สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 699 สาวใช้ตัวแสบ 603

ตอนที่ 699 สาวใช้ตัวแสบ 603
“ห้าม…อุ๊บ…”ห้ามเขาจูบ
เมื่อนึกถึงภาพที่เขาเกือบจะยื่นมือไปลูบหัวปลอบใจผู้หญิงคนนั้น เธอก็ยิ่งรู้สึกโกรธในใจ
นี่มันแค่เริ่มต้นนะ ต่อไปเขาจะทำดีกับส้งหลิงหลิงมากขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า
หลังจากที่เด็กออกมาแล้ว พวกเขาก็จะมีความสัมพันธ์หนึ่งตามธรรมชาติ คนหนึ่งคือพ่อของเด็ก อีกคนคือแม่ของเด็ก แล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาจะพัฒนาขึ้นหรือเปล่า เขาครุ่นคิดด้วยความโมโห
เธอคิดจะหลบจากการจูบบ้าคลั่งนั้นของเขา ทว่าเย่เชินหลินกลับไม่ให้เธอหลบ ใช้มือใหญ่ๆของเขาล็อกตัวเธอไว้ และจูบอย่างดุเดือดยิ่งขึ้น
ไม่เพียงแค่จูบ มือของเข่ยังลูบไล้เธอยังไม่เกรงใจอีกด้วย
“ไม่ ปล่อยฉัน ฉันไม่ยอมมีอะไรกับคุณหรอก”เซี่ยชีหรั่นรับรู้ได้ว่าตนใกล้จะยอมศิโรราบต่อเขาแล้ว เธอจึงพยายามดีดดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากการควบคุมของเขา
เขาไม่เชื่อว่าจะเอาเธอไม่อยู่ ปากก็บอกว่าไม่ ทว่าร่างกายกลับบอกว่าห้าเขาหยุด
ถึงแม้ว่าเธอจะกำลังต่อต้านอยู่ แต่ก็ไม่ใช่คู่แข่งของเย่เชินหลิน แล้วในที่สุดเขาก็ถอดชุดกระโปรงออกจากเรือนร่างของเธออย่างรวดเร็วด้วยความคุ้นเคย
หากไม่ใช่เพราะจำได้ว่าชุดนี้ เธอเป็นคนเย็บขึ้นใหม่เองกับมือทีละเข็ม มีคุณค่าทางใจ ไม่อย่างนั้นเขากระชากออกมาตั้งนานแล้ว
……
ร่างกายเต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง ทว่าสีหน้าของเซี่ยชีหรั่นกลับดูไม่ได้เลย มันเหนือความคาดคิดของเย่เชินหลินมาก
ตัวเล็กยังดื้อรั้นกับเขาอีกนินา
“เอาล่ะ หายโกรธได้แล้ว เดี๋ยวพาเธอไปกินข้าว เวลาอาหารเช้าเลยมาตั้งนานแล้ว เราไปกินอาหารเที่ยงกัน”เซี่ยชีหรั่นไม่สนใจเขา ลุกจากเตียงก็ไปอาบน้ำ เย่เชินหลินหาชุดกระโปรงชุดใหม่เธอ แม้แต่ชุดชั้นในก็เตรียมพร้อมไว้ให้เธอแล้ว
ขณะที่เขายื่นเสื้อผ้าพวกนั้นให้เธอ รอยยิ้มแห่งความประจบเอาใจที่อยู่บนใบหน้าของเขา ถูกเธอมองข้ามไปทันที เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ เมื่อรับเสื้อผ้ามาก็ปิดประตูห้องอาบน้ำลงอีกครั้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วค่อยออกมา
“ไปกินข้าวกันเถอะ อาหารเที่ยงพร้อมแล้ว”
เธอยังคงไม่พูดไม่จา คิดจะหยิ่งในศักดิ์ศรีไม่ไปกินข้าว แต่ทว่าท้องกลับกำลังต่อต้านอยู่
ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้เธอถูกเขมือบไปตั้งหลายครั้ง พลังงานหมดไปตั้งนานแล้ว ไม่หิวนี่สิแปลก
เรื่องอะไรจะไม่กินข้าวล่ะ ไม่จำเป็นต้องไม่กินข้าวเพราะคนหลายใจแบบนี้หรอก เธอพึมพำในใจ และนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารด้วยใบหน้าบึ้งตึงเช่นเดิม
เย่เชินหลินเคยง้อใครแบบนี้มาก่อน ครั้งเป็นความผิดของเขาจริงๆ ที่ไปเกิดความสงสารต่อผู้หญิงคนอื่น ต่อมาเขาคิดจะใช้การร่วมรักทำให้เธอหายโกรธ แต่นึกไม่ถึงว่ากลับยิ่งทำให้เธอโกรธมากขึ้นอีก
เขาแกะกุ้งวางลงบนจานเธอสามสี่ตัวอย่างเงียบๆ ทว่าเธอกลับไม่แตะเลยด้วยซ้ำ
จนกินข้าวเสร็จ เธอก็ไม่พูดไม่จากับเขา
หลังจากกินอิ่มเซี่ยชีหรั่นก็ลุกขึ้น และกลับห้องนอนของเย่เชินหลินไปโดยไม่สนใจเย่เชินหลิน
ใช่เธอโกรธมาก แต่เธอก็ดูออก และรับรู้ได้ว่าเขารักเธอ เพราะฉะนั้นถึงแม้เธอจะโกรธ แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะจากเขาไป
“ไหนบอกว่าจะไปหาคนแซ่โม่คนนั้นไม่ใช่หรือไง ไม่ไปแล้วหรือ ไม่ไปยิ่งดี”เย่เชินหลินก็เดินตามเข้ามาในห้องนอน เอ่ยอย่างราบเรียบ
“ใครว่าไม่ไปล่ะ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างโกรธๆ
“ดูสิ แค่เอ่ยถึงคนแซ่โม่คนนั้น ตาก็ลุกวาวเชียว ไม่เกินไปกว่าฉันหรือ”เย่เชินหลินหาข้ออ้างในการโจมตีเธอได้แล้ว เซี่ยชีหรั่นถลึงตาใส่เธอไปทีหนึ่ง
“ฉันกับเสี่ยวจุนไม่เหมือนกัน ฉันเห็นเขาเป็นพี่ชาย เขาเห็นฉันน้องสาว”
“การที่เธอเห็นมันเป็นพี่ชายนั้นอาจจะเป็นไปได้ แต่ที่บอกว่ามันเห็นเธอเป็นน้องสาว อันนี้ฉันว่าไม่แน่ พอเห็นเธอปุ๊บ ตาของไอ้หมอนั่นก็แทบจะตกมาอยู่บนตัวเธออยู่แล้ว ทุกครั้งที่ฉันเห็นหน้ามัน ฉันแทบอยากจะชกหน้ามันจริงๆ”
หึงงั้นหรือ เขาก็รู้แล้วใช่ไหมว่ารสชาติของการหึงมันไม่สนุกเลย
เธอไม่ได้ไปปลอบโม่เสี่ยวจุนเหมือนที่เขาทำสักหน่อย ถ้าเธอทำเหมือนเขา เขาก็ได้โกรธตายกันพอดี
เมื่อเห็นเขาก็กำลังโกรธเช่นกัน แสดงว่าเขาแคร์เธอมากจริงๆ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความโกรธของเซี่ยชีหรั่นก็ได้หายไปบางส่วน เพียงแต่ดวงหน้าน้อยๆของเธอยังคงบึ้งตึงเช่นเดิม
“เขาเป็นพี่ชายของฉัน ถ้าคุณจะแต่งงานกับฉัน จะอยู่กับฉัน คุณก็ต้องยอมรับว่าเขาคือพี่ชายของฉัน ไม่เพียงเป็นพี่ชายของฉัน ต้องเป็นพี่ชายของคุณด้วย”
โม่เสี่ยวจุนเป็นพี่ชายของเขางั้นหรือ พูดบ้าอะไรเนี่ย ไอ้เด็กเมื่อวานซืนยังมาเป็นพี่ชายของเขาแล้ว หัวคิ้วของเย่เชินหลินกระตุกขึ้นอย่างแรงสองที
“ไป ไปหาพี่ชายกัน”เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างขำๆ เข้าไปดึงแขนเย่เชินหลิน
แต่ไม่ว่ายังไง ยัยตัวเล็กก็ถือว่าอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เย่เชินหลินเพิ่งได้รับรู้วันนี้เอง ว่าความหึงของผู้หญิงก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างน่ากลัวจริงๆ
เย่เชินหลินให้พ่อบ้านไปเตรียมรถมาคันหนึ่ง ก่อนออกเดินทางเขาได้โทรศัพท์หาไห่ฉิงฉิงสายหนึ่ง ให้เธอพาโม่เสี่ยวจุนมาที่หอประชุมนอกเมือง เขาบอกว่าเขาจะพาเซี่ยชีหรั่นไป ทุกคนมาพบปะกันหน่อย
ไห่ลี่หมินได้คุยกับไห่ฉิงฉิงแล้ว ว่าต่อไปห้ามเธอไปแตะต้องลูกของเย่เชินหลินอีก เขาได้บอกความคิดของเย่เชินหลินให้เธอฟัง
ต่อมาไห่ฉิงฉิงก็ได้คุยกับโม่เสี่ยวจุนเช่นกัน แต่โม่เสี่ยวจุนหัวแข็งมาก เขาไม่สนใจความรู้สึกของเย่เชินหลิน เขามีเพียงความคิดเดียว ก็คือ หากเซี่ยชีหรั่นไม่ไปอยู่กับเย่เชินหลิน เด็กคนนั้นก็เก็บไว้ได้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขา
แต่ถ้าเย่เชินหลินยังอยากแต่งงานกับเซี่ยชีหรั่น แล้วไม่จัดการเรื่องเด็ก เขาจะเป็นคนจัดการเอง
เขาไม่มีทางให้เซี่ยชีหรั่นไปเป็นพี่เลี้ยงของคนอื่นเด็ดขาด ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อพวกเขา
เขาก็มองออกว่าไห่ฉิงฉิงมีความคิดที่จะล้มเลิก ตัวเขาเองก็รู้สึกผิดต่อไห่ฉิงฉิง ฉะนั้นอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ยืนหยัดความคิดของตนต่อหน้าเธอ
ไห่ฉิงฉิงไม่ได้บอกโม่เสี่ยวจุนว่าจะไปพบเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่น เธอบอกเพียงว่าให้เขาไปเที่ยวเป็นเพื่อนเธอ โม่เสี่ยวจุนก็เห็นด้วย
เมื่อไปถึงหอประชุมและเข้าไปแล้ว โม่เสี่ยวจุนจึงค่อยเห็นเซี่ยชีหรั่นนั่งอิงอยู่บนตัวเย่เชินหลิน
ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าทั้งคู่คืนดีกันแล้ว โม่เสี่ยวจุนขมวดคิ้ว จ้องเซี่ยชีหรั่นนิ่ง เอ่ยถามเธอด้วยเสียงเยือกเย็น“ลืมไปแล้วหรือว่าเธอเคยรับปากอะไรฉันไว้ หรืออยากไปบ้านตระกูลเย่กำจัดไอ้พันธุ์ชั่วนั่นอีกครั้งใช่ไหม”
เดิมทีเย่เชินหลินอยากจะไว้หน้าเซี่ยชีหรั่น ไม่ไปมีเรื่องกับโม่เสี่ยวจุน
แต่พอเขามาถึงก็พูดว่าไอ้พันธุ์ชั่ว คำนี้ช่างแสลงหูจริงๆ เขาเคยถูกใครพูดอย่างไม่เกรงใจขนาดนี้มาก่อนกัน
เขายืนตัวลุกขึ้น หันไปพูดกับเซี่ยชีหรั่น“เธอคุยกับฉิงฉิงไปก่อนนะ ฉันขอไปคุยกับคุณโม่ดีๆสักหน่อย”
ประโยคนี้ เขาพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเล็กน้อย
โม่เสี่ยวจุนเคยแตะต้องกับลูกของเขาถึงสองครั้ง แต่เขาก็ยอมปล่อยเขาไป เพราะเห็นแก่เซี่ยชีหรั่นและไห่ฉิงฉิง
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะอดทนตลอดไป หากยังอดทนต่อไป เขาก็จะคิดว่าเย่เชินหลินเป็นไก่อ่อนที่ใครจะรังแกยังไงก็ได้
“พวกคุณจะไปคุยอะไรกัน มีเรื่องอะไรก็คุยกันตรงนี้แหละ”เซี่ยชีหรั่นร้อนใจ รีบลุกขึ้นมาห้ามปราม โม่เสี่ยวจุนชักสีหน้า
“นี่เป็นเรื่องของผู้ชาย เธอไม่ต้องยุ่ง เธออยู่ที่นี่แหละ”
พูดจบ โม่เสี่ยวจุนก็เดินออกประตูไปก่อน เขาจะไปแลกเปลี่ยนความคิดกับเย่เชินหลินดีๆสักตั้ง ไม่ว่าจะด้วยการชกต่อยหรือพูดคุยกันก็ตาม
ไม่ว่ายังไง เขาก็จะให้เขารู้ ว่าหากเขาจะเก็บเด็กไว้ ก็อย่าหวังจะได้อยู่กับเซี่ยชีหรั่นอย่างราบรื่น หรือไม่ เขาก็ต้องเอาเด็กออกเอง
“สวัสดีครับคุณเย่ มีอะไรให้เรารับใช้หรือเปล่าครับ”ทันทีที่เย่เชินหลินและโม่เสี่ยวจุนออกจากประตูมา ผู้จัดการสองคนก็รีบเข้ามาถามอย่างสุภาพ
“เตรียมห้องกว้างๆ โล่งๆหน่อยให้ฉันห้องหนึ่ง”เย่เชินหลินสั่งเสียงทุ้ม
“ครับ คุณเย่ เชิญทางด้านนี้ครับ”
เขาและโม่เสี่ยวจุนเดินมายังหน้าห้องวีไอพีห้องหนึ่ง ภายใต้การนำทางของผู้จัดการสองคน
พอเปิดประตู ทั้งคู่ก็เดินเข้าไป ภายในห้องโล่งมากจริงๆ เหมาะแก่การฝึกมือมาก
“คุณเย่ครับ รอสักครู่ เราจะรีบมาเสิร์ฟชาแก่คุณทั้งสองนะครับ ”
“ไม่ต้อง ไม่ต้องมาเสิร์ฟอะไรทั้งนั้น ปิดประตูให้เราก็พอ”เย่เชินหลินออกคำสั่งด้วยสีหน้าจริงจัง อีกฝ่ายก็ขานรับ ก่อนจะรีบปิดประตูและออกจากห้องไป ภายในห้องก็เหลือเพียงพวกเขาสองคนที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่
พวกเขาไม่ได้เอ่ยพูดอะไร ทว่าในแววตากลับเต็มไปด้วยความเป็นศัตรู
เย่เชินหลินเห็นโม่เสี่ยวจุนเป็นคู่แข่งของตนมาโดยตลอด เขาคือคนที่อยู่เคียงข้างเซี่ยชีหรั่นมาถึงยี่สิบกว่าปี สำหรับเซี่ยชีหรั่นแล้ว เย่เชินหลินและโม่เสี่ยวจุนสำคัญพอๆกัน
ทว่าโม่เสี่ยวจุนกลับไม่ได้เห็นเขาเป็นคู่แข่งเหมือนที่เย่เชินหลินคิด เขาคิดเผื่อเซี่ยชีหรั่นเสมอ เขาหวังเพียงให้เธอมีความสุข ความสุขนี้ใครจะเป็นคนมอบให้เธอก็เหมือนกัน ไม่เป็นไร
หากเซี่ยชีหรั่นสามารถอยู่กับเย่เชินหลินจนแก่เฒ่า เขาอาจจะมีความอิจฉาบ้างเล็กน้อย แต่มากกว่านั้นคือการอวยพร
ที่เขาเห็นเย่เชินหลินเป็นศัตรูในตอนนี้ ก็เพราะว่าเขาไม่สามารถให้ความสุขแก่เซี่ยชีหรั่น แล้วยังจะครอบครองร่างกายของเธออีก
ทำไมเขาจึงไม่รู้ตัวเลย ลูกผู้ชายที่แท้จริง ยอมให้ตนเองเจ็บปวดก็ไม่ยอมดึงหญิงสาวอันเป็นที่รักมาลงน้ำด้วยหรอก
อีกอย่าง เขารักเซี่ยชีหรั่นจริงไหม เมื่อก่อนเขาอาจจะคิดว่าใช่ ฉะนั้นตอนที่พวกเขาหมั้นกัน เขาจึงไม่ได้ว่าอะไร แต่ตั้งแต่ที่ส้งหลิงหลิงท้องป่องกลับมา โม่เสี่ยวจุนก็ไม่เชื่ออีกแล้วว่าเย่เชินหลินรักเซี่ยชีหรั่นจริงๆ ความรักควรจะเห็นแก่ตัว เขารักเซี่ยชีหรั่น แล้วทำแบบนั้นกับส้งหลิงหลิงในขณะที่คบหาอยู่เซี่ยชีหรั่นได้อย่างไรกัน แถมยังทำเธอท้องป่องอีก
“นี่ไอ้คนแซ่เย่ นายมีลูกกับส้งหลิงหลิงแล้ว ยังมีหน้ามาครอบครองเซี่ยชีหรั่นอีกหรือ”คำพูดของโม่เสี่ยวจุนบาดใจคนมาก ไม่มีความเกรงใจเลยสักนิด
เย่เชินหลินกระตุกมุมปากขึ้นอย่างเยือกเย็น ถามกลับ“แล้วนายล่ะ นายมีสิทธิ์อะไรมาถามฉัน นายเองก็คบหาอยู่กับไห่ฉิงฉิงไม่ใช่หรือไง ในเมื่อมีผู้หญิงของตัวเองอยู่แล้ว ยังมีสิทธิ์อะไรมาจ้องผู้หญิงของฉันอีก ทำไม ที่ทำเป็นห่วงใยเซี่ยชีหรั่นอยู่ทุกวัน เพราะต้องการให้เธอจดจำความดีของนายและไม่ลืมนายตลอดชีวิตงั้นหรือ ”
“ฉันไม่ได้เห็นแก่ตัวเหมือนนาย”โม่เสี่ยวจุนชักสีหน้า มองเย่เชินหลินด้วยท่าทางเหยียดหยามสุดๆ
สีหน้าของเย่เชินหลินก็บึ้งตึงไม่แพ้กัน
เขาถามโม่เสี่ยวจุนในใจ นายจะไปรู้อะไร เขาก็ไม่ได้ไม่อยากให้อิสระแก่เซี่ยชีหรั่น การให้เขาทนทุกข์ทรมานนั้นมันสาสมอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่เขาควรจะได้รับ แต่การที่ผู้หญิงคนนั้นจากเขาไป เธอเองก็ทรมานเสียใจและปล่อยวางไม่ได้เช่นกัน
ตอนนั้นเขาทนไม่ไหวจริงๆ จึงได้ตัดสินใจอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต ดูแลปกป้องเธอ ชดใช้ให้เธอ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset