหยี เธอจับมือของเธอ พูดอย่างอ่อนโยน “ชีหรั่นนั่งสิ แม่อยากจะขอโทษหนู นี่เป็นเพราะฉันกับนายท่านเย่สั่งสอนลูกได้ไม่ดี และฉันเป็นคนจับคู่ให้กับเขากับส้งหลิงหลิง แล้วไม่ได้จัดการให้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะโม่เอ๋อกลัวว่าถ้าคุณรู้แล้วคุณจะไม่สบายใจ แม่ก็อยากจะมาขอโทษหนูตั้งนานแล้ว ทำให้หนูต้องเสียใจขนาดนี้”

เซี่ยชีหรั่นนั่งฟังอย่างเงียบๆ จมูกรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย

เธอสามารถเข้าใจความรู้สึกของฝู้เฟิ่งหยี คนเป็นแม่ ไม่มีใครอยากให้ลูกชายเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นหลอก

เธอก็คงจะอึดอัดใจ และไม่ใช่เรื่องที่เธอจะสามารถแก้ปัญหาเองได้

“แม่ ท่านเป็นผู้ใหญ่ ไม่ต้องขอโทษฉัน ฉันรู้เรื่องนี้ท่านไม่ใช่คนผิด และไม่ใช่ความผิดของพ่อด้วย แน่นอน ก็ไม่ใช่ความผิดของเชินหลินด้วย ตอนนั้นเขากำลังโกรธฉัน ถึงได้…..ไม่มีใครคาดคิดว่าส้งหลิงหลิงจะตั้งท้อง ฉันเข้าใจ หากบุคคลใดจงใจพยายามทำสิ่งที่ไม่ดี นั่นก็ไม่สามารถป้องกันได้เช่นกัน ฉันพูดได้แค่ว่า บางทีนี่อาจเป็นโชคชะตา”

ฝู้เฟิ่งหยีดูออกว่าในดวงตาของเซี่ยชีหรั่นนั้นมีอารมณ์เศร้าอยู่ เธอรู้สึกเป็นทุกข์เมื่อมองดู

ตั้งแต่ที่พวกเขาทั้งสองรักกัน เธอก็ชอบเซี่ยชีหรั่นด้วยความจริงใจ

“เด็กน้อย แม่รู้ว่าหนูก็ทุกข์ใจมาก ถึงฉันจะขอโทษอย่างไร ก็คงไม่ช่วยให้คุณสบายใจขึ้น ถ้าพวกเราใจแข็งหน่อย ไม่เก็บเด็กคนนั้นไว้ แต่ฉันก็คิดว่า เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ ฉันไม่สามารถทนเห็นเด็กที่อายุเดือนมากขนาดนั้น บอกว่าเอาออกก็เอาออกได้ ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร พวกเราก็ทำร้ายคุณแล้ว ถ้าคุณจะออกจากชีวิตโม่เอ๋อ ฉันก็เข้าใจ ในเวลาเดียวกันฉันก็รู้สึกละอายใจต่อคุณ ฉันรู้ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร คุณอาจจะรู้สึกว่าคำพูดของฉันไม่มีน้ำหนักพอ ไม่จริงใจ แม่ก็ไม่รู้จะชดใช้ให้คุณอย่างไรดี คุณจำไว้แค่ว่าถ้าคุณจะไปจากที่นี่ ชาตินี้ไม่ว่าจะที่ไหน ขอแค่คุณเจอปัญหา คุณก็บอกแม่ได้เสมอ แม่จะช่วยคุณแน่นอน แต่ถ้าคุณสามารถยอมรับเรื่องนี้ของโม่เอ๋อได้ ฉันรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ลำบากใจ ฉันไม่คาดหวังให้คุณยอมรับ แต่ถ้าคุณยอมรับได้ แม่สัญญากับคุณ ฉันจะเลี้ยงเด็กคนนี้เอง จะไม่ยอมให้เด็กคนนี้มายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของพวกเธอ ชีหรั่น ตระกูลเย่ทำผิดกับคุณมาก นี่หมั้นหมายกันได้แค่ไม่กี่วัน ก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แม่รู้สึกไม่สบายใจเลย”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset