สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 713 สาวใช้ตัวแสบ 617

ตอนที่ 713 สาวใช้ตัวแสบ 617
“ทานมื้อเที่ยงด้วยกันนะ เดี๋ยวผมไปรับคุณ” เย่เชินหลินพูด
เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างขมขื่น เธออยากตอบตกลง แต่ไม่รู้ทำไม เมื่อคำพูดออกมาถึงปลายลิ้นก็ได้กลืนเข้าไป “ไม่ต้องแล้ว คุณยังมีธุระในโรงพยาบาลอีกมั้ง ไม่งั้นคุณคงกลับไปวิลล่าแล้ว คุณมาทานข้าวเสร็จแล้วต้องกลับไปอีก ลำบากคุณเปล่า ๆ อีกอย่างฉันรับปากพี่เหอไท้ไว้ว่าจะเลี้ยงมื้อเที่ยงแก ผิดนัดคงไม่ดี”
เพื่อไม่อยากให้เย่เชินหลินรู้ว่าเธอกำลังน้อยใจ จึงรีบหาข้ออ้าง
เย่เชินหลินเงียบไปสักพัก แล้วพูดต่อ “อื้ม โอเค งั้นคุณไปทานกับเขาก็ได้”
เธอพูดโกหกก่อน แต่เขาก็ตกลงให้เธอไปกินข้าวกับหลี่เหอไท้ ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกหดหู่ใจมาก
หลังจากวางสายลง เธอละเมออยู่สักพัก ถอนหายใจดัง ๆ แล้วค่อยทำงานต่อ
ส่วนเย่เชินหลินก็เหมือนกัน หลังจากวางสายลง เขายืนจ้องโทรศัพท์อยู่สักพักแล้วค่อยเดินกลับไปในโรงพยาบาล
เซี่ยชีหรั่นตั้งสมาธิแล้วทำงานต่อ เธอทำงานอยู่หน้าจอคอมอยู่สักพัก ก็มีคนมาเคาะประตู
“เชิญค่ะ!” เธอพูด หลี่เหอไท้เปิดประตูออกแล้วยืนพูดอยู่หน้าประตู “วันนี้ทานมื้อเที่ยงด้วยกันนะ เดี๋ยวผมจะพาคุณไปชิมอาหารอร่อยแถวนี้ ล่าสุดผมไปกินมาแล้ว รสชาติดีมาก”
หลี่เหอไท้ยังคงเป็นห่วงเซี่ยชีหรั่น จนทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจมาก แต่เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะพี่เหอไท้ เมื่อกี้เย่เชินหลินบอกจะเข้ามากินข้าวกับหนู หนูกำลังรอเขาอยู่ค่ะ”
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของหลี่เหอไท้ดังขึ้น เป็นสายจาก “แฟนสาว” ของเขาจงหยุนซาง โทรมาตอนนี้คงจะชวนกินข้าวด้วยกันแน่เลย
“ถ้าคุณมีนัด งั้นผมไปก่อนแล้วนะ ไปเดทละ” หลี่เหอไท้พูดอย่างอ่อนโยนแล้วกดรับสายนั้น “หยุนซาง”
เขาจะไปเดทกับพี่หยุนซางเหรอ? เซี่ยชีหรั่นรู้สึกดีใจมาก ไม่คิดเลยว่าเธอกับเย่เชินหลินเชียร์เขาสองคนมาตลอด สุดท้ายทั้งสองมีใจให้กัน ช่างน่ายินดีด้วยจริง ๆ
“ว่าจะชวนคุณทานข้าวเที่ยวด้วยกัน กำลังจะโทรหาพอดีเลย คุณโทรมาก่อนซะแล้ว” เพื่อจะให้ผู้หญิงรู้สึกสบายใจ หลี่เหอไท้จึงพูดแบบนั้น จงหยุนซางจึงยิ้มตอบ “เราไปทานร้านไหนดี? ครั้งนี้ฉันขอเลี้ยงนะ”
เธอรู้ดีว่าหลี่เหอไท้ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน การจะได้เป็นแฟนเขานั้นอาจถึงขั้นต้องขอร้องด้วยซ้ำ ถ้ากินฟรีเที่ยวฟรีกับเขาไปแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่
“คุณจะเลี้ยงเหรอ? โอเค ๆ เดี๋ยวผมหาร้านหรู ๆ สักร้านนะ” หลี่เหอไท้พูดด้วยน้ำเสียงที่มีคารมคมคาย แม้จะเป็นคำพูดธรรมดา แต่เมื่อพูดจากปากของเขานั้นมันก็แตกต่างจากคนอื่น จงหยุนซางรู้สึกดีกับการที่ได้ออกเดทกับผู้ชายที่ฉลาดและมีคารมแบบนี้ แม้ว่าความรู้สึกไม่ถึงกับหวั่นไหว แต่อย่างน้อยก็รู้สึกสบายใจและเป็นตัวของตัวเอง
ดู ๆ แล้ว หลี่เหอไท้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ เธอควรต้องระวังตัวเองแล้วล่ะ
เมื่อประตูปิดลง เซี่ยชีหรั่นก็ได้เห็นหลี่เหอไท้คุยกับจงหยุนซางอย่างสนิทสนม
“นึกได้แล้ว เราไปกินที่ภัตตาคารโรงแรมจินชึ่งไหม” หลี่เหอไท้พูด จงหยุนซางก็ตอบตกลง
“ผมจะไปถึงในเวลา 11:45 นาทีนะ ส่วนคุณก็แล้วแต่สะดวกนะครับ” หลี่เหอไท้พูดจบก็วางสายลง
เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นกำลังยิ้มในขณะที่แอบฟังเขาคุยโทรศัพท์กับจงหยุนซาง หลังจากวางสายเขายังยืนอยู่หน้าประตู แล้วแซวเธอ “เซี่ยชีหรั่น คุณเป็นคนชอบแอบฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเขินอายจนหน้าแดงทันที “หนูเปล่านะ หนูแค่รู้สึกดีใจที่พี่กับพี่หยุนซางจู๋จี๋กันแค่นั้นเอง”
คุณมีความสุขก็ดีแล้ว หลี่เหอไท้พูดในใจ
เย่เชินหลินกลับไปถึงแผนกผู้ป่วยในแต่ยังไม่ได้เข้าไปในห้องผู้ป่วยนั้น เขายืนที่หน้าประตูและไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูก แต่ได้ยินการสนทนาของนายหญิงส้งกับส้งหลิงหลิงในห้องนั้น
ทั้งสองคนคงมีเรื่องต้องคุยกัน จึงให้สาวใช้ออกไปในตอนนี้ลูกกำลังนอนหลับ
เย่เชินหลินไม่มีนิสัยที่ชอบแอบฟังเขาคุยกัน เขาจึงหันหลังเดินจากไป
นายหญิงส้งและส้งหลิงหลิงที่คุยกันอยู่ในห้องนั้นไม่รู้ว่าเย่เชิงหลินได้กลับมาแล้ว เขายังคงคุยกันอยู่
“เดี๋ยวลูกตื่น เธอก็ให้นมลูกนะ” นายหญิงส้งพูด
“แม่คะ หนูไม่อยากให้ลูกกินนม แม่ก็รู้อยู่ เดี๋ยวหุ่นหนูเปลี่ยนไปเย่เชินหลินก็ไม่สนใจหนูหรอก” ส้งหลิงหลิงพูดอย่างจริงจัง
“ถ้าเธอไม่ให้กิน แล้วรักษาหุ่นให้เหมือนเดิม เธอคิดว่าเขาจะมองเธอเหรอ? ชื่อจริง ๆ เลย! เธอสังเกตไหมว่าเขาให้ความสำคัญกับเด็กมากแค่ไหน เธอยิ่งสนิทกับเด็กมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งให้ความสำคัญกับเธอมากเท่านั้น ถ้าเธอไม่ให้ลูกกินนม ก็หมายความว่าใครมาเลี้ยงลูกแทนเธอก็ได้ แม่ว่าเขารักเด็กขนาดนี้ พรุ่งนี้คงหาแม่เลี้ยงมาแทนเธอแล้ว เธอเป็นแม่แท้ ๆ ก็จริง ถึงเวลาอาจจะไม่ใช่เธอที่เป็นคนให้นมลูก หุ่นจะสำคัญอะไรล่ะ เธอไม่เห็นพวกดาราเขายังไม่กลัวเลย บางคนยังมีลูกตั้งหลายคนและให้นมลูกเองด้วย หุ่นของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไป อีกอย่าง ถ้าหุ่นไม่ดีแล้ว ก็แค่ไปศัลยกรรมก็ได้แล้ว เธอฟังแม่นะ ต้องให้นมลูก ลูกถึงจะติดเธอ เธอคิดเองสิ ถึงเวลาเขาไล่เธอออกไปแล้วลูกร้องไห้งอแงหาแม่ เธอคิดว่าเขากล้าให้เธอไปไหนไหม?”
ประโยคสุดท้ายนี้ได้เข้าไปถึงข้างในใจของส้งหลิงหลิง เธอคิดมาตลอดว่าต้องรักษารูปร่างภายนอกอย่างเดียว เพราะกลัวจะสูญเสียงความเป็นเสน่ห์ของผู้หญิงไป
หารู้ไม่ สำหรับเย่เชินหลินแล้วเสน่ห์ที่สวยที่สุดของผู้หญิงคนหนึ่งคือการเป็นแม่ที่ดีของลูก
โชคดีที่แม่ของเธอเตือนเธอไว้ ไม่เช่นนั้นเธอก็คงเข้าไปผิดไปตลอด
“คุณแม่พูดถูกเหมือนกัน เฮ้อ! หนูทำไมคิดไม่ได้เลย? เดี๋ยวลูกตื่นแล้วแม่ช่วยอุ้มมาหาหนูหน่อยนะ สาวใช้ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าต้องให้นมลูกตั้งแต่แรกคลอด แม่ถึงจะมีน้ำนมได้”
“เด็กดี เชื่อฟังแม่ได้สักที”
……
ช่วงเที่ยงวัน เซี่ยชีหรั่นออกมาจากออฟฟิศแล้วเห็นพนักงานส่วนมากจะออกมากินข้าวกับเพื่อนหลาย ๆ คน จึงทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยว
แหงนมองขึ้นไปบนฟ้า แล้วเห็นท้องฟ้าสีคราม เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงชายคนนั้นอีก ตอนนี้เขาคงกินข้าวพร้อมกับส้งหลิงหลิงในโรงพยาบาลแล้วมั้ง
ผู้หญิงที่เพิ่งคลอดลูกคงจะอ่อนเพลียมาก เขาจะป้อนข้าวเธอไหมนะ?
ในขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามาใกล้เธอ ปฏิกิริยาแรกของเธอคิดว่าเย่เชินหลินมาหา แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะรถคันนี้คือรถที่ผู้ดูแลบ้านเรียกให้มาส่งเธอในเช้านี้
หน้าต่างรถค่อย ๆ ลดลงมา คนขับพูดกับเธอด้วยความเคารพ “คุณนายเย่ ขึ้นรถเลยครับ!”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัวแล้วยิ้มตอบกับเขาอย่างสุภาพ “ฉันไม่ต้องใช้รถแล้ว เดี๋ยวเดินไปข้างหน้าหาอะไรกินแถวนี้ก็พอ นี่มันก็เที่ยงแล้วนะ คุณไปกินข้าวก่อนเลยไม่ต้องห่วงฉัน”
“ไม่ได้ครับคุณนายเย่! ตระกูลเย่มีกฎของตระกูลเย่นะครับ พวกเราที่เป็นคนขับไม่สามารถทานข้าวก่อนที่คุณนายจะทานเสร็จและใช้รถให้เสร็จก่อนครับ คุณนายขึ้นรถเถอะครับ”
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าก่อนหน้านี้มีกฎดังกล่าวจริง ๆ และชายคนนั้นแหละที่เป็นคนตั้งกฎบ้า ๆ นี้ขึ้นมา เธอจึงจงใจจะต่อต้านเขา เธอยืนอยู่นิ่ง ๆ ด้วยใบหน้าเล็ก ๆ นั้นก็เริ่มมีสีหน้าจริงจังขึ้นมา
“ฉันจำได้ว่าคุณเย่เคยพูดไว้ ต่อไปทุกคนต้องฟังคำสั่งของฉันด้วย ในเมื่อเขาพูดแบบนี้แล้ว ฉันจะตั้งกฎใหม่ขึ้นมา ฉันจะเดินไปกินข้าวเอง ส่วนคุณก็ตามสบายค่ะ” เมื่อพูดจบ เธอหันหน้าแล้วเดินจากไป
มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่สองถึงสามร้อยเมตรข้างหน้า ไหน ๆ เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ได้รู้สึกหิวแล้ว เธอเลยคิดว่าหาอะไรกินเสร็จก็จะรีบกลับไปทำงานต่อ
ก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้านี้ก็รู้ว่าเป็นใคร
สีหน้าเธอแอบดีใจอยู่ชั่วขณะ แต่เมื่อนึกได้ว่าเขาโทรหาเธอในตอนนี้มีผู้หญิงคนอื่นอยู่ข้าง ๆ สีหน้าเธอก็กลับมาเศร้าเหมือนเดิม เธอจ้องโทรศัพท์อยู่สักพักถึงค่อย ๆ กดรับสายนั้น
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ามีคนเดินมาจากด้านหลัง เธอไม่ทันหันกลับไปมองก็รู้คนเข้ามาสวมกอดเธอไว้แน่น ๆ จากด้านหลัง ตามด้วยกลิ่นอายที่คุ้นเคยก็สามารถสัมผัสได้ว่าคือเขาคนนั้น
อ้อมกอดนี้ไม่สามารถคุ้นเคยได้มากกว่านี้อีกแล้ว เธอพยายามหันกลับไปอย่างสงสัย
“จะกินแค่นี้เหรอ?” เย่เชินหลินสีหน้าเคร่งขรึมแต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรัก
คุณยังสนใจว่าฉันจะกินอะไรเหรอ คุณมีลูกแล้ว และมีแม่ของลูกด้วย ฉันคิดว่าคุณคงจะลืมโลกทั้งใบไปแล้ว
“ใช่ เมื่อก่อนตอนเรียนฉันต้องกินวันละชามเลยนะ อร่อยมาก” เซี่ยชีหรั่นพูด
“จริงเหรอ? เลี้ยงข้าวท่านประธานหลี่ทั้งที เธอพามาเลี้ยงแค่บะหมี่ชามเดียว คงไม่ดูแย่ไปหน่อยเหรอ?” เย่เชินหลินถามอย่างติดตลก แต่บางที เขาคงยิ้มได้ก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยชีหรั่นเท่านั้น
ตั้งแต่ลูกของเขาคลอดออกมาจนถึงตอนนี้ เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เขาก็ได้พบเจอกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิต และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อาจจะมากกว่าไม่กี่ปีด้วยซ้ำ ที่เขาต้องทุกข์ใจกับเรื่องของลูกคนนี้อีก
โชคดีที่เขายังมีเซี่ยชีหรั่น ชีวิตของเขาจึงไม่ได้มีเพียงความเย็นชาเหมือนที่ผ่านมา
เซี่ยชีหรั่นเพิ่งนึกได้ว่าเธอโกหกเขาไว้ว่าจะเลี้ยงข้าวหลี่เหอไท้ แต่ตอนนี้กลับมากินบะหมี่คนเดียว เหมือนว่าเธอถูกจับผิดได้แล้ว ตอนนี้รู้สึกเขินอายจนทำตัวไม่ถูก
“เฮอ ๆ พี่เหอไท้มีนัดกะทันหัน เขาไปทานข้าวกับพี่หยุนซางแล้ว” เซี่ยชีหรั่นพยายามอธิบายด้วยเสียงเบา ๆ
การปรากฏตัวของเย่เชินหลินแบบนี้ เหมือนว่าเขาตั้งใจจะเซอร์ไพรซ์เธอ และความเศร้าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาก็ดูเหมือนจะจางหายไปในทันที
“เขาคบกันตั้งแต่เมื่อไหร?” ความสนใจของเย่เชินหลินก็ถูกคำพูดของเซี่ยชีหรั่นดึงดูดไปแล้ว
“ไม่แน่ใจนะ น่าจะช่วงนี้แหละ จริงสิ คุณมาหาฉันได้ไง ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลแล้วเหรอ?”
“เรื่องกล้วย ๆ” เมื่อพูดจบ เย่เชินหลินหันหน้าของเซี่ยชีหรั่นมา มือแตะตรงที่คางของเธอแล้ววางจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล
สำหรับมนุษย์เราแล้ว การจูบคือการปลอบประโลมบรรเทาจิตใจที่ดีที่สุด
ต่อให้จะโกรธแค่ไหน ขอเพียงเขาจูบเธอเบา ๆ ก็จะรู้สึกถึงดอกไม้ที่กำลังเบิกบานในฤดูใบไม้ผลิทันที
บนถนนที่มีผู้คนสัญจรมากมาย คู่รักคู่หนึ่งกำลังสวมกอดกันไว้แน่น ๆ แล้วจูบกัน
หลังจากอินกับอารมณ์ไปสักพัก เซี่ยชีหรั่นถึงนึกได้ว่าเขาอยู่กลางถนน ท่านกลางผู้คนมากมายที่กำลังมองเขาอยู่ เธอจึงรีบผลักเขาออกไป
เย่เชินหลินรู้ว่าเธอขี้อายและไม่ฝืนใจจูบเธอ เขาทำตามความต้องการของเธอแล้วปล่อยเธอออก
เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่ขออะไรมากมายจากเขา ตัวเขารู้ดี แต่ ณ ตอนนี้ เขารู้สึกว่าให้เธอน้อยเกินไป แม้เธอจะเป็นผู้หญิงที่ไม่ต้องการอะไรมากมายก็ตาม แต่สุดท้ายแล้ว ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สม่ำเสมอเขาก็กลับให้เธอไม่ได้อยู่ดี

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset