สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 716 สาวใช้ตัวแสบ 620

ตอนที่ 716 สาวใช้ตัวแสบ 620
“ผมกลับออฟฟิศก่อนละนะ คุณเพิ่งเข้ามาทำงาน อย่าเพิ่งซีเรียสกับงานเกินไปนะ ค่อย ๆ ปรับตัวไปก่อน” หลี่เหอไท้พูดด้วยความเป็นห่วง
“หนูชินแล้วค่ะ วันนี้ก็รู้สึกปรับตัวได้แล้ว หนูต้องขยันมากกว่านี้ถึงจะคุ้มค่าสำหรับพี่เหอไท้ที่ดูแลหนูเป็นพิเศษ จริงด้วย วันหลังในบริษัทหนูขอไม่เรียกพี่ว่าพี่เหอไท้นะคะ เหมือนมันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ หนูขอเรียกประธานหลี่เหมือนพนักงานคนอื่นดีกว่านะ”
“เรียกพี่เหอไท้นั่นแหละ ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสมหรอก” เมื่อหลี่เหอไท้พูดคำนี้ แต่เขาไม่ได้ยิ้มแย้มและอ่อนโยนเหมือนปกติ สีหน้าของเขาตอนนี้ดูค่อนข้างจริงจังมากขึ้น
เซี่ยชีหรั่นนึกถึงไห่ลี่หมินและเย่เชินหลินเขาต่างก็ให้ความสำคัญกับชื่อที่ถูกเรียก และคิดว่าหลี่เหอไท้ก็เหมือนกับพวกเขาสองคน เธอจึงยิ้มเล็กน้อย แล้วคิดว่าบางทีผู้ชายก็ไร้เดียงสาจริง ๆ แค่ชื่อที่ถูกเรียกจะจริงจังไปถึงไหน
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่ชายของเธออยู่ดี ถ้าเขายืนยันแบบนี้แล้วเธอก็ต้องเรียกตามนั้น
“พี่เหอไท้ พี่ไปยุ่งเรื่องของพี่ก่อนเลยค่ะ หนูก็จะเริ่มทำงานละ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มพูด
เธอไม่ได้คิดอะไรมาก และเรียกเขาตามความเคยชินอีกครั้ง แต่หลี่เหอไท้อารมณ์ดีมาก เขายิ้มพูดต่อ “ได้ครับ ผมไปยุ่งเรื่องของผมก่อนละ คุณมีธุระอะไรไปหาผมที่ออฟฟิศได้นะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องส่วนตัว คุยกับผมได้นะ”
“ค่ะ ขอบคุณพี่เหอไท้นะคะ รู้สึกดีจริง ๆ ที่มีพี่ชายคนนี้” เซี่ยชีหรั่นยิ้มพูดอย่างมีความสุข
หลี่เหอไท้ให้เธอเป็นคนพิเศษโดยไม่รู้ตัวแล้ว เพราะเขาเป็นคนจดจ่อกับการทำงานมาก และในเวลาทำงานเขาไม่ชอบให้ใครมารบกวนเลย แต่เขายินดีต้อนรับสำหรับการรบกวนจากเซี่ยชีหรั่น นั่นหมายถึงอะไรใจเขารู้ดี
แค่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนชอบฝืนใจคนเท่าไหร่และไม่ได้เป็นคนที่ทุกคนเข้าหาได้หมด ดังนั้น ในสถานะแบบนี้เธอจึงยอมรับความช่วยเหลือจากเขา และคิดว่าเขาเป็นเพื่อนหรือพี่น้อง
เย่เชินหลิน ถ้านายยังไม่รักษาไว้ดี ๆ ความกังวลของนายอาจจะเป็นจริงได้ ผมน่ะเป็นหมาป่าที่มีความอดทนสูงนะ
และแน่นอน เขารู้ดี ว่าหมาป่าที่อดทนนั้นไม่ได้มีเพียงเขาคนเดียว ยังมีไห่ลี่หมินอีกคนที่ไม่เคยละเลิกความตั้งใจ และยังประกาศให้โลกรู้ว่าเขาจะรักเซี่ยชีหรั่นคนเดียวเสมอ
แต่เขาและหลี่เหอไท้ทั้งสองก็ยังคงสู้เย่เชินหลินไม่ได้อยู่ดี
ข้อได้เปรียบของเย่เชินหลินก็คือการที่เซี่ยชีหรั่นได้พบเจอและตกหลุมรักเขาก่อน หากว่าเธอได้พบเจอกับหลี่เหอไท้ก่อน และความสัมพันธ์ระหว่างเขาเหมือนตอนนี้ล่ะก็ เขามั่นใจว่าเซี่ยชีหรั่นจะตกหลุมรักเขาและจะรักมากว่ารักเย่เชินหลินด้วยซ้ำ
หลังจากที่หลี่เหอไท้ออกไป เซี่ยชีหรั่นกำลังวางแผนงานโปรเจคหนึ่งอย่างจริงจังอยู่ แล้วไห่ลี่หมินได้โทรเข้ามาหาเธอ
หลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้น ไห่ลี่หมินอยากติดต่อเซี่ยชีหรั่นตลอด แต่ก็หาเหตุผลที่เหมาะสมไม่ได้ เพราะเธอเป็นผู้หญิงของน้องชาย ถ้าจะติดต่อเธอเป็นการส่วนตัว แม้จะไม่เคยคิดร้ายแต่มันก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี
แต่วันนี้เขามีเรื่องมาถามเธอพอดี
“ลี่หมิน ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? ฉันคิดว่าจะโทรหาคุณอยู่พอดีเลย แต่ช่วงนี้ยังไม่ว่างจริง ๆ” เขาสองคนรู้จักกันมานานพอสมควรในตอนที่อยู่เมืองหลินเจียงเขาถือว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมาก เซี่ยชีหรั่นเป็นคนอ่อนไหวและให้ความสำคัญกับความเป็นเพื่อนมาก เมื่อห่างจากไห่ลี่หมินมาสักพัก จะให้เธอลืมเขานั้นก็เป็นไปไม่ได้เหมือนกัน
“ฮ่า ๆ อยากติดต่อผมมาตลอดเหรอ? ผมคิดว่าคุณกลับไปหาเขาแล้วจะลืมผมไปสนิทเลยมากกว่านะ” ไห่ลี่หมินยิ้มพูด
ถ้าเธออยากติดต่อเขาจริง ๆ คงไม่ถึงกับไม่มีเวลาหรอก แต่เธอกลัวความหึงหวงมาครอบงำมากกว่า และเขาก็รู้สิ่งนี้ดี
“จะลืมได้ไงละ คุณดูแลฉันดีขนาดนี้ ฉันอยากโทรหาคุณเหมือนกันนะ แต่คุณก็รู้ดีนี่ เขาคนนั้นเอาแต่ใจ ขี้หึงด้วย ฉันกลัวเขาจะคิดมาก” เซี่ยชีหรั่นอธิบายอย่างตรงไปตรงมา
“ผมเข้าใจ วันนี้ที่โทรหาก็มีเรื่องอยากถามเหมือนกัน ได้ข่าวว่าส้งหลิงหลิงคลอดแล้วเหรอ?”
“ใช่ คลอดแล้ว”
“หลังคลอดเย่เชินหลินยังดีกับต่อคุณไหม? อย่าลืมสิ่งที่ผมเคยพูดกับคุณนะ ถ้าเขาไม่ดีต่อคุณเมื่อไหร่ก็ปล่อยเขาไปเลยนะ อย่าทรมานตัวเอง”
เซี่ยชีหรั่นเงียบไปสักพัก ตอนเช้าหลี่เหอไท้ ตอนบ่ายไห่ลี่หมิน คำพูดทั้งสองคนไม่ต่างกันเลย ต่างก็กลัวเธอถูกทำร้าย คนอย่างเซี่ยชีหรั่นจำเป็นต้องให้ผู้คนมาเฝ้าเป็นห่วงเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?
เธอไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ตอนนี้เธอมีเย่เชินหลินที่รักเธอ และมีอีกหลายต่อหลายคนที่คอยห่วงใยเธอ เธอช่างมีความสุขเหลือเกิน และต่อให้ลูกของส้งหลิงหลิงจะกระทบกับชีวิตของเธอบ้าง แต่เมื่อเทียบกับชีวิตเมื่อก่อนที่คุณย่าก็ไม่ดูแลคุณน้าก็ไม่รักนั้น เธอเหมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ในบนสวรรค์แล้ว
จะมีใครที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบไปหมด?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเธอก็ดูผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
“เขาก็ดีกับฉันมากเลยนะ ลี่หมิน ระหว่างชีวิตคู่ของฉันกับเขาก็ไม่ได้ถูกลูกของส้งหลิงหลิงส่งผลกระทบอะไรมากมายหรอกนะ”
“งั้นก็ดีแล้ว ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรคุณโทรหาผมได้ทุกเมื่อนะ ต่อให้คุณไม่อยากปล่อยเขาไปก็ให้ผมได้สั่งสอนเขาบ้าง” น้ำเสียงไห่ลี่หมินดูมั่นใจมาก และเซี่ยชีหรั่นก็ยิ้มตอบเขา “แน่นอนสิ ถ้าเขาทำให้ฉันเสียใจ ฉันจะบอกคุณนะ ให้คุณสั่งสอนเขา ซ้อมให้มันช้ำบวมตายไปข้างหนึ่งเลย”
ถ้าเธอยอมให้ทำแบบนั้นคงแปลก ไห่ลี่หมินคิดในใจ
……
หลังจากผู้ดูแลบ้านพาแม่บ้านมาถึง เย่เชินหลินก็มองไปที่ลูก หยุดร้องไห้แล้ว ตอนนี้ลูกกินอิ่มและนอนหลับไปอย่างสนิท
“หลิงหลิง สองคนนี้ร่างกายแข็งแรงมาก ตอนคุณไปเข้าห้องน้ำให้เขาสองคนดูแลคุณได้ ส่วนเรื่องอื่นให้ผู้ดูแลบ้านจัดการให้ ผมจะต้องเข้าบริษัท คงไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุณที่โรงพยาบาลแล้ว สองวันนี้ถ้าไม่มีอะไรผมจะไม่แวะเข้ามานะ ส่วนเรื่องเอกสารออกโรงพยาบาลหลินหลิงจะจัดการให้ คุณออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับไปที่วิลล่าก่อนเลยนะ ดูแลลูกดี ๆ อย่าให้ลูกร้องไห้” เย่เชินหลินสั่ง
เขาจะไปแบบนี้เลยเหรอ? แล้วบอกว่าจะไม่เข้ามาอีก? ส้งหลิงหลิงถอนหายใจดัง ๆ ข้างในใจ เธอไม่เต็มใจแต่ทำได้เพียงคิดในใจ จะรั้งเขาไว้ก็ทำไม่ได้
แล้วเธอจะทำอะไรได้อีก เพื่อจะออกไปจากที่นี่ให้ได้เขาจึงหาคนมาดูแลเธอเพิ่มอีกสองสามคน ที่ทีมงานที่คอยดูแลเธอเป็นพิเศษขนาดนี้ ต่อให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นมาคงไม่ใช่ปัญหาแล้วล่ะ ตอนนี้เธอไม่มีเหตุผลจะรั้งเข้าไปได้จริง ๆ
ส้งหลิงหลิงทำได้เพียงเฝ้ามองเย่เชินหลินเดินจากไป หลังจากที่เขาออกไปเด็กก็เริ่มร้องไห้อีก ครั้ง เมื่อเย่เจิ้งเหิงตัวน้อยร้องไห้ขึ้นมาจะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ง่าย ๆ ซึ่งพวกเขาหลายคนต้องใช้ความพยายามมากถึงจะทำให้เด็กหยุดร้องไห้ได้
ส้งหลิงหลิงมองหน้าลูก แล้วคิดในใจ ทำไมไม่ร้องไห้ตอนพ่ออยู่ล่ะ ถ้าร้องตอนพ่ออยู่พ่อก็คงไม่ไปไหนแล้ว
ลูกรักเอ๋ยลูกรัก ต่อไปลูกต้องช่วยแม่บ้างนะ เป็นแบบนี้อีกไม่ได้แล้วนะ
หลังออกจากโรงพยาบาลเย่เชินหลินก็ตรงไปที่บริษัทเลย นับตั้งแต่รับมรดกจากแม่แล้วเขาได้สัญญากับตัวเองไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่ส่งผลกระทบต่อการงานของเขา
เพราะเขามีหลินหลิงและหลินต้าฮุยเป็นผู้ช่วยหลักของเขา ร่วมถึงมีผู้บริหารสาขาที่มือฝีมืออีกหลายคน จึงทำให้งานส่วนใหญ่ของเขาไม่ได้หนักมากนัก
เมื่อทันทีที่กลับไปถึงบริษัท เขาก็เก็บเรื่องส่วนตัวไว้และเข้าสู่ภาวะการทำงานปกติอย่างรวดเร็ว เขาพยายามจัดการเรื่องที่จำเป็นให้เสร็จก่อน เผื่อจะมีเวลาให้กับเซี่ยชีหรั่นมากขึ้น
เซี่ยชีหรั่นเดินออกจากออฟฟิศหลังเลิกงาน ก็เห็นเซี่ยอี้ชิงเดินเข้ามาหาเธอ เขาผ่านการฝึกฝนมาจึงรู้ว่าไม่ควรรบกวนคนที่เขาดูแลความปลอดภัยอยู่ ดังนั้นเขาจึงรอจนกว่าเซี่ยชีหรั่นจะเลิกงานค่อยเข้ามารายงานตัว
“คุณเซี่ยครับ ผมมารายงานตัวครับ! คุณเย่ให้ผมเรียกคุณว่าคุณเซี่ยและมอบหมายให้ผมเป็นผู้ช่วยของคุณครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็เรียกใช้ผมได้เลยนะครับ”
ตระกูลส้งก็ล่มสลายไปแล้ว และเซี่ยชีหรั่นไม่คิดว่าจะมีใครมาคุกคามเธออีก อันที่จริงไม่จำเป็นต้องให้ใครมาคอยติดตามเฝ้าดูแลเธอหรอก
แต่เธอรู้ว่าเย่เชินหลินไม่ไว้ใจจึงทำเช่นนี้ เธอไม่อยากให้เขาต้องยุ่งกับการงานและต้องดูแลลูกน้อย แถมไม่พอยังต้องมาคอยเป็นห่วยเรื่องความปลอดภัยของเธออีก แม้มันไม่จำเป็น แต่เพื่อความสบายใจของเขา เธอจึงยอม
“โอเค งั้นคุณก็ตามฉันมานะ รบกวนคุณแล้ว”
“ไม่รบกวนหรอกครับ นับเป็นเกียรติของผมที่ได้ดูแลคุณเซี่ยครับ” เซี่ยอี้ชิงพูดด้วยความจริงใจ
เมื่อเทียบกับบอดี้การ์ดทั่วไป เซี่ยอี้ชิงทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกสบายใจมากกว่า อาจเพราะว่าเขาอายุน้อยกว่าเธอ จึงคิดว่าเขาเป็นน้องชายเธอคนหนึ่ง
เย่เชินหลินก็คิดแบบนี้เหมือนกัน อีกอย่างเขารู้ว่าเซี่ยอี้ชิงมีแฟนสาวแล้ว และอายุของเขาก็ต่างกับเซี่ยชีหรั่นบ้าง จึงคิดว่าเขาจะไม่ตกหลุมรักเธอหรอก อีกอย่างเขาเป็นคนมีไหวพริบดีอารมณ์ขัน ถ้าเขาได้ติดตามเซี่ยชีหรั่น เขาจะสามารถบรรเทาความเครียดของเธอไปด้วยและเป็นผู้คุ้มกันเธอไปด้วย ดีกว่าปล่อยให้เธอต้องอยู่เหงา ๆ คนเดียว
“พี่เซี่ย ขึ้นรถเถอะครับ!” เซี่ยอี้ชิงพูดจบก็หันไปเปิดประตูรถให้กับเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินไม่ได้นัดเจอกันเย็นนี้ เธอไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ค้างคืนที่โรงพยาบาลเหมือนเมื่อคืนอีกหรือไม่ เธอคิดว่าถ้ากลับไปอยู่คนเดียวที่วิลล่าคงต้องคิดถึงเขาอย่างไม่จบไม่สิ้นแน่นอน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าจะกลับบ้านแม่
เย่เชินหลินนั่งอยู่แถวหลังในรถนั้น กำลังยิ้มมองเซี่ยชีหรั่นอยู่บนรถที่ผู้ดูแลบ้านกำลังจะพาเธอขึ้นไป หลังขึ้นรถเธอรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของผู้ชายคนนั้น และเมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นเขานั่งอยู่ในรถ
“หลิน? คุณมาได้ไง ทำไมไม่บอกฉัน? ฉันคิดว่าคุณจะ……” เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเซอร์ไพรซ์มาก เย่เชินหลินถาม “ทำไมเหรอ?”
“เปล่า เปล่า” หลังจากเซี่ยชีหรั่นขึ้นไปนั่งบนรถ เซี่ยอี้ชิงปิดประตูแล้วรีบขึ้นไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ
เย่เชินหลินโอบกอดเซี่ยชีหรั่น แล้วเข้ามากระซิบข้างหูเธอ “ถ้าผมไม่มา คุณก็จะกลับบ้านแม่คุณล่ะสินะ”
“คุณรู้ได้ไง?”
“เรื่องกล้วย ๆ ผมต้องรู้อยู่แล้ว กลับบ้านกับผมนะ”
“อื้ม”
กลับบ้านกับเขา คำนี้ฟังแล้วทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจเหลือเกิน เซี่ยชีหรั่นพิงอยู่กลางอกของเย่เชินหลินเบา ๆ ขอเพียงเขาอยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกอุ่นใจเสมอ
เย่เชินหลินก็เหมือนกัน ต่อให้มีเรื่องมากมายให้กังวล ถ้าได้อยู่ข้างเธอ ลูบเส้นผมเธอเบา ๆ เหมือนตอนนี้ ความกังวล ความเศร้า ทุกอย่างก็จางหายไป
ทั้งสองกลับไปถึงวิลล่า ต้องชมผู้ดูแลและบ้านแม่บ้านที่จัดการงานบ้านได้ดีเยี่ยมมา ต่อให้ต้องไปทำงานที่โรงพยาบาล แต่ก็ได้เตรียมอาหารเย็นให้เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นอย่างเอาใจใส่
เขาทั้งสองกลับไปพักผ่อนสักพัก เปลี่ยนชุดลงมาแล้วรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
โม่เสี่ยวหนงคิดว่าเธอต้องหารวิธีช่วยเซี่ยชีหรั่นให้ได้ แต่ไม่กล้าคิดจะทำร้ายเด็ก เธอเพียงคิดว่าจะหาวิธีให้ส้งหลิงหลิงพาลูกออกไปจากบ้านหลังนี้ให้ได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset