สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 767 สาวใช้ตัวแสบ 671

ตอนที่ 767 สาวใช้ตัวแสบ 671
ความจริงในใจของเซี่ยชีหรั่นคิดว่า บางทีการออกไปครั้งนี้ เธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว อาจเพราะเธอยังตัดใจไม่ได้ ดังนั้นระหว่างที่พูดจึงให้ทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง
“อะไรกัน?พี่หมายความว่ายังไง?พี่คงจะไม่คิดเลิกกับพี่เขยเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?นั่นจะไม่ทำให้ยัยส้งคว้าไปได้อย่างสบายใจเลยหรอ?”
ตอนนี้โม่เสี่ยวหนงรู้สึกเสียใจที่ตนเองพูดแบบนั้นออกไปจริงๆ หากเซี่ยชีหรั่นต้องการแยกทางจริงๆ แผนการทุกอย่างของเธอคงใช้การไม่ได้
“ไม่หรอก เสี่ยวหนงพี่ไม่ได้พูดว่าจะเลิกกับเขา ถึงอย่างไรเขาก็ไม่อยู่บ้าน ฉันจะไปค้างที่บ้านแม่ของฉันสักสองวัน ไม่อยากให้พี่เหอไท้ต้องมาคอยส่งฉันทุกวัน”เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างใจเย็นมาก
โม่เสี่ยวหนงมองซ้ายมองขวา เข้าไปกระซิบข้างหูเธอ:“พี่ ฉันมองออกว่าพี่ไม่อยากไป สองวันนี้เขาไม่อยู่ พวกเราถือโอกาสลงมือ พวกเรามาลองคิดหาวิธีไล่ยัยส้งออกไปกัน!”
“อย่าก่อเรื่องเลย พี่ยังต้องไปทำงาน เธอก็ต้องรีบไปพบผู้กำกับ สายแล้วปล่อยให้คนรอมันจะไม่ดี”
โม่เสี่ยวหนงมองดูเวลา ไม่สามารถล่าช้าได้อีกต่อไป
“พี่ งั้นพี่ไปพักอยู่กับแม่ที่นู่น ฉันยังสามารถใช้รถของคฤหาสน์ได้ไหม?โธ่!รถที่พี่เขยให้ฉันครั้งก่อนมันหายไปแล้ว ตอนนี้กลายเป็นว่าฉันไม่มีรถใช้ มันไม่สะดวกจริงๆ พี่ ถึงอย่างไรพี่ก็ไม่เลิกกับเขา รอเขากลับมา พี่ช่วยขอรถให้ฉันสักคันได้ไหม?”
“เสี่ยวหนง!”เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว
“เธอรู้ว่ารถของเขาแต่ละคันราคาถูกที่สุดก็หนึ่งล้านขึ้นไป จะไปขอเขาตามใจชอบได้อย่างไร?แม้เขาจะให้เอง เธอก็ไม่ควรได้!”
สำหรับเซี่ยชีหรั่นนานมาแล้ว ไม่ว่าเย่เชินหลินจะรักเธอแค่ไหน เธอไม่เคยต้องการใช้ความสะดวกสบายจากเขาแม้แต่วินาทีเดียว นอกจากมือถือที่เธอใช้ เธอไม่ต้องการสิ่งของใดๆจากเขา
“โอเค โอเค ไม่เอาก็ไม่เอา ถ้าเพื่อการศึกษาอีก ไม่คิดว่าพล็อตเรื่องล้าสมัยเกินไปหรือ?”โม่เสี่ยวหนงหงุดหงิดมาก คิดในใจว่าไม่มีใครรู้ดีเท่าตนเอง
เซี่ยชีหรั่นพูดกับเธออย่างดี เดิมทีเธอต้องการบอกว่า เย่เชินหลินอาจเต็มใจที่จะมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของครอบครัวให้เธอ
นับว่าเธอมีมูลค่าหลายร้อยล้านใช่ไหม ผลลัพธ์คือรถสปอร์ตหลายล้านก็ไม่เต็มใจมอบให้เธอ
มองดูแล้วเธอยังมีความพยายาม เพียงแค่เธอกลายเป็นผู้หญิงของเย่เชินหลิน นับประสาอะไรกับรถสปอร์ต ยังไม่รู้ว่าเขาจะให้คฤหาสน์หรูหรากี่หลัง
โม่เสี่ยวหนงเดินออกไป เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเธอโมโห ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติเธอจะเข้าไปหยอกล้อเธอ แต่วันนี้ไม่มีอารมณ์จริงๆ
เซี่ยชีหรั่นมองขึ้นไปชั้นบน ส้งหลิงหลิงยังคงอยู่ข้างในห้อง บริเวณหน้าประตูมีคนเข้าเวรอยู่จำนวนหนึ่ง เด็กไม่ร้องไห้ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ต่างไปจากทุกวัน
แต่สำหรับเธอ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว
ไม่อยากให้หลี่เหอไท้เห็นว่าเธอร้องไห้จริงๆ เซี่ยชีหรั่นไปล้างหน้า และรับประทานอาหารเช้า ถึงจะนั่งรถออกไป
ในตอนนี้เธอยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลิกกับเย่เชินหลินเพราะส้งหลิงหลิงหรือเปล่า แต่อย่างน้อยในเวลานี้เธอรู้สึกว่าไม่มีทางไปต่อ
เนื่องจากยังไม่ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เธอจึงไม่รีบตัดความสัมพันธ์ ไม่อยากให้คนข้างกายต้องกังวลเรื่องของเธออีก
เซี่ยชีหรั่นนั่งรถไปได้สักพักก็เห็นรถของหลี่เหอไท้จอดอยู่ข้างทาง เธอรีบบอกให้คนขับหยุดรถเพื่อลงไปทักทาย
“พี่เหอไท้ พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ?”เธอถาม
หลี่เหอไท้ไม่ตอบคำถาม แต่พยายามสังเกตใบหน้าของเซี่ยชีหรั่น ดูว่ามีน้ำตาบนใบหน้าของเธอหรือไม่
วันนี้เธอลงรองพื้นบางๆหนึ่งชั้น เพราะไม่ต้องการให้ใครเห็นว่าเธอร้องไห้มาก่อน เพียงแต่ถูกหลี่เหอไท้จ้องมองใบหน้าเช่นนี้ เธอรู้สึกว่าตนเองไม่อาจจะปิดบังได้
“พี่เหอไท้ พี่จ้องหน้าฉันทำไม?หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรอ?”เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”หลี่เหอไท้ไม่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนเหมือนปกติ ใบหน้ายังคงค่อนข้างจริงจัง เอาแต่มองเธอด้วยความห่วงใยตลอด
“ไม่ได้เป็นอะไร ไปทำงานเถอะ”
“ขึ้นรถคันนี้”หลี่เหอไท้พูด เซี่ยชีหรั่นคิดไปคิดมา จึงไม่ปฏิเสธ เธอเดินไปบอกคนขับรถของตนเอง จากนั้นจึงขึ้นรถของหลี่เหอไท้
รถที่เธอนั่งมาก่อนขับตามหลังรถของหลี่เหอไท้ไปตลอด เพื่อรักษาความปลอดภัยของเซี่ยชีหรั่น
ตอนเที่ยง หลี่เหอไท้ไม่ได้นัดกับจงหยุนซาง เขาตั้งใจไปกินข้าวเป็นเพื่อนเซี่ยชีหรั่น
เขาเลือกร้านอาหารที่มีบรรยากาศดีสุดๆ แต่เซี่ยชีหรั่นกลับไม่มีอารมณ์ชื่นชมความงดงามและอาหารรสชาติอร่อย
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แต่เธอกลับยิ้มตลอดเวลา เหมือนตามปกติ
หลี่เหอไท้มองออกว่าเธอมีเรื่องอยู่ในใจ อันที่จริงเธอไม่ถนัดใส่หน้ากาก เมื่อเทียบกับเขาที่มากประสบการณ์ เธอช่างไร้เดียงสา
เขาไม่พูดว่าดูออก เพียงแค่อยู่เป็นเพื่อนเธออย่างเงียบๆ ไม่อยากให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยว
อันที่จริงเขาไม่ต้องการถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ส้งหลิงหลิงและลูกอยู่ในคฤหาสน์ เดาได้ว่าคลื่นลมไม่มีทางสงบ
เขาก็ไม่อาจฉวยโอกาสโน้มน้าวให้เธอเลิกกับเย่เชินหลิน หากจะตัดสินใจอะไร เธอจะเป็นคนพิจารณา คิดไตร่ตรอง ไม่ใช่ธุระของคนข้างๆ
หลังจากมื้ออาหาร หลี่เหอไท้กับเซี่ยชีหรั่นกลับบริษัทด้วยกัน เซี่ยชีหรั่นฟุบหน้างีบบนโต๊ะสักพักหนึ่ง
หลี่เหอไท้เปิดประตูห้องทำงานของเธอเบาๆ เห็นเธอกำลังงีบหลับ จึงปลุกเธอขึ้น เพื่อไปนอนที่ห้องทำงานของเขา
“ไม่เป็นไร พี่เหอไท้ ฉันไม่ง่วง แค่อยากพักสายตา”เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างเกรงใจ
“พี่มีธุระต้องออกไปข้างนอกพอดี เธอไปนอนหลับในห้องพี่เถอะ ห้องชุดด้านในมีเตียง”
เขาคือพี่ชายของเธอ เซี่ยชีหรั่นไม่มีอะไรที่จะไม่เชื่อใจเขา
เซี่ยชีหรั่นหัวเราะเบาๆ พูดว่า:“ฉันไปก็ได้ พี่ไม่ต้องจงใจออกไปหรอก พี่ทำเรื่องพี่ ฉันก็นอนหลับของฉัน”
หลี่เหอไท้รู้สึกจนปัญญา ในใจคิดว่า เด็กโง่คนนี้ช่างเหมือนแม่ของเธอจริงๆ มักจะคิดถึงคนอื่นแบบนี้
เขาไม่พูดอะไรมาก เดินนำไปเปิดประตูห้องทำงาน และเปิดประตูห้องชุดออก
หลังจากเซี่ยชีหรั่นเข้าไป เขาปิดประตูลงด้วยท่าทีห่วงใย พูดว่า:“หลับเถอะ เธอขอบตาเริ่มดำแล้ว นอนเยอะสักหน่อย งานไม่ยุ่ง”
“ ค่ะ พี่เหอไท้”
เซี่ยชีหรั่นพูดตอบเสร็จ มองไปที่ห้องพักผ่อนของเขา การจัดวางห้องคล้ายกับห้องของเย่เชินหลิน แม้แต่ตำแหน่งก็มีความคล้ายกัน
เธออดไม่ได้นึกถึงตอนเธออยู่ในห้องพักผ่อนกับเย่เชินหลิน……คิดถึงเขา เธอแอบถอนหายใจอีกครั้ง
วันทั้งวัน นอกจากข้อความที่เย่เชินหลินส่งหาเธอในตอนเช้า บอกให้เธอรอเขา เขาก็ไม่ได้ติดต่อเธอมาอีกเลย
เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างขมขื่น ในใจคิดว่า ผู้หญิงน่าแปลกมาก มีความขัดแย้งแบบนี้อยู่เสมอ ด้านหนึ่ง ต้องการใจแข็งไม่ติดต่อกับเขา รู้สึกว่าเขาทำร้ายจิตใจของเธอ แต่อีกด้านหนึ่งกลับหวังลึกๆว่าเขาจะมาตามเธอ เพื่อยอมรับความผิด
เธอหลับตานอนบนเตียง พยายามบังคับให้ตนเองนึกถึงเรื่องที่เขาปกป้องส้งหลิงหลิง เขาอธิบายแทนเธอมากมาย แถมยังไล่พี่เลี้ยงหลี่ออกอย่างไม่ลังเล เมื่อคิดแบบนี้ หัวใจของเธอด้านชาขึ้นมาอีกครั้ง
ช่วงบ่ายเซี่ยชีหรั่นยังคงใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อทำงานเหมือนเดิม บางครั้งที่นึกถึงเขาขึ้นมา ก็มักจะตั้งใจคิดเรื่องที่เขาทำให้เธอผิดหวัง
เมื่อเลิกงาน หลี่เหอไท้รอเธอตามเดิม
“พี่เหอไท้ คืนนี้มีนัดกินข้าวกับพี่หยุนซางไหม?”เซี่ยชีหรั่นถาม
“ไม่มี วันนี้เธอต้องไปงานเลี้ยง ไปเถอะ พี่จะไปส่งเธอกลับบ้าน”
“วันนี้ฉันอยากไปหาพ่อแม่ กลับบ้านไปกินข้าวเย็นและไปค้างคืน”
“ดีเลย คืนนี้เธอกลับไปต้องคึกคักแน่นอน พวกเขาสองคนต้องดีใจมากแน่นอน”หลี่เหอไท้พูดอย่างอ่อนโยน
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกปลง ไม่ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเลวร้ายแค่ไหน อย่างน้อยที่สุดยังมีบ้านที่พร้อมต้อนรับเธอ มีแม่ที่รักเธอ และยังมีพ่อและพี่ชายที่ห่วงใยเธอแบบนี้
มาถึงบ้านตระกูลหลี่ หลี่หมิงจุ้นกำลังช่วยจ้าวเหวินอิงอยู่ในครัว สองคนพูดไปหัวเราะไป เมื่อมองเห็นเซี่ยชีหรั่นกลับมา พวกเขาต่างดีใจมาก
“ลูกกลับมาทำไมถึงไม่บอกแม่ก่อน จะได้เตรียมอาหารเพิ่ม”จ้าวเหวินอิงพูด
“อาหารในบ้านเยอะพอแล้วค่ะ ถ้าเตรียมเพิ่มอีก ลูกคงกินจนอ้วน”เซี่ยชีหรั่นหัวเราะ มองไม่ออกสักนิดว่ามีเรื่องในใจ
ก่อนเปิดประตูเข้าไปเธอพูดกับตนเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะไม่ทำให้แม่ของเธอต้องกังวลใจ เธอทำได้ดีมาก จ้าวเหวินอิงมองไม่ออกเลยสักนิด
“เชินหลินล่ะ? ทำไมเขาไม่มาด้วย?”จ้าวเหวินอิงถาม
“เขาไปทำงานนอกสถานที่ อาจไปหลายวัน แม่ค่ะ ลูกจะช่วยแม่ทำกับข้าว แม่กับพ่อไปพักเถอะค่ะ”
“ไม่ต้องๆ แม่พักมาทั้งวันแล้ว ทำอาหารให้พวกเธอคือความสุขที่สุดของแม่ ไปเถอะ ลูกทำงานมาทั้งวัน ต้องพักซะบ้าง ไปดื่มน้ำดื่มท่า”
ในไม่ช้า อาหารเสร็จเรียบร้อย เซี่ยชีหรั่นพยายามพูดเรื่องที่ทำให้คนแก่ทั้งสองมีความสุข หลี่เหอไท้ก็ช่วยเธออีกแรง บรรยากาศบนโต๊ะอาหารผ่านไปด้วยดี
หลังจากรับประทานอาหาร เซี่ยชีหรั่นนั่งคุยกับแม่ เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า เย่เชินหลินก็ไม่ติดต่อมา เธอรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง
“ชีหรั่น ลูกรัก พวกลูกยังโอเคใช่ไหม?”จ้าวเหวินอิงถาม
“ทุกอย่างดีมากค่ะ เขาแค่ไปทำงานนอกสถานที่ ลูกเลยคิดถึงเขานิดหน่อย”กลัวแม่จะมองออกว่าเธอมีปัญหาหัวใจ เซี่ยชีหรั่นจึงอธิบาย
“เขาไม่ค่อยออกไปทำงานนอกสถานที่ อีกสักพักคงชิน”
“ใช่ค่ะ เขาไม่ค่อยออกไปทำงานนอกสถานที่ เขาแทบจะไม่ได้ออกไปทำงานนอกสถานที่เลยตั้งแต่คบกัน ครั้งนี้ก็พูดว่าจะพาลูกไปด้วย แต่ลูกไม่อยากไป เอาล่ะ แม่ไปนอนเถอะค่ะ ในที่สุดพ่อก็อยู่บ้าน แม่อยู่กับพ่อเยอะๆ ลูกก็อยากนั่งคิดเรื่องงานคนเดียว”
“จ๊ะ ลูกรัก มีอะไรเรียกแม่นะ”จ้าวเหวินอิงรู้ดี บางครั้งเด็กสาวมีอาการโรครักกำเริบ ทำได้เพียงปล่อยเธอไว้เงียบๆคนเดียว เธอไม่ชอบให้คนอื่นพูดด้วยตลอดเวลา
หลังจากจ้าวเหวินอิงเดินออกไป เซี่ยชีหรั่นมองโทรศัพท์มือถืออย่างเลื่อนลอย อดคิดไม่ได้ว่าเหมือนกับทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เธอยังคงจำได้ดี เมื่อก่อนเวลาพวกเขาต้องอยู่ห่างกัน เย่เชินหลินจะโทรหาเธอทุกคืนเวลาสองทุ่ม
แต่คืนนี้ เวลาผ่านไปสามทุ่มแล้ว กลับไม่มีข่าวคราวของเขาเลย
เย่เชินหลิน หรือคุณไม่รู้ว่าฉันโมโห?หรือคุณคิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ถึงไม่เป็นฝ่ายติดต่อฉันมาก่อน?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset