สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 709 สาวใช้ตัวแสบ 613

ตอนที่ 709 สาวใช้ตัวแสบ 613
หัวใจของหลินหลิงหนักอึ้ง ยังไงเด็กก็พึ่งเกิดมานะ หรือแค่เกิดมา ก็ต้องมาเป็นโรคหัวใจแล้วหรอ  
แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ เธอชอบเย่เชินหลินมานาน เข้าใจเย่เชินหลินเป็นคนหน้านิ่งแต่ใจร้อน ถ้าหากเขารู้ว่าเด็กเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เกิด เขาจะต้องเจ็บปวดแน่ๆ
คนที่เธอยกย่องชื่นชมต้องทุกข์ใจ เธอจะไม่รู้สึกอะไรได้ยังไง
ถือใบรายงานผล หลินหลิงคิดแล้วคิดอีก ไม่ได้ถือไปให้เย่เชินหลินดู ตัดสินใจด้วยตัวเอง จัดการย้ายเด็กไปแผนกกุมารเวช
เรื่องแบบนี้ เธอต้องได้ผลที่ชัดเจนก่อนถึงจะรายงานให้เย่เชินหลินรู้ เกิดตื่นตระหนกไปเองล่ะ เขาจะได้ไม่ต้องเสียใจทิ้งเฉยๆ
“ขอโทษนะเชินหลิน ฉันเข้าใจคุณผิด” ส้งหลิงหลิงยื่นมือมาจับมือเย่เชินหลิน ดูเหมือนละอายใจ
ครั้งนี้ เย่เชินหลินไม่ได้จับมือเธอไว้ แต่กลับหลบเลี่ยงอย่างไร้ตำหนิ
“ไม่เป็นไร เหนื่อยก็พักผ่อนเถอะ” เย่เชินหลินเอ่ยเสียงเรียบจบ ก็ไม่ได้มองส้งหลิงหลิงอีก
การตอบสนองของเธอขนาดนั้น ความจริงเขาก็คิดไว้แล้ว
ตอนนี้เขาอยากจะคุยกับเธอดีๆ บอกให้เธอ เลิกคิดอะไรชั่วร้าย เขาจะไม่พรากลูกไปจากเธอเลยก็ได้
แต่ส้งหลิงหลิงอ่อนแอเกินไป คำพูดมาถึงริมฝีปากแล้วเขาก็ไม่ได้เอ่ยออกไป
ไม่ว่ายังไง บางอย่างก็ต้องรอให้เธอดีขึ้นก่อนค่อยพูด
ส้งหลิงหลิงไม่รู้ว่าแม่คนอื่นในเวลานี้เขาได้รับการปฏิบัติด้วยยังไงกัน เธอคิดว่า ถ้าเขารักเธอ ตอนนี้เขาคงจับมือเธอแน่น จูบเธอ บอกกับเธอว่าลำบากแล้ว
เขาไม่ทำอะไรเลย เธอยื่นมือออกไปแต่เขาก็หลบเลี่ยง
ไม่รู้ว่าเธอคลอดลูกจนเหนื่อยเกินไป รู้สึกคล้ายกับว่าความหวังที่มีนั้นพังทลายลงมาในระยะเวลาสั้นๆ
เธอยังจะยืนหยัดต่อไปได้หรือเปล่า
เขาเย็นชาขนาดนี้ เย็นชาราวกับน้ำแข็ง มีเพียงเธอคนเดียวที่พยายาม ต่อให้มีลูกมา จะละลายหัวใจเขาได้จริงๆหรอ
จากที่ไม่เคยคิดว่าจะยอมแพ้ ตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอคิดอยากยอมแพ้
เธอนึกถึงเซียมซีที่เธอได้ โบยบินไปในหมู่เมฆ ต้องอยู่อย่างไม่ได้รับอิสระ เธอตัดสินใจผิดแล้วหรือเปล่า หรือว่าจะเป็นแบบที่จิ่วจิ่วบอก เธอควรจะหนีไป โบยบินออกไป อยู่ที่นี่ไปก็ไม่มีผลลัพธ์ที่ดี
จากไปเถอะ หนีไปตอนนี้คงจะมีชีวิตที่ดีรอเธออยู่ใช่ไหม
เธอทิ้งลูกได้ ทิ้งลูกไว้กับตระกูลเย่ ยกให้เย่เชินหลิน เย่เชินหลินจะต้องดูแลและให้การศึกษาที่ดีกับลูกได้แน่นอน ลูกของเธอจะไม่ต้องน้อยใจแน่นอน
ส้งหลิงหลิงไม่มีแรงมาคิดเรื่องพวกนี้ หันไปมองแม่ของเธอ ไม่รู้เพราะช่วงนี้ไม่ได้จัดแต่งทรงผม ผมเธอถึงได้ขาวเยอะขึ้น มองเห็นแม่ จะไม่คิดถึงตระกูลส้งได้ยังไง ตระกูลส้งสิ้นแล้ว นอกจากแม่ คนอื่นๆก็ไร้ซึ่งอิสระ
ในเวลาแบบนี้ เธอจะไปได้หรอ
ไม่ เธอไปไม่ได้แล้ว เธอทำได้แค่ยืนหยัดต่อไป จะต้องยืนหยัดต่อไป
มองเห็นใบหน้าเรียบเฉยของเย่เชินหลิน เธอก็นึกถึงเซี่ยชีหรั่นขึ้นมา หากไม่ใช่เพื่อตระกูลส้ง เพื่อเซี่ยชีหรั่น เธอก็ต้องยืนหยัดต่อไป ความโกรธแค้น อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ถึงต้องตายเธอก็จะสู้ให้ถึงที่สุด เธอไม่เชื่อ ว่าชาตินี้ เธอจะไม่ชนะเลย
คิดมาถึงตรงนี้ เธอจึงหลับตาลงไม่พูดอะไรอีก เธอเหนื่อยมากจริงๆ ต้องพักผ่อนให้มากๆ รักษาตัว รอถึงวันที่เธอพาลูกกลับคฤหาสน์ เชื่อว่าเซี่ยชีหรั่นคงดีใจได้อีกไม่นาน
ตอนออกมา จับมือเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นก็ทรมานแล้วไม่ใช่หรอ
“เชินหลิน ตรวจร่างกายทั่วไปทำไมนานจัง” ผ่านไปสักพัก ส้งหลิงหลิงรู้สึกมีแรงขึ้นมาแล้ว ลืมตาถามเย่เชินหลิน
ไปนานจริงๆ หรือว่าจะมีปัญหา
“คุณพักเถอะ ผมไปดูเองว่าตรวจเสร็จหรือยัง”
เย่เชินหลินบอก พยักหน้าให้นายหญิงส้ง จึงเดินออกไป
พอเขาออกไป นายหญิงส้งก็บอกลูกสาวเสียงเบา “หลิงหลิง เธอต้องเข้มแข็ง อย่ายอมแพ้ แม่ว่าเขายังดีกับเธออยู่”
ถ้าเป็นตระกูลส้งแบบเมื่อก่อน นายหญิงส้งคงไม่บอกกับลูกสาวเธอแบบนี้ ตอนนี้ไม่มีทางเลือก ทำไงได้
“ไม่เลวหรอ ถ้าดีจริงๆ เขาจะไม่อยากแตะต้องหนูแม้แต่มือเลยหรอ แม่คะ แต่ฉันไม่มีวันยอมแพ้หรอก แม่วางใจเถอะ มีหนูอยู่ แม่จะไม่เป็นอะไร ตระกูลส้งเราก็จะไม่เป็นอะไร ถ้าตอนนี้หนูปกป้องพวกเขาไม่ได้ แค่หนูไม่ยอมแพ้ เย่เชินหลินจะต้องช่วยพวกเขาออกมาได้” ส้งหลิงหลิงบอกอย่างมุ่งมั่น
นายหญิงส้งจมูกแดงก่ำ น้ำตาไหลลงเป็นสาย
อ้างว้างไม่มีอะไรเทียบได้จริงๆ ใครจะคิดว่าลูกสาวของตระกูลส้ง ลูกสาวที่เป็นดั่งเจ้าหญิง คลอดลูกต้องทำอย่างกับเรื่องเลวร้าย ขอแค่มีแม่อย่างเธอเฝ้าอยู่ตรงนี้
แม้กระทั่งคุยกันสองคนยังต้องทำลับๆล่อๆ เธอยังต้องให้กำลังใจกับลูกสาวที่พึ่งคลอดลูก
ถ้าไม่ใช่ทำเพื่อสามีและลูกชายของเธอ บางครั้งเธอยังคิดอยากตายไปให้จบๆ มีชีวิตต่อไปให้มันได้อะไร
มือสั่นเทาของส้งหลิงหลิงกุมมือแม่ของเธอเอาไว้ เอ่ยปลอบเสียงเบา “แม่คะ อย่าร้องเลย นี่ไม่นับอะไร แค่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง”
“ลูกรัก เพราะแม่ไม่ดีเอง ถ้าแม่เกลี้ยกล่อมพ่อตั้งแต่ยังหนุ่ม ให้ทำเรื่องเลวร้ายน้อยๆหน่อย ครอบครัวเราคงไม่มาถึงวันนี้” ถ้าตอนนั้นพ่อของเธอไม่สอนให้แย่งทุกอย่างที่เธออยากได้มาไว้ในมือ แต่สอนในทางที่ถูกที่ควร ครอบครัวเธอก็คงไม่มีวันนี้
เพียงแต่บางคนยังหลงมัวเมา คงมองไม่ออกไปตลอดชีวิต
ผู้หญิงในบ้านนั้นสำคัญมากจริงๆ ถ้าผู้หญิงจิตใจดี ไม่โลภมาก แสวงหาแต่ความมั่งคั่งโดยไม่สนใจอะไร ผู้ชายของเธอก็จะไม่เดินทางผิด แม่ที่สอนลูกของตัวเอง ต้องสอนสิ่งที่ถูกต้อง คิดถึงคนอื่นมากๆ ไม่เห็นแก่ตัว ลูกจะได้ไม่ต้องทำผิดแบบนี้
ส้งซูหาวและส้งหลิงหลิง พวกเขาไม่เคยคิดว่าตามไขว่คว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ยังไงพวกเขาก็เดินทางผิดมานาน
“แม่ผิดแล้ว แม่คะ ถ้าให้พ่อทำเรื่องแบบนั้นน้อยลง แม้แต่ตำแหน่งนี้เขาก็ขึ้นมาไม่ถึง อะไรที่เรียกว่าทำเรื่องไม่ดีกัน โลกใบนี้คนชนะเท่านั้นที่จะได้เป็นราชา หนังสือยังเขียนตามคนชนะเลย เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว หนูเหนื่อยแล้ว ขอพักอีกสักหน่อย”
ส้งหลิงหลิงดึงมือกลับ หลับตาลงอีกครั้ง
ไม่มีแรงจะพูด แต่ในหัวของเธอก็ไม่ได้ว่าง
เย่เชินหลินออกมาแล้วจึงโทรหาหลินหลิง ถามเธอตรวจถึงไหนแล้ว ทำไมถึงยังไม่พาเด็กกลับมา
“คุณเย่คะ คุณรอสักครู่ ฉันกำลังพาเด็กกลับไปค่ะ” หลินหลิงรีบจัดการเดินเรื่องให้เสร็จ ให้พี่เลี้ยงอุ้มเด็กเดินตามเธอ ให้หมอออกใบตรวจร่างกายให้ ตอนนี้ตรวจเสร็จแล้ว เพียงแต่ผลตรวจยังไม่ออกมา
หมอบอกว่าเด็กมีอาการค่อนข้างยุ่งยาก ถึงแม้ผลตรวจจะออกมา ก็ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชหลายท่านช่วยวินิจฉัยอีกที
ประโยคนี้ ทำให้หัวใจของหลินหลิงหนักอึ้งขึ้นไปอีก
ดูเหมือนว่าจะปิดไม่อยู่ เธอทำได้เพียงพาเด็กกลับมาหาเย่เชินหลิน เขาถึงเป็นพ่อของเด็ก มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน
“คุณเย่คะ” หลินหลินเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า พี่เลี้ยงอุ้มเด็กเดินตามหลังมา เธอเดินไปอยู่ด้านหลังเย่เชินหลิน บอกเสียงเบา “คุณเย่คะ คลื่นไฟฟ้าหัวใจของเด็กผิดปกติ หมอแนะนำให้ย้ายไปตรวจให้แน่ชัดที่แผนกกุมารเวช ฉันกลัวว่าหมอจะตรวจผิด จึงตัดสินใจย้ายเด็กไปตรวจที่แผนกกุมารเวชเอง ตอนนี้ตรวจเสร็จหมดแล้ว หมอบอกว่าต้องประชุมถึงจะวินิจฉัยออกมาได้ค่ะ”
นี่เป็นการรายการที่ยากที่สุดในชีวิตของหลินหลิง หัวใจของเธอหนักอึ้งอยู่ตลอดเวลา
หัวใจของเย่เชินหลินราวกับถูกบีบแน่น มือค่อยๆกำแน่น ใบหน้าทะมึนขึ้น
นี่เป็นผลที่ร้ายที่สุด ถึงแม้จะเห็นว่าเด็กร้องไห้ไม่ปกติ เขาเดาได้แล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมันจริงไจ หัวใจก็คล้ายกลับหายใจไม่ออก
เขาผิด ส้งหลิงหลิงก็ผิด ความผิดนี้ผู้ใหญ่ก่อทั้งนั้น เด็กยังเล็ก ทำไมพึ่งเกิดมาถึงต้องไม่สมบูรณ์ด้วย
หลินหลิงเห็นคิ้วเย่เชินหลินขมวดแน่น กำลังจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไปช่วยนวดหัวคิ้วให้เขา แต่เธอรู้ดี เธอทำแบบนั้นไม่ได้
“คุณเย่คะ คุณอย่าพึ่งคิดมาก บางทีอาจจะตรวจผิด คุณก็รู้ บางครั้งโรงพยาบาลก็มีผิดพลาดได้ หมอบางคนชอบสร้างเรื่องให้ใหญ่ จากนั้นทำการรักษา” เธอเกลี้ยกล่อมเสียงเบา กระทั่งตัวเธอเองยังรู้สึกว่าฟังดูไร้เรี่ยวแรง
ยังไงซะเย่เชินหลินก็เคยผ่านเรื่องราวหนักหนาสาหัสมา ตัวแต่เด็กก็มักจะได้ยินแม่พูดกับเขาบ่อยๆ เป็นคนก็ต้องมีวิกฤตได้ตลอดเวลา โลกมักจะโอบกอดความหวัง วางแผนการที่ร้ายที่สุด
ผลการตรวจแม้จะยังไม่ออก เขาก็คล้ายกับจะเดาได้ถึงผลของมันแล้วว่าไม่ได้ผิดพลาดแน่
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสียใจ เสียใจไปก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ตอนนี้เทคโนโลยีการแพทย์ดีขนาดนี้ หากเด็กมีโรคหัวใจจริงๆ เชื่อว่าด้วยอำนาจและอิทธิพลของเขา คงไม่ทำให้เด็กต้องเป็นอะไร
เขาต้องสงบนิ่ง จัดการกับเรื่องต่อไป
“คุณจับตาฝั่งนั้นเอาไว้ ผลออกมาให้รีบบอกผม เรื่องนี้คุณรู้ก็พอ ห้ามบอกใครทั้งนั้น จำไว้ ว่าทุกคน” เย่เชินหลินกำชับ หลินหลิงพยักหน้าหนักแน่น
“วางใจได้ค่ะ คุณเย่ ฉันจะปิดปากเงียบเท่าชีวิต”
เย่เชินหลินสั่งแบบนี้ มีหลายเหตุผล หนึ่งคือเขาจะให้พ่อแม่รู้ไม่ได้ ยังไงก็เป็นหลายของพวกเขา พวกเขาแก่แล้วหากรู้ว่าหลานเป็นโรคหัวใจ เกรงว่าจะเป็นทุกข์
สองคือเขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นรู้ เธอใจอ่อนขนาดนั้น คิดเพื่อเขาทุกอย่าง รู้ว่าเขาเป็นห่วงเด็กน้อยไม่สมบูรณ์คนนี้ เธอคงไม่วางใจ
สามคือเขาไม่อยากให้ส้งหลิงหลิงรู้ เธอได้คลอดลูกออกมาด้วยชีวิตขนาดนั้น เห็นเพื่อความพยายามของเธอ ในระหว่างที่เธออยู่เดือน เป็นกังวลตอนนี้ อาจจะมีผลต่อร่างกาย
“คุณให้พี่เลี้ยงป้อนน้ำป้อนนมเถอะ ของเตรียมครบหมดแล้วใช่ไหม” เย่เชินหลินถามย้ำ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset