สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 712 สาวใช้ตัวแสบ 616

ตอนที่ 712 สาวใช้ตัวแสบ 616
“เย่เชินหลิน คุณไม่ควรปล่อยให้ผู้หญิงแบบนี้ต้องเสียน้ำตานะ ไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับลูกของคุณอย่างไร แต่คุณอย่าลืมนะว่ายังมีผู้หญิงอีกคนรอคุณอยู่!”
สีหน้าเย่เชินหลินตกตะลึงแล้วหยุดเงียบไปสักพัก จากนั้นค่อย ๆ พูด “ขอบคุณสำหรับคำเตือนของคุณนะ ผมจะให้ความสำคัญเอง”
ท่าทีของเขาตรงไปตรงมา ด้วยนิสัยของเย่เชินหลินนั้น ปกติแล้วจะพูดจาแบบนี้ แต่เมื่อเขาได้พูดออกจากปากแล้ว ก็หมายถึงเขาคิดเช่นนั้น และแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับเซี่ยชีหรั่นเหมือนกัน
หลี่เหอไท้จะพูดอะไรได้อีก ในขณะที่เขาพูดแทนเซี่ยชีหรั่นแต่ก็รับรู้ถึงความลำบากใจของเย่เชินหลินได้เหมือนกัน
เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะขอให้เขาเพิกเฉยต่อลูกชายที่เพิ่งคลอด นั่นไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์เลย
เช่นเดียวกับในอดีตที่เขาและหลี่เหอไท้จะมีปัญหาทะเลาะกันอย่างไร ถึงแม้พ่อของเขาจะโกรธมากก็จริง แต่ทำได้เพียงตบตีสั่งสอนเขาเท่านั้น และเบื้องหลังก็ต้องปลอบใจภรรยาตัวน้อยของเขา
เมื่อเย่เชินหลินวางสายแล้วเขากดเบอร์โทรของเซี่ยชีหรั่นแต่ไม่ได้โทรออก
เขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าหลี่เหอไท้โทรหาเขา ไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขาห่วงใยเธอเพราะมีคนเตือนเขา
ความรักและความห่วงใยที่มีต่อเธอจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเพราะมีลูกน้อยคนนี้มาขวางกั้นไว้ แม้ความสนใจของเขาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาจะคิดถึงความรู้สึกของเธอเสมอ
เย่เชินหลินกลับไปในห้องพยาบาล ตัวน้อยเย่เจิ้งเหิงยังคงหลับอยู่ ส้งหลิงหลิงก็กำลังพักผ่อน ส่วนนายหญิงส้งกำลังมอบหมายงานให้กับสาวใช้
“เสี่ยวหลี่ เสี่ยวโจว เธอสองคนอย่าถือสาหลิงหลิงนะ เธอเป็นคนอารมณ์ร้อนตั้งแต่เด็กแล้ว เธอเพิ่งคลอดลูกเสร็จ เมื่อเห็นลูกร้องไห้ก็อาจจะโมโหแล้วใส่อารมณ์ให้พวกเธอ ต่อไปอาจจะมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะ พวกเธอสองคนน่ะดูก็รู้แล้วว่านิสัยดี ยังไงก็ช่วยทนหน่อยนะ”
แม่บ้านสองคนรีบตอบ “คุณนายคะ เราทำงานไม่ดีเอง โทษคุณนายหลิงไม่ได้หรอกค่ะ เราจะใส่ใจให้มากกว่านี้นะคะ”
หลินหลิงเดินตามเข้ามาที่ห้องผู้ป่วย แล้วเย่เชินหลินมอบหมายงานให้เธอต่อหน้าส้งหลิงหลิง “คุณช่วยไปหาแม่บ้านมาอีกห้าคน ให้สองในหน้าคนนั้นมาดูแลเรื่องอาหารการกินของคุณส้ง ส่วนที่เหลือห้าคนนั้นให้ดูแลลูก คุณหลี่ คุณรับผิดชอบอุ้มเด็กก็พอ แต่โปรดระวังหน่อย เพราะผมไม่อยากได้ยินเสียงร้องไห้ของลูก คุณโจว คุณรับผิดชอบชงนมผงและป้อนน้ำให้ลูก ถ้าคุณส้งมีน้ำนมแล้วให้นมลูกเอง คุณต้องคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ ส่วนแม่บ้านที่เหลือ คนหนึ่งช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อม คนหนึ่งรับผิดชอบอาบน้ำให้เด็ก ส่วนอีกคนรับผิดชอบเปลี่ยนชุดให้เด็ก เพิ่มหรือลดเสื้อผ้าให้เหมาะสมตามอุณหภูมิ ต่อไปต่างคนต่างรับผิดชอบหน้าที่ของตน ผมขอแค่อย่างเดียวคือลูกผมจะต้องไม่หิว ไม่กระหาย ไม่หนาว ไม่ร้อน ไม่ร้องไห้ ไม่ดื้อ เงินเดือนพวกคุณอาจจะเพิ่มให้เป็นสองเท่า หรือหลายเท่าก็ได้ แต่ต้องทำตามในสิ่งที่ผมมอบหมายให้”
เงื่อนไขและความประสงค์ของเย่เชินหลินทำให้สาวใช้ทั้งสองต้องตกตะลึง และเมื่อนายหญิงส้งและส้งหลิงหลิงได้เห็นเย่เชินหลินเอาใจใส่ลูกขนาดนี้ก็รู้สึกปลื้มใจเหมือนกัน แต่มีเพียงหลินหลิงเท่านั้นที่รู้เหตุผลที่แท้จริง เพราะเขาคิดว่าดีกว่าให้ลูกต้องไปอยู่ในตู้ปรับสูญญากาศ
“คุณทั้งสองทำได้อย่างที่พูดไหมคะ ถ้าทำไม่ได้ฉันจะหาคนอื่นมาแทน” หลินหลิงถามสาวใช้สองคนที่ชื่อหลี่กับโจวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เงินเดือนอาจจะเพิ่มเป็นสองเท่า นั้นก็หมายความว่า แค่ทำงานที่นี่สองเดือน เงินเดือนพวกเธอแต่ละคนก็จะเพิ่มเป็นหลายหมื่นเลยสิ? งานดี ๆ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว ต่อให้ลำบากกว่านี้ พวกเธอก็ยอมทำ
ทั้งสองพยักหน้าโดยไม่ลังเล แล้วรีบรับปาก “เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อดูแลคุณชายน้อยค่ะ เราจะระมัดระวังและจะพยายามไม่ให้คุณชายน้อยต้องร้องไห้เลยค่ะ”
พวกเธอทำได้เพียงพยายาม เพราะเย่เชินหลินก็รู้ดี มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ไม่ให้เด็กทารกคนหนึ่งร้องไห้
สิ่งที่เขาพูด พวกเธอคงจะเข้าใจดีแล้วว่าต้องพยายามอย่างเต็มที่
“ค่ะ คุณเย่!” หลินหลิงขานตอบแล้วออกไปทำตามคำสั่ง
ส้งหลิงหลิงยิ้มหน้าบาน แล้วพูดกับเย่เชินหลินอย่างอ่อนโยน “ไม่เคยเห็นใครที่รักลูกเท่าคุณเลยนะ เหิงเหิงตัวน้อยของเราช่างมีความสุขเหลือเกิน”
เขามีความสุขหรือ?
เย่เชินหลินมองไปที่ใบหน้าอันไร้เดียงสาของลูกที่กำลังนอนหลับอยู่ เขาเกลียดตัวเองมากที่ให้ลูกได้แค่นี้
แท้จริงแล้วไม่ว่าเราจะร่ำรวยมากแค่ไหน มีฐานะสูงส่งมากเพียงใด บางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเราเสมอไป เขาสามารถจ้างคนใช้ที่นับไม่ถ้วนได้ และพยายามทำให้ลูกไม่ร้องไห้ นั่นหมายถึงเขาสามารถรั้งชีวิตลูกไปตลอดได้หรือ?
“ลูกหลับแล้ว ให้ลูกมาอยู่ใกล้ ๆ แม่สิ ให้ลูกได้อยู่ใกล้แม่ไว้เขาถึงจะรู้สึกปลอดภัย” นายหญิงส้งพูดกับสาวใช้หลี่ที่อุ้มลูกไว้
สาวใช้หลี่กลัวเด็กจะร้องไห้ แม้เด็กจะหลับอยู่ แต่เธอก็ยังอุ้มเด็กไว้ไม่กล้าปล่อยลง
“นั่นสิ เอาลูกมาใกล้ฉันสิ จริงด้วย วางลูกไว้บนเตียงเด็กก่อน แล้วค่อยย้ายมาใกล้ ๆ ฉัน ฉันกลัวจะนอนทับลูก” ส้งหลิงหลิงขยับตัวไปขอบเตียงเพื่อจะให้ลูกนอนใกล้เธอ
สาวใช้หลี่มองไปที่เย่เชินหลิน เธอรู้สถานะระหว่างเจ้านายสองคนว่าคุณชายต้องเหนือกว่าคุณหญิง ดังนั้นเธอควรฟังเจ้าบ้านมากกว่า
อีกอย่างคุณชายเย่เน้นย้ำแล้วว่าให้เรียกแม่ของเด็กว่าคุณส้ง นั้นหมายความว่าไม่ให้พวกเธอเรียกนางว่าคุณนายหญิง หมายความว่าเขาทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน?
ในความสัมพันธ์ดังกล่าว พวกเธอควรต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เป็นสาวใช้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากเจ้านายไม่พอใจก็อาจจะไล่พวกเธอออกได้ทันที ดังนั้นพวกเธอควรสังเกตและระมัดระวังคำพูดให้มาก
เดิมทีเย่เชินหลินอยากให้แม่ลูกสองคนได้แยกกันให้เร็วที่สุด ไม่อยากให้เขามีความสัมพันธ์มากกว่านี้
แต่ถ้าเด็กเกิดปัญหาแบบนี้ ใครก็รู้ว่าต้องการแม่ที่สุด ถ้าเขาให้แม่ลูกต้องแยกจากกันในตอนนี้ เกรงว่าจะเป็นการทำร้ายลูก เมื่อทำให้สภาพจิตใจลูกแย่ ร่างกายของลูกก็ต้องแย่ตามไปด้วยแน่นอน
เขารู้ว่าผู้หญิงบางคนต้องการรักษาหุ่น แล้วไม่ให้นมลูก แต่ถ้าส้งหลิงหลิงเต็มใจให้นมลูก เขาจะขอบคุณเธอเป็นพิเศษ
เย่เชินหลินพยักหน้า ให้ทำตามในสิ่งที่ส้งหลิงหลิงต้องการ
จากนั้นสาวใช้หลี่ก็ค่อย ๆ วางเด็กลงที่เตียงเด็ก แล้วย้ายเตียงมาไว้ข้างส้งหลิงหลิงอย่างระมัดระวัง เพื่อให้แม่ลูกได้อยู่ใกล้กัน
ส้งหลิงหลิงไม่รู้ว่าลูกของเธอนั้นมีปัญหาทางร่างกาย จึงไม่ได้กังวลถึงการทำให้ลูกตื่น เธอยื่นมือไปแตะบนใบหน้าเล็ก ๆ ของเด็กและพูดเบา ๆ “ลูกเอ๋ย นี่แม่นะ วันนี้ลูกมีชื่อแล้วนะ ลูกชื่อเย่เจิ้งเหิง คุณพ่อของลูกเป็นคนตั้งชื่อให้ลูกเอง คุณพ่อหวังว่าลูกโตแล้วจะทำการใหญ่ มีความเพียรพยายาม และยึดมั่นในความเที่ยงธรรม เมื่อลูกเติบโตแล้วอย่าทำให้พ่อผิดหวังนะลูก คุณพ่อก็อยู่ในห้องนี้แล้ว ก่อนลูกจะลืมตาดูโลก คุณพ่อก็ได้ยืนรออยู่หน้าห้องคลอด คอยดูแลปกป้องลูก คุณยายบอกว่าให้ลูกอยู่ใกล้แม่ไว้ จะได้รู้สึกถึงความปลอดภัย แต่ที่จริง ลูกอยู่ใกล้คุณพ่อจะรู้สึกถึงความปลอดภัยมากกว่านะ”
ส้งหลิงหลิงไม่ได้พูดกับลูกเลย และเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังพูดกับเย่เชินหลินอยู่ เธอพยายามจะสื่อให้เขารู้ว่าเขาควรอยู่กับสองแม่ลูกให้มากกว่านี้
หากไม่ใช่เพราะว่าเด็กมีปัญหา และถ้าเขาเห็นแม่ลูกทั้งสองปลอดภัยดี เขาคงหันหน้าแล้วตรงกลับไปหาเซี่ยชีหรั่นแล้ว
ณ เวลานี้ เขาคิดอยู่เสมอว่าทันทีที่เขาออกไป ลูกจะร้องไห้แล้วหายใจไม่ออก เขากลัวว่าเมื่อเขาไม่ได้อยู่ด้วย พวกเขาจะไม่สามารถทำให้ลูกสงบได้
เมื่อส้งหลิงหลิงพูดจบแล้วแหงนมองไปที่เย่เชินหลิน เธอยังคงยิ้มอยู่ตลอด แต่เย่เชินหลินไม่ยิ้มเลย เขาก้าวไปข้างหน้า แล้วมองหน้าลูกอย่างเงียบ ๆ
“คุณรีบพักผ่อนเถอะ ลูกก็ต้องการพักผ่อน คุณน้าก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว นอนพักหน่อยนะครับ ผมมีธุระต้องออกไปก่อน”
ส้งหลิงหลิงคิดว่าเย่เชินหลินจะไม่ไปไหนแล้ว ไม่คิดว่าการพูดสื่อความหมายให้เขาชัดเจนขนาดนี้แล้ว แต่สุดท้ายก็รั้งเข้าไว้ไม่ได้ สีหน้าของเธอเริ่มเศร้าลงทันที และดูเหมือนเธออยากร้องไห้
เย่เชินหลินไม่ได้มองเธอ เขาหันไปมองลูกอีกครั้งแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป
เขาไม่ได้ตั้งใจจะออกจากโรงพยาบาล เมื่อเห็นลูกนอนหลับแล้ว เขาแค่ตั้งใจออกไปโทรหาเซี่ยชีหรั่น เขาไม่อยากเฝ้าอยู่ในห้องนั้นตลอดเพื่อให้ส้งหลิงหลิงรู้สึกได้ใจแล้วคิดว่าเธอจะมีโอกาส
ด้านหลังโรงพยาบาลมีระเบียงทางเดิน เย่เชินหลินค่อย ๆ เดินออกไปนั่งลงที่ระเบียงแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นกำลังนั่งอยู่กับหลี่เหอไท้ในร้านกาแฟ เธอเริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว จากนั้นเตรียมตัวกลับไปทำงาน เขาทั้งสองจึงลุกขึ้นเช็คบิลแล้วกลับไปพร้อมกัน
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นกลับไปถึงออฟฟิศ หลี่เหอไท้ก็ได้โทรหาเย่เชินหลินโดยที่เธอไม่รู้
ขณะที่ทำงาน มือถือของเซี่ยชีหรั่นก็วางไว้บนโต๊ะทำงาน เธอกลัวจะพลาดสายของเย่เชินหลิน
หลี่เหอไท้ดูแลเธอเป็นพิเศษ แม้เธอจะเป็นเพียงหัวหน้าแผนก แต่เขาให้เธอมีออฟฟิศส่วนตัว และแม้เธอจะปฏิเสธอย่างไรแต่หลี่เหอไท้ยังคงยืนยันคำเดิม ส่วนตัวเธอก็ชอบการทำงานเป็นส่วนตัว พักหลังจึงไม่ได้ขอเปลี่ยน
เธอคิดว่าต้องตั้งใจทำงานให้มากกว่านี้ถึงจะคุ้มค่ากับความตั้งใจของหลี่เหอไท้
เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเสียงเพลงที่เธอคุ้นเคยที่สุด จึงรีบรับสายนั้น
“อยู่ไหนเหรอ?” เย่เชินหลินถาม
ถ้าถามแบบนี้ แสดงว่าเขายังไม่ได้กลับวิลล่า เพราะถ้ากลับไปแม่บ้านจะบอกเขาว่าเธอมาทำงานแล้ว
ลูกของส้งหลิงหลิงคลอดตั้งแต่เช้าแล้ว นี่มันก็ผ่านไปตั้งสามชั่วโมงกว่าแล้ว ทำไมเขายังอยู่โรงพยาบาล?
เซี่ยชีหรั่นรู้ตัวว่าอาจจะขี้น้อยใจไปหน่อยถ้าหากคิดแบบนั้น เพราะวันนี้ลูกของเขาคลอดทั้งที จะอยู่ในโรงพยาบาลทั้งวันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เธอก็อดคิดไม่ได้ เมื่อนึกภาพของเขาที่กำลังมองหน้าส้งหลิงหลิงด้วยความรักทีไร จิตใจเธอไม่สามารถสงบสักที บางทีความรักก็คือการเห็นแก่ตัว และสองวันนี้เธอได้สัมผัสมันอย่างลึกซึ้ง
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้พูดอะไร และเขาได้ยินเพียงลมหายใจอันแผ่วบางของเธอ น้อยมากที่เธอจะเงียบแบบนี้ หรือว่าเธอเป็นคนขึ้นหึงจริง ๆ ?
“คุณโกรธเหรอ?” เขาถามอีกครั้ง
“เปล่านี่ ฉันกำลังทำงาน มาทำงานที่บริษัทของพี่เหอไท้น่ะ เพิ่งมาเช้านี้เอง”
“จริงดิ? แล้วเป็นไงบ้าง?”
“ก็โอเคนะ กำลังปรับตัว” เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เธอคิดมากไปเองหรือเปล่า? ทำไมถึงรู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างเขาสองคนดูไม่เป็นธรรมชาติเลย ทำไมดูห่างเหินเหมือนคนแปลกหน้า?
“แล้วคุณล่ะ? ยังอยู่โรงพยาบาลเหรอ?” เธออดถามไม่ได้
“ใช่”
ลูกก็คลอดออกมาแล้ว ทั้งแม่ทั้งลูกก็ปลอดภัยดีทุกอย่าง แล้วทำไมเขายังอยู่ที่นั่น? คำพูดนี้ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจของเซี่ยชีหรั่น เธอตอบได้เพียง “อ้อ!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset