สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 704 สาวใช้ตัวแสบ 608

ตอนที่ 704 สาวใช้ตัวแสบ 608
“พวกเราไม่เคยมีอะไรกัน ตอนนั้นแค่มีคนต้องการให้ระหว่างเรามีอะไรเกิดขึ้นสักครั้ง แต่หากเรื่องใครที่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น เรื่องนี้ผมไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ครับ ผมแค่อยากบอกว่า เธอเป็นผู้หญิงของเพื่อนสนิทของผม ถึงต้องตายผมก็จะไม่แตะต้องเธอ เงื่อนไขแรกคือ เจ้าคนนั้นไม่บอกว่าเลิกกัน ถ้าหากว่ามีสักวันผมเห็นว่าเขาทำเรื่องที่ผิดต่อเธอ ผมพร้อมที่จะกางปีกปกป้องเธอได้ทุกเมื่อ เป็นคนคอยปกป้องดูแลเธอ”  
ไห่ลี่หมินบอกกับกล้อง ราวกับมองเห็นใบหน้าเล็กสวยของเซี่ยชีหรั่น
นึกถึงใบหน้าเล็กที่มีน้ำตารินไหลเพื่อเขา แค่คิด หัวใจเขาก็เจ็บปวด
“ประธานไห่ พวกเราได้ยินว่าพวกคุณตัดขาดกันแล้ว ทำไมถึงยังบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทอีกล่ะ หรือว่าคำพูดคุณก่อนหน้านี้ตั้งใจจะหลอกทุกคน” คำถามแหลมคมจากนักข่าวคนหนึ่ง
ไห่ลี่หมินยังคงยิ้มสงบ บอกอย่างสุขุม “ผมแค่ไม่ต้องการให้ทุกคนเอ่ยชื่อคนคนนั้นต่อหน้าผม ผมไม่เคยบอกว่าพวกเราตัดขาดกัน พี่น้องนั้นเป็นตลอดไป จะบอกว่าตัดขาดแล้วก็ขาดได้ยังไง”
  ……
เย่เชินหลินมาถึงห้องทำงานบนชั้นสูงสุดของบริษัท นักข่าวมาตรงตามเวลานัด เพราะจัดการไว้ล่วงหน้าทุกอย่างแล้ว เขาแค่ตอบตามความตั้งใจของเขาก็พอแล้ว
เข้าก็เน้นอยู่หลายจุดเช่นกัน “ข้อแรก ผู้หญิงที่ผมรักคือเซี่ยชีหรั่น ข้อนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ข้อสอง ผู้หญิงที่ผมรักคือเซี่ยชีหรั่น ข้อนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ข้อสาม ผู้หญิงที่ผมรักคือเซี่ยชีหรั่น ข้อนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
ไม่นานการสัมภาษณ์ของเย่เชินหลินและไห่ลี่หมินก็ถูกเผยแพร่สู่สาธารณชน มีทั้งรูปแบบของหนังสือพิมพ์ ทั้งข่าวทางโทรทัศน์
เวลาชั่วขณะ เรื่องราวรักสามเส้าของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินและไห่ลี่หมินก็กลายเป็นข้อคุณสนทนาของผู้คน
รถกำลังกลับบ้านตระกูลเย่ เย่เชินหลินดุการสัมภาษณ์ของไห่ลี่หมิน มุมปากยกขึ้น
เด็กน้อย ยังคิดจะรอให้ฉันเลิก คุณจะยืดอกเข้ามาปกป้องเธองั้นหรอ ผู้หญิงของฉันต่อไปไม่จำเป็นต้องให้นายมาปกป้อง
ไห่ลี่หมินเองก็กำลังดูการสัมภาษณ์ของเย่เชินหลิน มองเขาเน้นสามข้ออย่างจริงจัง เขารู้ เย่เชินหลินไม่ชอบการพูดต่อหน้าสื่อ การกระพือแบบนี้ บ่งบอกว่าเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
เซี่ยชีหรั่น ความรักของพวกคุณราวกับฤดูใบไม้ผลิ ผมขออวยพรให้พวกคุณ
จงหวีฉวนได้รับรายงานจากเลขาแล้ว ว่าเย่เชินหลินและไห่ลี่หมินให้สัมภาษณ์ เพื่อให้ความเชื่อมั่นต่อเซี่ยชีหรั่น เลขายังให้ส่งสัมภาษณ์สั้นๆส่งมาให้จงหวีฉวนอีกด้วย
จิ้งจอกเฒ่าได้ดูการสัมภาษณ์แล้ว เหยียดยิ้ม บอกอย่างไม่มีเสียง : เย่เชินหลิน แกคิดว่าแกพูดประโยคนี้แล้วมันจะไม่เปลี่ยนแปลงตลอดไปงั้นหรอ อย่าพึ่งยืนหยัดเกินไป อย่าลืมสิ สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ แกก็เคยยอมให้ส้งหลิงหลิง
เขาเคาะโต๊ะทำงานตรงหน้า คิดว่าเย่เชินหลินคนนี้นั้นช่างเด็ดเดี่ยว อย่างน้อยก็ไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป โดนวิพากษ์วิจารณ์รอบด้าน
เขาเคยบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นส้งหลิงหลิง ตอนนี้ยังมาบอกว่ารักเซี่ยชีหรั่น คนภายนอกวิพากษ์วิจารณ์เขาแน่นอนว่าไม่ดีเท่าไหร่ เขากลับไม่ใส่ใจ
ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของเขา และบ่งบอกว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเซี่ยชีหรั่นนั้นไม่ธรรมดา
จงหยุนซางเองก็ได้เห็นสัมภาษณ์ของพวกเขาทั้งสองฝั่ง สองวันมานี้เธอคิดทบทวนอย่างหนัก เธอก็ส่งคนออกไปจับตามองคนของพ่ออย่างเงียบๆ รู้ดีว่าพ่อของเธอไม่ใช่คนที่จะบอกว่ารามือก็รามือ
เธออยากเห็นเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นรีบสมหวัง แต่งงานมีลูก เธอจะไม่ให้พ่อของเธอไปขัดขวางพวกเขาทั้งสอง เพียงแค่เขาไม่ยอมรามือ เธอก็ไม่วางใจ
จงหยุนซางปิดโทรทัศน์ คิดหาวิธีหยุดพ่อของเธออีกครั้ง สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจไปหาหลี่เหอไท้
เธอไม่เข้าใจการวางตัวของหลี่เหอไท้ อย่างน้อยมองภายนอก เขาก็ดูเป็นคนไม่เลว บุคลิกดี คิดถึงคนอื่น
เธอมองออกว่าเขารู้สึกดีต่อเซี่ยชีหรั่น แต่ไม่รู้ว่าความรู้สึกดีของเขามันอยู่ระดับไหน เขาจะเหมือนเธอ ยอมเสียสละเพื่อคนที่รักหรือเปล่า
ไม่ว่าเขาจะคิดยังไง เธอก็ต้องทำให้เต็มที่สักครั้ง
จากที่ดูตอนนี้ หากคิดจะหยุดพ่อเธอ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
คะแนนของตระกูลหลี่ถือว่าสำคัญ จงหยุนซางรู้ พ่อของเธอคิดวางแผนอนาคตไว้ก่อน คือต้องจัดการการแต่งงานขอลูกสาวทีหลัง หากว่าการแต่งงานของลูกสาวและอนาคตสามารถผูกเข้าด้วยกัน เขาคงจะพอใจมาก
จงหยุนซางคิดมาถึงตรงนี้ จึงโทรหาหลี่เหอไท้ เอ่ยตามตรง “ฉันคือจงหยุนซาง ตอนเย็นอยากเชิญคุณทานข้าวด้วยกัน ไม่ทราบว่าจะได้รับเกียรตินั้นไหมคะ”
หลี่เหอไท้ติดตามเซี่ยชีหรั่น กระทั่งเย่เชินหลินที่เกี่ยวข้องก็ใส่ใจ ดังนั้นเขาจึงได้เห็นสัมภาษณ์แล้ว ตอนนี้จงหยุนซางก็โทรมา ไม่ว่าจะคิดยังไงก็รู้สึกว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการให้สัมภาษณ์แน่นอน
“ครับ แต่ผมเลี้ยงคุณจะดีกว่า ถ้าคุณเลี้ยงผม ผมคงไม่กล้าไป” ลัทธิและนิสัยสุภาพบุรุษของหลี่เหอไท้ เห็นได้ชัดในตอนนี้
ที่แท้ก็เป็นผู้ชายที่ไม่เลว จงหยุนซางยกยิ้มบางๆ ตอบรับ “งั้นต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ”
  ……
เย็นนั้นจิ่วจิ่วและเหยนชิงเหยียนเตรียมอาหารมื้อใหญ่เต็มโต๊ะเพื่อทุกคน เป็นการอวดฝีมือของจิ่วจิ่ว ดังนั้นเธอจึงอารมณ์เบิกบาน
เหยนชิงเหยียนไม่โกรธเลยสักนิด รู้สึกเพียงว่าสาวเจ้าลักยิ้มนั้นน่ารักมาก
ความคิดจะเย้าแหย่เขา อย่างเช่นการเรียกเขาว่าคุณห้าน แถมยังตั้งใจซื้อวัตถุดิบหนักๆทั้งๆที่ไม่ได้ใช้เพื่อให้เขาถือ เขาได้แต่ยิ้มรับ
ตอนที่ทำกับข้าว เธอก็ตั้งใจออกคำสั่งเขา โดยเฉพาะงานหนักๆ
สำหรับเหยนชิงเหยียนเคยลำบากตรากตรำมาก่อน เรื่องพวกนี้ไม่นับประสาอะไร สามารถเตรียมอาหารเพื่อคนที่เขารัก สำหรับเขานั้นเป็นเรื่องที่มีความสุข
จิ่วจิ่วรู้สึกตัวทีหลัง หลังจากที่ใช้งานเขาเสร็จแล้ว จิตใจที่งดงามนั้นพึ่งตามมาทีหลัง
ทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว เธอถามเหยนชิงเหยียนเบาๆเมื่ออยู่ในครัว “นี่ ฉันแกล้งคุณตลอด คุณดูไม่ออกหรอ คุณโง่จริงหรือว่าแกล้งโง่”
“คุณคิดว่าไงล่ะ” เหยนชิงเหยียนมุมปากยกยิ้ม รอยยิ้มนั้นสว่างไสว
ตอนนี้ระยะห่างของจิ่วจิ่วนั้นใกล้มาก ทั้งคู่ยืนอยู่ที่มุมของเคาน์เตอร์
เธอไม่รู้ทำไม มองรอยยิ้มของเขาจนนิ่งค้างแล้ว ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างไม่มีสาเหตุ
หากเป็นคนอื่นคงรีบหลบสายตา แต่จิ่วจิ่วไม่เหมือนใคร เธอรู้สึกว่าตัวเองหัวใจเต้นแรงหน้าแดงแล้ว กลับจ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง เหลือบมองเขาอย่าไม่น่าเชื่อ พึมพำ “แปลกจริง ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่เคยคิดว่าเขาหล่อ เฮ้ย คุณยิ้มแบบนี้ฉันก็รู้สึกว่าคุณหล่อขึ้นมาแล้ว มามามา ลองยิ้มอีกสักครั้งสองครั้งให้ฉันดูซิ”
รอยยิ้มของเหยนชิงเหยียนถูกเธอทำแข็งค้างไปแล้ว ยิ้มก็ไม่ใช่ ไม่ยิ้มก็ไม่ใช่
จิ่วจิ่วเห็นท่าทางมึนงงของเขา ชั่วครู่เธอก็หัวเราะเสียงดังออกมา
ยังดียังดี จิ่วจิ่วไม่ได้แสดงอาการบ้าผู้ชายออกไป คนที่เธอชอบคือโม่เสี่ยวจุน จะชอบคนอื่นไปทั่วไม่ได้ แม้ว่าคนคนนี้จะหน้าตาใช้ได้ ชาติตระกูลก็ไม่เลว นิสัยก็ดี ถ้าไม่เจอโม่เสี่ยวจุนก่อน เขาก็เหมาะตามมาตรฐานของเธอ แต่เธอมีผู้ชายที่เธอแอบรักแล้ว จะลังเลไม่ได้
“ยิ้มยิ่งไม่น่าดูกว่าร้องไห้อีก เอาล่ะ ฉันไม่ดูแล้ว ยกอาหารเถอะ” จิ่วจิ่วพูดจบ เดินออกจากห้องครัวไปก่อน เหลือไว้เพียงเหยนชิงเหยียนที่มองตาเธอด้วยความสนใจ
จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เหมือนคนทั่วไป เมื่อกี้เธอชมเหมือนพวกบ้าผู้ชายเลยรู้ไหม ชั่วพริบตากลับบอกว่าเขายิ้มยิ่งไม่น่าดูกว่าร้องไห้
ต้องเป็นคนแบบไหนถึงจะตามความเปลี่ยนแปลงของเธอทันกัน เหยนชิงเหยียนคิด
เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นคิดว่าจิ่วจิ่วเป็นครอบครัวคนหนึ่งตั้งนานแล้ว ตอนเย็น ทุกคนนั้นล้อมวงทานข้าวครื้นเครง ทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
หลี่เหอไท้ตั้งใจเลือกร้านอาหารที่งดงามแห่งหนึ่ง ให้คนจองห้องวีไอพีไว้ให้ ด้านนอกมีดอกไม้สวยงาม
ต้นฤดูร้อน ดอกไม้เบ่งบาน หลี่เหอไท้และจงหยุนซางนั่งอยู่ด้านใน กลิ่นหอมของดอกไม้ค่อยๆลอยเข้าจมูก
หลี่เหอไท้รู้ว่าผู้หญิงอย่างจงหยุนซาง จะต้องชื่นชอบสภาพแวดล้อมที่งดงาม เมื่อจงหยุนซางเข้ามา ก็บอกถูกว่าเป็นกลิ่นของดอกอะไร
“เดิมเป็นฉันต้องเลี้ยงคุณ ไม่คิดว่าคุณจะเลี้ยงฉัน แถมยังใส่ใจขนาดนี้ มิน่าใครๆถึงได้บอกว่าหลี่เหอไท้เป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบในอุดมคติของผู้หญิง ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ” จงหยุนซางชื่นชม
หลี่เหอไท้ยิ้มอบอุ่น
“ชมเกินไปแล้วครับ ผู้ชายดูแลผู้หญิง เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว อีกอย่างคุณเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งตงเจียง ได้เลี้ยงข้าวคุณ เป็นโชคดีของผมครับ” เมื่อพูด เขายังเลื่อนเก้าอี้ให้จงหยุนซางด้วย
ตั้งแต่จงหยุนซางผ่านอายุยี่สิบมา ก็เจอผู้ชายมาเอาอกเอาใจมาหลากหลายรูปแบบ แต่เธอกลับไม่เคยมีความรักจริงจัง เจอผู้ชายมาก็มาก ไม่เพียงแต่มณฑลตงเจียง บางครั้งยังเพราะงานต้องติดตามพ่อไปทั่วประเทศ ไม่เกินจริงเลยหากจะบอกว่าลูกหลานบ้านไหนเธอก็รู้จัก
สัมผัสกับคนมามาก การช่วยเลื่อนเก้าอี้ให้เธอแล้วไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจ แถมยังชื่นชมซะอีก เกรงว่าคงจะมีหลี่เหอไท้เพียงคนเดียว
การเอาใจใส่ดูแลของเขาทำให้คนรู้สึกสบาย แต่ไม่ได้มีความเจ้าชู้ อีกฝ่ายที่ถูกเขาเอาใจใส่รู้สึกเหมือนถูกเขาให้ความสำคัญ ทว่าไม่ได้รู้สึกว่าเขาตั้งใจเอาอกเอาใจ ตั้งใจแสดงท่าทางออกมา
เขาทำอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เสแสร้งสักนิด ทำให้จงหยุนซางคิดถึงคำคำหนึ่ง ดุจดั่งอาบสายสมในฤดูใบไม้ผลิ
ไม่เพียงเรื่องเลื่อนเก้าอี้ เพียงแค่ได้พูดคุยกับเขาคนนี้ ก็จะรู้สึกคล้ายลอยละล่องไปกับสายลม
เขากับเย่เชินหลินนั้นเป็นคนละจำพวก เย่เชินหลินเย็นชา เขานั่นอบอุ่น แต่ไม่ร้อน คล้ายมีความสัมพันธ์กับใครก็ไม่เลว คิดคิดดูแล้ว คล้ายกับยังไม่มีใครได้เดินเข้าไปในโลกของเขาอย่างจริงจัง
ไม่มีใครรู้ว่าหลี่เหอไท้กำลังคิดอะไรอยู่ คนทั่วไปดูไม่ออกถึงความชอบหรือไม่ชอบของเขา เราราวกับเป็นคนแปลกหน้า เก็บซ่อนทุกสิ่งทุกอย่างของเขาไว้ภายใต้รอยยิ้มอบอุ่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset