สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 740 สาวใช้ตัวแสบ 644

ตอนที่ 740 สาวใช้ตัวแสบ 644
เย่เชินหลินออกเสียง หืม ด้วยความเย็นชา แล้วพูดอย่างไม่แยแส “ถ้าคุณรักจริงก็ใส่ใจหน่อยลูกเป็นของคุณ ตัวคูณเองน่าจะรู้ว่าเขาหิวหรือเป็นอะไร? อย่าบอกนะว่าเธอเป็นแค่สาวใช้ยังสามารถเถียงชนะคุณได้?
คำพูดที่ร่อนแหลมของเย่เชินหลินมีหรือส้งหลิงหลิงจะไม่เข้าใจ แต่เธอจะไม่ยอมให้เย่เชินหลินรู้ว่าเขาเดาถูก  คือเธอจงใจทำเองจริงๆ
เธอยิ้มอย่างเยาะเย้ย ถามกลับ: ฉันเป็นแม่ของลูก วินาทีแรกฉันก็ต้องเข้าใจและรู้ว่าความต้องการของเขาทุกอย่างเหรอ? แล้วคุณเป็นพ่อของลูก ตอนคุณอุ้มเขาขึ้นมาคุณก็ไม่รู้ คุณฉลาดขนาดนั้น เดิมทีฉันก็โง่กว่าคุณอยู่แล้ว และไม่เคยเลี้ยงเด็กเล็กขนาดนี้ ฉันแย่แยกไม่ออกว่าลูกอยากทำอะไรก็หมายถึงฉันไม่รักไม่ใส่ใจใช่มั้ย?”
“หลิน คุณยอมฟังฉันพูดสักคำมั้ยคะ? เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบาๆ
ในใจเย่เชินหลินกำลังกลุ้มอยู่ ขมวดคิ้วพูดอย่างเย็นชาคำเดียว”พูด”
อารมณ์ของเขาทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกประหลาดใจ แต่เธอคิดว่าเขาคงไม่ได้โมโหเธอ นี่เพราะเขากำลังโกรธพี่เลี้ยงหลี่คนนั้นเรื่องเกี่ยวกับลูก และก็โกรธส้งหลิงหลิงด้วย
“ฉันว่าพี่เลี้ยงหลี่ก็คงไม่ใช่ตั้งใจ ก็เหมือนกับที่ส้งหลิงหลิงพูด พวกคุณเป็นพ่อแม่ยังไม่รู้เลยว่าเด็กต้องการอะไร? อีกอย่าง คุณคิดดู ลูกบ้านไหนไม่เคยร้องไห้ เด็กร้องไห้ก็เป็นเรื่องธรรมดา แค่ไม่ปล่อยให้เด็กร้องตลอด…”
เซี่ยชีหรั่นเพิ่งพูดถึงตรงนี้ ก็ถูกเย่เชินหลินขัดจังหวะด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ไม่ได้!ลูกบ้านใครก็รองได้ แต่ลูกของเย่เชินหลินห้ามร้อง พรุ่งนี้เช้าเธอออกไปเลย พวกเธอจำไว้ ใครให้เด็กร้องแม้แต่แอดเดียวก็ลาออกไปเลย ที่นี่ไม่ได้ขาดคน
 เย่เชินหลินพูดจบกวาดตาไปจ้องมองทุกคนอย่างจริงจัง
เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่กับที่ด้วยความอึดอัด มีบางเรื่องที่คิดไม่ออกว่าทำไมเย่เชินหลินถึงไม่มีเหตุผลขนาดนี้ เธอพูดก็เพราะหวังดีกับลูก ไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นแม่เลี้ยง ก็ไม่สนใจเป็นตายร้ายดีของลูกนะ
ในใจส้งหลิงหลิงมีความสุขมาก เย่เชินหลินขัดจังหวะการพูดของเซี่ยชีหรั่น ต่อหน้าคนมากมาย  ดูคุณนายเย่อย่างเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ความคิดของเธอไม่ได้แสดงออกมา ดูแล้วเหมือนกำลังป้อนนมลูกอย่างตั้งใจ
