สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 756 สาวใช้ตัวแสบ 660

ตอนที่ 756 สาวใช้ตัวแสบ 660
เขาไม่รู้ว่าเขาตั้งใจทำสิ่งนี้ทั้งที่รู้ว่าเขามีอะไรกับหลินหลิงไปแล้ว ไม่ยอมช่วยดูแลเธอก็แล้วไป แต่นี่กลับสมรู้ร่วมคิดกับหลินหลิงแล้วซ่อนตัวเธอด้วย
“สรุปเธออยู่ไหน เราไม่อยากเสียเวลากับนายแล้วนะ” ไห่ลี่หมินสีหน้าเคร่งเครียด
วันนี้เขารีบกลับไปตงเจียงแล้วโทรหาหลินหลิงแต่โทรไม่ติด เมื่อไปที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่ คนที่เขามอบหมายให้ช่วยเฝ้าดูเธอบอกว่าเธอไม่ได้กลับมาตั้งแต่วันที่เขาออกไปแล้ว
สองวันนี้เขายุ่งกับงานที่หลินเจียงมาก จึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้เลย
เขาคิดว่าอย่างไรก็ตามถ้ามีเย่เชินหลินช่วยดูแลเธออยู่ เธอคงหนีไปไหนไม่ได้หรอก
เขาไปหาที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปแต่ไม่มีวี่แววของเธอเลย ดังนั้นเขาจึงเข้าไปหาเย่เชินหลินอย่างเร่งรีบ
“นายตามหาเธอ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ? ไห่ลี่หมิน หรือว่านายชอบเธอใช่ไหม?” เย่เชินหลินถามอย่างเคร่งเครียด
คำถามนี้เหมือนจะแทงใจดำไห่ลี่หมิน เขาคิดเพียงว่าจะเอาชนะเธออย่างไร แต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องความรักเลย
คนที่เขาหลงรักคือเซี่ยชีหรั่นมากกว่า เธออ่อนโยนและสวยงามขนาดนี้ คู่ควรกับการเป็นที่รักที่ใคร่ของผู้ชายทุกคน
เขาคงไม่หลงรักหลินหลิงผู้หญิงธรรมดาคนนี้หรอก ที่เขาตามหาเธอก็เพราะเขาเคยมีอะไรกับเธอมากกว่า
ต้องยอมรับว่าเขาหลงใหลในตัวเธอแล้ว แม้กระทั่งวันที่อยู่บ้านเธอสองคืน เขาเอาเธอไปหลายรอบแต่ก็ยังรู้สึกไม่พอ
บางทีก็เพราะยังเอาชนะเธอไม่ได้จึงทำให้เธอยังต้องหนีเขาอยู่
ผู้ชายแพ้ให้กับทุกอย่างได้แต่จะแพ้ให้กับศักดิ์ศรีไม่ได้
ผู้หญิงที่เขาชอบ แม้จะหลงใหลเพียงแค่ร่างกาย แต่เธอก็ต้องยินยอมและเชื่อฟังเขาโดยดี
หลังจากเย่เชินหลินถามคำถามนี้แล้วก็ได้สังเกตสีหน้าของเขาอย่างละเอียด ซึ่งเขาเข้าใจไห่ลี่หมินดีและความรู้สึกที่ไห่ลี่หมินมีต่อเซี่ยชีหรั่นนั้นก็เป็นความจริงเหมือนกัน
ความรู้สึกของเขากับหลินหลิงก็เป็นความจริงเช่นกัน แต่ความรู้สึกในตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการหลงใหลทางร่างกายเท่านั้น
ผู้หญิงมีเซ็กส์เพราะความรัก แต่ผู้ชายรักเพราะมีเซ็กส์ ประโยคนี้โดยส่วนใหญ่แล้วก็มีเหตุผลเหมือนกัน
นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เขาต้องสร้างอุปสรรคให้กับเขาสองคน เพราะถ้าผู้หญิงใจง่ายเกินไปผู้ชายก็จะเบื่อง่ายเหมือนกัน
ถ้าไห่ลี่หมินกลับมาจากไหหลำแล้วรู้ว่าหลินหลิงคือคู่นอนของเขา เขาจะรับผิดชอบหลินหลิงทุกอย่างในตอนนั้น แต่อาจจะรู้สึกหงุดหงิดและรู้สึกรังเกียจได้
และสถานการณ์ในตอนนี้กับตอนนั้นก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก
“รักบ้าอะไร ใครจะเหมือนนาย? นอนด้วยกันครั้งสองครั้งก็ต้องรักเลยเหรอ?” ไห่ลี่หมินแสร้งพูดอย่างไม่แยแส
“ฮ่า ๆ ดีแล้วที่ไม่ได้รัก” เย่เชินหลินหัวเราะดัง ๆ แล้วหันไปมองไห่ลี่หมิน จากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อย ๆ จางหายไป แล้วพูดกับเขาอย่างจริงจัง “ไห่ นายนั่งลงก่อน เรามีเรื่องจะคุยกับนายแบบจริงจังหน่อย”
ไห่ลี่หมินก็นั่งลงที่โซฟา เย่เชินหลินยื่นบุหรี่ให้เขาม้วนหนึ่งแล้วจุดให้ตัวเองม้วนหนึ่ง
ผ่านไปสักพักเขาถึงค่อย ๆ พูด “หลังจากที่ได้คบหากันมาสักพัก เรารู้ว่านายควรรู้จักหลินหลิงพอสมควรแล้ว ว่าคนอย่างเธอก็มีสองแง่มุมอยู่ ตอนนี้เธอไปพักร้อนแล้ว ก่อนไปยังบอกเราว่าเธอไม่ชอบที่ถูกนายคอยตามตื้อตลอด เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากเจตนาหนีนายไป”
เมื่อไห่ลี่หมินได้ยินคำพูดนี้สีหน้าของเขาก็เคร่งเครียดกว่าเดิมอีก เขาคิดในใจ : ไอ้ผู้หญิงเลวคนนี้ เราทิ้งโน๊ตเตือนเธอแล้วไม่ใช่เหรอ? ดูเหมือนว่าจะจัดการกับเธออย่างตรงไปตรงมาไม่ได้แล้วสิท่า แถมยังกล้าหนีเขาไปอีกด้วย
จะหนีไปซ่อนตัวก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ยังบอกกับเย่เชินหลินทุกเรื่องแบบนี้ แล้วจะให้เขาเอาหน้าไว้ที่ไหนกัน?
“ไห่ นายฟังนะ ผู้หญิงเขายังไม่อะไรมากเลย นายดูตัวเองสิ กัดไม่ปล่อยแบบนี้มีความหมายเหรอ? เราว่านายกลับไปตั้งใจทำงานที่หลินเจียงเถอะ ไม่นานนายก็จะลืมเธอไปเอง นายอยู่ที่นั่นหาสาวมันง่ายยิ่งกว่ากระดิกนิ้วด้วยซ้ำ อยากได้แบบไหนก็เลือกได้ตามใจชอบ”
ไห่ลี่หมินก้มหน้าสูบบุหรี่เงียบ ๆ
เย่เชินหลินเงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ “แน่นอน ถ้านายชอบเธอจริง ๆ เดี๋ยวเราจะช่วยนายสารภาพรักให้เธอเอง”
เขาจะให้สารภาพรัก แต่ความจริงแล้วเขารู้ว่าคนอย่างไห่ลี่หมินไม่ยอมลดตัวมาบอกรักหลินหลิงหรอก
“สารภาพรักเหรอ? นายให้เกียรติผู้ช่วยของนายเกินไปแล้วล่ะ จะให้เราสารภาพรักกับผู้หญิงธรรมดาแบบนี้เนี่ยนะ!” ไห่ลี่หมินพูดด้วยสีหน้าเย้ยหยัน เขาไม่ได้บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แย่เกินไป แค่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งซึ่งก็เพราะให้เกียรติเย่เชินหลิน
ความจริงแล้วหลินหลิงก็ไม่แย่อย่างที่คิดหรอก อย่างน้อยเธอก็กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของไห่ลี่หมินได้อย่างง่ายดาย
โดยปกติแล้วไห่ลี่หมินเป็นคนนิ่ง ๆ และไม่เคยกล่าวหาใคร โดยเฉพาะพูดจาแบบนี้กับผู้หญิงคนหนึ่ง
“เรารู้ เราจะไม่เข้าใจนายได้ไงล่ะ? พอแล้ว อย่ารบกวนเธอเลย เธอไม่ได้ทำงานดี ๆ เลย อีกอย่างเราชินกับการมีเธอช่วยงานอยู่ตลอด ตอนนี้เธอไม่อยู่เรายุ่งจนแทบตาย” เย่เชินหลินบอก
“ไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่ได้ รอสักพักเราอาจจะเบื่อเธอ แล้วจะไม่รบกวนเธออีก” ไห่ลี่หมินพูดเหมือนเป็นเจ้าของเธอไปแล้ว
“นายก็แค่อยากเอาชนะใจเธอไม่ใช่เหรอ? เพราะความอยากของนายแค่นี้ต้องทำลายชีวิตของคนอื่นเลยเหรอ?” เย่เชินหลินนั้นเข้าใจความตั้งใจของไห่ลี่หมินจริง ๆ
เขาเคยคิดทำเช่นนี้กับเซี่ยชีหรั่นเหมือนกัน เขาหวังจะขังเธออยู่ในห้องไม่ให้ออกไปไหน และดีที่สุดคือไม่ให้ผู้ชายคนอื่นมองเธอ
ในตอนนั้นเขาไม่เคยคำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเลย คิดจะครอบครองชีวิตของคนอื่นฝ่ายเดียว เขาคิดว่าต้องเหนือกว่าอีกฝ่ายเท่านั้นถึงจะพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นเจ้าของที่แท้จริง
ไห่ลี่หมินได้แต่อยู่เงียบ ๆ ไม่พูดอะไร ในตอนนี้เซี่ยชีหรั่นมาเคาะประตูห้อง เธอเพิ่งทำอาหารเสร็จและไม่รู้ว่าไห่ลี่หมินอยู่ด้วย
เย่เชินหลินรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นมา เพราะเสียงเคาะประตูของเธอไม่เหมือนใคร
เขาพูดอย่างอ่อนโยน “เชิญครับ!”
เมื่อไห่ลี่หมินเห็นสีหน้าท่าทางของเย่เชินหลินแล้วก็รู้ว่าใครกำลังจะเข้ามาโดยไม่ต้องทาย
“ตอนนี้คุณถึงขั้นต้องเชิญฉันเข้ามาแล้วเหรอ ดีจังเลย มีความพัฒนาเหมือนกันนะเนี่ย” เซี่ยชีหรั่นยิ้มพูดแล้วเปิดประตูเข้ามา แต่เมื่อเห็นไห่ลี่หมินนั่งอยู่ที่โซฟาแล้วรู้สึกเขินต่อน้ำเสียงคำพูดที่เธอพูดกับเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินทำตัวไม่ถูก คนนี้อยู่บ้านปฏิบัติกับเขาแบบนี้ก็ไม่ว่า แต่นี่กลับมาทำให้ไห่ลี่หมินเห็น ตอนนี้เขาสองคนต่างรู้ไส้รู้พุงกันแล้ว คงไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องส่วนตัวอะไรอีก
“ครูชีหรั่นเหรอเนี่ย” ไห่ลี่หมินแกล้งถามแล้วพูดล้อเลียนน้ำเสียงที่เธอคุยกับเย่เชินหลิน “ดีจังเลย มีความพัฒนาเหมือนกันนะเนี่ย”
เซี่ยชีหรั่นเขินจนหน้าแดงไปหมดและไม่รู้จะต่อบทสนทนาของไห่ลี่หมินอย่างไร
“หาเรื่องเหรอนาย!” เย่เชินหลินพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโหและเย็นชา
เซี่ยชีหรั่นเห็นเพื่อนซี้สองคนนี้โต้เถียงกันอย่างมีความสุข
“ทานข้าวด้วยกันนะ! ฉันทำกับข้าวแล้ว ลี่หมิน คุณอยู่ทานข้าวด้วยกันนะ”
“ได้สิ!” ไห่ลี่หมินตอบอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีส่วนของเขา อยากกินที่ไหนก็ให้ไปกินที่นั่น” เย่เชินหลินพูดอย่างเย็นชา ดับบุหรี่แล้วลุกขึ้นมาโอบเอวเซี่ยชีหรั่นไว้
“ไม่ได้หรอก นี่ก็ถึงเวลากินข้าวแล้วนะ อีกอย่างจากที่นี่ไปในเมืองต้องใช้เวลาขับรถอีกตั้งสี่สิบนาทีเลยนะ”
“ฮ่า ๆ นั้นสิครับ คุณยังมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นไหม คุณเย่?” เมื่อไห่ลี่หมินเห็นหน้าเซี่ยชีหรั่นก็ลืมเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้ไปเกือบหมดแล้ว
เขารู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที บางทีเขาอาจจะประเมินค่าอิทธิพลของหลินหลิงที่มีต่อเขามากเกินไป แต่ที่จริงแล้วเซี่ยชีหรั่นมีอิทธิพลต่อเขามากกว่า
ความจริงแล้วเย่เชินหลินก็พูดไปอย่างนั้น คงไม่ถึงขั้นไม่ยอมให้เขากินข้าวจริง ๆ หรอกมั้ง?
“ประธานไห่เริ่มหน้าด้านขึ้นมาแล้วนะ ตอนนี้ถึงขั้นต้องขอข้าวกินแล้วด้วย”
เซี่ยชีหรั่นพยายามส่งสายตาให้กับเย่เชินหลิน เพราะเธอกลัวคำพูดของเขาจะไม่ให้เกียรติไห่ลี่หมินจนอาจทำให้เขาไม่พอใจได้
แต่เมื่อมองไปที่ไห่ลี่หมินก็เห็นเขายังคงยิ้มอยู่ “นับประสาอะไรล่ะ เรื่องแย่กว่านี้ผมก็ทำมาแล้ว นี่ก็แค่อยากกินอาหารที่เซี่ยชีหรั่นทำ ก็ผมชอบอ่ะ!”
“แต่เสียใจด้วยนะ นายก็แค่ได้กินอาหารที่เธอทำเท่านั้นแหละ” เย่เชินหลินพูดอย่างภาคภูมิใจ คำพูดของเขาหมายความว่ามีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิกินเธอได้ทั้งตัว
เย่เชินหลินและไห่ลี่หมินยังคงถบเถียงไปมากัน ทั้งสามคนเดินเข้าไปในห้องอาหารและพ่อบ้านก็เรียกโม่เสี่ยวหนงมากินข้าวด้วย
หลังจากทุกคนนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้ว อาหารก็เริ่มเสิร์ฟ เซี่ยชีหรั่นก็แนะนำอาหารที่เธอทำให้พวกเขาชิม
ไห่ลี่หมินชื่นชมอาหารที่เซี่ยชีหรั่นทำมาก เขาบอกว่า“ดูสิ เซี่ยชีหรั่นคนนี้ทำงานก็เก่ง ทำอาหารก็อร่อย ไอ้หนู นายต้องทะนุถนอมเธอนะ ไม่งั้นเราจะแย่งเธอไปจากนายแน่”
ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นเขินแดงจนไม่รู้ตัว ทำให้โม่เสี่ยวหนงรู้สึกอิจฉา เธอคิดในใจ มันก็แค่อาหารไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง มีอะไรดีเหรอ? ถ้าเธอฝึกทำอาหารเธอเชื่อว่าต้องทำได้ดีกว่านี้
ไห่ลี่หมินถอนหายใจลึก ๆ ข้างใน แล้วรู้สึกว่าเขาไม่เคยตัดสินใจผิดที่หลงรักเซี่ยชีหรั่นมาตลอด
เย่เชินหลินมองออกว่าเธอไม่ได้ทำอาหารเพื่อจะเอาใจเขาและขอความรักจากเขา แต่เธอตั้งใจเรียนรู้การทำอาหารเพื่อจะให้เขาได้กินอย่างมีความสุขเท่านั้น
ส่วนหลินหลิงคนนั้นเย็นเยือกเหมือนน้ำแข็ง คิดว่าชีวิตนี้ของเธอคงไม่เคยทำอาหารให้ผู้ชายคนไหนกินมาก่อน
“นายฝันไปเถอะ” เย่เชินหลินมองไปที่ผู้หญิงของเขาแล้วพูดอย่างจริงจังมาก
“แล้วก็ อาหารจานนี้ด้วยที่ฉันเป็นคนทำ ลี่หมินคุณช่วยชิมดูหน่อยสิ ฉันคิดว่าทำได้ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่นะ” เซี่ยชีหรั่นรีบเปลี่ยนเรื่องบทสนทนาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขาทั้งสองต่อหน้าคนใช้มากมาย
โม่เสี่ยวหนงคิดว่าเซี่ยชีหรั่นต้องการให้ไห่ลี่หมินชมเธออีก จึงแนะนำอาหารอีกจานให้เขาชิม
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ แล้วพูดเบา ๆ “เสี่ยวหนง เธอชอบกินขาหมูด้วยไม่ใช่เหรอ? กินขาหมูแล้วสวยนะ เธอกินเยอะ ๆ ล่ะ”
คำพูดคำนี้ทิ่มแทงจิตใจโม่เสี่ยวหนงมาก เธอหมายถึงอะไร กินขาหมูแล้วจะสวย นี่จะหาว่าเธอขี้เหร่ต่อหน้าหนุ่มหล่อรูปงามสองคนนี้เหรอ?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset