สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 585 สาวใช้ตัวแสบ 489

ตอนที่ 585 สาวใช้ตัวแสบ 489
“ไม่แน่อะไร? พี่?”
“ไม่มีอะไร เสี่ยวหนง เธอรีบกลับกองถ่ายไปเถอะ พี่ยังมีธุระ” เซี่ยชีหรั่นพูดเสร็จแล้วก็เรียกพนักงานมาเก็บตัง เตรียมตัวไป
“พี่ บอกแล้วว่าฉันจะอยู่เผชิญหน้าพร้อมกับพี่ เธอไปบ้านพักแล้ว พี่ก็ไปด้วยไม่ดีหรือ? เรามาช่วยกันคิดหาวิธี จะต้องกลับไปยังบ้านพักให้ได้ ฉันไม่เชื่อ พวกเราสองพี่น้องจะสู้ผู้หญิงสารเลวคนหนึ่งไม่ได้”
“เสี่ยวหนง เธอเพิ่งไปกองถ่าย ยังไงงานก็ต้องมาก่อน วางใจเถอะ คนที่เย่เชินหลินรักคือฉัน ไม่ว่ายังไง สุดท้ายพวกเราก็ต้องได้อยู่ด้วยกัน” เซี่ยชีหรั่นพูดหว่านล้อม โม่เสี่ยวหนงเอาแต่ส่ายหัวอย่างเดียว
“ไม่ได้ ยังไงนับตั้งแต่วันนี้ไป พี่ไปถึงไหน ฉันก็จะตามไปถึงที่นั่น เมื่อไหร่ที่ฉันได้เห็นผลของเด็กคนนั้นแล้ว ฉันถึงจะกลับกองถ่าย” หากโม่เสี่ยวหนงดื้อขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นไม่เคยทำอะไรได้เลย
จ่ายเงินเสร็จ เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น โม่เสี่ยวหนงก็เดินตามออกมา
รู้ว่าสะบัดเธอไม่พ้น เซี่ยชีหรั่นจึงต้องพาเธอไป โบกแท็กซี่คันหนึ่ง
ครั้งนี้เธอไม่ได้ใช้รถที่เย่เชินหลินจัดเตรียมไว้ให้ เพราะเธอกลัวว่าพวกเขาจะโทรไปรายงาน แล้วเย่เชินหลินก็จะไม่ให้เธอไปยังที่หมายอีก
“ไปเขตครอบครัวข้าราชการ” เซี่ยชีหรั่นพูดกับคนขับรถ
ตอนที่เธอพูดคุยอยู่ คนขับรถที่ตามเธอมาได้โทรไปรายงานเย่เชินหลินแล้ว
แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเธอจะไปไหน พูดเพียงว่าเซี่ยชีหรั่นขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่งออกไป
“ตามเธอไป” เย่เชินหลินสั่งอย่างเคร่งขรึม
“ครับผม คุณเย่”
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าสักพักคนของเย่เชินหลินก็จะรู้แล้วว่าเธอจะไปไหน เพื่อป้องกันถูกคนของเย่เชินหลินดักกลางเธอ เธอตัดสินใจโทรไปหาแม่ของเขาก่อน
เธอหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมที่จะโทรออก ก็มีสายโทรเข้ามาพอดี เป็นแม่ของเธอจ้าวเหวินอิงโทรมา
เมื่อรับสาย ก็ได้ยินแม่พูดว่า “ลูกรัก ตอนนี้ลูกสะดวกกลับมาบ้านไหม? ประธานเย่กับคุณนายมาบ้านของเรา เป็นการมาเพื่อขอบคุณ”
นี่ถือเป็นเรื่องดี
เย่เชินหลินส่งคนสะกดรอยตามเธออยู่ กลับไม่ได้สะกดรอยตามพ่อแม่ของเขา เธอกลับบ้านเขาน่าจะไม่สงสัย
และแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็พูดกับคนขับรถให้ไปยังสถานที่ใหม่ เป็นที่อยู่บ้านเสนาธิการหลี่

………….

ในบ้านพักตระกูลเย่ ส้งหลิงหลิงแอ่นท้องโต เดินเข้าไปในห้องนอนเย่เชินหลิน นั่งรอตรงเก้าอี้ที่เขาเตรียมไว้ให้เซี่ยชีหรั่นใช้แต่งหน้า รอคำตอบของเย่เชินหลิน

“ให้เธออยู่” เย่เชินหลินพูดสามคำนี้กับหลินต้าฮุย หลินต้าฮุยแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

เขาเสียใจแทนเซี่ยชีหรั่นมาก

ส้งหลิงหลิงเห็นสีหน้าหลินต้าฮุยที่มีท่าทีหดหู่แบบไม่คาดคิด สีหน้าก็ประกายรอยยิ้มขึ้นมา

เธอยังคงเข้าใจเย่เชินหลิน รู้ว่าเขาจะต้องยอม

เธอเดินดูรอบๆห้องนอน สั่งหลินต้าฮุยที่เพิ่งวางสายว่า “คุณไปพูดกับพ่อบ้าน เอาสิ่งที่ที่เป็นของผู้หญิงสารเลวคนนั้นโยนทิ้งไปให้หมด อ้อ ใช่ เอาทิ้งไว้หน้าประตูก่อน หากผู้หญิงสารเลวคนนั้นยังไม่ตายใจ วันนี้เข้ามาดู ก็จะได้เห็นภาพที่ตัวเองถูกกวาดโยนออกไปข้างนอกยังไง”

หลินต้าฮุยคิ้วชนกัน ต่อให้เป็นการสร้างภาพ ก็แทบจะทำไม่ลงแล้ว

เขาเดินออกไปเรียกพ่อบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เขารู้ว่าเรื่องนี้เย่เชินหลินมีแผนการของตัวเอง เขาก็รู้ด้วยว่าในใจเย่เชินหลินเจ็บปวดยิ่งกว่าเขาอีก

เขาเป็นคนที่หยิ่งขนาดไหน ตอนนี้เพื่อเซี่ยชีหรั่นแล้วเขาต้องยอมให้กับผู้หญิงที่เขาเกลียดที่สุด จะต้องเป็นเรื่องที่ยากมากแน่

พ่อบ้านยังโกรธไม่หาย คราวนี้ส้งหลิงหลิงมีคำสั่งแบบนี้ เขาจึงทำเป็นไม่ได้ยิน

ต่อให้เย่เชินหลินจะไล่เขาออก ตอนนี้เขาก็ไม่มีทางทำตามคำสั่งของส้งหลิงหลิง

หลินต้าฮุยเห็นพ่อบ้านไม่ขยับ เขาเองก็ลำบากใจจริงๆ ปล่อยให้คนท้องโตบนตึกรออยู่อย่างนั้น

เพียงไม่นาน พ่อบ้านรับสายโทรศัพท์ เป็นเย่เชินหลินโทรมาด้วยตัวเอง

“คุณเย่” ตอนที่พ่อบ้านพูดคำนี้ออกไป น้ำเสียงก็สะอึกสะอื้นแล้ว

ส้งหลิงหลิงบอกว่าเขาเป็นสุนัขรับใช้ นี่เป็นคำพูดที่น่าเจ็บใจที่สุดที่เขาเคยได้ยินมาตลอดชีวิต เขาจะไม่เสียใจได้อย่างไร

“ฟังผมนะ ผมต้องการคุณให้ความร่วมมือ ความเสียใจที่คุณต้องเจอ ตระกูลเย่จะจดจำไว้ ในเกียรติเธอหน่อย” เย่เชินหลินพูดเพียงสั้นๆ น้ำตาของพ่อบ้านก็ไหลล้นออกมาแล้ว

ความเสียใจที่เขาได้รับ ที่แท้คุณเย่ก็รู้เรื่องที่เขาถูกเหยียดหยาบ

ขอเพียงมีคำพูดนี้ของคุณเย่ ต่อให้เจอหญิงบ้านั่นทำให้โกรธแค่ไหน ในใจก็ยังพอรับได้

เขาเช็ดน้ำตา แล้วพูดว่า “ครับผม คุณเย่ ผมเข้าใจแล้ว เธอสั่งอะไรมา ผมก็จะปฏิบัติตามครับ”

“ดี อีกอย่าง เซียวเสี่ยวลี่ผู้ช่วยของหลิงหลิงไม่ได้ตามมา คุณจัดการให้หลิวเสี่ยวเจียวไปดูแลเธอ”

“ครับ คุณเย่”

วางสายลง เย่เชินหลินจุดบุหรี่มาหนึ่งมวน หลิวเสี่ยวเจียวเป็นคนของประธานจง ให้เธอดูแลส้งหลิงหลิงอย่างใกล้ชิด แบบนั้นเรื่องภายในบ้านพัก เธอจะได้รายงานอย่างสะดวก ไม่ใช่หรือ?

เมื่อกี้เขาเพิ่งได้รับสายโทรศัพท์ บอกว่าเซี่ยชีหรั่นกลับไปหาแม่ของเธอแล้ว

ยัยนี่ คราวนี้คงเสียใจแล้วจริงๆมั้ง

เสียใจแล้ว ก็อยู่บ้านตัวเองรักษาแผลตัวเองก่อนสักพัก รอทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว ผู้ชายของเธอจะไปรับเธอกลับบ้าน

อย่ากลับไปที่บ้านพักเด็ดขาด ให้ผู้หญิงเหมือนดั่งหมาบ้าคนนั้นสร้างเรื่องไปเถอะ

ภายใต้ควันคลุ้ง เขาคิดภาพหากเซี่ยชีหรั่นเห็นห้องนอนของตัวเองถูกผู้หญิงคนนั้นยึดครอง เธอจะเสียใจขนาดไหน ไม่อาจคาดเดา

ดังนั้นไม่ว่ายังไง เขาจะปล่อยให้เธอเข้าไปในบ้านพักไม่ได้

เซี่ยชีหรั่นพาโม่เสี่ยวหนงกลับมาถึงบ้านแม่ เย่เฮ่าหรัน ฝู้เฟิ่งหยีกับจ้าวเหวินอิงกำลังนั่งดื่มชาคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขก จิ่วจิ่วกับแม่บ้านยืนรอรับใช้อยู่ด้านข้าง

เธอรีบเปลี่ยนรองเท้า เดินเข้าไป พูดอย่างสุภาพว่า “พ่อ แม่”

คำเรียกขานของเธอทำให้เย่เฮ่าหรันสองสามีภรรยารู้สึกไม่คาดคิด พวกเขารู้เรื่องที่เธอกับเย่เชินหลินเลิกกันแล้ว

“หรั่นหรั่น นั่งลงก่อน วันนี้ผมกับคุณน้าฝู้มาเพื่อขออภัย” เย่เฮ่าหรันพูดอย่างหนักแน่น ดึงฝู้เฟิ่งหยีลึกขึ้น แล้วโค้งคำนับให้กับเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “ขออภัย รู้เลี้ยงแต่ไม่อบรมเป็นความผิดของพ่อแม่ เป็นเพราะพวกเราอบรมสั่งสอนเย่เชินหลินได้ไม่ดี ถึงได้ทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานแบบนี้”

ต่อให้เป็นการโค้งคำนับที่เบามาก แต่นั่นก็คือการโค้งคำนับ เซี่ยชีหรั่นถูกท่าทีที่ให้เกียรติขนาดนี้ของเย่เฮ่าหรันทำให้ไม่สบายใจอย่างมาก

“ท่านอย่าทำแบบนี้ พ่อ อย่าทำแบบนี้ ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของพวกท่าน เรื่องนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดของเย่เชินหลิน ท่านนั่งลง ท่านทั้งสองนั่งลงก่อน ฟังฉันพูดก่อนไหม?”

“โถ่ ท่านเย่ นั่งลงเถอะ ทำแบบนี้ เด็กจะไม่สบายใจ” ฝู้เฟิ่งหยีพูด แล้วก็ดึงเย่เฮ่าหรันนั่งลง

พวกเขาหวังที่จะให้เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินคบกันต่อ นี่เป็นความหวังพื้นฐานของความเป็นพ่อแม่

แต่ว่าเย่เชินหลินมีลูกแล้วเรื่องนี้ ในใจลึกๆพวกเขาก็รู้สึกผิดต่อเซี่ยชีหรั่นมาก และรู้สึกว่าเธอมีเหตุผลที่จะได้เลือก ตอนนี้เธอเลือกที่จะไปจากเย่เชินหลิน พวกเขาต่างก็เข้าใจดี ต่อให้พวกเขาจะรู้สึกเสียดายที่สูญเสียลูกสะใภ้ที่ว่าง่ายแบบนี้ไป แต่พวกเขาก็จะไปบังคับคนอื่นไม่ได้

โม่เสี่ยวหนงก็เดินเข้ามาในห้องรับแขก หลังจากทักทายจ้าวเหวินอิง เย่เฮ่าหรันสองสามีภรรยาแล้ว ก็นั่งลงด้านข้างอย่างว่าง่าย

รอเมื่อทุกคนนั่งลงหมดแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็นั่งลง พูดกับเย่เฮ่าหรันกับฝู้เฟิ่งหยีด้วยเสียงเบาว่า “พ่อแม่ ตอนที่ฉันเพิ่งรู้เรื่องของเย่เชินหลินแล้วก็เสียใจอยู่ช่วงหนึ่ง ฉันก็เคยคิดที่จะถอยออกมา ขออภัย แต่ว่าตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว ฉันรักเย่เชินหลิน การรักคนคนหนึ่งจะต้องยอมรับทุกอย่างของเขา รวมถึงลูกของเขาด้วย ฉันยินดีที่จะช่วยเขาเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกคนนี้ให้เติบโต ฉันจะรักเหมือนเป็นลูกของตัวเอง แบบนี้ต่อไปพ่อแม่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเด็กคนนี้ มอบให้ฉันก็พอ”

เธอพูดถึงตรงนี้แล้วก็หยุด เย่เฮ่าหรันมองดูเซี่ยชีหรั่น สีหน้าบนใบหน้าอึ้งไปก่อน แล้วค่อยๆกลายเป็นภาคภูมิใจ

จิตใจแบบนี้ เขาปลาบปลื้มมาก เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นยากนักที่จะทำได้

“หรั่นหรั่น เธอคิดได้แบบนี้ ผมซาบซึ้งมาก ทุกคนในตระกูลเย่ก็จะซาบซึ้ง” หลังจากนั้นเย่เฮ่าหรันก็พูดขึ้นอีกว่า “แต่ว่าไม่ดีกว่า เธอเป็นเด็กดีขนาดนี้ น่าจะได้เจอคนที่ดีกว่า เขาทำผิด ก็สมควรที่จะให้เขารับผิดชอบคนเดียว ทบทวนตัวเอง จะให้เธอไปทนทุกข์ด้วยไม่ได้”

ฝู้เฟิ่งหยีไม่พูดอะไร เธอเห็นด้วยกับคำพูดของสามี แต่ก็ไม่ทั้งหมด

เธอรู้ว่าต่อให้เย่เชินหลินทำผิด แต่กลับจริงใจต่อเซี่ยชีหรั่น และเซี่ยชีหรั่นพูดแบบนี้ แสดงว่าเธอก็ตัดใจจากเย่เชินหลินไม่ได้

“พ่อ ขอบคุณท่านมาก ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะต้องเดินไปกับเขาให้ถึงที่สุด ขอเพียงพ่อกับแม่สามารถอวยพรพวกเรา” ท่าทีเซี่ยชีหรั่นหนักแน่น เย่เฮ่าหรันยังคงอยากยึดมั่นในความคิดเห็นของตัวเอง ฝู้เฟิ่งหยีกลับห้ามเขาไว้ พูดต่อว่า “นี่เป็นความต้องการของเด็ก พวกเราที่เป็นพ่อแม่ สนับสนุนได้ก็สนับสนุนเถิด”

เธอหันมามองเซี่ยชีหรั่น ดึงมือเธอไว้ พูดอย่างเอ็นดูว่า “เรื่องของเย่เชินหลิน ตระกูลเย่ทำไม่ถูก หากเธอไม่ถือสา ยังอยากที่จะแต่งงานเข้าบ้านตระกูลเย่ ในใจพวกเราปลาบปลื้มมาก แต่เด็กคนนั้นหนูไม่ต้องเป็นห่วง หนูกับเชินหลินยังจะต้องมีลูกเป็นของตัวเอง จะเพิ่มภาระให้หนูไม่ได้ อีกอย่างการเป็นแม่เลี้ยง ต่อให้หนูดีขนาดไหน เกรงว่าเด็กอาจจะไม่รู้สึก เด็กคนนั้นมีแม่กับท่านเย่ก็พอแล้ว พวกเธอมีชีวิตของพวกเธอ ถือซะว่าไม่มีเด็กคนนั้นอยู่”

ยังไงจ้าวเหวินอิงก็เป็นแม่ ในใจเธอไม่ได้อยากให้ลูกของตัวเองต้องลำบากไปเลี้ยงลูกของคนอื่น นั่นเป็นการลงทุนทำดีแต่ไม่ได้รับผลดีตอบแทน

หากเด็กอยู่ในความดูแลของปู่กับย่า นี่ถือว่าเป็นทางแก้ปัญหาที่ดี

เธออยากพูดว่าเห็นด้วย มองดูเซี่ยชีหรั่นแว๊บหนึ่ง แล้วเธอก็ไม่ได้พูดออกมา เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้เธอพูดไปก็ไม่มีประโยชน์

ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นก็ไม่อยากพูดถึงแต่ปัญหาเรื่องลูกว่าจะให้ใครเลี้ยง ในใจเธอเข้าใจ เธอจะเป็นแม่เลี้ยง นั่นก็เป็นเรื่องอีกหลายสิบปี ไม่จำเป็นต้องมาตัดสินใจตอนนี้

“ขอบคุณแม่ที่ยังยอมต้อนรับหนูอีกครั้ง ตอนนี้หนูอยากขอให้ท่านช่วยหนูเรื่องหนึ่ง”

“พูดมาสิ หรั่นหรั่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร หากแม่ช่วยได้แม่จะช่วยเต็มที่” ฝู้เฟิ่งหยีมองดูเซี่ยชีหรั่นอย่างรักใคร่

“แม่ ตอนนี้หนูอยากกลับไปอยู่ข้างกายเย่เชินหลิน เขาไม่ยอม ปฏิเสธหนูมาตลอด หนูรู้ว่าเขามีเรื่องที่เป็นห่วงอยู่ ไม่อยากให้หนูต้องไปลำบากกับเขา แต่หนูอยากอยู่กับเขาจริงๆ หนูไม่อยากให้เขาเผชิญหน้ากับเรื่องเคร่งเครียดคนเดียว”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset