สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 679 สาวใช้ตัวแสบ 583

ตอนที่ 679 สาวใช้ตัวแสบ 583
เย่เชินหลินเงียบไปสักพัก แล้วก็พูดขึ้นว่า “ประธานเย่ ช่วงนี้ทำให้ท่านกับแม่ต้องเป็นห่วง เรื่องเซี่ยชีหรั่น…”
“ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเรารู้แล้ว ชั่วชีวิตนี้พวกเราจะยอมรับเธอเป็นลูกสะใภ้เพียงคนเดียว ไม่ว่าคนอื่นจะวิจารณ์เธอยังไง นั่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้จักลูกสะใภ้ของพ่อดีพอ”
“ขอบคุณครับ ท่านเองก็ระวังตัวด้วย คนแซ่จง เจ้าเล่ห์ร้ายกาจ ลับหลังไม่รู้ว่าแอบคิดทำอะไรท่านหรือเปล่าก็ไม่รู้” เย่เชินหลินพูดเตือน
เย่เฮ่าหรันไม่ค่อยสนใจ เขาเพียงแค่ถอนหายใจหนึ่งที แล้วพูดกับลูกชายว่า “พ่อยังจะกลัวเขาหรือ? ต่อให้เขาเก่งกาจขนาดไหน อำนาจสูงส่งแค่ไหน ก็ยังเป็นหัวขโมย ช้าเร็วก็จะต้องหมดอำนาจ พ่อเย่เฮ่าหรัน ซื่อตรงมาตลอด ไม่กลัวตาย ขึ้นมานั่งถึงตำแหน่งประธานแล้ว ทำเพื่อประชาชนก็ไม่น้อยแล้ว ต่อให้ตาย พ่อก็ภูมิใจแล้ว คนที่พ่อชื่นชมที่สุดคือเหวินเทียนเซียง เขาพูดคำหนึ่งว่า ตั้งแต่โบราณมา ชีวิตใครไม่เคยตาย รักษาความภักดีและรากฐานใจเดิมของตัวเองไว้ พ่อคิดว่าลูกชายเท่านั้นที่จะสามารถพูดออกมาได้”
เย่เชินหลินขมวดคิ้วเข้ม พูดกับพ่อตัวเองอย่างไม่พอใจว่า “ท่านพูดอะไรกัน จะมีการตายอะไรมากมายขนาดนั้น ต้องตายแล้วถึงจะเป็นคนข้าราชการบริสุทธิ์หรือ? ในเมื่อท่านศรัทธาเหวินเทียนเซียง ก็ต้องเดินทางสายกลาง อยู่ที่สูง ถึงจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างกว้างขวาง สามารถทำคุณให้กับประชาชนก็ยิ่งมาก”
เย่เชินหลินพูดได้โดนใจเย่เฮ่าหรัน เดิมทีเขาไม่คิดที่จะต่อสู้แล้ว เกษียณออกมาอยู่เป็นเพื่อนภรรยา
แต่ตอนนี้มาคิดๆดู แท้จริงแล้วจิตสำนึกของเขายังไม่สูงพอ
และในตอนนี้ เขาคิด เขาควรที่จะพยายามต่อสู้เพื่อเข้าสู่รัฐบาลกลาง ปล่อยให้คนร้ายแซ่จงได้ทำตามอำเภอใจไม่ได้ ไม่อย่างนั้นประชาชนจะต้องลำบาก
“ได้ ลูก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พ่อจะยืนอยู่บนเส้นเดียวกับลูก พวกเราสองพ่อลูกร่วมมือกัน ดึงจงหวีฉวนนั่นลงมา”
เย่เชินหลินอมยิ้ม รู้สึกว่าพ่อยิ่งแก่ก็ยิ่งน่ารัก ไม่รู้ว่าเขาน่ารักกว่าเมื่อก่อน หรือว่าเขาที่เป็นลูกชายคนนี้ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นมองส่วนดีของเขาเลย?
“เกรงว่าร่างกายท่านประธานเย่จะรับไม่ไหว หัวใจก็เข้มแข็งไม่พอ” เขาตั้งใจพูดเหน็บแนม แล้วเย่เฮ่าหรันก็เอามือตบหน้าอกพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “พ่อยังหนุ่มอยู่ ร่างกาย หัวใจแข็งแรงกว่าลูกอีก”
งั้นก็ดีที่สุด คนเฒ่า ท่านจะต้องสุขภาพแข็งแรง อายุยืนถึงร้อยปี ให้ลูกชายที่เมื่อก่อนไม่ได้ทำดี ได้มีโอกาสแก้ตัว
ในขณะที่ก้าวต่อไปสองพ่อลูกตระกูลเย่กำลังจะดึงจงหวีฉวนลงมา จงหวีฉวนก็กำลังเตรียมทำลายรุ่นที่สามของตระกูลเย่
เขาเล่าแผนการให้ภรรยาเขาฟัง เขาพูดว่า “ผมจะส่งคนแอบเอาเรื่องที่รองประธานส้งตกอับไปบอกให้ส้งหลิงหลิงรู้ ให้เธอถูกกระตุ้น คาดว่าในขณะที่ถูกกระตุ้น เธออาจจะแท้งได้ ในแผนหากไม่แท้ง ถูกกระตุ้นก่อนกำหนดก็ไม่เลว เย่เชินหลินคุ้มกันดีแค่ไหน เธอคลอดลูกยังไงก็ต้องไปโรงพยาบาลใช่ไหม? ถึงตอนนั้นผมก็จะทำให้เด็กคนนั้นไม่ได้เห็นตะวัน”
แน่นอน คนที่อยากให้ส้งหลิงหลิงรู้ว่าตระกูลส้งเกิดเรื่องไม่ได้มีเพียงจงหวีฉวนสองสามีภรรยา ยังมีคนของตระกูลส้งเองด้วย
เซียวเสี่ยวลี่จ้างคนหนึ่งมาดูแลคุณนายส้งในโรงพยาบาล ตัวเธอเองรีบไปธุระหลายที่ ลองไปติดต่อพวกเพื่อนเก่าของรองประธานส้ง
ตอนกลางคืน เธอกับส้งซูหาวกลับมาบ้านตระกูลส้ง สีหน้าเธอเคร่งขรึมมาก ไม่ยิ้มรับส้งซูหาวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“ซูหาว ตอนนี้ตระกูลส้งก็เป็นแบบนี้แล้ว ฉันยังขอเลือกที่จะสู้ไปกับคุณ คุณต้องรับปากฉัน ว่าต่อไปคุณจะไม่รังแกฉันอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะจากไปทันที”
ส้งซูหาวมองดูเธอ และก็ไม่มีท่าทีสูงส่งแบบนั้นอีกแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธออยู่เหนือ เขาอยู่ล่างแล้ว
“ที่รัก ต่อไปผมจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ตอนนี้ผมเพิ่งรู้ว่า คุณฉลาดจริงๆ และมีความสามารถมาก” ส้งซูหาวพูดชม คำพูดนี้ทำให้เซียวเสี่ยวลี่ดีใจมาก
เธออมยิ้ม พร้อมพูดว่า “ตอนนี้เพิ่งจะมาเห็นฉันก็ยังไม่สาย เชื่อฉัน ฉันจะต้องสามารถพลิกสถานการณ์ได้”
“ผมเชื่อคุณ ที่รัก”
“ที่รัก คุณมีแผนอะไรดีๆหรือเปล่า? พูดมาให้ผมฟังบ้าง”
เซียวเสี่ยวลี่คิดอยู่สักพัก ขยับไปใกล้ข้างหูส้งซูหาว พูดกระซิบว่า “เกิดเรื่องกับคุณพ่อ พวกเราควรที่จะหาทางบอกให้พี่สาวรู้ ให้เธอขอร้องเย่เชินหลิน นี่คือสิ่งที่ต้องทำ แต่ฉันมองออก เย่เชินหลินไม่ได้จริงใจกับพี่สาวสักเท่าไหร่ ฉันคิดว่า พวกเราควรที่จะลงมือกับคนอีกคน”
“ใคร?” ส้งซูหาวถาม
“เซี่ยชีหรั่น”
เกิดเรื่องกับตระกูลส้ง ส้งซูหาวรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นหนูข้างถนน ที่ถูกคนอื่นจ้องจะตี
หลายปีมานี้ พ่อของพวกเขารับราชการ คนที่พวกเขาไปมาหาสู่ล้วนเป็นคนชั้นเดียวกันกับพ่อ ก็เคยเห็นคนตกอับมากมาย หลังจากตกอับแล้ว ไม่เพียงคนที่รับราชการตกที่นั่งลำบาก ลูกภรรยา ต่างก็พลอยลำบากไปด้วย
หากพ่อของเขาถูกดำเนินคดี ทรัพย์สินที่ผิดกฎหมายทั้งหมดในครอบครัวของเขาก็จะถูกอายัดในไม่ช้า คนที่เมื่อก่อนเคยบาดหมางกัน คนที่เคยกังวลเกี่ยวกับที่เขาอยู่ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพรรคประจำมณฑล จะใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างความเดือดร้อนให้เขา ผีซ้ำด้ำพลอย
ดังนั้นส้งซูหาวถึงได้เกาะเซียวเสี่ยวลี่ เหมือนกับดึงความหวังสุดท้ายไว้ เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนลูกขุนนายคนสูงส่งอีกต่อไป
แต่ว่าคำแนะนำของเซียวเสี่ยวลี่ทำให้เขายังค่อนข้างสับสนเล็กน้อย นี่มันเวลาไหนแล้ว ลงมือกับผู้หญิงคนหนึ่ง จะมีประโยชน์อะไร?
“เสี่ยวลี่ คุณหมายความว่ายังไง? คุณคิดว่าเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินยังคบหากันอยู่? พวกเขากำลังลักลอบเริงสวาทกันอย่างลับ? ผมคิดว่าไม่น่าเป็นแบบนั้น เย่เชินหลินเป็นคนยังไง หากเขายังชอบเซี่ยชีหรั่น เขาจะยอมปล่อยมือ ให้ไห่ลี่หมินนอนกับเธอหรือ ผมว่าเราคิดหาวิธีอื่นเถอะ ดูสิว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยพวกเราได้ เมื่อก่อนยังไงพ่อก็ยังมีเพื่อนอยู่หลายคน เมื่อก่อนบ้านเราก็ให้อะไรคนอื่นไปก็ไม่น้อย อีกอย่างผมคิดว่าในมือพ่อก็น่าจะมีหลักฐานอะไรของคนอื่นบ้างไหม? พวกเขาไม่กลัวถูกเปิดเผยออกมา? อันไหนสมควรช่วย ผมคิดว่าก็น่าจะต้องช่วยอยู่”
ส้งซูหาวพูดออกมาแบบนี้ และวันนี้เขาเองก็ลองไปมาแล้ว
โดยรวมแล้วเขาไม่เจอใครที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ คนที่มาพบเขาหากไม่ใช่ภรรยา ก็เป็นลูกชายลูกสาวของพวกเขา
ต่างก็พูดว่าพวกเขายุ่งอยู่ ไม่มีเวลาเจอเขา ต่อให้เขาไม่ฉลาดขนาดไหน จะไม่รู้เลยหรือว่าพวกเขาบอกปัดเป็นข้ออ้าง?
“อย่าโง่เลย วันนี้พวกเราสองคนวิ่งเต้นอยู่ตั้งนานขนาดนั้น ยังไม่ได้เจอใครสักคน ตอนนี้พวกเขาหลบพวกเราแทบไม่ทัน ดวงตาตั้งเท่าไหร่ที่กำลังมองพวกเราอยู่ คนอื่นต่างก็คิดว่าตอนนี้พวกเราติดต่อใคร คนคนนั้นก็คือคนที่ให้ความร่วมมือกับพ่อ ข้อนี้คุณน่าจะรู้ดีกว่าฉัน ดังนั้นพวกเราจึงต้องคิดหาวิธีอื่น คุณฟังฉันนะ สามารถควบคุมเซี่ยชีหรั่นไว้ได้จะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน” เซียวเสี่ยวลี่ขมวดคิ้วพูด เมื่อก่อนเธอก็คิดว่าส้งซูหาวก็เป็นเพลย์บอยคนหนึ่ง ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าเขาทำได้เพียงกินดื่ม ไม่มีปัญญาทำอะไรได้คนหนึ่ง เป็นคนอ่อนแอ ไม่มีความกล้าหาญเลย เผชิญหน้ากับสถานการณ์ในตอนนี้ ก็ไม่สามารถคิดหาหนทางแก้ปัญหาได้
จนเธอไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ยังรักเขา หรือเป็นจิตใต้สำนึก บางครั้งเธอเองก็คิดที่อยากจะจากไปเหมือนกัน
ทุกครั้งที่คิดเห็นแบบนี้ เธอก็ยังคงทำไม่ลง ยังไงตระกูลส้งก็ดีกับเธอ อีกอย่างเธอยังคงผูกพันธ์กับส้งซูหาว ทำให้เธอเองก็ยากที่จะเข้าใจ ทั้งๆที่หาอะไรที่ควรแก่การรักจากตัวเขาไม่ได้เลย แต่โชคชะตาช่างน่าแปลกเหลือเกิน เธออยากปล่อยก็ปล่อยไม่ลง
“มีประโยชน์อะไร?” ส้งซูหาวถาม
เซียวเสี่ยวลี่ก็เริ่มรําคาญ เพื่อให้เขาให้ความร่วมมือกับแผนการของเธอ เธอจึงยอมอดทนแล้วอธิบายให้เขาฟังว่า “ฉันก็ไม่สามารถแน่ใจว่าเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินยังติดต่อคบกันอยู่ไหม หากยังคบอยู่จะดีที่สุด ผู้หญิงของเย่เชินหลินถูกพวกเราจับตัว พวกเราก็สามารถบังคับเขา ให้เขาออกหน้าช่วยเหลือพ่อของเรา ฉันเคยได้ยินมาว่าเย่เชินหลินมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบวินัย ยังไงก็สามารถช่วยได้มาก ขอเพียงพ่อไม่ต้องลงโทษสถานหนัก หรือแค่ลงบันทึกไว้ก่อนต่างๆ ตระกูลส้งก็จะไม่ล้มในทันที”
“งั้นถ้าเซี่ยชีหรั่นไม่ใช่ผู้หญิงของเย่เชินหลินแล้วล่ำ? ในเวลาคับขันแบบนี้ จะไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวเพิ่ม เสียเวลาเปล่าหรือ?”
ส้งซูหาวไม่ได้มองเห็นปัญหาอย่างลึกซึ้งเท่าเซียวเสี่ยวลี่ มองกาลไกล ก็เป็นเพราะหลายปีมานี้เขาแทบจะไม่เคยได้ช่วยแบ่งเบาความกังวลใดๆให้กับพ่อของเขาเลย
เมื่อก่อนเขาคิดมาเสมอว่าชั่วชีวิตนี้เขาจะต้องได้รับราชการเป็นรุ่นที่สอง พ่อมีอำนาจ ที่บ้านร่ำรวย เขาว่างๆก็เล่นผู้หญิง วางท่ามาหล่อๆก็พอ
เซียวเสี่ยวลี่รู้แต่แรกแล้วว่าส้งซูหาวเป็นคนแบบนี้ ไม่มีทางเลือก จำต้องอธิบายให้เขาฟังอย่างอดทน หวังว่าเขาจะรีบโตเป็นผู้ใหญ่เสียที แบกรับภาระของตระกูลส้งไปพร้อมๆกับเธอ
“ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงของเย่เชินหลิน แต่เธอก็เป็นผู้หญิงของไห่ลี่หมินใช่ไหม? คุณลืมอำนาจของตระกูลไห่ไปแล้วหรือ? ตระกูลไห่ก็มีคนอยู่ในหอการค้า คุณดูไห่ลี่หมินให้ความสำคัญกับเซี่ยชีหรั่นขนาดไหน เขาเคยพูดต่อหน้าทุกคนว่าเธอจะเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวที่เขาจะรักไปตลอด”
“ผมรู้แล้ว เสี่ยวลี่ คุณยังคงฉลาดที่สุด คุณอยากพูดว่า พวกเราจับตัวเซี่ยชีหรั่นไว้ ไห่ลี่หมินก็จะต้องวิ่งเต้นเรื่องของพ่อ เป็นแผนการที่ดี เป็นแผนการที่ดีจริงๆ”
ส้งซูหาวพูดเสร็จ แล้วก็โอบกอดเอวของเซียวเสี่ยวลี่ และจูบต้องริมฝีปากของเธอแรงๆหนึ่งที
ในใจเซียวเสี่ยวลี่หวั่นไหว นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาจูบเธออย่างเต็มใจตั้งแต่แต่งงานกันมา ถึงขึ้นเต็มไปด้วยความภูมิใจ และความรู้สึกนับถือ
ถึงแม้ว่าตอนนี้ตระกูลส้งอาจจะตกอับ แต่เธอสามารถได้รับความรักที่แท้จริงจากส้งซูหาว สำหรับเธอ ก็ถือว่าเป็นความยินดีอย่างหนึ่ง
เซียวเสี่ยวลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ยื่นไปหยิกหน้าส้งซูหาว พร้อมพูดว่า “ประโยชน์ที่จะได้จากการจับตัวเซี่ยชีหรั่นไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เธอยังเป็นลูกสาวของเสนาธิการหลี่ ถึงตอนนั้นไม่แน่เสนาธิการหลี่ก็สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ จับตัวเธอมาคนเดียว แต่สามารถเชื่อมกับเชือกได้สามเส้น มีคนช่วยมากมายขนาดนั้น พ่อจะยังมีปัญหาหรือ?”
“ที่รักเก่งจริงๆ เห็นทีพวกเราก็สามารถผ่อนคลายหน่อย หลังจากผ่อนคลายแล้ว ค่อยมาคิดว่าจะลงมือยังไง” ส้งหลิงหลิงพูดเสร็จ ก้มตัวอุ้มเซียวเสี่ยวลี่ขึ้นมา โยนเธอลงบนเตียง แล้วกดทับลงไป
เขารู้ว่าบางครั้งผู้หญิงก็ต้องการแบบนี้ เขาต้องดูแลเธอเป็นอย่างดีเสียก่อน เธอจะได้ยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา ติดตามเขาอย่างจริงใจ
…………
เซี่ยชีหรั่นกับไห่ลี่หมินยังคงอยู่ในเมืองนี้ เธอไม่ไป ไม่ใช่เพราะอยากเห็นทิวทัศน์ของเมืองนี้
แต่เป็นเพราะเมื่อก่อนเย่เชินหลินชอบมาที่นี่ เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอมองเห็นทุกอย่างเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคย เป็นสิ่งที่เขาเคยมอง เดินผ่านสถานที่ที่เขาเคยเดินผ่านแล้วอย่างนับไม่ถ้วน ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเขายังอยู่ใกล้ๆเธอ ในใจเธอรู้สึกอบอุ่นและมีความสุข