เธอจ้องมองใบหน้าเล็กๆของลูกที่กำลังตั้งใจดื่มนม คิดในใจ  แผนในคืนนี้ไม่เลวจริงๆ เย่เชินหลินก็เป็นแบบนี้แหละ  ไม่ว่าเขาจะแคร์ใครมากแค่ไหน  สุดท้ายก็เอาตัวเองเป็นหลัก ถึงแม้จะเป็นคนที่เขารักที่สุดอย่างเซี่ยชีหรั่นก็เถิด เขาก็โมโห แล้วด่าเธอเหมือนกัน
“ค่ะ คุณชายเย่” ทุกคนประสานเสียงตอบ นี่คือพ่อบ้านสอนพวกเขาไว้ เมื่อไหร่ที่คุณชายเย่โกรธและสั่งสอน ทุกคนต้องตอบพร้อมกันอย่างนี้
เย่เชินหลินมองส้งหลิงหลิงอีกรอบ บ่นพึมพำว่า “ดูลูกให้ดีๆ และดูพวกเขาให้ดีด้วย ใครไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง คุณมาพูดกับผมก็พอ ไม่ว่าใครก็ห้ามทำให้ลูกผมร้องไห้ รวมถึงคุณ จำไว้”
พูดจบ เขาค่อยหันไปมองเซี่ยชีหรั่น เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงอ่อนโยนยื่นมือไปโอบเธอพร้อมพูดว่า “เรียบร้อย พวกเรากลับห้องเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นผลักมือเขาออก ท่าทีของเธอเย็นชา เธอหันกลับแล้วเดินไป ก่อนไปได้กวาดสายตามองพี่เลี้ยงหลี่เธอยังรอคอยที่จะมองเธอให้เต็มที่ นี่ทำให้จิตใจเธอไม่สบายใจ
คุณหลี่ ฉันไม่ดีเอง ความสามารถฉันไม่พอ คำพูดของฉันเขาก็ไม่ฟัง ทำให้คุณผิดหวังแล้วแหล่ะ
จริงๆแล้วคนที่ผิดหวังคือตัวเธอเอง เธอรู้
เธอคิดว่าไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม เย่เชินหลินจะฟังที่เธอพูด คิดไม่ถึงว่าความรักใคร่ของพวกเขาทั้งสองที่พึ่งผ่านมา เขาจะสามารถตัดคำพูดเธอได้อย่างแข็งกร้าวทันที
เธอผิดหวัง ลำบากใจแน่นอกพูดไม่ออก
เธอเดินไปข้างหน้า เย่เชินหลินเดิมตามเขาก้าวใหญ่ ถึงประตูเขารีบคว้ามือเธอไว้ และโอบเอวเธออุ้มขึ้นมา
“โกรธหรอ?” เขาถามอย่างอ่อนโยน ตอนที่อยู่ห้องส้งหลิงหลิงกับเขาในตอนนี้เหมือนไม่ใช่คนเดียวกัน
น้ำเสียงของเขาถึงจะอ่อนโยนแค่ไหน ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้กับเรื่องที่เขาพูดตัดบทเธอ
เธอบอกว่าเด็กร้องไห้เป็นเรื่องธรรมดา แต่เขากลับพูดตรงข้ามกับเธอต่อหน้าทุกคน บอกลูกเขาห้ามร้องไห้เด็ดขาด
นี่หมายความยังไงนะ? เพราะเขาอยากให้ทุกคนเข้าใจ ต่อไปเรื่องของลูกไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอหรอ?
ความคิดที่เธออยากเป็นแม่เลี้ยงของลูก เป็นความคิดเธอฝ่ายเดียว?
เธอต้องพยายาม จะให้ลูกชอบเธอเขาแทบไม่แยแสเลยสักนิด ยังคิดว่าเธอยุ่งวุ่นวายเกินไป
คิดอย่างนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองน่าขำ
เซี่ยชีหรั่นไม่ออกเสียงสักคำ และก็ไม่ได้ขัดขืนจากอ้อมกอดเขา ไม่มีแรงขัดขืน
เขาอุ้มเธอกลับห้อง ค่อยพูดกับเธอ “โกรธจริงๆหรอ? ต้องโทษที่ผมน้ำเสียงไม่ดี?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายศีรษะ พูดเบาๆ “เปล่า ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธ ลูกคือลูกของคุณกับส้งหลิงหลิง ฉันยุ่งวุ่นวายเกินไป”
“ยังพูดว่าไม่โกรธ? คุณทำไมโง่อย่างนี้ คุณพูดต่อหน้าทุกคนว่าเด็กร้องไห้นิดหน่อยไม่เป็นไร ต่อไปพวกเขาจะไม่ใส่ใจ จะไม่ตั้งอกตั้งใจดูแลเย่เจิ้งเหิงเหมือนเวลานี้ คุณไม่เห็นหรอ? ดูจากสถานการณ์เวลานี้เด็กจึงร้องจน…”
“สรุป ผมจะให้พวกเขารวบรวมความตั้งใจ ละเลยเด็กไม่ได้ ห้ามทำให้ลูกร้องไห้”
เซี่ยชีหรั่นเดิมคิดว่าต่อไปจะไม่ยุ่งเรื่องลูกอีก นั่นคือเรื่องระหว่างเขากับส้งหลิงหลิง เขาไม่ชอบให้เธอยุ่ง แล้วทำไมเธอต้องหาเรื่องใส่ตัว
แต่ตอนที่เย่เชินหลินพูดด้วยท่าทางการที่ดื้อรั้นขนาดนี้ เธอก็รู้สึกว่าเขาทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง มันไม่ดีต่อเด็ก เธออดไม่ได้ต้องเถียงกับเขาด้วยเหตุผล
“ทำไมถึงทำให้เด็กร้องไห้ไม่ได้? ฉันรู้ ฉันไม่ใช่แม่แท้ๆของลูก ฉันพูดอย่างนี้คุณอาจคิดว่าฉันเย็นชาต่อลูก แต่ฉันรู้สึกว่าเธอร้องไห้นิดๆหน่อยๆมันไม่เป็นไรจริงๆ ฉันยังเคยได้ยินว่าให้เด็กร้องไห้บ้าง ทำให้สุขภาพแข็งแรงและดีต่อปอดของเขา”
เธอไม่ได้พูด ตอนเขาไปเยี่ยมโม่เสี่ยวหนง ได้ยินโดยไม่ตั้งใจที่แผนกสูตินรีเวช หมอพูดกับผู้ป่วยว่าให้เด็กร้องไห้เป็นบางครั้ง เพิ่มการเจริญเติบโตต่อปอดของเด็ก
ทันใดนั้นเธอรู้สึกประหลาดใจ หยุดมองสักพัก หมอจับฝ่าเท้าเด็กขึ้นมา ดีดกลางฝ่าเท้าไปสองที เด็กก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“อย่าโง่เลย ผมจะคิดว่าคุณเย็นชาต่อลูกได้ยังไง” เย่เชินหลินไม่อยากพูดออกมาจริงๆว่าเด็กมีปัญหา ไม่อยากเพิ่มความกลัดกลุ้มใจให้กับเซี่ยชีหรั่น
เขาจะไม่รู้ได้ไงว่าสำหรับเด็กที่แข็งแรงคนหนึ่ง ร้องไห้ไม่ได้มีข้อเสีย เด็กร้องไห้ไม่ใช่เรื่องแย่
ปัญหาอยู่ที่ลูกเขาไม่เหมือนเด็กทั่วไป เขาจะให้คนพวกนั้นละเลยได้ไง ถ้าหากว่าครั้งไหนเด็กควบคุมไม่ได้ ร้องจนหายใจไม่ออก ทำให้ถึงกับเสียชีวิตได้นะ
“ฉันหวังดีกับลูกจริงๆ คุณลองคิดดู เพราะแค่คุณหลี่อุ้มลูกได้ไม่ดี เด็กร้องไห้สองสามทีก็ไล่เขาออก คนอื่นก็พากันกลัวคุณหมด พวกเขากลัวคุณก็จะกังวล พอพวกเขากังวลก็จะทำให้เวลาดูแลเด็กยิ่งจะทำอะไรไม่ถูก ไม่แน่เด็กก็อาจรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของผู้ใหญ่ ถึงเวลานั้นเด็กก็จะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย กังวล ร้องไห้ง่าย ทำไมตอนคุณจัดการเรื่องบริษัทยังใช้กลยุทธ์เมตตาเป็นหลัก แต่เวลาอยู่ต่อหน้าลูกกลับไม่มีเหตุผลสักนิดแล้ว?”
เย่เชินหลินถอนหายใจลึกๆ คิดๆแล้วที่เซี่ยชีหรั่นพูดก็ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล
คำสั่งของเขาเป็นคำสั่งเด็ดขาด ทุกครั้งที่เด็กร้อง คนใช้ที่ดูแลหลังการคลอดจะตกใจจนหน้าซีด
เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีเงินแล้วยิ่งใหญ่ แต่เรื่องเวลาจัดการเรื่องที่เกี่ยวกับลูก เขาเหมือนนักลงทุนที่เยือกเย็นจริงๆ
“ผมอาจจะไม่ได้มีความมั่นใจที่จะจัดการเรื่องนี้ให้ดีพอ ผมจะพิจารณาให้ดี พอแล้วนอนเถอะไม่ต้องโกรธแล้วนะ” เย่เชินหลินมาลูบผมของเซี่ยชีหรั่น แต่เธอก็หลบ
“เจ้าตัวเล็ก คุณจะเอายังไง?” เย่เชินหลินกอดเอวเธอไว้ จ้องมองตาเธอไม่ยอมให้เธอหลบ
“เย่เชินหลิน คุณปล่อยฉันนะ ฉันอยากคุยกับคุณจริงจัง”
ผู้หญิงคนนี้เวลาเรียกชื่อเต็มของเขา แสดงว่าเธอจริงจังมาก และบ่งบอกว่าเธอยังโกรธอยู่
เย่เชินหลินปล่อยเธอออก เดินไปนั่งลงที่เตียง เธออยากคุย เขาไม่อยากยืนคุยกับเธอ เพราะมันจะสร้างความกดดันให้เธอ
“พูดเถอะ ผมจะฟังคุณอย่างจริงจัง” เย่เชินหลินไม่ได้มีความหมายที่อยากจะหยอกล้อเธอ ท่าทางของเขาจริงจังมาก แทบจะนั่งตัวตรงทำท่าทางตั้งใจที่จะฟัง
“ถ้าหากคุณกับส้งหลิงหลิงไม่ชอบให้ฉันยุ่งเรื่อง อยากให้ฉันอยู่ห่างๆลูกของพวกคุณ ต่อไปฉันจะไม่เข้าใกล้เขาอีก” เซี่ยชีหรั่นพูด
“เด็กโง่ ” เย่เชินหลินถอนหายใจ
“ผมกลัวคุณลำบากต่างหาก ถึงไม่ยอมให้คุณเลี้ยงดูอบรมเขา สำหรับผมแล้ว ถ้าคุณยินยอมที่จะเลี้ยงดูสั่งสอนเขา ผมดีใจแทบไม่ทัน คุณเหมาะสมที่จะเป็นแม่ของลูกมากกว่าส้งหลิงหลิงอีก”
“ฉันยังนึกว่าคุณรังเกียจฉัน คิดไปเองฝ่ายเดียว” เซี่ยชีหรั่นบ่มพึมพำเพราะคำพูดของเย่เชินหลิน ความโกรธในใจเธอหายไปกว่าครึ่ง
เย่เชินหลินลุกขึ้นยืน เดินไปข้างหน้าเซี่ยชีหรั่น ประคองหน้าเล็กๆของเธอ ถามด้วยรอยยิ้ม “คุยจบแล้วใช่ไหม? เจ้าตัวเล็ก โกรธขึ้นมาหัวแข็งจริงๆ นอนเถอะ ถ้าไม่นอนผมจะคิดหาวิธีอื่นแล้วนะ”
วิธีอื่นของเขาคือคิดเกี่ยวกับร่างกายเธอ เซี่ยชีหรั่นรู้อยู่แล้ว หน้าเธอแดงขึ้นมา ผละมือเขาออกแล้วรีบปีนขึ้นเตียง ท่าทางคล่องแคล่วเรียบร้อยดีมาก
เขาเบะปาก เขาเยาะเย้ยเธอ “ไม่เลวนี่ รู้สึกว่าพลังร่างกายฟื้นฟูแล้ว”
“ฟื้นฟูที่ไหน คุณอย่าคิดมั่วนะ! รีบนอนเถอะ!” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยเสียงดุ
เธอไม่โกรธแล้ว จิตใจเขารู้สึกดีขึ้นเยอะ
เขาคิดว่าดูแล้วต่อจากนี้ต้องยิ่งระวัง อย่าเพราะเรื่องลูกแล้วทำร้ายความรู้สึกที่อ่อนไหวของเธอ
คืนนี้หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นหลับ เย่เชินหลินคิดถึงแต่เรื่องลูกมากมาย
หลังจากฟ้าสว่าง เขาไปที่ห้องส้งหลิงหลิง ส้งหลิงหลิงกับคุณนางส้งตื่นเช้ามาก ตอนเขาไปส้งหลิงหลิงกำลังให้นมลูก
ลูกอยู่ในอ้อมอกแม่กินอย่างอร่อย หลับตา ดูเหมือนกินไปนอนหลับไป
เย่เชินหลินจ้องมองลูกของเขา รู้สึกว่าท่าทางการกินนมนั้นดูเบื่อหน่ายน่ารักมาก
“เชินหลิน คุณให้คุณหลี่ไป หรือว่าวันนี้จะให้ผู้ช่วยหลินเชิญคนมาแทนเขา” ส้งหลิงหลิงถาม

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset