สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 763 สาวใช้ตัวแสบ 667

ตอนที่ 763 สาวใช้ตัวแสบ 667
“เธอไปพักผ่อนเถอะ พี่จะคอยดูอยู่ที่นี่ หากไม่มีอะไรพี่จะกลับไป”
“พี่ นี่ไม่ใช่ลูกของพี่นะ ทำไมพี่ต้องจริงจังขนาดนี้ด้วย ”โม่เสี่ยวหนงกระซิบเสียงเบา ไม่กลัวคนอื่นได้ยินเลยสักนิด
“อย่าพูดจาเหลวไหล รีบกลับไปเถอะ เด็กนอนหลับยาก อย่าทำเสียงดังปลุกเขา”
นำเสียงกังวลใจของเซี่ยชีหรั่นมีความกระวนกระวาย โม่เสี่ยวหนงชายตามองเธอด้วยความไม่สบอารมณ์ พูดทิ้งท้ายว่า:“ตามใจแล้วกัน”และเดินจากไปด้วยความโมโห
รู้ว่าโม่เสี่ยวหนงไม่พอใจอีกแล้ว แต่ในตอนนี้เซี่ยชีหรั่นกลับไม่มีกะจิตกะใจกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของเธอ สายตาของเธอไม่ยอมละออกจากใบหน้าเล็กๆของเย่เจิ้งเหิง
“เหลือคนดูแลไว้คนเดียวก็พอ ส่วนคนอื่นออกไปก่อนเถอะ พ่อบ้าน คุณก็ไปพักผ่อนซะ คนในห้องเยอะเกินไป กลัวเด็กจะหลับได้ไม่เต็มที่” เซี่ยชีหรั่นมอบงานด้วยเสียงเบา ทุกคนต่างเชื่อฟังคำสั่ง
มองไปที่เธอในตอนนี้ ทุกคนต่างเชื่อฟัง ในใจของส้งหลิงหลิงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
ปัญหาถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย เธอรู้สึกหงุดหงิดมาก เดิมทียังคิดอยากใช้โอกาสนี้ดูว่าแท้จริงแล้วลูกจะมีปัญหาหรือไม่ แต่เรื่องกลับกลายเป็นแบบนี้ คงไม่มีทางตัดสินได้แล้ว
จู่ๆเธอก็รู้สึกเสียใจ หากไม่พูดตั้งแต่แรกว่าท้องไส้ของเธอไม่ดี จากนั้นปล่อยให้ลูกกินนมไป ถ้าหากลูกก็เกิดอาการท้องไส้ไม่ดีเช่นกัน เย่เชินหลินจะต้องส่งลูกไปโรงพยาบาลแน่นอน ถึงตอนนั้นเธอก็อยู่ด้วย สามารถรู้สถานการณ์ทุกอย่างเกี่ยวกับลูกอย่างดี
ส้งหลิงหลิง เธอยังคิดอย่างระมัดระวังมากเกินไป ความกล้าหาญยังมากไม่พอ
ตอนนั้นที่เธอไม่กล้าให้นมลูก เนื่องจากกลัวเย่เชินหลินสงสัย คิดว่าเธอรู้อยู่แก่ใจว่าท้องไส้ไม่ดีแต่ยังให้นมลูก เธอต้องการรอจนกว่าลูกจะร้องไห้ และไม่ยอมกินนมผง จนหมดหนทางจึงจะให้ลูกกินนมแม่ที่ไม่สบาย
เย่เจิ้งเหิงหลับ ภายในห้องเหลือแค่เพียงเซี่ยชีหรั่น พี่เลี้ยงหนึ่งคนและส้งหลิงหลิง
เซี่ยชีหรั่นกวาดสายตาเย็นชาไปที่ส้งหลิงหลิง เธอรู้สึกว่าอาการท้องไส้ไม่ดีของส้งหลิงหลิงมีบางอย่างผิดปกติ
ทำไมทุกครั้งที่เธอท้องไส้ไม่ดีจะต้องเป็นตอนที่เย่เชินหลินไม่อยู่
อีกอย่าง ท่าทางของพี่เลี้ยงหลี่น่าจะมีบางอย่างต้องการพูดกับเธอ
เรื่องการตั้งท้อง เซี่ยชีหรั่นโดนส้งหลิงหลิงวางแผนไว้แล้วพอสมควร ดังนั้นสำหรับเธอ ยังมีการเตรียมป้องกันไว้ไม่น้อย ดังนั้นเธอจะไม่ไปไหน เพราะไม่ต้องการปล่อยให้เธอมีโอกาสทำเรื่องอย่างอื่นขึ้นมาอีก
ไม่มีใครพูดอะไร ภายในห้องเงียบมาก เวลาผ่านไปเรื่อยๆ
ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เย่เจิ้งเหิงตื่นขึ้นอีกครั้ง ร้องไห้ดิ้นไปมาเมื่อตอนเริ่มต้น เขาไม่ชอบนมผง ทุกคนต่างมองออก ดังนั้นจึงกินไปเพียงน้อยนิด
เป็นแบบนี้สักพักแล้วก็ดิ้นไปมาอีก พ่อบ้านก็ไม่กล้าจากไปไหน คอยรออยู่นอกประตูตลอดเวลา
เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงคืน เซี่ยชีหรั่นเริ่มง่วงนอน แต่เธอยังคงยืนยันที่จะเฝ้าอยู่ในห้องเด็กเหมือนเดิม
ไม่รู้ว่าเป็นเวลากี่โมง เซี่ยชีหรั่นนอนหลับอยู่บนเก้าอี้
ตอนเย่เชินหลินเดินเข้ามามองเห็นเซี่ยชีหรั่นนอนหลับในท่าทางที่ไม่สบายตัว เขารู้สึกเจ็บปวดใจอย่างไม่มีอะไรมาเปรียบได้
เขาก้าวไปข้างหน้าและอุ้มเธอขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นโดนเขาอุ้มแบบนี้ จึงตื่นขึ้น
“ตูตูเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ร้องแล้วหรอ?”เซี่ยชีหรั่นถาม ผ่านไปพักใหญ่ถึงรู้ตัวว่าเย่เชินหลินกลับมาแล้ว เป็นเขาที่กำลังอุ้มเธอ
“ไม่ร้องแล้ว พวกเรากลับห้องเถอะ”
“คุณกลับมาได้อย่างไร? ไหนบอกว่าจะไปสามสี่วัน?”เซี่ยชีหรั่นถามเสียงเบา
ส้งหลิงหลิงขึ้นนอนบนเตียงไปนานแล้ว เย่เชินหลินกลับมาในเวลานี้ เธอที่เพิ่งจะตื่นก็รู้สึกแปลกใจมาก
คำถามของเซี่ยชีหรั่น เธอยิ่งแน่ใจ ลูกของเธอต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง มิเช่นนั้นเย่เชินหลินคงไม่รีบกลับมา
“ผมกลับมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พรุ่งนี้ค่อยกลับไปใหม่”
“โธ่ งั้นคุณคงวิ่งวุ่นตลอดทั้งคืน เหนื่อยแย่เลย!”เซี่ยชีหรั่นพูด เงยหน้าขึ้นมองหน้าเย่เชินหลิน ใบหน้าของเขามีหนวดเคราที่ยังไม่ได้โกน เห็นได้ชัดเจนว่าเขาเหนื่อยล้ามากเพียงไหน
“เด็กโง่ ผมไม่เหนื่อย ว่าแต่คุณเถอะ ทำไมถึงมาเฝ้าอยู่ในนี้ ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่หรอ มีคนดูแลมากมายขนาดนี้ คุณจะมาเฝ้าอยู่ตรงนี้ทำไม?”เย่เชินหลินขมวดคิ้วตำหนิ จากนั้นจึงอุ้มเธอเดินมาที่ประตูห้อง
ท้องของส้งหลิงหลิงก็แปลกๆ เย่เชินหลินคิดระหว่างทางที่เดินทางมา บางทีเธออาจตั้งใจ
เดิมทีเขาคิดอยากต่อว่า แต่เมื่อเดินเข้ามาแล้วเจอเซี่ยชีหรั่น เขารู้สึกสงสารจับใจ ไม่อยากให้เธอนอนช้าไปแม้แต่นาทีเดียว เขาจึงต้องจัดการเธอให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการเรื่องอื่น
เขากลับมาแล้ว ในใจของเซี่ยชีหรั่นก็สงบสุขขึ้นมาบ้าง
“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้ คุณอยู่ที่นี่เถอะ ฉันกลัวตูตูจะตื่นแล้วร้องไห้อีก”เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบา
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว หลับตานอนเถอะ”
เย่เชินหลินเกลี้ยกล่อมเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน อุ้มเธอกลับห้องนอน ห่มผ้าห่มให้เธอ พร้อมกับจูบลงบนหน้าผาก จากนั้นจึงเดินออกไปเงียบๆ
เขาห่วงใยลูกจริงๆ เซี่ยชีหรั่นคิด เพียงแค่เขาก็ห่วงใยเธอ เธอรู้สึกว่าเขารักลูกเท่ากับที่รักเธอ เธอปลื้มใจมาก มีความสุขมาก
อันที่จริงเธอต้องการพูดเรื่องอาการท้องไส้ไม่ดีของส้งหลิงหลิงในครั้งนี้กับเย่เชินหลิน กลัวว่าเธอจงใจ
คิดไปคิดมา เธอกลับยังไม่พูด เพราะอย่างแรก เธอยังไม่มีหลักฐาน ไม่ควรปรักปรำเธอ และอย่างที่สอง เธอเชื่อมั่นในการมองคนของเย่เชินหลิน ถ้าแม้แต่เธอก็สงสัย เขาเย่เชินหลินคนที่ฉลาดขนาดนี้จะไม่สงสัยได้อย่างไร?
เนื่องจากง่วงนอนมาก เซี่ยชีหรั่นหลับตาลง แต่ยังไม่ทันจะได้หลับต่อ เสียงเด็กร้องไห้จากชั้นบนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นและสวมรองเท้าแตะ รีบขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง เธอกลัวว่าหากเธอไม่อยู่ พี่เลี้ยงอาจจะป้อนนมผงได้ไม่ดี
เธอเพิ่งจะขึ้นมาถึงชั้นสอง เสียงเด็กร้องไห้เริ่มเบาลง เธอรู้ว่าเสียงแบบนี้หมายถึงเด็กกำลังกินนมผงอยู่
เมื่อเด็กร้องไห้ สาวใช้ที่เข้าเวรกับพี่เลี้ยงรวมทั้งพ่อบ้านต่างพากันเข้าไปในห้อง ทางเดินจึงเงียบมาก
ในจังหวะนี้ ประตูห้องพักของพี่เลี้ยงถูกเปิดอีกครั้ง พี่เลี้ยงหลี่ออกมาจากด้านใน ส่งเสียงเรียกเบาๆ:“คุณนายเย่”
เซี่ยชีหรั่นหยุดฝีเท้าลง หันไปพยักหน้าทางเธอ จากนั้นเดินลงไปชั้นล่าง พี่เลี้ยงหลี่เข้าใจความหมาย จึงเดินตามลงไป
“คุณนายเย่ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ ฉันกลัวว่าจะถูกไล่ออกไปตอนรุ่งสาง จำเป็นต้องบอกคุณตอนนี้”
“เธอพูดมา”เซี่ยชีหรั่นตอบเสียงเบา
“วันนี้ที่คุณส้งมีอาการท้องไส้ไม่ดี นั่นคือสิ่งที่เธอตั้งใจทำ”เซี่ยชีหรั่นได้ยินก็กระวนกระวายใจ การคาดเดาก็คือการคาดเดา ตอนนี้สามารถยืนยันได้ การกระทำของส้งหลิงหลิงช่างโหดร้ายและเย็นชา
“เธอทำอย่างไร ช่วยบอกฉันที อย่ากลัว”เซี่ยชีหรั่นบังคับให้ตนเองสงบสติอารมณ์ ถามพี่เลี้ยงหลี่เสียงเบา
“มื้อกลางวันพ่อบ้านนำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟมากมาย ซึ่งไม่ต่างจากปกติ แต่เธอกลับไม่ยอมกิน บอกว่าเบื่อ แถมยังบอกเธอร้อน อยากคลายร้อน จึงสั่งให้พ่อบ้านเตรียมซุปถั่วเขียว ตอนนั้นพ่อบ้านไม่ยอม คุณส้งจึงโมโห จากนั้นพ่อบ้านจึงนำซุปถั่วเขียวมาเสิร์ฟ ตอนนั้นเสี่ยวเฟิงแนะนำเธอว่าให้ดื่มตอนร้อนๆ แต่เธอบอกร้อน รอเย็นก่อนแล้วค่อยดื่ม พวกเราต่างรู้ดีว่า คนที่เพิ่งคลอดลูกต้องกินของร้อนจึงจะไม่รบกวนท้องไส้ ตอนนั้นฉันอดไม่ได้ จึงพูดเตือนเธอ บอกว่ากินของเย็นจะทำให้ท้องไส้ไม่ดี สามารถส่งผลกระทบต่อลูกเมื่อดื่มนม เธอได้ยินก็โกรธมาก แถมยังด่าฉันเป็นชุด สั่งให้ฉันไสหัวออกไป”
พี่เลี้ยงหลี่พูดถึงตรงนี้ นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้ำตาไหลออกมาอย่างอดไม่ไหว
เซี่ยชีหรั่นเคยเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของส้งหลิงหลิง จึงสามารถนึกออกว่าเธอจะใจดำกับพี่เลี้ยงคนหนึ่งได้ขนาดไหน
“เธอได้รับความไม่เป็นธรรม”เซี่ยชีหรั่นพูดปลอบโยนเบาๆ และตบลงที่มือของพี่เลี้ยงหลี่
พี่เลี้ยงหลี่รู้สึกตื้นตันใจ จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“หลังจากนั้นฉันได้ยินพวกเธอกลับมาปรึกษากัน พูดว่าคุณส้งเรียกให้คนเตรียมซุปขาหมู ของมันแบบนั้น เธอก็ยังรอให้เย็นแล้วค่อยกิน แบบนี้ท้องไส้ของเธอจะปกติได้อย่างไร?”
แท้จริงแล้วส้งหลิงหลิงคิดอะไรอยู่?!
เซี่ยชีหรั่นโกรธมากจริงๆ เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เย่เจิ้งเหิงมีแม่แบบนี้
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อควบคุมอารมณ์ของตนเอง พูดปลอบโยนกับพี่เลี้ยงหลี่ว่า:“เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว หากจำเป็น ฉันหวังว่าคำพูดเหล่านี้ของเธอจะสามารถพูดต่อหน้าคุณเย่ได้อีกครั้ง เธอไม่ต้องกังวล เธอเป็นคนจริงจังและมีความรับผิดชอบ ฉันจะบอกให้คุณเย่ไม่ไล่เธอออก ดึกแล้ว เธอรีบกลับไปนอนเถอะ!”
“ขอบคุณค่ะ คุณนายเย่ ขอบคุณ!”พี่เลี้ยงหลี่เช็ดน้ำตา รีบกลับเข้าไปในห้อง
เสียงร้องไห้ของเย่เจิ้งเหิงจากชั้นบนยังคงดังอย่างไม่ขาดสาย เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว นึกถึงส้งหลิงหลิง เธออยากจะไล่เธอออกไปทันที
โลกใบนี้ทำไมถึงได้มีแม่ที่ใจดำเช่นนี้ รู้อยู่แก่ใจว่าลูกไม่กินนมผง เธอยังจงใจทำให้ตนเองไม่สามารถให้นมได้ เพียงเพื่อต้องการต่อสู้กับผู้หญิงคนอื่น เธอถึงได้วางแผนแบบนี้ ไม่นึกถึงลูกเลยสักนิด มันมากเกินไปแล้ว!
รอพี่เลี้ยงหลี่กลับไปที่ห้องของตนเอง เซี่ยชีหรั่นจึงเดินขึ้นไปชั้นบน
หลังเข้าไปในห้องเธอเห็นพี่เลี้ยงอุ้มเด็กอยู่ กำลังให้นมผง เย่เชินหลินยืนอยู่ข้างๆ เอาแต่ขมวดคิ้วมองดู
ส้งหลิงหลิงก็ยืนอยู่ข้างๆ ดูเหมือนกังวลมาก เธอเล่นละครเก่งจริงๆ!
เด็กยังคงร้องไห้ เซี่ยชีหรั่นไม่ได้พูดอะไร
เย่เจิ้งเหิงกินนมผงไม่กี่ครั้ง เห็นชัดเจนว่าเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น เมื่อช้อนเข้ามาใกล้ เขาก็สะบัดตัว เอาแต่ร้องไห้
“ไปตามหมอห่าวมา”เย่เชินหลินสั่งพ่อบ้าน
หลังจากหมอห่าวเดินทางมาถึง เย่เชินหลินสั่งให้เขาจับชีพจรส้งหลิงหลิง ดูว่าอาการท้องเสียของเธอรุนแรงหรือไม่ และปรึกษาเขาว่าเธอสามารถให้นมได้หรือไม่
“อาการไม่หนักมาก สามารถให้นมได้ครับ” หมอห่าวหลังจากจับชีพจร จึงได้ข้อสรุป
“ลูกกินนมจากเธอจะไม่ท้องเสียใช่ไหม?”เย่เชินหลินถาม
“คุณเย่อย่าได้เป็นกังวล ผมจะสั่งยาให้คุณส้งอีกครั้ง ตอนนี้สามารถให้นมได้ก่อน ผลกระทบไม่เยอะมาก”
“อ่า ดีจริงๆ ลูกของฉันในที่สุดก็ไม่ต้องทนทรมาน”ส้งหลิงหลิงพูดไปน้ำตาไหลไป เย่เชินหลินขมวดคิ้ว กวาดตามองเธอด้วยสายตาเย็นชา
เธออุ้มลูกด้วยตนเอง จากนั้นจึงเริ่มให้นมลูก
ในที่สุดเย่เจิ้งเหิงก็ได้กินนมแม่ มองดูแล้วพอใจเป็นอย่างมาก จนไม่ร้องไห้อีกต่อไป
เย่เชินหลินมองอย่างว่างเปล่า ในใจกลับคิดว่า ถึงแม้จะไม่ใช่คนเป็นแม่ แต่เด็กก็สามารถพึ่งพาได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset