สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 562 สาวใช้ตัวแสบ 466

ตอนที่ 562 สาวใช้ตัวแสบ 466
“หรั่นหรั่น เป็นอะไรเหรอลูก?”จ้าวเหวินอิงลุกขึ้น และรีบวิ่งไปหาลูกสาว จิ่วจิ่วก็รีบตามไปอย่างรีบร้อน
เซี่ยชีหรั่นสีหน้าไม่สู้ดีนัก ริมฝีปากสั่น เธอพูดกับแม่ของเธอว่า:“ลูกจะออกไปข้างนอกครู่นึงนะคะ”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”จ้าวเหวินอิงถามขึ้นอย่างร้อนใจ ในฐานะที่เป็นแม่ เธอจะวางใจให้ลูกสาวออกไปข้างนอกคนเดียวได้อย่างไรกันล่ะ?
“เย่เชินหลินดื่มเหล้าเมาอยู่ที่ผับ ลูกต้องรีบไปดูเขาค่ะ!”เมื่อเซี่ยชีหรั่นพูดจบ เธอก็ได้ยินเสียงของหลี่เหอไท้ดังออกมาจากห้องหนังสือ
“ผมจะไปกับคุณเอง ไม่ต้องร้อนใจไป!”หลี่เหอไท้มายืนอยู่ที่เบื้องหน้าของเธอ จากนั้นก็ประคองเซี่ยชีหรั่นที่ดูเหมือนจะอ่อนล้า
หากข้อความของไห่ลี่หมินเขียนเพียงเย่เชินหลินเมาอยู่ที่ผับ เซี่ยชีหรั่นคงไม่ร้อนใจเช่นนี้
ความสามารถในการดื่มสุราของเย่เชินหลินนั้น เซี่ยชีหรั่นรู้เป็นอย่างดี เธอยังจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาดื่มเหล้าเยอะมาก เธอคิดว่าจะต้องลากเขาส่งโรงพยาบาลเป็นแน่ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด
ดังนั้นในครั้งนี้ เธอก็ไม่รู้จริงๆว่าเขาต้องดื่มหนักขนาดไหนถึงได้มีอาการหนักขนาดนี้
“แม่วางใจเถอะครับ ผมจะไปเป็นเพื่อนเธอเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะดูแลเธอเป็นอย่างดี”ก่อนที่หลี่เหอไท้จะออกจากบ้านก็ได้พูดรับปากกับแม่ของเธอ แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ จ้าวเหวินอิงก็ยังคงอดเป็นห่วงไม่ได้
“หรั่นหรั่น มีเหอไท้ไปเป็นเพื่อนลูก ลูกก็อย่าได้ร้อนใจไปเลย”
“ค่ะ แม่”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่ก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าลง ยังคงรีบตามหลี่เหอไท้ออกไปข้างนอก
“เขาไปดื่มเหล้าที่ไหน ดื่มมานานแค่ไหนแล้ว?”หลี่เหอไท้ถามขึ้น เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าและพูดว่า:“คงเป็นเพราะว่าไห่ลี่หมินส่งข้อความมาหาเธอหลายครั้งและบอกว่า เขาแย่มากแล้ว ฉันอยากจะถามเขาว่า ต้องพาส่งโรงพยาบาลหรือเปล่า”
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นบอกที่อยู่ของเขา ก็รีบกดเบอร์โทรของไห่ลี่หมินและโทรหาเขาทันที
“ผมขอตัวไปห้องน้ำสักครู่” ไห่ลี่หมินพูดขึ้น และไม่สนใจด้วยว่าเย่เชินหลินจะสงสัยหรือไม่ เมื่อเขาเดินออกห่างระยะหนึ่ง ถึงได้กดรับโทรศัพท์
ความสามารถในการดื่มเหล้าของเย่เชินหลินนั้นดีมาโดยตลอด แม้ว่าเขาจะดื่มเหล้าฝรั่งไปแล้วสองถึงสามขวดแต่เขาก็ยังสามารถประคองสติได้เป็นอย่างดี
เขารู้ว่าไห่ลี่หมินนั้นออกไปโทรศัพท์ แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรมาไห่ลี่หมินนั้นก็งานยุ่งมาโดยตลอด ก็เลยไม่ได้คิดว่าโทรศัพท์สายนั้นจะเกี่ยวข้องกับเซี่ยชีหรั่น จึงก้มหน้าดื่มเหล้าต่อไป
“ฮันโหล?หรั่นหรั่น!”ไห่ลี่หมินรับโทรศัพท์และพูดขึ้นด้วยเสียงเบา
“เขาเป็นอะไรเหรอ?พวกคุณยังอยู่ในผับ?ทำไมยังไม่ไปโรงพยาบาลอีก?”น้ำเสียงของเซี่ยชีหรั่นนั้นดูร้อนใจเป็นอย่างมาก ความสงสัยของเธอนั้นทำให้สีหน้าของไห่ลี่หมินเปลี่ยนไป

การที่เธอเป็นเช่นนี้ ใครจะไปจีบเธอติดล่ะ?

ดูเหมือนว่า ความรู้สึกที่เซี่ยชีหรั่นมีต่อเย่เชินหลินนั้นมากมายเหลือเกิน แม้กระทั่งตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเลย

“ตอนนี้เขาดีขึ้นแล้ว ได้สติแล้ว ผมจะพาเขาไปโรงพยาบาล แต่เขาก็ไม่ยอม เขาเอาแต่เรียกชื่อของคุณ ผมคิดว่าทางดี คุณมาโน้มน้าวเขาด้วยตนเองเถอะ”

เมื่อได้ยินว่าเขานั้นเริ่มได้สติแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็โล่งอกในทันที แต่เธอก็ยังขมวดคิ้วอยู่

“ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ อย่าให้เขาดื่มต่อล่ะ!”

“ผมจะพยายาม คุณก็รู้ว่าผมก็ไม่อาจที่จะโน้มน้าวเขาได้”

“ขอบคุณมากนะคะ!”หลังจากที่เธอวางสายลง เธอก็ถอนหายใจลึกเฮือกหนึ่ง และพูดกับหลี่เหอไท้ว่า:“พี่หลี่เหอไท้ เร็วกว่านี้อีกหน่อยได้ไหมคะ?”

หลี่เหอไท้เป็นคนขับรถพาเธอออกมาด้วยตนเอง ไม่ได้เรียกให้คนขับรถมาขับให้

เมื่อเซี่ยชีหรั่นเร่งขึ้น เขาก็รับปาก และเพิ่มความเร็วขึ้นในทันที

ไห่ลี่หมินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตน เมื่อเห็นเย่เชินหลินเปิดเหล้าขวดใหม่ และดื่มไปจนเหลือแค่ก้นขวด เขาก็รีบแย่งขวดเหล้ามา เพราะไม่อยากให้เขาดื่มต่อไปอีกแล้ว

“เอามานี่นะ!คุณจะมาเจ้ากี้เจ้าการกับผมทำไม?”เนื่องจากดื่มไปเยอะมาก ตาของเย่เชินหลินจึงแดงก่ำและคิดว่าการกระทำของไห่ลี่หมินเช่นนี้ เกิดขึ้นเพราะเป็นความต้องการของเซี่ยชีหรั่น กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังอยากที่จะต่อยเขาอย่างแรงอีกสักหนึ่งที

ใครก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องผู้หญิงคนนี้!ไม่มีสิทธิ์!

คำพูดเหล่านี้เขาทำได้แค่เพียงพูดอยู่ในใจ เขารู้สึกเกลียดตัวเองอย่างที่สุด และก็ไม่รู้ด้วยว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

ไห่ลี่หมินไม่ยอมส่งเหล้าให้เขา เขาหันหน้าไปที่เค้าเตอร์บาร์ แล้วส่งสัญญาณให้กับบริกรคนหนึ่งให้เปิดเหล้าให้กับเขาหนึ่งขวด

ความสามารถในการดื่มเหล้าของพวกเขาทั้งสองนั้นบริกรต่างรู้ดีและก็รู้เป็นอย่างดีด้วยว่าพวกเขาทั้งสองนั้นเป็นใคร หากเขาต้องการที่จะดื่ม เขาก็ไม่กล้าที่จะขัดขืน

ขณะที่บริกรเดินเข้ามาใกล้ เพื่อที่จะนำเหล้าไปเสิร์ฟ ไห่ลี่หมินก็ขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับโบกมือ เพื่อบอกเป็นนัยว่าอย่าเสิร์ฟเหล้าให้กับเขา ให้รีบกลับไป

“เอามานี่!”เย่เชินหลินออกคำสั่งอย่างดุดัน บริกรทำได้เพียงทำตามคำสั่งแล้วเดินไปข้างหน้า ไห่ลี่หมินขมวดคิ้วและออกคำสั่งขึ้นว่า:“เอากลับไป!ไม่เห็นเหรอว่าเขาดื่มเยอะเกินไปแล้ว?”

“ใครดื่มเยอะไป?ตาคุณมีปัญหาเหรอ?”เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างโมโห และจ้องมองไห่ลี่หมิน อย่างดุดัน จากนั้นลุกขึ้นแล้วเดินไปหาบริกร

สมัยก่อนเย่เชินหลินมีวดีเด็ดอยู่ประโยคหนึ่ง ซึ่งก็คือมีเพียงแค่ผู้ชายที่อ่อนแอและใช้ไม่ได้เท่านั้น ที่จะใช้เหล้าในการแก้ไขปัญหา

ค่ำคืนวันนี้เขาพบว่า ผู้ชายที่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีช่วงเวลาที่อ่อนแอไปได้ เฉกเช่นเดียวกับเขาในตอนนี้ ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีทางที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงที่เขารัก และเขาก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้ผู้หญิงที่ท้องลูกของเขาเสียใจได้

เขาตัดสินใจแล้วว่าจะยอมเสียเธอไป ยอมเห็นชายอื่นอยู่ข้างกายของเธออย่างมีความสุข

แต่หากเสียเซี่ยชีหรั่นจากเขาไป สิ่งที่เขามีอยู่ทั้งหมดนี้จะมีความหมายอะไร?

ภายในใจของเขาเหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่กดทับอยู่ ทำให้เขานั้นรู้สึกอึดอัด ดังนั้นจึงอยากจะดื่มเหล้า มีเพียงเหล้าเท่านั้นที่จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

เมื่อเดินมาที่ข้างๆบริกร เขาก็ยื่นมือออกไป แต่ไห่ลี่หมินกลับหยิบขวดเหล้าขวดนั้นไปเสียก่อน เย่เชินหลินจึงยื่นมือออกไปจะหยิบเหล้าอีกขวดหนึ่ง การกระทำเช่นนั้นทำให้บริกรรู้สึกลำบากใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

จุดประสงค์ของไห่ลี่หมินก็คือต้องการที่จะถ่วงเวลาก็เท่านั้น

ในขณะที่เขาทั้งสองคนกำลังแย่งขวดเหล้ากันไปมานั้น ในที่สุดเย่เชินหลินก็ทนไม่ไหว จึงตะโกนคำรามอย่างเสียงดังขึ้นว่า:“ปล่อยมือเดี๋ยวนี้ !คุณจะมาห้ามผมไม่ให้ดื่มเหล้าทำไม?”

“ก็ผมสบายใจ”ไห่ลี่หมินพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย มองไปที่เย่เชินหลิน และไม่ยอมที่จะปล่อยมือ

“ไสหัวไป!”เย่เชินหลินตาแดงก่ำ พร้อมระบายความโกรธที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา

ขณะที่เขาเตะเท้าออกไป ไห่ลี่หมินก็รีบหลบทันที

เนื่องจากเย่เชินหลินดื่มเหล้าไปมากมาย แต่ไห่ลี่หมินนั้นแทบจะไม่ได้ดื่มเลย ดังนั้นสติของเขาก็ต้องดีกว่าเย่เชินหลินอย่างแน่นอน

ไห่ลี่หมินกดเย่เชินหลินล้มไปบนเก้าอี้ได้อย่างง่ายดาย และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดันว่า:“อย่าเป็นบ้าอีกเลย!”

“ไสหัวไป!”เย่เชินหลินเตะเท้าออกไป คราวนี้เตะโดนลำตัวของไห่ลี่หมิน แต่เนื่องจากองศาของการเตะผิดพลาด จึงทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อบริกรเห็นเช่นนั้น ก็คิดได้ว่าอย่าให้เขาดื่มเป็นดีที่สุด เขาจึงอาศัยช่วงจังหวะที่เขาทั้งสองคนนั้นทะเลาะกันอยู่ รีบยกถาดเหล้าออกไป

“หยุดเดี๋ยวนี้ ใครบอกให้คุณไป เอาเหล้าวางไว้ !”คำพูดของเย่เชินหลินทำให้บริกรต้องหยุดฝีเท้าลง

“เย่เชินหลิน เอาแบบนี้แล้วกัน ใช้กฎเดิมของพวกเรา หากว่าคุณชนะ ผมจะยอมให้คุณดื่ม แต่ถ้าคุณแพ้ คืนนี้คุณจะต้องเชื่อฟังผม”

คืนนี้คุณจะต้องเชื่อฟังผม……เมื่อบริการได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกว่าคำพูดคำนี้นั้นเหมือนคำพูดที่ใช้พูดกับเพื่อนรัก

ในเมื่อไห่ลี่หมินเปิดฉากขึ้นแล้ว เย่เชินหลินจะไม่รับคำได้อย่างไร เขาอยากที่จะต่อยเขาอย่างแรงสักหนึ่งหมัด และเขาก็คงไม่จำเป็นต้องออมมือด้วย?

“คุณรออยู่ข้างๆก็แล้วกัน เตรียมเหล้าไว้ให้ผมให้เรียบร้อย!”

บริเวณที่นั่งที่ไห่ลี่หมินกับเย่เชินหลินยืนอยู่นั้น เป็นที่ที่ค่อนข้างลับตาคน ทำให้เขาไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนอื่นเข้ามาวุ่นวาย

บริกรรู้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนรักกันและการทะเลาะกันของพวกเขาในครั้งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา จึงได้วางขวดเหล้าทิ้งไว้ และรีบวิ่งออกไป

เมื่อไม่มีใครอยู่แล้ว พวกเขาทั้งสองก็ไม่ต้องสนใจสถานะของตนอีกแล้ว พวกเขาต่างทอดถอนหายใจและเตรียมที่จะลงมือ

โดยปกติแล้วไห่ลี่หมินไม่เคยสู้เย่เชินหลินได้เลย แต่ค่ำคืนนี้ทั้งสองต่างมีฝีมือพอกัน และเขาก็ไม่คิดที่จะทำร้ายเย่เชินหลินให้ได้รับบาดเจ็บ และในความเป็นจริงแล้วเย่เชินหลินก็ไม่ได้อยากที่จะทำร้ายเขา เขาก็แค่โมโหก็เท่านั้น

เมื่อเซี่ยชีหรั่นกับหลี่เหอไท้มาถึง บริกรก็พาพวกเขาทั้งสองมายังที่นั่งของเย่เชินหลินกับไห่ลี่หมิน ทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาอย่างเหนื่อยหอบ

เมื่อเซี่ยชีหรั่นเห็นสภาพเช่นนั้นของเย่เชินหลิน เธอก็อดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดใจ

“พวกคุณทำอะไรกันเนี่ย?ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ?”เธอพูดขึ้นเสียงแหลม จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าของเย่เชินหลิน เมื่อเห็นดวงตาของเขาแดงก่ำ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาดื่มไปไม่น้อย จึงพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า:“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?ทำไมดื่มเหล้ามากมายขนาดนี้?ทำไมถึงได้ทะเลาะกัน?”

หลี่เหอไท้พยักหน้าให้กับไห่ลี่หมินเพื่อเป็นการทักทาย พวกเขาทั้งสองนั้นไม่ได้คุ้นเคยกันมากนัก

จากนั้นสายตาของพวกเขาก็ต่างจับจ้องไปที่เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่น แม้ว่าภายในใจนั้นจะรู้สึกเจ็บปวด แต่พวกเขาก็ไม่เพียงแต่หวังว่าเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินจะสามารถปรับความเข้าใจกันได้ แต่ก็ยังเป็นกังวลเพราะเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ปัญหาของเย่เชินหลินนั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข

พวกเขาต่างรู้ดีว่า ความรู้สึกของเขาทั้งสองคนนั้นลึกซึ้งเพียงใด ไม่ใช่ว่าอยากจะให้พวกเขาแยกจากกัน พวกเขาก็จะสามารถแยกจากกันได้ทันที และแน่นอนว่าหากพวกเขาอยากที่จะคืนดีกัน ก็จะคืนดีกันได้ง่ายๆ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องอยู่ที่ว่าพวกเขาจะตัดสินใจกันอย่างไร

“คุณเป็นไงบ้าง?ให้พวกเขาทั้งสองพาคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ!” เซี่ยชีหรั่นถามขึ้นอย่างร้อนใจ และมองไปที่ใบหน้าของเย่เชินหลินอย่างละเอียด

เย่เชินหลินมองเธออย่างเรียบเฉย นับตั้งแต่ที่เขาเห็นเธอเดินเข้ามา เขาก็รู้สึกตะลึงงัน จากนั้นก็คิดได้ว่าจะต้องเป็นไห่ลี่หมินแน่ๆที่บอกให้เธอมาที่นี่

ไห่ลี่หมิน ไม่เสียแรงเลยที่เป็นไห่ลี่หมิน คนที่โตมากับเขาตั้งแต่เด็กๆ กระทั่งกลายเป็นพี่น้องที่ตายแทนกันได้

สีหน้าเป็นห่วงเป็นใยที่เซี่ยชีหรั่นแสดงออกมานั้น ทำให้ภายในใจของเย่เชินหลินรู้สึกเจ็บปวด เขานั้นอยากจะกอดเธอไว้ในอ้อมกอดแบบไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลใดใด ใจแทบขาด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset