สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 697 สาวใช้ตัวแสบ 601

ตอนที่ 697 สาวใช้ตัวแสบ 601
“โม่เสี่ยวหนง แกไม่ได้ตายดีแน่ ไม่ได้ตายดีแน่”ส้งหลิงหลิงตะโกนด่าด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ
เย่เชินหลินที่อยู่ในห้องนอนด้านล่าง เขาเพิ่งฉีกกระโปรงของเซี่ยชีหรั่นออกจากเรือนร่างของเธอ ก็ได้ยินเสียงก่นด่าอย่างเดือดดาลของส้งหลิงหลิง
เกิดเรื่องแบบนี้ พวกเขาจะมีอารมณ์ทำต่อได้อย่างไร
เย่เชินหลินลุกลงจากเตียง เซี่ยชีหรั่นก็ร้อนใจไม่น้อย ถามอย่างเป็นห่วง“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
แต่บนเรือนร่างเธอไม่มีผ้าปกปิดแม้แต่ชิ้นเดียว จะรีบออกไปก็ไม่ได้ เย่เชินหลินรีบเอ่ยปลอบเธอไปประโยคหนึ่ง“เธอไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวฉันออกไปดูแป๊บเดียวก็กลับมาแล้ว”
พูดจบ เขาก็รีบสาวเท้ายาวออกห้องไป เดินทะลุระเบียงไปที่ห้องโถงและแหงนหน้ามองขึ้นไปชั้นบน
เมื่อโม่เสี่ยวหนงเห็นว่าส้งหลิงหลิงเสียงดังเกินไป ก็รู้ว่าการที่เธอร้องเสียงดังขนาดนี้ เป็นไปได้สูงที่เย่เชินหลินจะโทษตน
เธอไม่กล้ากำเริบเสิบสานเหมือนตอนแรกอีก รีบซ่อนท่าทางได้ใจบนใบหน้ากลับไปทันที
ส้งหลิงหลิงโกรธขึ้นมาจริงๆแล้ว เดินออกมาจากห้อง คิดจะไปไล่ตามโม่เสี่ยวหนง โม่เสี่ยวหนงรอเธออยู่ หากเธอก้าวไปข้างหน้าอีกนิด ตอนลงบันไดเธอต้องเร่งฝีเท้าแน่ๆ ท้องของส้งหลิงหลิงในขณะนี้เหมือนลูกบอลไม่มีผิด ต้องกลิ้งลงไปแน่ๆ
“เกิดอะไรขึ้น”เย่เชินหลินตะโกนถามขึ้นมาจากด้านล่าง เมื่อส้งหลิงหลิงได้ยินเสียงเย่เชินหลิน อารมณ์ที่เดือดดาลเกินบรรยายนั้นก็สงบลงทันที
ทำไมเธอถึงได้โง่ขนาดนี้ รู้ทั้งรู้ว่าโม่เสี่ยวหนงจงใจมาหาเรื่องเธอ ต้องการทำให้เธอคลอดก่อนกำหนด เธอกลับหลงกล และยังโกรธขึ้นมาจริงๆ
ตอนนี้เด็กในท้องดิ้นแรงมาก เธอมองไปข้างหน้า ก็เห็นโม่เสี่ยวหนงเดินไปถึงขอบบันไดแล้ว
อันตรายจริงๆ หากเธอไล่ตามไป ไม่แน่ในขณะที่ไล่ตามนั้น เธอและลูกอาจจะกลายเป็นศพสองชีวิตในหนึ่งร่างก็ได้
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆสองที แล้วค่อยเอ่ยตอบเย่เชินหลิน“เชินหลิน โม่เสี่ยวหนงคิดจะฆ่าลูกของฉัน”
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว จ้องหน้าโม่เสี่ยวหนงอย่างไม่พอใจนัก
โม่เสี่ยวหนงจบด้านการแสดงมาอยู่แล้ว ขณะนี้ เมื่อร้อนใจขึ้นมา ก็บิ้วอารมณ์ขึ้นมาทันที น้ำตาก็รวมตัวกันขึ้นในดวงตาทั้งคู่
หลังจากที่เย่เชินหลินถามไปเพียงประโยคเดียว และควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หากแต่เดินขึ้นชั้นบนไปด้วยฝีเท้าที่หนักอึ้ง
เขาไม่อยากพูดเสียงดัง ให้เซี่ยชีหรั่นรู้เรื่องแบบนี้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโม่เสี่ยวหนง เธอจะลำบากใจ
หลังจากที่ขึ้นตึกไปแล้ว เย่เชินหลินสีหน้าบึ้งตึง มองส้งหลิงหลิงที่ท้องโตแล้วหันไปมองโม่เสี่ยวหนง เอ่ยเสียงขรึม“พวกเธอสองคน เข้ามาที่ห้อง”
พูดจบ เขาก็เดินเข้าห้องไปก่อน ส้งหลิงหลิงรีบเดินตามหลังเย่เชินหลินไป
เธอเกลียดโม่เสี่ยวหนง อยากจะรีบฟ้องนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือเรื่องน้องชายของเธอ เธอต้องถามให้แน่ใจก่อนว่าจริงเท็จเพียงใด
โม่เสี่ยวหนงเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว เธออยากให้เซี่ยชีหรั่นอยู่ที่นี่ด้วยจริงๆ เห็นแก่เซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินไม่ไล่เธอออกจากบ้านแน่
นางบ้าส้งหลิงหลิง ทำไมท้องถึงได้แข็งแรงขนาดนี้ อีกนิดเดียวเท่านั้น หากเย่เชินหลินมาช้าอีกนิด เมื่อเขามาถึง ลูกของส้งหลิงหลิงก็แท้งไปแล้ว
เธอมั่นใจว่าถึงตอนนั้น เย่เชินหลินต้องไม่มีอารมณ์มาซักถามว่าลูกของส้งหลิงหลิงถูกเธอพูดจนแท้ง หากเขาจะโทษ ก็ต้องโทษที่ส้งหลิงหลิงไม่ระมัดระวังตัวเอง
ทีนี้เป็นไงล่ะ ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ คราวนี้เขาต้องมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อเธอแน่ๆ
ไม่ได้ เธอจะให้เย่เชินหลินคิดว่าเธอตั้งใจหาเรื่องไม่ได้เด็ดขาด เธอต้องหาข้ออ้างดีๆสักข้อหนึ่ง
“พวกเธอสองคนปิดประตู”เย่เชินหลินสั่งสาวใช้ที่อยู่ข้างนอก
“ทีนี้ไม่มีคนแล้ว ไหนบอกมาซิ เกิดอะไรขึ้น”สีหน้าของเย่เชินหลินยังคงบึ้งตึง ไม่ได้มองส้งหลิงหลิง หากแต่จ้องหน้าโม่เสี่ยวหนง
ท่าทางของเขาแบบนี้ ก็เป็นการแสดงออกแล้วว่าเขาอยู่ข้างนางผู้หญิงท้องโตคนนั้น โม่เสี่ยวหนงรู้สึกโมโหในใจมาก เธอคือน้องเมียนะ เขาไม่เข้าข้างน้องเมียตัวเองได้ไง
ท่าทางเขาคงจะมีใจให้ส้งหลิงหลิงไปแล้ว คนแซ่เย่ ถ้านายไม่ช่วยฉัน แต่ไปช่วยมัน นายคอยดูละกัน ว่าฉันจะฟ้องนายต่อหน้าเซี่ยชีหรั่นยังไง
โม่เสี่ยวหนงจมูกแดงขึ้นมา ยังไม่ทันเอ่ยปากพูด น้ำตาก็ไหลพรากลงมาทันที
“พี่เขยฉันผิดไปแล้ว ฉันปากมากเอง วันนี้ตอนที่ฉันออกไปเที่ยวบังเอิญได้ยินเรื่องส้งซูหาวมา ส้งซูหาวมันคิดจะลักพาตัวพี่สาวฉันนะ ต้องมีคนบงการอยู่ข้างหลังแน่ๆ ฉันคิดว่าเป็นส้งหลิงหลิงที่คิดจะทำลายความสัมพันธ์ของพวกพี่ ฉันก็เลยโกรธจึงขึ้นมาถามเธอ ฉันลืมไปว่าเธอกำลังท้องโตอยู่ โอ้ย หากฉันทำให้เธอคลอดก่อนกำหนด เด็กเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะรับผิดชอบไหวได้อย่างไร”
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว จ้องหน้าโม่เสี่ยวหนงอย่างเอือมระอาไปสองที ก่อนจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เพื่อเซี่ยชีหรั่น เขาไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา เพียงแต่ตักเตือนเธอไปประโยคหนึ่ง“เธอห้ามลืมสิ่งที่ฉันเคยพูดไว้ ไม่เช่นนั้น ต่อให้ฉันไม่ไล่เธอไป พี่สาวเธอก็ไม่ให้เธออยู่ที่นี่แน่ เดิมทีพี่สาวเธอก็ไม่ได้อยากให้เธอมาอยู่แล้ว กลัวเธอจะก่อเรื่อง แต่ฉันเป็นคนยืนยันให้เธอมาเอง”
“ค่ะๆๆ พี่เขย ต่อไปฉันจะระวังให้มากกว่านี้ จะช่วยพี่ปกป้องดูแลเด็กในท้องของเธอให้ดี พี่สาวฉันบอกแล้ว ลูกของพี่ก็คือลูกของเธอ ลูกของเธอก็คือหลานของฉัน ฉันต้องดูแลหลานฉันให้ดีอยู่แล้ว งั้นถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวก่อนนะ บายๆพี่เขย”
สภาพโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่เธอคิดเอาไว้ไม่ได้เกิดขึ้น โม่เสี่ยวหนงก็ต้องดีใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว หลังจากพูดจาหวานๆไปไม่กี่ประโยค เธอก็รีบถอยทัพออกมาทันที
“ไปเถอะ”เย่เชินหลินเอ่ยอย่างเยือกเย็น โม่เสี่ยวหนงไม่สนใจหรอกว่าสีหน้าเขาจะเป็นยังไง
ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะไม่สำเร็จ แต่เธอก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ส้งหลิงหลิงเนี่ยสิโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลย
ส้งหลิงหลิงยิ่งรู้สึกอดสูในใจ หมายความว่าไง ทั้งๆที่เย่เชินหลินรู้อยู่แก่ใจดีว่าโม่เสี่ยวหนงจงใจจะทำร้ายลูกของเธอ ปล่อยไปง่ายๆแบบนี้หรือ แค่ขับไล่เธอออกไปยังไม่ทำเลย
ส้งหลิงหลิง เห็นทีเธอไม่มีความหมายใดๆต่อเย่เชินหลินแล้ว ทางที่ดีเธอภาวนาให้เด็กปลอดภัยดีกว่า ไม่เช่นนั้น หากเด็กเป็นอะไรขึ้นมา เขาพร้อมจะขับไล่เธอออกจากบ้านตระกูลเย่ทันที ทั้งชีวิตนี้ เธอก็จะไม่มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวอีกเลย
เมื่อนึกได้ตรงนี้ เธอก็คิดว่าก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าเย่เชินหลินไม่ได้ถึงกับทะนุถนอมเธอ แต่ก็มักจะยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนอยู่บ้าง
ก่อนที่จะรู้จักเซี่ยชีหรั่น เขาก็ยังพอดีกับเธออยู่บ้าง
ทั้งหมดเกิดจากเซี่ยชีหรั่นคนเดียว
เซี่ยชีหรั่น ต่อให้วันหนึ่ง เธอและน้องสาวไร้ยางอายคนนี้ของเธอร่วมมือกันทำร้ายลูกของฉันจนตาย ขอเพียงฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่ หรือต่อให้ฉันถูกกระทำจนตาย และกลายเป็นผี ฉันก็ไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด
ขอเพียงฉันยังอยู่ เธออย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบาย
เธอมีเป้าหมายที่กว้างไกล เธอจะให้เย่เชินหลินเกลียดเธอตอนนี้ไม่ได้ เธอไม่มีสิทธิ์ร้องขอหรือพูดอะไรต่อหน้าเขา
เธอเคยขอร้องให้เขาปล่อยส้งซูหาวไป แต่ส้งซูหาวก็เกิดเรื่องจนได้
บอกว่าเขาจะข่มขืนเซี่ยชีหรั่น ? เธอไม่เชื่อหรอก คนไม่มีสมองอย่างส้งซูหาว หากไม่ใช่เพราะมีพี่สาวอย่างเธอคอยชี้แนะ เขาจะคิดอะไรได้
ทั้งหมดนี้คงเป็นแผนการของเย่เชินหลินสินะ ไม่อยากเก็บเขาไว้ จึงเอาเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แม้แต่เขาก็ไม่ต้องการจะเก็บแล้ว ต่อให้เธออ้อนวอนไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
“เชินหลิน ฉันขอโทษ เสี่ยวหนงคงได้ข่าวเรื่องซูหาวมาแล้วโกรธจึงพูดแบบนี้ ฉันก็ใจร้อนเกินไป ฉันผิดเอง ต่อไปฉันดูแลตัวเองให้มากยิ่งขึ้น ไม่สร้างปัญหาให้นายแล้ว นายรีบกลับไปเถอะ ชีหรั่นคงรอนายอยู่”ส้งหลิงหลิงเปลี่ยนท่าที ไม่คาดโทษโม่เสี่ยวหนงอีก อีกทั้งยังช่วยพูดแทนเธออีก
เย่เชินหลินชอบความอ่อนโยนและรู้เรื่องของเซี่ยชีหรั่นไม่ใช่หรือ ถ้าเธอจะทำตัวอ่อนโยนและรู้เรื่อง เธอต้องทำได้ดีกว่าเซี่ยชีหรั่นแน่
ไม่ว่ายังไงส้งซูหาวก็เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวของตระกูลส้ง ในความคิดที่สืบทอดกันมาของคนจีน มองว่าผู้ชายคือผู้สืบทอดวงศ์ตระกูล แม้แต่ในสังคมที่เปิดกว้างอย่างปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่ก็ยังให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน
เย่เชินหลินไม่ได้เอ่ยตอบส้งหลิงหลิง เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จนท้ายที่สุดก็ได้อธิบายต่อส้งหลิงหลิงไปประโยคหนึ่ง“ฉันรับปากเธอแล้ว จะปล่อยส้งซูหาวไป ไม่ให้เขาเดือดร้อน แต่น่าเสียดายที่เขาคิดสั้นเอง วางแผนจะลักพาตัวเซี่ยชีหรั่น หากไม่ใช่เพราะฉันรู้ก่อน ชีหรั่นคงถูกมัน……”
“ฉันรู้ เชินหลิน ขอโทษ ความจริงแล้วเรื่องนี้ต้นเหตุมันเกิดจากฉัน ต้องโทษฉัน ซูหาวเป็นน้องชายของฉัน ตอนที่เขาทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ก็คงคิดว่าทำเพื่อฉัน ในใจเขาคิดว่าเซี่ยชีหรั่นแย่งนายไปจากฉัน เดิมทีนายควรจะเป็นพี่เขยของเขา เขาลืมไปแล้ว ว่าวาสนาเป็นสิ่งที่บังคับไม่ได้ เสี่ยวหนงพูดถูก เธอบอกว่าตอนนี้ตระกูลส้งหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ฉันรู้ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันกำลังตั้งท้องลูกของนายอยู่ แม้แต่ฉันก็ไม่แน่ว่านายจะปล่อยไป แล้วยิ่งตระกูลส้งล่ะ ที่ตระกูลส้งหมดสิ้นทุกอย่างแบบนี้ก็เพราะบุญวาสนาของตระกูลส้งหมดแล้ว โทษใครไม่ได้ เป็นเพราะพวกฉันไม่เดินในทางที่ดีเอง ได้รับบทลงโทษก็สมควรแล้ว”
พูดจบ ส้งหลิงหลิงก็จับเก้าอี้ไว้ค่อยๆนั่งลง ไม่ได้มองเย่เชินหลินอีก เหมือนได้ตกเข้าไปอยู่ในห่วงความคิดของตนเอง
เธอเหม่อมองพื้นอยู่อย่างนั้น ด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก
เย่เชินหลินยังคงยืนอยู่ จ้องเธอนิ่ง ในใจเกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
บนโลกใบนี้คงไม่มีคนท้องคนไหนที่เจอกับเรื่องราวมากมายขนาดนี้เหมือนเธอแล้ว แต่เธอยังสามารถเข้มแข็งได้ถึงเพียงนี้
เขาเดินไปตรงหน้าเธอ ยื่นมือออกไปคิดจะวางลงบนศีรษะส้งหลิงหลิง พร้อมกับเอ่ยปลอบเธอหน่อย
เธอไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอีกแล้ว เขาไม่มีควรจะมีอารมณ์สงสาร เพียงแต่มนุษย์ไม่ใช่ต้นไม้ต้นหญ้า ไม่ว่ายังไงก็เคยรักกันนานขนาดนั้น หากจะให้เขาไม่มีความรู้สึกใดๆเลย คงเป็นเรื่องที่ยากเกินไป
มือของเขาชะงักอยู่อย่างนั้นเล็กน้อย ไม่ได้วางลงบนศีรษะของเธอ
หลังจากที่โม่เสี่ยวหนงออกไปแล้วไม่ได้ปิดประตู ประตูเปิดอ้าเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นหยิบชุดกระโปรงที่เธอเคยซ่อมนั้นออกมาจากตู้เสื้อผ้าของเย่เชินหลิน ก่อนจะสวมใส่มันและออกจากห้องเดินขึ้นตึกไปทันที
เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าประตู ก็พบกับมือของเย่เชินหลินที่กำลังลังเลว่าจะวางลงหรือไม่วางลง
เธอยืนแข็งทื่ออยู่หน้าประตู ไม่ขยับเขยื้อนใดๆ จ้องมองปฏิกิริยาของเย่เชินหลินอย่างลุ้นระทึกสุดๆ หากเขาวางมือลงไปปลอบส้งหลิงหลิงจริงๆ เธออาจจะหมุนตัวจากไปทันที
ที่ยอมรับเด็กคนนั้น ก็เพราะว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเย่เชินหลิน แต่เธอยอมรับให้ชายอันเป็นที่รักของเธอมีใจโลเลไม่ได้เด็ดขาด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset