สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 724 สาวใช้ตัวแสบ 628

ตอนที่ 724 สาวใช้ตัวแสบ 628
พ่อบ้านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา ภายในใจของเขานั้นรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก
สองสามวันมานี้ เย่เชินหลินนั้นให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้เป็นพิเศษ เขานั้นเป็นพ่อแท้ๆของเด็กคนนี้ แน่นอนว่าเขาจะต้องรักเด็กคนนี้มากขึ้น แต่ก็ไม่เคยพูดเลยว่าไม่อนุญาตให้เด็กคนนี้ร้องไห้
เขาคิดว่า ถ้าหากเซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเย่เชินหลินนั้นให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้มากขนาดนี้ ไม่ยอมให้ทำให้เด็กคนนี้ร้องไห้ เธอคงจะเสียใจมาก?
เซี่ยชีหรั่นเป็นแม่ศรีเรือนที่ไม่เห็นแก่ตัว เขารู้ว่านี้ไม่ใช่ยุคสมัยก่อนที่ฮองเฮาจะดูแลลูกของสนมเหมือนลูกของตนเอง นี่ไม่ใช่ยุคสมัยนั้นแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่เห็นแก่ตัว แต่เธอก็ต้องรู้สึกทรมานใจเป็นแน่
“คุณส้ง คุณไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ ได้ยินมาว่าผู้หญิงที่อยู่ไฟยืนนานๆจะไม่ดี”พ่อบ้านพูดขึ้น เนื่องจากไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่น อยู่เผชิญหน้ากับส้งหลิงหลิงนานๆ
เขานั้นรู้จักส้งหลิงหลิงเป็นอย่างดี และดูออกว่าการที่หล่อนจะให้เซี่ยชีหรั่นอุ้มลูกของหล่อนนั้นต้องไม่ได้มีเจตนาที่ดีแน่
“ไอโย่ว ฉันรู้แล้ว พวกคุณกำลังหลบหลีกกันอยู่ กลัวว่าฉันจะใช้เด็กคนนี้ออกอุบายอะไรใช่ไหม?ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเลย ก็แค่กำลังคิดว่า ต่อไปคุณกับเย่เชินหลินก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เด็กคนนี้ก็เกิดมาแล้ว ต่อไปคุณก็คือแม่ของเขาครึ่งหนึ่ง ไม่แน่ว่าวันหนึ่งเด็กคนนี้อาจจะต้องฝากฝังไว้กับคุณ ดังนั้นฉันก็แค่อยากจะรู้ว่า เด็กคนนี้จะอยู่กับคุณได้ไหม เด็กคนนี้เป็นลูกแท้ๆของฉัน ฉันคงไม่ออกอุบายให้เด็กคนนี้ตายตอนที่คุณอุ้มหรอก?หากสามารถที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ คนๆนั้นจะต้องมีจิตใจที่โหดเหี้ยมขนาดไหน อีกทั้งคนก็อยู่กันตั้งเยอะตั้งแยะ หากฉันต้องการทำเช่นนั้นจริงๆ ก็ยังมีโอกาสอีกมาก”
เซี่ยชีหรั่นทำเพียงยิ้มเบาๆและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า:“คุณคิดมากเกินไปแล้ว ที่ฉันไม่อุ้มนั้นเป็นเพราะฉันเห็นว่าเด็กกำลังนอนหลับอยู่ ฉันแค่กลัวว่าเขาจะตื่น ฉันไม่เคยมีประสบการณ์ในการกล่อมเด็ก กลัวว่าหากทำเด็กตื่นจะไม่สามารถกล่อมเขาให้เงียบลงได้ หากคุณต้องการที่จะอยู่ไฟที่นี่ ก็คงจะต้องเลี้ยงเด็กคนนี้ที่นี่ ยังมีโอกาสอีกมาก รอให้เขานั้นตื่นก่อนฉันค่อยอุ้ม ไม่ต้องรีบร้อน”
“ฉันคิดว่าคุณส้งนั้นเข้าใจผิดแล้ว พี่สาวของฉันพูดกับฉันเสมอว่า เด็กคนนี้นั้นเป็นลูกของพี่เขย ดังนั้นก็เป็นลูกของเธอด้วย เธอจะต้องดูแลเป็นอย่างดีเหมือนลูกของเธออย่างแน่นอน ไม่ใช่แต่เธอเพียงคนเดียว แม้แต่ฉันที่เห็นว่าเด็กคนนี้นั้นน่ารักขนาดนี้ ฉันก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ต่อไปฉันจะช่วยพี่สาวดูแลเด็กคนนี้เอง ในเมื่อพี่เขยของฉันก็เอ่ยปากแล้วว่าเด็กคนนี้คุณนั้นไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อครบหนึ่งเดือนแล้ว คุณอยากจะไปทำอะไรก็ไหนก็ไป ทิ้งเด็กไว้ที่นี่”โม่เสี่ยวหนงดึงแขนของเซี่ยชีหรั่นไว้ และมองส้งหลิงหลิง อย่างเย้ยหยัน ด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ
เธอยังจำตอนที่เธอมาอยู่บ้านตระกูลเย่ใหม่ๆ ส้งหลิงหลิงนั้นพยายามดึงเธอมาเป็นพวก และหลังจากนั้นส้งหลิงหลิงก็มอบความเป็นศัตรูให้กับเธอ พูดจากับเธอด้วยคำพูดเหล่านั้น เวลานี้เธอสามารถเอาคืนหล่อนได้ ทำให้ภายในใจของเธอนั้นรู้สึกคลายความแค้นลงได้ไม่น้อย
สีหน้าของส้งหลิงหลิงนั้นเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ จึงได้กระซิบพูดกับโม่เสี่ยวหนงประโยคหนึ่งว่า:“เสี่ยวหนง อย่าพูดจาเหลวไหล”
“ฉันไม่ได้พูดจาเหลวไหล พี่เขยก็พูดเช่นนั้นจริงๆไม่ใช่เหรอ?หรือว่าที่นี้จะมีผู้หญิงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกันตลอดไป?”โม่เสี่ยวหนงยังคงพูดไม่หยุด และไม่กลัวเลยว่าเด็กที่หลับอยู่นั้น จะถูกปลุกจนตื่น
“ไปเถอะเสี่ยวหนง เดี๋ยวเด็กจะตกใจตื่น มีอะไรจะพูดก็ค่อยว่ากัน”ขณะที่เซี่ยชีหรั่นพูดก็ดึงเสี่ยวหนงออกมา
ส้งหลิงหลิงจ้องมองเงาหลังของเซี่ยชีหรั่นและโม่เสี่ยวหนง โดยสีหน้านั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกใดใด
หากไม่ได้เป็นเพราะว่ามีคนจ้องมองอยู่หลายคน เธอก็คงแสดงความโกรธแค้นออกมาทางสีหน้า แต่ตอนนี้ทำเช่นนั้นไม่ได้
“ไปเถอะ หลิงหลิง คุณก็จริงๆเลยนะ แม้ว่าจะทำเพื่อเด็ก แต่ก็ไม่ควรที่จะพอกลับมาถึงก็ให้เซี่ยชีหรั่นเข้าใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กเช่นนั้น รู้ว่าคุณปรารถนาดีต่อเด็ก คนที่ไม่รู้ก็จะเข้าใจเจตนาของคุณผิด เด็กโง่ ลูกอยู่ในช่วงอยู่ไฟ อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเลย วางใจรักษาตัวเถอะ”นายหญิงส้งพยุงลูกสาว และพูดด้วยเสียงเบาว่า
“ได้ค่ะแม่พวกเราขึ้นบ้านเถอะ”
ส้งหลิงหลิงขึ้นบ้านไปกับแม่ แม้ว่ารอยผ่าตัดจากการคลอดลูกตอนนี้จะดีขึ้นแล้ว แต่เธอก็กลัวว่าแผลจะปริออก ดังนั้นทุกครั้งที่เธอเดิน เธอจะตั้งใจเป็นพิเศษ
“พวกคุณไม่ต้องรอฉันหรอก อุ้มเด็กขึ้นไปเถอะ พ่อบ้านรบกวนคุณช่วยจัดการให้ด้วย”ส้งหลิงหลิงพูดกับพ่อบ้านโดยตั้งใจใช้คำว่ารบกวนสองคำนี้
สองสามวันมานี้เธอคิดได้แล้วว่า การที่เธอได้อยู่ในบ้านหลังนี้นั้นมันไม่ง่ายนัก ดังนั้นเธอจะต้องระมัดระวังทุกสี่ก้าว อย่าให้เย่เชินหลินเจอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเธอได้
“ผมจะจัดการให้เรียบร้อย คุณเย่ได้สั่งไว้แล้วครับ”พ่อบ้านตอบอย่างราบเรียบ หลังจากนั้นก็ออกคำสั่งให้คนรับใช้และพี่เลี้ยงเด็กตามขึ้นไปข้างบน
ส่วนของอย่างอื่นหลินหลิงก็ได้จัดการหาซื้อเรียบร้อยแล้วและค่อยๆย้ายเข้ามา
เด็กยังอายุไม่ครบเดือน ยังไม่สามารถที่จะนอนในห้องเด็กอ่อนได้ ดังนั้นเขาจึงได้นอนที่ห้องนอนใหญ่กับส้งหลิงหลิงบนชั้นสอง
เมื่อส้งหลิงหลิงเดินมาถึงชั้นสอง แต่ก็ยังมีใจเหลือบลงมามองที่ชั้นล่าง ในใจก็คิดว่าเธอจะต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถชนะเซี่ยชีหรั่นได้
เดิมทีเธอนั้นคิดว่าใช้โม่เสี่ยวหนงเป็นเครื่องมือ แต่เมื่อถึงเวลานี้เธอนั้นเกลียดโม่เสี่ยวหนงพอๆกับเซี่ยชีหรั่น หากมีวิธียิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวและทำลายสองคนนั้นไปพร้อมๆกันก็คงจะดีไม่น้อย
น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอกำลังอยู่ไฟ ไม่สามารถเดินเหินได้ตามอำเภอใจ มิฉะนั้นแล้วเธอก็คงเตรียมที่จะวางยา และหาวิธีที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิผลที่สุดในการส่งให้โม่เสี่ยวหนงขึ้นเตียงกับเย่เชินหลิน
“หลิงหลิง ลูกกำลังคิดอะไรอยู่?”นายหญิงส้งถามขึ้นด้วยเสียงเบา
ใช่แล้ว!แม่ของเธอนั้นอยู่ที่นี่ แม่เป็นแขก อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป
ในเมื่อไม่มีเซียวเสี่ยวลี่ ก็ดูเหมือนว่าจะมีแต่แม่ของเธอเท่านั้นที่จะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้กับเธอได้
เพียงแต่ว่าท่านอายุปูนนี้แล้ว จะให้ท่านไปติดต่อหาซื้อยาเสียสาวก็คงไม่ง่ายนัก ท่านไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน เธอจำเป็นต้องหาเวลาพูดคุยเรื่องนี้กับท่านเป็นการส่วนตัวเสียก่อน
เรื่องนี้จำเป็นต้องทำแบบให้ไร้ข้อบกพร่องที่สุด ไม่ควรให้มีอะไรติดขัดแม้แต่อย่างเดียว มิฉะนั้นแล้วได้ไม่คุ้มเสีย เธอและแม้ของเธอจะต้องถูกไล่ออกจากบ้านอย่างแน่นอน
“เธอกำลังคิดว่าจะอบรมเลี้ยงดูเด็กคนนี้อย่างไรให้ดี เธอรู้สึกกดดันหลังจากที่คลอดเด็กคนนี้ออกมา ไม่รู้ว่าจะสอนอย่างไรเพื่อให้เขากลายเป็นความหวังที่พ่อของเขาต้องการ”ส้งหลิงหลิงถอนหายใจแล้วพูดว่า แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าแม่ของเธอ เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดความจริงออกมา
เมื่อนายหญิงส้งได้ยินลูกสาวพูดเช่นนั้นก็พูดขึ้นสองสามประโยค
หลังจากที่เข้ามาในห้องแล้ว สาวใช้และพี่เลี้ยงเด็กกำลังตกแต่งตามคำสั่งของพ่อบ้าน
“พวกคุณไม่ต้องทำแล้ว จัดแค่เตียงให้ทารกก็พอแล้ว ฉันเหนื่อยแล้ว อยากจะพักผ่อน ออกไปข้างนอกเถอะ”ส้งหลิงหลิงพูดขึ้น
พี่เลี้ยงหลี่วางเด็กลงบนเตียงทารกอย่างระวัง ทุกครั้งที่วางลง เธอจะรู้สึกเกร็ง ดีที่ครั้งนี้เด็กนั้นไม่ได้ร้องไห้
พ่อบ้านโบกมือ ทุกคนจึงออกไปข้างนอกจนหมด ในห้องเหลือเพียงส้งหลิงหลิงกับนายหญิงส้งเท่านั้น
นายหญิงส้งนั้นมั่นใจว่าไม่มีใครแอบฟังเขาทั้งสองคนคุยกันแน่ จึงถามส้งหลิงหลิงด้วยเสียงเบาๆว่า:“หลิงหลิง ทำไมพอมาถึงลูกถึงอยากให้เซี่ยชีหรั่นอุ้มลูกของลูกหล่ะ ลูกอยากให้คนคิดว่าเธอนั้นไม่อยากอุ้มเด็ก ไม่ชอบเด็กใช่ไหม?”
ส้งหลิงหลิงเดาว่าในห้องนี้จะต้องมีกล้องวงจรปิดอย่างแน่นอน เพียงแต่เธอไม่รู้ว่ากล้องติดอยู่ที่บริเวณไหนก็เท่านั้น และแม้ว่าจะไม่มีกล้องวงจรปิด ก็คงจะมีเครื่องดักฟัง ดังนั้นเธอไม่สามารถที่จะพูดความจริงที่อยู่ในใจออกมาได้
เธอถอนหายใจเบาๆเฮือกหนึ่ง และพูดขึ้นอย่างจนปัญญาว่า:“แม่ค่ะ แม่ดูความคิดของเชินหลินไม่ออกเหรอ?ตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลลูกอยากที่จะกระชับความสัมพันธ์กับเขาให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น อยากให้ลูกได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ พอลูกแสดงออกมา เขาก็รีบเชิญแม่นมมา นี่เป็นเพราะว่าเด็กน้อยไม่ชอบกินนมของแม่นม หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วเชินหลินจะต้องไล่ลูกไปแน่ๆ ลูกก็คงไม่มีทางได้เห็นหน้าลูกแน่ๆ”
เมื่อส้งหลิงหลิงพูดมาถึงตรงนี้ ก็นึกถึงตอนที่เย่เชินหลินพาแม่นมมาที่นี่ ใจของเธอนั้นรู้สึกเย็นยะเยือก
หากเย่เชินหลินมีใจให้กับเธอบ้างก็คงไม่เป็นเช่นนี้ ดังนั้นนับแต่นี้เธอตัดสินใจว่าจะไม่หลงรักเขาอีกแล้ว เธอต้องการที่จะแย่งเขากลับคืนมา ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะตระกูลส้ง และเพื่อชีวิตเขาทั้งชีวิต
เมื่อคุณนายหญิงส้งคิดถึงเรื่องแม่นม หล่อนก็รู้สึกกลัวในภายหลัง หากตอนนั้นลูกของหล่อนยอมรับแม่นมคนนี้ ตระกูลส้งก็คงไม่มีความหวังแล้วแน่ๆ
ส้งหลิงหลิงนิ่งไปครู่หนึ่งและพูดต่อว่า:“แม้ว่าฉันจะไม่อยากจากลูกของฉันไป แต่ตอนนี้ตระกูลส้งของพวกเราหมดสิ้นแล้ว ในสายตาของเย่เชินหลินฉันนั้นไม่มีความหมายอะไรเลย หากเขาต้องการให้ฉันอยู่ฉันก็ต้องอยู่ หากต้องการให้ฉันไป ฉันก็ต้องไป หลังจากที่ฉันไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็จะกลายเป็นแม่เลี้ยงของลูกเธอ เด็กก็จะต้องเป็นภาระที่เธอต้องดูแลงั้นหรือ?ทุกคนล้วนบอกว่าเธอนั้นเป็นคนดี มีจิตใจที่เมตตา ฉันก็กังวลว่าเธอจะไม่ดีกับลูกของฉัน เฮ้อ!ลูกใครใครก็รัก แต่จะให้ฉันทำไงได้หล่ะ?เชินหลินไม่ยอมให้ฉันเอาลูกไปด้วย ตอนนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรมากแล้ว และก็ไม่กล้าที่จะแย่งเชินหลินกลับมาด้วย ฉันหวังแค่ว่าลูกจะไม่ตัดขาดความสัมพันธ์กับฉัน แต่ว่าแม่คะ ฉันคาดว่าจะต้องมีสักวันที่ฉันจะต้องแยกจากกันลูก ไม่แน่ว่าเชินหลินอาจจะไม่เห็นถึงความสัมพันธ์ครั้งก่อน ทำให้ฉันไม่เจอหน้าลูกอีกเลย และให้ทุกคนเข้าใจว่าเด็กนั้นเป็นลูกของเซี่ยชีหรั่น และหากมีวันนั้นจริง ความหวังเดียวของฉันก็คือ เธอจะดีกับลูกของฉันจริงๆ เหมือนกับลูกแท้ๆของเธอ ดังนั้นเมื่อนึกถึงภายภาคหน้า ก็อยากจะใช้เวลานี้ ตอนที่ฉันยังอยู่ที่นี่ สานสายสัมพันธ์ที่ดีกับเซี่ยชีหรั่น ดูเธอค่อยๆสานสัมพันธ์กับลูกของเธอ นี่คือสิ่งเดียวที่ฉันจะสามารถทำเพื่อเหิงเหิง ได้ สิ่งที่กลัวก็มีเท่านี้แหละ”
เมื่อส้งหลิงหลิงพูดสิ่งเหล่านี้จบ น้ำตาก็ไหลพราก เธอรู้สึกว่าตนนั้นเหนื่อยมาก คำพูดที่พูดออกมานั้นจริงบ้างเท็จบ้าง แม้กระทั่งแม่ของเธอก็ถูกเธอหลอก
หากยืนอยู่ในฐานะแม่คนหนึ่ง ตามหลักธรรมชาติของมนุษย์แล้ว ใครก็ตามที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ไม่มีใครหรอกที่จะไม่เชื่อ
“หลิงหลิง ลูกตัดใจจากเย่เชินหลินได้แล้วจริงๆเหรอ?ลูกไม่คิดเหรอว่า แม้ว่าหล่อนจะดีกับลูกของเธอขนาดไหน แต่จะดีสู้ลูกได้เหรอ?อีกทั้ง ตระกูลส้งของพวกเรา……”
ส้งหลิงหลิงรู้ดีว่า แม่ของเธอต้องพูดเช่นนี้ หากเย่เชินหลินได้ยินบทสนทนาเช่นนี้ ก็จะรู้สึกว่ามันจริงมากยิ่งขึ้น
เธอยังคงร้องไห้ไม่หยุด และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า:“ฉันตัดใจได้แล้วงั้นเหรอ?ฉันไม่อยาก แต่ว่าฉันจำเป็นต้องตัดใจ
ไม่มีใครสามารถทำให้เย่เชินหลินยอมรับในสิ่งที่ตนไม่ชอบได้ ฉันทำไม่ได้ และฉันก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงทำ ตอนนี้ฉันสามารถอยู่กับลูกไปวันๆได้ก็ดีมากแล้ว”
ส้งหลิงหลิงร้องไห้ไปถอนหายใจไป และเมื่อเดินมาถึงเตียงของทารก เธอก็ยื่นมือออกไปลูบคลำใบหน้าของเด็กน้อยเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า:“ลูกชายสุดที่รัก ลูกสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของแม่ไหม?หากวันหนึ่งแม่จากไปแล้ว ไม่ใช่เป็นเพราะว่าแม่ไม่รักลูก แต่เป็นเพราะว่าแม่นั้นจนหนทาง อย่าโทษว่าพ่อไม่ยอมให้ลูกไปกับแม่ เพราะแม้ว่าเขาจะอนุญาต แม่ก็ไม่สามารถพาลูกไปด้วยได้ แม่ไม่ใช่ลูกสาวของรองประธานคณะกรรมการจังหวัดอีกต่อไปแล้ว ต่อไปหากคุณตาของลูกติดคุก คุณลุงคุณป้าของลูกติดคุก ไม่ว่าแม่จะเดินไปที่ไหนก็คงจะมีแต่คนหัวเราะเยาะ แม้แต่งานก็อาจจะหาไม่ได้ แม่คงไม่มีปัญญาที่จะเลี้ยงลูกได้จริงๆ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset