สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 757 สาวใช้ตัวแสบ 661

ตอนที่ 757 สาวใช้ตัวแสบ 661
เธอพูดซ้ำ ๆ ว่าเธอนั้นปากไม่ตรงกับใจ ภายนอกเหมือนเป็นห่วงเธอ แต่มันเจตนาร้ายแค่ไหน
โม่เสี่ยวหนงมองพี่สาวแล้วพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “นั่นสิคะพี่ พี่ก็ต้องกินเยอะ ๆ นะ พี่ก็ชอบกินขาหมูไม่ใช่เหรอ? พี่ต้องกินเยอะ ๆ ผิวพี่จะได้อ่อนนุ่ม จะได้ทำให้พี่เขยรักพี่มากขึ้น”
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้คิดว่าคำพูดของโม่เสี่ยวหนงมีเลศนัย แต่เย่เชินหลินกลับยิ้มอย่างรู้ใจเธอแล้วพูดต่อ
“พี่ชอบพี่สาวเธออยู่แล้วไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ดึงดูดคนที่สุดของพี่สาวเธอก็คือความดีมากกว่านะ ความดีแบบนี้ต่อให้กินขาหมูเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
“หลิน ได้ยินมาว่าเซียวเสี่ยวลี่มา แล้วตอนนี้เธอยังอยู่ไหม? เธอเป็นแขกของเรานะ ถ้ายังอยู่ก็ชวนมาทานข้าวด้วยกันสิ”
เซี่ยชีหรั่นฟังประโยคคำพูดของของเย่เชินหลินชักไม่ดีแล้วเธอจึงพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อจะไม่ให้โม่เสี่ยวหนงรู้สึกอึดอัด
“เธอไปแล้ว” เย่เชินหลินพูด
เขาแค่ตั้งใจพูดลอย ๆ กับโม่เสี่ยวหนง ไม่ได้มีเจตนาหรืออยากพูดอะไรมากกว่านี้ เพราะถึงอย่างไรเธอก็คือน้องสาวของเซี่ยชีหรั่นอยู่ดี ถ้าพูดอะไรที่จริงจังเกินไป สุดท้ายก็คือเซี่ยชีหรั่นเองที่ต้องคิดมาก ซึ่งเรื่องนี้เขาเข้าใจดี
ไห่ลี่หมินก็พอสังเขปสถานการณ์ตอนนี้แล้ว และเมื่อเขาเห็นสีหน้าที่กังวลของเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกอยากช่วยเธอมาก
“เซียวเสี่ยวลี่ถูกปล่อยตัวออกมาอีกแล้วเหรอ?” ไห่ลี่หมินถาม
“ใช่” เย่เชินหลินตอบสั้น ๆ
“ปล่อยเสือเข้าป่าจริง ๆ” ไห่ลี่หมินพูดตรงไปตรงมาโดยไม่กลัวใครจะโกรธ
เซียวเสี่ยวลี่ถูกปล่อยตัวก็เพราะเย่เชินหลินเห็นแก่ส้งหลิงหลิงอย่างไม่ต้องสงสัย
จนถึงทุกวันนี้เขายังให้เกียรติส้งหลิงหลิง นั้นก็หมายความว่าเขาไม่ให้เกียรติเซี่ยชีหรั่นเลยสิ
แน่นอนว่าเขาไม่รู้ความจริงเรื่องที่เย่เจิ้งเหิงนั้นร่างกายผิดปกติ จึงคิดว่าการกระทำของเย่เชินหลินนั้นไม่ถูกต้อง
เย่เชินหลินไม่ได้อธิบายอะไร เขานั่งกินข้าวอยู่เงียบ ๆ
บรรยากาศโต๊ะอาหารนั้นเริ่มอึดอัด เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าไห่ลี่หมินกำลังช่วยเธอขอความเป็นธรรมอยู่ แต่เธอเข้าใจเย่เชินหลินดี แม้บางทีอาจรู้สึกว่าเขาจะให้ความสำคัญกับเด็กและแม่เด็กมากไป แต่ถึงอย่างไรก็เป็นลูกของเขาอยู่ดี ถ้าเขาจะให้ความสำคัญกับลูกของตัวเองมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“ลี่หมิน ฉันได้ยินมาว่าหลินเจียงเปลี่ยนไปมากหลังจากที่คุณย้ายไปอยู่ที่นั่น ฉันก็เป็นคนหลินเจียงเหมือนกันนะ ขอชนแก้วกับคุณหน่อย อยากขอบคุณที่คุณทำเพื่อเมืองหลินเจียงนะ” เซี่ยชีหรั่นยกแก้วขึ้นแล้วพูด
“คุณจะชนแก้วทำไม ถ้าคุณจะดื่มเดี๋ยวผมดื่มแทนเอง” เย่เชินหลินแย่งแก้วไวน์มาชนแก้วกับไห่ลี่หมินแล้วดื่มเอง
ความจริงเขาทั้งสองไม่อยากดื่มในบ้านของเย่เชินหลินที่นี่หรอก เพราะบรรยากาศที่บ้านไม่เหมือนผับบาร์
แต่ทั้งสองก็รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นตั้งใจจะทำให้บรรยากาศโต๊ะอาหารดีขึ้น ไม่อยากให้รู้สึกอึดอัด เขาทั้งสองจึงดื่มเข้าไปอย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
เซี่ยชีหรั่นเป็นคนไม่ชอบดื่มเหล้าอยู่แล้วและเย่เชินหลินก็ไม่อยากให้เธอดื่ม เธอจึงไม่ได้ฝืนใจ
โม่เสี่ยวหนงกินอิ่มเป็นคนแรก เซี่ยชีหรั่นกลัวเธอไม่สบายใจจึงบอกกับเย่เชินหลินและไห่ลี่หมินว่าเธอขอออกไปพร้อมกับโม่เสี่ยวหนงก่อน
“เสี่ยวหนง กินอิ่มมั้ย?” เซี่ยชีหรั่นไม่อยากถามเรื่องเย่เชินหลินที่พูดแทงใจเธอเพื่อทำให้เธอต้องรู้สึกอึดอัด จึงหาเรื่องอื่นมาคุยกับเธอ
“พี่คิดล่ะ? พี่ พี่เขยยังมีอคติกับหนูนะ เฮ่อ ถ้าพวกพี่ไม่ชอบหนูจริง ๆ หนูคิดว่าหนูออกไปจากที่นี่ดีกว่า”
“คิดบ้า ๆ น่ะ เธอคิดมากไปแล้ว พี่เขยเธอไม่ได้มีอคติกับเธอหรอก แกคงคิดว่าเธอตั้งใจต่อว่าพี่ อย่าไปสนใจแกเลย บางทีก็ผีบ้าผีบอ ความคิดผู้ชายมันไม่เหมือนเราหรอก”
“จริงเหรอ?” โม่เสี่ยวหนงถอนหายใจแล้วพูดเบา ๆ “พี่ หนูอาจจะอ่อนไหวต่อคำพูดเกินไป หนูไม่ควรยุ่งกับเรื่องของพี่กับพี่เขยใช่ไหม?”
สีหน้าเธอดูน่าสงสารจึงทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเห็นใจเธอ
เซี่ยชีหรั่นเข้ามากอดเธอไว้แล้วพูดต่อ “ไม่เป็นไรหรอกน่า อยู่ด้วยกันนาน ๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”
หลังจากที่เธอสองคนเดินจากไป เย่เชินหลินกับไห่ลี่หมินก็ไม่ได้ดื่มต่ออีก
ขณะที่รับประทานอาหารไห่ลี่หมินพยายามปกป้องเซี่ยชีหรั่นคนนอกอาจจะดูไม่ออก แต่สำหรับเย่เชินหลินแล้วมองเห็นได้อย่างชัดเจน
แสดงให้เห็นว่าความรู้สึกของไห่ลี่หมินที่มีต่อเซี่ยชีหรั่นนั้นยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนและขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่าความรู้สึกที่มีต่อหลินหลิงก็ค่อย ๆ จางลง
หลังจากกลับไปที่ห้องรับแขก เย่เชินหลินพูดกับไห่ลี่หมิน “ไห่ นายควรกลับไปตั้งใจทำงานที่หลินเจียงแล้ว ส่วนเรื่องของหลินหลิงจะเป็นอย่างไรนายปล่อยเธอไปเถอะ อย่าไปยุ่งกับเธอเลย”
ไห่ลี่หมินไม่ได้ตอบอะไร แต่เย่เชินหลินเชื่อว่าเขาได้ยินคำพูดนี้อย่างชัดเจนแล้วจึงไม่พูดอะไรมากกว่านี้อีก
“ช่วงนี้ไอ้จงหมาป่าแก่ไม่ได้กดดันพวกนายแล้วใช่ไหม?” ไห่ลี่หมินถาม
เมื่อพูดถึงเขาสีหน้าของเย่เชินหลินก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“เปล่าหรอก แกคงยุ่งกับเสนาธิการหลี่อยู่”
“งานเต้นครั้งก่อนเราคิดว่าหลี่เหอไท้และหยุนซางเหมือนสนิทกันเป็นพิเศษนะ ถ้าเขาได้ร่วมมือกัน ชีวิตของนายกับชีหรั่นคงดีกว่านี้แน่”
“ไม่ว่าเขาจะเป็นร่วมมือกันหรือไม่ ชีวิตของเราก็จะไม่มีปัญหาใด ๆ หรอก” เย่เชินหลินพูดอย่างหนักแน่น
“เรารู้ แต่นายอย่าประมาทเด็ดขาดเลยล่ะ ยิ่งหมาป่าอยู่เงียบ ๆ มันยิ่งเป็นอันตรายต่อเหยื่อนะ เดี๋ยวเราจะช่วยสังเกตอีกแรงละกัน”
เย่เชินหลินตบไหล่ไห่ลี่หมินเบา ๆ แสดงความขอบคุณกับเขา
ทั้งสองคุยได้สักพัก ไห่ลี่หมินก็ลุกขึ้นเตรียมตัวเพื่อจะออกไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขา
เย่เชินหลินให้พ่อบ้านส่งแขก ไม่นานหลังจากที่ไห่ลี่หมินออกไป เย่เชินหลินก็ได้ยินเสียงคนใช้ที่บ้านกล่าวทักทายในห้องรับแขก “คุณท่านเย่ คุณหญิงเย่!”
เซี่ยชีหรั่นก็ได้ยินเหมือนกัน เธอจึงรีบแต่งตัวแล้วมาหาเย่เชินหลินเพื่อจะไปต้อนรับพวกเขา
“คุณพอคะ คุณแม่คะ!” หลังจากที่ได้พบกัน เซี่ยชีหรั่นก็เรียกประธานเย่และฝู้เฟิ่งหยีด้วยความสนิทสนม
“ชีหรั่นเป็นไงบ้างช่วงนี้? หลังจากที่ลูกของเชินหลินคลอดแล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตเธอไหม?” ฝู้เฟิ่งหยีถาม
“ไม่ค่ะคุณแม่” เซี่ยชีหรั่นยิ้มตอบ
“จะไม่มีผลกระทบได้ไงล่ะ คุณถามแบบนี้จะให้คนอื่นตอบยังไง” เย่เฮ่าหรันพูดอย่างเย็นชาและสีหน้าที่จริงจัง แต่คำพูดของเขาก็สื่อถึงความเป็นห่วง
“คุณพ่อคะ ไม่จริง ๆ นะคะ เชินหลินดีกับหนูมากกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำนะคะ ใช่มั้ยเชินหลิน?” เซี่ยชีหรั่นเงยหน้ามองเย่เชินหลิน
“เอาเถอะ แล้วหลานอยู่ไหน พาเราไปหาที” เย่เฮ่าหรันพูด
“อยู่ชั้นบนครับ เราขึ้นไปกันเถอะ” ความจริงที่ผ่านมาเย่เชินหลินไม่อยากให้พ่อแม่เขามาเยี่ยมลูกของเขา แต่ในสุดก็มาจนได้
เขาเดาว่าพวกเขาไม่ได้แค่จะมาเยี่ยมหลานหรอก ไม่งั้นจะพาเหยนชิงเหยียนและจิ่วจิ่วมาด้วยทำไม
จิ่วจิ่วและเหยนชิงเหยียนได้กล่าวทักทายเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลิน จากนั้นก็เดินตามขึ้นไปชั้นบน
เย่เฮ่าหรันต่อต้านพฤติกรรมของเย่เชินหลินที่ให้ผู้หญิงสองคนมาอยู่บ้านเดียวกันมาก
เมื่อเห็นส้งหลิงหลิงมาอยู่เดือนในบ้านนี้ก็รู้สึกโกรธ
“สวัสดีคุณลุงเย่ค่ะ สวัสดีคุณป้าเย่ค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ!” เมื่อส้งหลิงหลิงได้ยินเสียงพวกเขาก็รีบมาต้อนรับ
เย่เฮ่าหรันไม่แม้แต่มองหน้าส้งหลิงหลิงเลย หลังจากก้าวเข้าประตูห้องแล้วก็เดินตรงเข้าไปที่เตียงเด็ก
เขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าเขาชอบหลานคนนี้ แต่ที่เดินเข้าไปก็เพราะมีสาเหตุของเขา
เด็กยังคงหลับสนิทอยู่ ฝู้เฟิ่งหยีก็เดินตามเย่เฮ่าหรันเข้าไปยืนอยู่ข้างเตียงเด็กแล้วมองหน้าใบเล็ก ๆ ของหลานชาย
เมื่อเธอได้เห็นก็รู้สึกชอบเพราะเป็นหลานในสายเลือดของเธอ
เย่เฮ่าหรันไม่ได้รังเกียจเด็กคนนี้โดยส่วนตัว แต่ก็บอกไม่ได้ว่าชอบเพราะเด็กไม่ได้เกิดมาอย่างถูกต้อง
“เย่เจิ้งเหิงตัวน้อยจ๋า ลูกเห็นมั้ย คุณปู่คุณย่ามาเยี่ยมลูกแล้วนะ!” ส้งหลิงหลิงเดินตามเข้ามาแล้วพูดเบา ๆ
สายตาของเย่เฮ่าหรันกวาดมองไปที่ส้งหลิงหลิงอย่างเย็นชาแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “จิ่วจิ่ว มาอุ้มเด็กไป”
……
เมื่อจิ่วจิ่วได้รับคำสั่งก็มองไปที่เย่เชินหลินอย่างธรรมชาติ
เพราะเธอเป็นคนใช้ที่เขาจ้างมา ดังนั้นเธอควรเชื่อฟังเย่เชินหลินมากกว่า
“จะมองเขาทำไม? ให้เธออุ้มก็รีบเข้ามาอุ้มสิ!” เย่เฮ่าหรันพูดอย่างเคร่งเครียด
ความจริงในตระกูลเย่ เย่เฮ่าหรันกับฝู้เฟิ่งหยีต่างก็ต้องการให้จิ่วจิ่วและเหยนชิงเหยียนได้สมหวังกัน ดังนั้นเขาจึงปฏิบัติต่อจิ่วจิ่วเหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาและไม่เคยพูดจากับเธอแบบนี้มาก่อนเลย
ความน่าเกรงขามของเย่เฮ่าหรันไม่ต้องพูดถึงเพราะเขาเป็นถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และคำสั่งที่ชัดเจนของเขาทำให้จิ่วจิ่วไม่กล้าปฏิเสธ จึงเดินเข้าไปข้างเตียงเด็กอย่างเชื่อฟัง
“ท่านประธานเย่ ท่านกำลังทำอะไรอยู่?” เย่เชินหลินเดินไปข้างหน้าแล้วขวางทางจิ่วจิ่วไว้ เซี่ยชีหรั่นก็รีบเดินตามหลังมา
“ทำอะไรงั้นเหรอ? นายดูสิ ผู้หญิงที่นามสกุลส้งคนนี้และลูกของเธอได้อยู่ที่นี่อย่างสบายใจแบบนี้ นายคิดว่าเซี่ยชีหรั่นจะรู้สึกยังไง? เธอเป็นคู่หมั้นของนายนะ นายอย่าเข้าใจผิดไปล่ะ เด็กคนนี้เป็นทายาทของตระกูลเย่ และฉันเป็นปู่ของเขา เราจะพาเขาไป ฉันกับแม่นายจะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเขาอย่างดีเอง” เย่เฮ่าหรันพูดอย่างจริงจัง
ตั้งแต่เขาและเย่เชินหลินได้เข้าไปยืนอยู่ที่จุดยืนในฐานะนักการเมืองแล้ว เขาทั้งสองก็มีความคิดหลาย ๆ อย่างที่ตรงกัน
เขารู้จักลูกชายของเขาดีและเข้าใจความรู้สึกของเซี่ยชีหรั่นเหมือนกัน เขาเชื่อว่าลึก ๆ ในใจของเย่เชินหลินนั้นยอมมอบลูกชายให้คุณปู่คุณย่าของหลานไปเลี้ยงดู
ถ้าไม่ใช่เพราะปัญหาทางร่างกายของเด็ก เย่เชินหลินก็ไม่อยากให้ลูกชายต้องรบกวนความสัมพันธ์ของเขากับเซี่ยชีหรั่นและทำให้เธอต้องมีภาระใจเหมือนกัน
แต่สถานการณ์ตอนนี้มันบีบบังคับเขายอมให้พ่อแม่พาเด็กไปเลี้ยงทั้งที่รู้ว่าเด็กมีโรคหัวใจไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งเด็กเกิดมีปัญหาถึงแก่ชีวิต คนแก่ทั้งสองจะทนรับได้อย่างไร?
ถึงแม้เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าเย่เจิ้งเหิงตัวน้อยคนนี้จะมีโรคหัวใจ แต่เธอก็หวังให้เด็กได้อยู่กับเย่เชินหลิน เพราะเธอรู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับเด็กมากแค่ไหน
เย่เชินหลินที่สีหน้าเคร่งเครียดยังไม่ทันได้พูดเซี่ยชีหรั่นก็ได้พูดกับประธานเย่ก่อน
“คุณพ่อคะ หนูรู้ว่าคุณพ่อและคุณแม่เป็นห่วงหนู ท่านทั้งสองไม่อยากให้เด็กต้องรบกวนชีวิตหนู แต่หนูเคยบอกหลายครั้งแล้วว่าหนูจะยอมรับ ในเมื่อหนูรับปากแล้วหนูก็ต้องยอมรับทุกอย่างรวมถึงเด็กคนนี้ด้วย อีกอย่างหนูอยากรู้จักเขาให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งสนิทเร็วยิ่งดี เด็กจะได้พึ่งพาในตัวหนูด้วยและหนูจะได้สร้างความสัมพันธ์ภายในตัวไปด้วย หนูเองที่เป็นคนขอร้องให้เย่เชินหลินพาส้งหลิงหลิงและลูกมาอยู่ที่ด้วย เพราะเขาจะได้ไม่ต้องกังวลถ้ามีลูกอยู่ใกล้ ๆ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset