สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 789 สาวใช้ตัวแสบ 693

ตอนที่ 789 สาวใช้ตัวแสบ 693
สีหน้าของจงหวีฉวนยิ่งอึดอัดขึ้นไปอีก ผ่านไปสักพักใหญ่ถึงจะเปลี่ยนสีหน้าได้ พูดอย่างเย็นชานิดหนึ่งว่า : “ลูกเอาคำพูดนี้มาจากไหน ลูกก็รู้ว่าคนที่พ่อรักและห่วงที่สุดก็คือลูก สิ่งที่พ่อทำนั้นมันก็เพื่ออนาคตของลูก ลูกคิดว่าประธานคณะกรรมการจังหวัดที่เกษียณแล้วยังมีอนาคตที่สดใสอะไรอีก ยังดูแลลูกได้อีกไหม? ”
“พ่อก็ควรเข้าใจลูก หนูไม่เคยอยากได้บารมีอะไรของพ่อเลย เป็นคนอย่าโลภ หนูคิดว่าการยึดมั่นในคุณธรรมนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถึงแม้ว่าพ่อจะต้องลงจากตำแหน่งแล้ว ครอบครัวของเราไม่ได้รุ่งเรืองรุ่งโรจน์เหมือนตอนนี้แล้ว หนูขอแค่เป็นคนอย่างไม่ละอายใจในตัวเอง ภาคภูมิใจในตัวเองก็พอแล้ว ”
จงหวีฉวนน้ำเสียงไม่พอใจ ถามลูกสาวของเขาอย่างเย้ยหยัน : “แกคิดว่าพ่อไม่ต้องปีนขึ้นไปสูง แกก็จะมีคุณธรรมยึดอยู่ในใจและมีชีวิตต่อเหรอ แกคิดคิดดู ตั้งแต่เล็กจนโตแกไม่เคยได้รับเอกสิทธิ์อะไรบ้าง ถ้าไม่มีพ่อแบบนี้ แกไปที่ไหนก็จะมีคนมากมายค่อยมาดูแลเอาใจไหม? แกจะมีคนขับรถเป็นของตัวเองไหม มีผู้ช่วยส่วนตัวของตัวเอง มีคฤหาสน์หรูหรามากมายไหม? แกใช้สิ่งพวกนั้นได้อย่างสบายใจ แล้วยังกลับมาพูดว่าให้ยึดมั่นในคุณธรรมอะไรอีก? แกยังกล้ามาสั่งสอนพ่อของตัวเอง บอกว่าพ่อตัวเองโลภ แกดูแกถึงเป็นคนโลภของจริง! แกไม่เพียงแต่ได้ผลประโยชน์ แถมยังได้ชื่อเสียงอีกด้วย! ”
จงหวีฉวนพูดแรงมาก สามารถพูดได้ว่าเขาไม่เคยพูดแบบนี้กับจงหยุนซางมาก่อน
จงหยุนซางก็หน้าบาง พ่อพูดแบบนี้ ใบหน้าของเธอจะรับได้ยังไง หน้าก็แดงขึ้นมาทันที แดงไปจนถึงคอ
ตอนที่เยว่มู่หลานเดินเข้าห้องมานั้น พ่อลูกทั้งสองคนนั้นกำลังคุมเชิงกันอยู่ ถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่ได้ตะโกน แต่ว่าสีหน้าและท่าทางก็จริงจังและเข้มงวดอย่างมาก
“ทำอะไรกันนะ? หยุนซาง เป็นอะไรไหมลูก? แม่ได้ยินเรื่องของหลี่เหอไท้แล้ว อยากจะมาดูว่าลูกเป็นยังไงบ้าง ”
“แม่ หลี่เหอไท้มีอะไรกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยแล้ว แม่ก็จะมาแบบเดียวกับพ่อใช่ไหม ที่จะให้หนูแต่งงานกับเขา? ” จงหยุนซางถาม
เธอผิดหวังในตัวพ่อมากๆ เธอไม่อยากเห็นแม่อีกคนที่ทำให้เธอผิดหวัง
“มา หยุนซาง ลูกนั่งลง ฟังแม่พูด ” เยว่มู่หลานพยายามดึงแขนเล็กๆของจงหยุนซางให้นั่งลง ยังไม่ทันได้พูดก็ถอดหายใจออกมา
“ลูกหยุนซางสุดที่รัก แม่เข้าใจความรู้สึกของลูกในตอนนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบให้ผู้ชายของตัวเองมาหักหลังหลอก นี้โชคดีที่ลูกกับเขายังไม่ได้ทำพิธีหมั้นกันอย่างเป็นทางการ ถ้าลูกไม่อยากไปกับเขาต่อ แม่ก็สนับสนุนลูก แต่ว่าแม่ก็อยากแนะนำลูกสักหน่อย เกรงว่าบนโลกใบนี้จะหาผู้ชายที่ซื่อสัตย์ต่อคู่ชีวิตไปจนตายนั้นยากมาก แม่พูดจัดเรียงลำดับผู้ชายสักหน่อยนะ ส่วนมากยากที่จะรักเดียวใจเดียว พวกเขาเจอกับสิ่งล่อตาล่อใจเยอะเกินไป เมื่อสิ่งล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้า คนส่วนมากก็มักจะเก็บอาการไม่อยู่ เผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา ลูกคิดดู ที่หลี่เหอไท้ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง ลูกสามารถพูดได้ว่าเขาไม่มีคุณธรรม งั้นเย่เชินหลินล่ะ? ลูกชอบเขามาตั้งนาน ตามหลักเหตุผลแล้วผู้ชายที่ลูกคุ้มค่าที่จะชอบก็คงไม่มีปัญหาเรื่องคุณธรรมและศีลธรรมใช่ไหม? เขาก็ค้างคืนกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยอะไรนั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ในมุมมองของแม่ ถ้าลูกยอมอดทนคบกับหลี่เหอไท้ต่อไป ก่อนที่จะแต่งงานสามารถกุมเขาให้เชื่อในคำสั่งได้ก็จะดี ในอนาคตพวกลูกจะมีความสุข ถ้าเป็นเย่เชินหลิน แม่ยังคงรู้สึกมองเขาในแง่ที่ไม่ดีอยู่ ผู้ชายจะมีไปเล่นสนุกด้านนอกบางก็มี แต่กลัวก็แต่ว่าใจจะลอยตามไปด้วย เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่น หลี่เหอไท้กับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยนั่น ก็แค่การพบเจอกันในช่วงเวลาสั้นๆ ฝั่งไหนได้ประโยชน์ ฝั่งไหนเสียเปรียบ ลูกก็พิจารณาเอาเองเถอะ พ่อกับแม่ก็ทำได้แค่แนะนำ คนที่จะใช้ชีวิตไปด้วยตลอดชีวิตนั้นก็เป็นตัวลูกเอง ”
เยว่มู่หลานพูดเสร็จ ก็ถอดหายใจออกมา แล้วก็พูดกับจงหวีฉวนว่า : “พอแล้ว คุณยังต้องทำงานอีกอยู่ไม่ใช่เหรอ? พวกเราไปกันเถอะ ให้ลูกหยุนซางสุดที่รักคิดเอาเอง ”
หลังจากที่เยว่มู่หลานดึงแขนของจงหวีฉวน เดินจากไปนั้น จงหวีฉวนมองเยว่มู่หลาน พูดเสียงต่ำด้วยน้ำเสียงชื่นชม : “ดูแล้วคุณพูดกับลูกได้ดีกว่าผมอีกนะ ”
เยว่มู่หลานพูดน้ำเสียงเย็นชาไปหนึ่งประโยค : “ถ้าคุณแต่งงานกับจ้าวเหวินอิง เกรงว่าเรื่องการพูดกับลูกสาวน่าจะเก่งกว่าฉันอีกมาก ”
เรื่องของหลี่เหอไท้นี้ทำให้เยว่มู่หลานมองเห็นภาพที่ทำให้รู้สึกสะเทือนใจ นึกถึงเรื่องตอนนั้นที่เธอรู้ว่าสามีมีชู้ จนถึงตอนนี้ก็ยังมีปมใหญ่ในใจที่ยังแก้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นคำพูดที่เธอเกลี้ยกล่อมลูกสาวนั้น พูดว่าเข้าใจความรู้สึกของเธอนั้น ล้วนไม่ใช่เรื่องปลอม ล้วนพูดออกมาด้วยความรู้สึก
“คุณดูคุณ ผมพูดเรื่องของลูกนะ จะกลับมาว่าผมทำไมอีก? ” จงหวีฉวนก็ไม่กล้าเข้มงวดมากเท่าไร
“มู่หลาน คุณว่าหยุนซางจะยังคงหมั้นกับหลี่เหอไท้ต่อไหม? ผมว่าลูกเราคิดถึงส่วนรวมแน่นอน ” จงหวีฉวนพูดปลอบใจตัวเอง
ที่จริงความสัมพันธ์ของจงหยุนซางและหลี่เหอไท้สองคนนี้ เขาก็สงสัยมาตลอด คิดว่าเพื่อที่จะให้เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นได้อยู่ด้วยกัน ก็เลยจงใจที่จะแสดงต่อหน้าให้เขาเห็น
สำหรับเขาแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นจะจริงหรือไม่ก็ไม่สำคัญ ขอแค่พวกเขาทำให้คนอื่นเห็นว่าพวกเขาคู่กัน ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ก็ล้วนมีประโยชน์ต่อตัวเขา
สองวันก่อนครอบครัวพวกเขานั่งดูทีวีด้วยกันสามคน ช่องข่าวเศรษฐกิจได้ฉายตอนให้สัมภาษณ์กับนักธุรกิจ ตอนนั้นเป็นหลี่เหอไท้ที่ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการพอดี
จงหวีฉวนสังเกตเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของจงหยุนซาง ทำให้เขามีความมั่นใจในความสัมพันธ์ของพวกเขามากยิ่งขึ้น
ถ้าพวกเขาแกล้งทำจนเป็นจริง นั้นก็เป็นโชคของตระกูลจงแล้ว ไม่ว่าหลี่เหอไท้จะเป็นอย่างไร แต่ก็บริสุทธิ์กว่าฝั่งของเย่เชินหลิน ถ้าจงหยุนซางอยู่กับเขา คนที่เป็นพ่ออย่างเขาก็ว่างไปไม่น้อยเลย
แน่นอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านับจากนี้เขาจะไม่ต่อสู้กับตระกูลเย่อีกต่อไป สู้ก็ยังคงสู้อยู่ต่อไป เรื่องทางการเมืองระหว่างเขากับเย่เฮ่าหรันต้องมีบทสรุปอย่างแน่นอน
……
เซี่ยชีหรั่นทำงานตอนช่วงเช้าเสร็จแล้ว หยิบกระเป๋ากุญแจและโทรศัพท์มือถือแล้วเดินออกไป เดินออกจากประตูทางเข้าของบริษัทเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงสี่สิบห้านาทีพอดี เย่เชินหลินรออยู่ที่นั่นแล้ว
วันนี้ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์เหมือนเมื่อวานนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าผู้หญิงที่วิพากษ์วิจารณ์สองคนนั้นได้พูดกระจายข่าวไปว่า ผู้ชายของเซี่ยชีหรั่นโหดและดุมากทำนองนั้น
เซี่ยชีหรั่นขึ้นรถ เย่เชินหลินโอบเธอเข้ามา จูบที่ริมฝีปากเล็กๆของเธอ
ทั้งช่วงเช้า เขาก็ทุ่มแรงทำงานอย่างเดียว ตอนนี้เห็นผู้หญิงของเขาก็เหมือนกับการเตรียมของขวัญเล็กๆให้เขาเลย เขาต้องจูบให้รางวัลกับตัวเองสักหน่อย
ตอนที่เซี่ยอี้ชิงปิดประตูให้พวกเขานั้นก็เห็นการกระทำของเย่เชินหลิน ใบหน้าเล็กของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้นมา อยากจะหลบหนี แต่กลับถูกเขาโอบแน่นเข้าไปอีก
“กลัวอะไร ผมไม่ได้ทำเรื่องเกินเลยอะไรสักหน่อย ” เย่เชินหลินพูดเสียงเบา
คุณจะทำเรื่องเกินเลยอะไร? จูบอย่างแนบชิดต่อหน้าคนอื่นอย่างนี้ยังไม่เกินเลยอีกเหรอ?
เซี่ยชีหรั่นจ้องมองเย่เชินหลินอย่างอ่อนช้อยน่ารัก ทำให้ใจของเขายิ่งกระเพื่อมขึ้นไปอีก
“คุณกำลังดึงดูดผม ถ้าผมโถมเข้าไป คุณก็อย่าหลบนะ ” เย่เชินหลินทำท่าทางจะเอาเธอกดลงที่เบาะเก้าอี้นั่ง ขู่ซะเซี่ยชีหรั่นสีหน้าถอดสีเลย แล้วเขาก็หัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุขออกมา
“รสนิยมแปลก! นี้มีอะไรน่าขำ ”เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบา
“ก็ตลกนี่น่า ” เย่เชินหลินทำหน้านิ่ง แล้วพูดอารมณ์แบบเด็กน้อย เซี่ยชีหรั่นก็อดไม่ได้หัวเราะออกมา
ความรู้สึกแบบนี้ดีมากๆเลย เย่เชินหลินพูดจากใจ เอาเซี่ยชีหรั่นเข้ามาโอบไว้แน่น
หลี่เหอไท้ยังอยู่กับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยที่นั่น เขาได้เห็นอะไรบางอย่าง แล้วก็คิดว่าเย่เชินหลินต้องเคยขึ้นเตียงของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยแล้วแน่นอน
เย่เชินหลินไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นได้คุยโทรศัพท์กับหลี่เหอไท้แล้วหรือยัง หรืออาจจะยัง ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง ถ้าได้ยินหลี่เหอไท้พูดว่าหาหลักฐานที่เขาขึ้นเตียงกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยแล้ว เธอยังจะสงบนิ่งขนาดนี้เหรอ?
เซี่ยชีหรั่นยังอิงแอบอยู่ในโอบกอดของเย่เชินหลิน ทั้งสองคนไม่ได้จูบกันแล้ว และก็ไม่ได้ทำท่าทางที่ใกล้ชิดกันมากเกินไป แค่อิงแอบอยู่อย่างนี้ ความคิดของเซี่ยชีหรั่นเหมือนกับเย่เชินหลิน รู้สึกว่าการอิงแอบที่อบอุ่นนี้ ทำให้มีความสุขมากจริงๆ
เธอเชื่อว่าเขาเป็นคนที่ใช่ เธอรู้สึก
“ติดต่อกับหลี่เหอไท้แล้วหรือยัง? ” เย่เชินหลินถามเบาๆ
“อืม ติดต่อแล้ว ” เซี่ยชีหรั่นตอบเสียงเบา
เธอเงยหน้าขึ้นในอ้อมกอดของเขา มองดูหน้าของเขา พูดอย่างจริงจัง : “หลิน คุณกังวลว่าเขาจะหาหลักฐานมาแล้วทำให้ฉันคิดว่าคุณทำเรื่องที่ผิดกับฉันเหรอ? คุณไม่ต้องกังวล ฉันไม่เชื่อ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร เห็นอะไร ฉันก็จะไม่เชื่อว่าคุณจะหักหลังฉัน ฉันสัมผัสจิตใจที่คุณมีต่อฉันได้ ฉันเชื่อคุณ! ”
เธอไม่ถามเขา แม้กระทั่งคนอื่นพูดอะไรเธอก็ไม่เชื่อ ยากที่เจอจริงๆ
สายตาที่ซับซ้อนของเย่เชินหลินมองใบหน้าเล็กๆของเธอ ยื่นมือออกไปลูบผมของเธอเบาๆ นิ่งเงียบไม่พูดอะไร
เขาไม่สามารถพูดอะไร เขาเคยสัญญาแล้ว ก็จะไม่พูด
เขาทำได้แค่แอบขอบคุณที่เธอเชื่อเขาอย่างเงียบๆอยู่ในใจ นับแต่บัดนี้ เขาก็ตัดสินใจ หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม เขาก็จะเชื่อใจผู้หญิงของเขา
บางครั้งมีพบเจออุปสรรคบ้างก็ไม่ได้เป็นเรื่องร้ายอะไรสำหรับคู่รัก พวกเขาผ่านบททดสอบพวกนี้ ไม่เพียงแต่ไม่แยกจากกัน แถมยังให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก
ทั้งสองคนมาถึงร้านอาหารตงเจียง เย่เชินหลินสั่งให้คนเตรียมอาหารให้พร้อมมาตั้งนานแล้ว เมื่อพวกเขามาถึง อาหารก็มาเสิร์ฟทันที
“หลิน ที่หลังคุณอย่าฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้ไหม? คุณดูซิแค่พวกเราสองคน จำเป็นต้องสั่งอาหารมากมายขนาดนี้ไหม? ” เซี่ยชีหรั่นมองอาหารที่เต็มโต๊ะ แล้วพูดออกมา
“พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่คุณชอบกินนะ ชอบกินอะไรก็เกี่ยวข้องกับอารมณ์นะ เพราะฉะนั้นเตรียมเยอะหน่อย ก็ต้องมีสิ่งที่คุณชอบแน่นอน กินเถอะ ไม่ต้องกลุ้มใจกับเรื่องของอาหารหลอก ” เย่เชินหลินมองเธอด้วยความรักและทะนุถนอม อธิบายอย่างนุ่มนวล
“เรื่องมื้ออาหารนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ คุณคิดดู ถ้าพวกเราประหยัดหน่อย ของที่เหลือก็เอาไปบริจาคได้ สามารถเอาไปทำได้ตั้งหลายเรื่องนะ หลิน จริงๆนะ มื้อหนึ่งคุณให้ฉันกินของดีๆมากมาย แล้วก็มองอาหารที่ไม่ได้ถูกกินทิ้งไปเฉยๆ ฉันรู้สึกผิด บนโลกใบนี้มีคนมากมายที่ไม่ได้กินข้าวนะ คุณดูในข่าวพวกเด็กๆบนเขาที่น่าสงสารพวกนั้นซิ ”
“โอเค ผมเชื่อฟังคุณ ครั้งหน้าพวกเราจะกินแค่สองอย่าง คุณหนึ่งอย่าง ผมหนึ่งอย่าง โอเคหรือยัง? ” เย่เชินหลินลูบๆผมของเซี่ยชีหรั่น เธอถึงฉีกยิ้มขึ้นมา
เธอก็ไม่ได้บอกว่าต้องให้หนึ่งคนหนึ่งอย่างง่ายๆขนาดนั้น เธอรู้ว่าเย่เชินหลินคงไม่เคยชินแน่นอน ก็ไม่ใช่ประหยัดเพื่อเธอแล้วเขาจะกินไม่อิ่มนะ
“คุณเป็นเจ้าชายใหญ่ของตระกูลเย่ คุณกินสองอย่าง ฉันกินหนึ่งอย่าง ” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างมีความสุข

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset