สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 759 สาวใช้ตัวแสบ 663

ตอนที่ 759 สาวใช้ตัวแสบ 663
“ฉันว่าตอนนี้นางแค่เสแสร้งนะ เธอดูตอนที่ประธานเย่กับคุณหญิงเข้าไปในบ้านสิ นางยังแสร้งทำเป็นพูดกับเด็กว่าคุณปู่คุณย่ามาหาแล้วนะ อยากสื่อว่าเธอไม่ต้องอยู่เตือนอีกต่อไปแล้ว คำพูดปากไม่ตรงกับใจแบบนี้ใครจะเชื่อล่ะ” จิ่วจิ่วไม่ชอบส้งหลิงหลิงมาตลอด เธอรู้สึกว่านางเป็นคนเลวทรามและไม่มีวันดัดสันดานได้
“ยัยบื้อ ก็พวกท่านเป็นคุณปู่คุณย่าของเด็กอยู่แล้วหนิ ถ้าไม่ให้เรียกแบบนี้แล้วจะให้เรียกยังไงละ? เอาเหอะอย่าไปคิดมากเลย ต่อให้นางมีอะไรจริง ๆ ก็ไม่ใช่อุปสรรคของฉันกับเย่เชินหลินหรอก เธอไม่ต้องกังวลนะ”
“ชีหรั่น ดูเธอสิ เธอก็ไม่ได้โง่นะ เธอไม่รู้ได้ไงว่านางคิดร้ายอยู่ เธอห้ามตามใจนางเด็ดขาดเลยนะ เชื่อฉันสิ ให้นางออกไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้!”
จิ่วจิ่วยิ่งพูดยิ่งโมโหแล้วรู้สึกโกรธโดยไม่รู้ตัว
เซี่ยชีหรั่นรู้จักเธอดี เธอจับมือเธอไว้แล้วพูดว่า “ได้ ๆ ๆ ฉันจะจับตามองนางดี ๆ ละกัน ถ้ามีพิรุธเมื่อไหร่ฉันจะให้นางออกไปทันที โอเคมั้ย?”
“ค่อยยังชั่ว จำไว้นะว่าห้ามอ่อนข้อให้กับคนเลว ๆ แบบนี้!”
จนกว่าจะเห็นเซี่ยชีหรั่นพยักหน้าตอบ จิ่วจิ่วจึงไม่พูดเรื่องนี้ต่อ
“จิ่วจิ่ว แล้วเธอกับเย่จื่อห้านไปถึงไหนกันแล้ว?” เซี่ยชีหรั่นถามเบา ๆ และคำถามของเธอทำให้จิ่วจิ่วทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ จากนั้นเธอก็ตอบอย่างเหม่อลอย“อะไรไปถึงไหน? เราไม่มีอะไรกันหนิ อีกอย่างเขาเป็นคนผีบ้าผีบอคนหนึ่ง”
“เธอเป็นหญิงแกร่งคนหนึ่งคงไม่ขี้ขลาดขนาดนั้นหรอกมั้ง? ชอบคนอื่นแต่ไม่กล้าแสดงออกเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นแกล้งจิ่วจิ่วจนทำให้หน้าเธอเริ่มแดง
ช่วงนี้เธอก็รู้สึกสับสนกับตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้ว่าชอบผู้ชายคนนั้นจริง ๆ แล้วหรือเปล่า
เพราะเมื่อตอนที่ไม่ได้เจอเขาก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง เหมือนไม่มีใครให้ทะเลาะกัน แต่เมื่อเขาอยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกรำคาญเขามาก
เขาไม่ใช่คนช่างพูดและไม่เคยทำร้ายเธออะไร ตรงกันข้าม โดยส่วนใหญ่เขามักจะเป็นคนยอมเธอเสมอ
เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ได้แต่ใช้ชีวิตอย่างซับซ้อนและรู้สึกว่าถ้าชอบเขาแล้วก็จะรู้สึกผิดต่อโม่เสี่ยวจุน ช่วยไม่ได้ ใครให้เธอแอบชอบโม่เสี่ยวจุนก่อน
“จิ่วจิ่ว ฉันคิดว่าเธอสองคนเหมาะสมกันมากเลยนะ เธออยากได้แฟนหล่อรวยไม่ใช่เหรอ? ก็คนนี้ไง”
“พูดไปเรื่อย” จิ่วจิ่วฝืนใจพูด เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นอดขำไม่ได้เธอจึงแกล้งไอแล้วพูดต่อ “ต่อให้เขาใช่คนคนนั้น แต่เขาก็ไม่ใช่สเปคฉันอยู่ดี ฉันไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้หรอก โดยเฉพาะคนที่มีคนชอบอยู่แล้วในใจ เธอก็เคยเห็นหนิ งานเต้นครั้งก่อนที่นี่สายตาที่เขามองไห่ฉิงฉิงในงานฉันเห็นแล้วรู้สึกคลื่นไส้จริง ๆ !”
เซี่ยชีหรั่นย้อนคิดสถานการณ์ในคืนนั้น การแสดงออกของโม่เสี่ยวจุนและไห่ฉิงฉิงเปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับพวกเธอ แต่ดูเหมือนปฏิกิริยาของเหยนชิงเหยียนไม่มีอะไรพิเศษมากกว่านั้น กลับเป็นจิ่วจิ่วเองที่ได้เห็นหน้าโม่เสี่ยวจุนแล้วรู้สึกตื่นเต้นกว่าคนอื่น
“จริงเหรอ? จิ่วจิ่ว ทำไมฉันไม่เห็นการแสดงออกของเขาทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้เลย หรือเธอคิดมากไปเองแล้วหึงหวงเขารึเปล่า?”
“โอ้ย คุยเรื่องเธออยู่นะ จะโยงมาที่ฉันทำไม? ยังไงฉันก็ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อเขาหรอก พวกเธอไม่ต้องใส่ไฟเลย ไม่ติดหรอก! จริงสิชีหรั่น ฉันรู้สึกว่าไม่อยากทำงานแม่บ้านอีกแล้วล่ะ ฉันอยากหางานที่เหมาะสมกว่านี้ เมื่อก่อนตอนเรียนจบใหม่ ๆ ฉันคงตัดสินใจเร็วเกินไป ก็เลยมาทำงานที่คุณชาย แน่นอนว่าเงินเดือนที่นี่ดีกว่าที่อื่นนะ แต่ฉันไม่คิดเหมือนเมื่อก่อนแล้วล่ะ ฉันคิดว่าทำงานแม่บ้านแบบนี้คงไม่ได้ประสบการณ์อะไรมากกว่านี้แล้ว ฉันว่าอยากลองไปเป็นเซลล์ดู เธอว่าโอเคมั้ย? ”
ความจริงแล้วเซี่ยชีหรั่นหวังว่าจิ่วจิ่วจะอยู่บ้านตระกูลเย่ไปตลอดจะได้เจอหน้ากันบ่อย ๆ
แต่ถ้าจิ่วจิ่วมีความฝันของตัวเองเธอก็ต้องสนับสนุนอย่างแน่นอน เพราะเธอรู้ว่าให้จิ่วจิ่วทำงานนี้ไปตลอดก็อาจจะเป็นการตัดอนาคตเธอ
“ถ้าเธอชอบก็ไปทำเลย ฉันคิดว่าบุคลิกเธอดีขนาดนี้ ยิ่งเป็นคนอัธยาศัยดีเข้าหาคนง่าย ถ้าได้ทำงานนี้ก็คงเหมาะสมกับเธอแน่นอน”
“เฮ่อ! เธอก็ช่างพูดจริง ๆ เลยนะ! เยี่ยมมาก ๆ ฉันบอกว่าฉันจะกลายเป็นหญิงแกร่งให้ดู แต่เขากลับบอกว่าถ้าฉันออกไปทำงานคงทำได้สองสามวันก็ถูกไล่ออกแล้ว ฉันไม่ยอมหรอก ฉันจะออกไปทำให้เขาดู!”
เซี่ยชีหรั่นได้แต่ยิ้มและไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ เห็นได้ชัดว่าเขาคือเหยนชิงเหยียนจริง ๆ และยิ่งกว่านั้นเขาอาจดูเหมือนคนหาเรื่องแต่ลึก ๆ แล้วก็เป็นห่วงเธอ
เพียงแต่ว่าความตั้งใจของเหยนชิงเหยียน จิ่วจิ่วอาจสัมผัสมันไม่ได้ในตอนนี้
ทั้งสองคุยกันต่อสักพักโทรศัพท์ของเซี่ยชีหรั่นก็ดังขึ้น สายโทรเข้าจากเย่เชินหลิน
“หลิน” เธอรับสายนั้นแล้วพูดอย่างอ่อนโยน
“คุยอะไรกันนานขนาดนี้ พรุ่งนี้ค่อยคุยต่อ รีบกลับมา!” เย่เชินหลินเริ่มหงุดหงิด เขารอที่ห้องนานจนหมดความอดทนแล้ว เหมือนกับว่าภรรยาเขาถูกปล้นไปอย่างไรอย่างนั้น
เซี่ยชีหรั่นแลบลิ้น แล้วพูดต่อ “รู้แล้ว กำลังจะกลับ”
หลังจากวางสายลง เซี่ยชีหรั่นก็หันไปจูงมือจิ่วจิ่วแล้วกลับเข้าบ้าน
“แหวะ ๆ จะหวานกันไปถึงไหน จำเป็นต้องอวดให้ฉันเห็นเหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นไม่สนใจเธอและปล่อยเธอพูดไป
ทั้งสองเดินไปไม่ไกลก็เห็นเงาร่างใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้า ที่แท้คุณชายเย่มายืนรอพวกเธอแล้ว
“คุณเย่คะ กลางคืนหนูกลัว ให้ชีหรั่นมานอนกับหนูนะ” จิ่วจิ่วเดินเข้าไปพูดกับเย่เชินหลินด้วยความกล้าหาญ
“โลกสวยไปละ เธอกลัวเดี๋ยวฉันจะหายามมานอนกับเธอสักสองคน” เย่เชินหลินพูดเบา ๆ แต่ทำให้จิ่วจิ่วหดตัวลงแล้วส่ายหัวพูดต่อ “ไม่ดีกว่า หนูไม่กลัวแล้วล่ะ”
เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินมองหน้ากันแล้วยิ้มอีกครั้ง จิ่วจิ่วพูดต่อ“พอเถอะ เลี่ยนไปหมดแล้ว หนูไปก่อนดีกว่า”
เย่เชินหลินโอบเอวเซี่ยชีหรั่นไว้แล้วค่อย ๆ เดินไปข้างหน้า
“คุณจะไปนอนกับแม่นางคนนั้นจริงเหรอ?” หลังจากที่จิ่วจิ่วเดินห่างไป เย่เชินหลินจึงถามเซี่ยชีหรั่นเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคือง เซี่ยชีหรั่นจึงอดยิ้มออกมาไม่ได้
“จริงสิ เราไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วยังมีเรื่องมากมายต้องคุยกันอีก คืนนี้ฉันอยากไปนอนกับเธอ”
“คุณอยากหาเรื่องเจ็บตัวใช่มั้ย!” หลังจากที่เย่เชินหลินพูดจบ เขาก็โน้มตัวไปจูบที่ปากเธออย่างไม่สนใจใคร
เขารู้ว่าเธอแค่พูดเล่น แต่ก็ยังรู้สึกอิจฉาจนต้องประกาศความเป็นเจ้าของสักหน่อย
บนถนนที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไลแลค เขาวางจูบที่ริมฝีปากของเธอและอุ้มผู้หญิงที่ถูกเขาจูบจนหมดแรงขึ้นมาแล้วรีบกลับเข้าไปในบ้าน
“ปล่อยฉันลงเถอะ คุณอุ้มฉันกลับไปอย่างรีบร้อนแบบนี้ ใครเห็นก็รู้ว่าคุณกำลังจะทำอะไรฉัน” เซี่ยชีหรั่นกระซิบพูดและขอร้องเขา
“เขารู้ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องมารบกวนอีก”
เย่เชินหลินไม่สนใจเธอ ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยเธอลงแต่กลับวิ่งเร็วขึ้น
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอายจนต้องซุกหัวลงกลางอกเขา หลับตาลงและไม่กล้ามองใคร
หลังจากเข้าไปในห้องนอนของเย่เชินหลินแล้วยังไม่ทันอุ้มเธอไปที่เตียง เขาปิดประตูลงแล้วพิงเธอไว้ที่ประตู จากนั้นกระโปรงของเธอก็ถูกฉีกขาดอย่างเหลือทน
ผู้ชายคนนี้ป่วยจิตแน่ ๆ ทำไมเป็นคนลามกอนาจารขนาดนี้ ชอบฉีกเสื้อผ้าชอบกดเธอที่ประตูตลอด เซี่ยชีหรั่นคิดในใจ
เธอกำลังจะขัดขืนแต่มือใหญ่ยาวของเขาก็เริ่มลูบไล้ไปรอบ ๆ เรือนร่างของเธอ
“พรุ่งนี้ฉันมีงานต่อนะ……อื้อ ๆ ……” คำพูดของเธอถูกหยุดด้วยปากเขาอีกครั้ง
เมื่อเพิ่งถูกเขาจูบ เธอก็พยายามจะคุยกับเขาเพื่อขอร้องให้ปล่อยเธอไปในคืนนี้
แต่ใครจะรู้ว่าคุณชายเย่จะรู้ทันเธอและไม่ปล่อยโอกาสให้เธอเลย ตอนนี้เขาแทบจะครอบครองทุกส่วนของร่างกายเธอแล้ว
ความคิดของผู้ชายก็เป็นแบบนี้ เพราะคืนนี้เซี่ยชีหรั่นทำดีต่อเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกซึ้งใจ เขาจึงคิดว่าจะตอบแทนเธอด้วยความรัก ทำให้เธอได้พึงพอใจในคืนนี้
เมื่อถึงบนเตียงทั้งสองก็ต่างมีอารมณ์เร่าร้อนกัน ร่างกายทั้งสองต่างเสพสุขกับความรื่นเริง จิตใจทั้งสองต่างรู้สึกหวานชื่นและมีความสุขราวกับว่าปัญหาทั้งหมดในโลกนี้ได้หายไปหมด
ขณะเดียวกันส้งหลิงหลิงนอนดูลูกอยู่คนเดียวในห้องด้วยความหงุดหงิด
การกระทำของเย่เฮ่าหรันวันนี้ทำให้เธอรู้สึกกังวลมาก ซึ่งเขาไม่รู้แน่นอนว่าช่วงนี้เธอมีแผนร้ายอะไรอยู่ ถึงแม้เขาไม่รู้ความคิดเธอแต่ก็ไม่เคยไว้ใจในตัวเธอ ดูเหมือนว่าตอนนี้ถ้าเธอยังนิ่งเฉยก็คงต้องรอความตายอย่างเดียว เธอต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
ต่อให้เย่เฮ่าหรันจะมาไม้แข็ง แต่เขาก็คงไม่เพิกเฉยต่อความรู้สึกของลูกชายหรอก
ขอเพียงสักวันเย่เชินหลินหันมารักเธอ หรือแม้จะไม่รักเธอแต่ขอเพียงเขาเลือกเธอและเธอเป็นแม่ที่ให้กำเนิดเย่เจิ้งเหิง เธอเชื่อว่าสักวันเย่เฮ่าหรันและฝู้เฟิ่งหยีจะยอมรับเธอได้
เธอต้องหาวิธีทำลายความสัมพันธ์ของเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินให้ได้ การใช้โม่เสี่ยวหนงเป็นประโยชน์ก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน แต่ตอนนี้เธอยังอยู่ไม่ครบเดือนจึงขยับไปไหนไม่สะดวก อีกอย่างแม่ของเธอถูกคนของเย่เชินหลินส่งกลับบ้านไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครจะช่วยเธอได้เลย
ณ ตอนนี้ที่บ้านตระกูลเย่เธอช่างโดดเดี่ยวเหลือเกิน เย่เชินหลินทารุณกับเธอแม้แต่เดินออกจากประตูห้องก็ไม่อนุญาต
ลูกรักเอ๋ย ลูกว่าตอนนี้แม่ทำอะไรได้บ้าง? เธอมองหน้าลูกแล้วถอนหายใจอย่างแรง
จริงด้วยสิ! เธอยังมีลูกไม่ใช่เหรอ? ก็ลูกคนนี้ไงที่เป็นที่พึ่งและเป็นเครื่องมือต่อรองของเธอ
ส้งหลิงหลิง เธอยังสับสนอะไรอยู่ ความฉลาดของเธอหายไปไหนหมดแล้ว? เรื่องง่าย ๆ แบบนี้ยังคิดไม่ได้
เซี่ยชีหรั่นอยากแสดงความรักกับเด็กมากไม่ใช่เหรอ? เธอบอกกับครอบครัวเย่ว่าจะดูแลเด็กคนนี้เหมือนลูกแท้ ๆ ของเธอไม่ใช่เหรอ? และบังเอิญว่าส้งหลิงหลิงก็เคยพูดต่อหน้าทุกคนว่าเธอจะมอบเด็กคนนี้ให้กับเซี่ยชีหรั่น แล้วจะรออะไรอีก?
ถ้าเด็กมีปัญหาจริง ๆ เซี่ยชีหรั่นเองไม่ใช่เหรอที่ต้องรับผิดชอบและมีโอกาสทำผิดพลาดมากขึ้น
ถึงอย่างไรเด็กก็เป็นลูกในสายเลือดของเย่เชินหลิน ถ้าเซี่ยชีหรั่นทำหน้าที่ไม่ดีพอ เย่เชินหลินก็ต้องตำหนิเธอและถ้าเขาโกรธเธอเมื่อไหร่ เซี่ยชีหรั่นก็จะมีความคิดที่ว่าทำดีไม่ได้ดี ทั้งสองต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่นอนสิ?
จนกว่าความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองจะเกิดรอยร้าว เธอก็คงอยู่เดือนครบพอดี และถึงเวลานั้นเธอแค่หาเวลาไปเตรียมยาให้เสร็จก็สามารถใช้โม่เสี่ยวหนงเป็นประโยชน์ได้ทันที
แผนเด็ด!
ส้งหลิงหลิงรู้สึกได้ใจกับตัวเองและลูกแล้วยิ้มออกมาเบา ๆ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset