สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 730 สาวใช้ตัวแสบ 634

ตอนที่ 730 สาวใช้ตัวแสบ 634
ทั้งสองคนเข้าไปที่ห้องโถงของคฤหาสน์ เย่เชินหลินจับมือของเซี่ยชีหรั่นไว้และแนะนำเธอให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยรู้จักอย่างเป็นทางการ
“องค์หญิง นี้คือภรรยาของผมชีหรั่น นี้คือพี่ชายของเธอหลี่เหอไท้ พวกเขาเป็นลูกของเสนาธิการหลี่” แม้ว่าเย่เชินหลินจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องฐานะ แต่เพื่อไม่ให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยรู้สึกว่าฐานะของเธอสูงส่งกว่าเซี่ยชีหรั่น เขาถึงได้เตรียมการนี้ไว้โดยเฉพาะ
ดวงตาคู่งามของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยกวาดมองเซี่ยชีหรั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า ภายในใจอดถอนหายใจไม่ได้
มิน่าเย่เชินหลินถึงได้หลงเธอขนานนี้ นี้ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปจริงๆ ดูสวยอย่างธรรมชาติ ไม่ได้เอะอะโวยวาย เพียงแค่ยืนนิ่งๆก็ทำให้คนละสายตาไม่ได้
เซี่ยชีหรั่นเห็นความเป็นปรปักษ์ในดวงตาของเธอ เลยเข้าใจเจตนาของเย่เชินหลินทันที
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็ไม่ได้จะปิดบัง เธอยิ้มพลางพูดกับเธอเป็นภาษาฝานหลายเวลานั้นสีหน้าของเย่เชินหลินก็เปลี่ยนไปทันที
ประโยคที่เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยพูดเมื่อกี้คือ:ฉันชอบเขา คุณยกเขาให้กับฉันซะ และอวยพรให้พวกเราด้วยได้ไหม?”
เวลานั้นสีหน้าของเย่เชินหลินได้เปลี่ยนไป แต่เพียงชั่วพริบตาก็กลับมาสง่างามและสงบเยือกเย็นดังเดิม
การแสดงออกของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเป็นสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ สำหรับผู้หญิงทั่วไป ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายมีคนในใจอยู่แล้วคงไม่แสดงออกอย่างชัดเจนขนานนี้และเธอคงไม่แทรกตัวเข้าไป แต่นี่เธอยังมาพูดสิ่งที่น่าตกใจอย่างนี้ต่อหน้าทุกคน ทำเหมือนกับว่าเขาและเธอมีอะไรบางอย่างต่อกันจริงๆ
แต่เขาเชื่อมั่นในตัวเซี่ยชีหรั่น เธอรู้ถึงความรักที่เขามีต่อเธอ ไม่มีทางเข้าใจผิดแน่
คนที่เขาแคร์ที่สุดก็คือเซี่ยชีหรั่น ขอแค่เธอไม่เข้าใจผิดก็พอแล้ว
ต่อให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยจะสร้างปัญหาอีก ทำให้เขายุ่งยากอีกสักแค่ไหนก็แล้วแต่ สุดท้ายยังไงก็ต้องมีวิธีจัดการได้อยู่แล้ว
เซี่ยชีหรั่นไม่เข้าใจภาษาฝานหลายเธอขอความช่วยเหลือไปยังเย่เชินหลิน แม้ว่าเขาจะเข้าใจ แต่ประโยคนี้เขาไม่สะดวกแปลให้เธอฟังต่อหน้าทุกคน
ล่ามผู้ติดตามองค์หญิงก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเธอจะแปลตามความหมายขององค์หญิงดี หรือไม่แปลเลยดี
ล่ามผู้ติดตามส่งซิกถามไปยังเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย สายตาของเธอทำให้ล่ามผู้ติดตามรับคำสั่งทันที
“องค์หญิงของเราบอกว่า ท่านชอบคุณเย่เชินหลิน ให้คุณยกเขาให้กับเธอ และอวยพรให้พวกเขาด้วย”
ในระหว่างที่ล่ามผู้ติดตามกำลังแปลอยู่นั้น เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยใช้สายตาเย็นชาชำเลืองมองเซี่ยชีหรั่นพลางยิ้มอย่างเหนือกว่า
เซี่ยชีหรั่นสวยมาก คำแนะนำของเย่เชินหลินเธอก็รู้สึกว่าเหมาะสมดี แต่การบอกว่าเธอมาจากตระกูลผู้ดีนั้น ต่อให้เธอจะเป็นลูกสาวของเสนาธิการหลี่ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าองค์หญิงแห่งประเทศ เธอก็คงต้องมีเก๋ๆบ้างแหละ เพราะงั้นเธอพูดขนานนี้จะต้องทำให้เซี่ยชีหรั่นอึดอัดใจได้แน่ ถ้าเซี่ยชีหรั่นแสดงความโกรธแล้วพูดจาจาบจ้วงกับเธอ ถึงตอนนั้นมันไม่จบง่ายๆแน่
แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะไม่เข้าใจภาษาฝานหลายแต่เธอมองความเป็นปรปักษ์ในตาขององค์หญิงออกแต่แรกแล้ว ทั้งความรู้สึกเหนือกว่าขององค์หญิง ซึ่งมันทำให้ในใจของเธอรู้สึกอึดอัด แต่ในเวลาเดียวกันก็เพิ่มความระมัดระวังขึ้นด้วย
ก่อนจะเข้าประตูมาหลินหลิงได้กระซิบเตือนเธอแล้วว่าเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยคนนี้เป็นหนึ่งในรัชทายาท ห้ามล่วงเกินเด็ดขาด ให้เธอระวังการวางตัวด้วย
เมื่อเปิดปากพูดเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็แสดงอำนาจใส่เธอทันที
องค์หญิงประกาศต่อหน้าทุกคนว่าเธอชอบเย่เชินหลิน ทั้งยังบอกให้เธอเชื่ออีก สำหรับผู้หญิงคนอื่นๆแล้ว เมื่อได้ฟังใครๆก็รู้สึกไม่พอใจกันทั้งนั้น เซี่ยชีหรั่นก็เช่นเดียวกัน
เซี่ยชีหรั่นหายใจเข้าลึกๆ สีหน้ายังคงรักษารอยยิ้มไว้ไม่เปลี่ยน
เธอมองไปยังเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยอย่างเหมาะสมพลางพูดเสียงเบาว่า“เคยได้ยินมาว่าคนของประเทศของท่านเป็นคนอารมณ์ขัน เมื่อวันนี้ได้เจอถึงได้รู้ว่าเป็นจริงตามนั้น”
เย่เชินหลินรู้ว่าผู้หญิงของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ปกติเธอเป็นคนเงียบๆแต่ไม่ได้แปลว่าสำบัดสำนวนเธอจะแย่
ประโยคนี้ถือว่าสกัดคำพูดของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยได้ค่อนข้างดีเลย แน่นอนว่าก็อันตรายในเวลาเดียวกัน
เพราะเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยอาจจะอายจนพาลโกรธขึ้นมา และฉวยโอกาสพูดว่าเธอนั้นจริงจัง
หลี่เหอไท้ยืนอยู่ข้างหลังของเซี่ยชีหรั่น ท่าทางเหมือนจะสงบจิตสงบใจได้ แต่อันที่จริงแล้ววิตกกังวลแทนเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินอยู่เหมือนกัน
เขาไม่เคยเจอเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย แต่ก็ได้ยินคนอื่นพูดถึงมาก่อน เธอเชื่อมั่นในตัวเองสูง เกรงว่าแค่ประโยคเดียวของเซี่ยชีหรั่นคงทำลายบทสนทนาลงไม่ได้ เธอต้องดึงหัวข้อสนทนากลับมาแน่
เขามองอย่างเงียบๆ คิดไว้ว่าถ้าชีหรั่นต่อบทสนทนาไม่ได้แล้ว เขาก็จะออกหน้าแทน
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเพ่งมองไปยังเซี่ยชีหรั่น ไม่ได้รีบร้อนตอบกลับ เธอกำลังรอให้ล่ามผู้ติดตามแปลคำพูดของเซี่ยชีหรั่นให้เธอฟัง
หลังจากที่ล่ามผู้ติดตามแปลคำพูดของเซี่ยชีหรั่นจบ สีหน้าของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยดุดันขึ้น การคาดเดาของเย่เชินหลินถูกต้อง เธอต้องการใช้คำพูดของเซี่ยชีหรั่นมาแสดงอำนาจ
นี่เป็นบทสนทนาระหว่างผู้หญิงสองคน ในเวลานี้เขาไม่สะดวกเข้าไปปกป้องเซี่ยชีหรั่น มิฉะนั้นจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง อีกอย่างเขาเชื่อไม่ว่าเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยจะพูดอะไร เซี่ยชีหรั่นก็รับมือได้
เขาก็เหมือนกับหลี่เหอไท้ยืนอยู่เงียบๆ รอโอกาสที่เหมาะสมเข้าช่วยเซี่ยชีหรั่น
“บอกเธอ คนของประเทศฝานหลายเป็นคนฉลาดและอารมณ์ขัน แต่ว่าวันนี้ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันจริงจัง ”
ล่ามถึงกับปาดเหงื่อ เธอติดตามข้างกายเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยมาไม่ใช่แค่หนึ่งปีสองปีแล้ว รู้ถึงอารมณ์ของเธอดี ถ้าได้พุ่งขึ้นแล้วละก็เกรงว่าคงจะไม่ลงง่ายๆ
หญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าดูแล้วบอบบาง จะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยได้ยังไง?
เธอคุ้นเคยกับวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ แม้จะบอกว่าที่ประเทศฝานหลายการที่ผู้หญิงตามจีบผู้ชายไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร แต่ที่ประเทศจีนไม่เหมือนกันไง ประกาศปาวๆจะแย่งคนที่มีภรรยาแล้วต้องเป็นที่ติฉันนินทาของคนแน่
น่าเสียดายที่เธอเป็นแค่ล่าม ทั้งยังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อีก เธอไม่สามารถไม่พูดตามความหมายขององค์หญิงได้ สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือการแปลคำพูดขององค์หญิงให้สละสลวยเท่านั้น
เย่เชินหลินยืนเฉยๆ แต่ในใจกลับอดกังวลเซี่ยชีหรั่นไม่ได้
เด็กน้อย คุณรับมือไหวไหม? ถ้ารับมือไม่ไหวไม่เป็นไร ผมจัดการเอง คุณแค่ยิ้มก็พอไม่ต้องตอบเธอ
เขามองไปยังเซี่ยชีหรั่นอย่างเงียบๆ คำพูดเหล่านี้ส่งผ่านทางสายตาเท่านั้น
สายตาของเซี่ยชีหรั่นไม่ว่อกแว่ก สบตากับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยอยู่ตลอดอย่างเหมาะสม เย่เชินหลินมองมาที่เธอ เธอรับรู้ความหมายที่เขาจะสื่อได้ เธอเองพอจะเข้าใจ
เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถหันไปสบตากับเขาได้ ไม่งั้นเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยจะมองปัญหาของเธอออก และจะหาว่าเธอไม่มีมารยาททั้งพูดจาไม่เคารพ
เธอเงียบฟังสิ่งที่ล่ามพูดจบ อันที่จริงในใจนั้นเกิดอารมณ์โกรธ
เซี่ยชีหรั่นเธอต้องใจเย็น ๆไว้ การที่เธอพูดมาขนานนี้ ไม่แน่ว่าอาจเป็นการจงใจยั่วให้เธอโกรธ ถ้าเธอโกรธจริงๆก็โง่เกินไปแล้ว
เธอปรับลมหายใจเบาๆสองครั้ง ในตอนที่เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยคิดว่าเธอต้องการระบายความโกรธนั้น เธอกลับยิ้มอย่างอ่อนโยนสุดๆพลางพูดว่า”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ย ถ้าหากคุณชอบเย่เชินหลินจริงๆ ฉันก็เข้าใจได้ค่ะ ฉันเคารพและยกย่องเขา ดังนั้นฉันเข้าใจความชอบที่คนอื่นมีต่อเขาได้ค่ะ ตั้งแต่ที่เรารักกันมา ฉันได้สัมผัสกับผู้หญิงที่ชื่นชอบในตัวเขาเยอะมาก เขาเป็นอิสระมาโดยตลอด สมมุติว่าเขาไม่รักฉัน ไม่ว่าเขาจะรักใคร ฉันก็อวยพรให้เขาได้ทั้งนั้น เพราะความรักจริงๆไม่ควรเป็นแค่การได้ครอบครอง
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดจะสามารถขับไล่อีกฝ่ายได้หรือไม่ วัฒนธรรมของเราแตกต่างกัน เธออาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูด
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นกำลังพูดถึงอะไร ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร อันที่จริงเธอถูกท่าทางที่ไม่วิตกกังวลแบบนี้ของเธอทำเอาหวั่นไหวแล้ว
ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงจากตระกูลที่ดีมาก คิดไม่ถึงว่าจะสง่างามแบบนี้ ขนานอยู่ต่อหน้าเธอที่เป็นถึงองค์หญิง เธอก็ไม่เสียท่าทีเลยแม้แต่น้อย
รอล่ามแปลคำพูดของเซี่ยชีหรั่นให้กับองค์หญิงฟังอย่างไม่บิดพลิ้ว มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย แต่ในใจยกนิ้วโป้งให้กับเซี่ยชีหรั่นแล้ว
ไม่เลวจริงๆ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่แจกันใส่ดอกไม้สินะ สามารถได้รับความรักจากใจจริงของเย่เชินหลินได้ ถือว่ามีเหตุผลอยู่
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยค่อนข้างให้ความสนใจกับสถานการณ์ของเย่เชินหลินอยู่เหมือนกัน อย่างน้อยแต่ก่อนเธอเคยได้ยินมาว่าเย่เชินหลินก็เป็นเพลย์บอยคนหนึ่ง ไม่มีผู้หญิงคนไหนได้ครอบครองหัวใจของเขา
ดังนั้นเธอจึงสนใจเขามากขึ้น และคันไม้คันมืออยากออกมาสู้ คิดว่าเพียงแค่เธอเคลื่อนไหว เขาจะต้องเสร็จเธอแน่
การมาของเธอในครั้งนี้เป็นที่หน้าผิดหวัง เธอมาช้าเกินไป แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่มีโอกาสแล้ว
เธอชอบคู่ต่อสู้แบบนี้
“หมายความว่าถ้าเขาชอบฉัน เธอก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปเธอจะปล่อยมืองั้นหรือ?”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถาม เมื่อพูดจบล่ามก็ถ่ายทอดความหมายของเธอออกไปทันที
เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าเธอประกาศออกมาแบบนี้ ไม่มีทางปล่อยวางง่ายๆแน่ ยังไงก็จะทำให้เธอลำบากสักครั้งสินะ
“ใช่ค่ะ องค์หญิง สมมุติว่าเขาบอกว่าชอบคุณ ฉันจะปล่อยมือ จะไม่เกี่ยวข้องกันอีก แต่ถ้าเขายึดมั่นในความรักที่มีต่อฉัน ถึงแม้จะต้องเจอกับความลำบากอะไร ฉันก็จะไม่มีทางถอย จะยืนเคียงข้างเขาตลอดไป”
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นพูดจบ ระหว่างที่รอล่ามแปลคำพูดของเธอ เธอจึงมองไปยังเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินก็มองไปที่เธออย่างรักใคร่ มือของเขาที่เอวของเธอรัดแน่นขึ้น ให้เธอแนบชิดเขามากขึ้น
พวกเขาจะทำเกินหน้าเกินตาไม่ได้ ไม่สามารถยั่วโทษของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยได้
เขาเชื่อว่าการกระทำเล็กๆนี้คงจะทำให้องค์หญิงเข้าใจถึงการเลือกของเขาได้ ต่อให้เธอจะแข็งกร้าวแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้ยุ่งยากไปกว่านี้ได้
เมื่อเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเห็นทั้งสองคนใกล้ชิดกันอย่างนี้ จึงเกิดริษยาในใจหน่อยๆ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นถึงองค์หญิง ไม่สามารถพาลโกรธเพราะความอายได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องตลกของทั้งสองประเทศ
เธอยิ้มเหน็บแนมพลางพูดอย่างไม่แคร์ว่า“ไม่เป็นไร ความรักมีช่วงโปร ตอนนี้เขารักคุณ ไม่ได้หมายความว่าจะรักคุณตลอดไป ต้องมีสักวันที่เขาจะเป็นของฉัน”
ถ้าคนที่พูดเป็นคนอื่น เย่เชินหลินจะต้องบอกให้เธอหยุดความคิดมโนลงซะ
เพราะสถานะของเธอ เขาจึงไม่สามารถพูดแบบนั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยคือหาทางลงเวทีให้ตัวเองแล้ว ถ้าเขายังพูดไปอีกก็เหมือนไม่ค่อยเห็นคุณค่าของผู้อื่น
เซี่ยชีหรั่นมองออกว่าเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่พอใจ เธอไม่ต้องการให้ตัวเองไปส่งผลกระทบไม่ดีต่อเย่เชินหลิน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ดังนั้นเธอจึงทำสมาธิเล็กน้อย จากนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นยิ้มให้อย่างเคารพนับถือ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset