สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 790 สาวใช้ตัวแสบ 694

ตอนที่ 790 สาวใช้ตัวแสบ 694
“คุณกินสามอย่าง ผมกินคุณ ”เย่เชินหลินกดเสียงต่ำ แล้วหัวเราะ สายตากวาดไปที่บริเวณหน้าอกของเธอ เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงก่ำขึ้นมา แล้วรีบก้มหน้ากินข้าว ไม่กล้าพูดกับเขาแล้ว
เซี่ยชีหรั่นกินเงียบๆไปสักพัก แล้วว่าตะเกียบลง ถามเย่เชินหลินว่า : “คุณบอกว่าวันนี้จะถามลูกชายของรองประธานเลี่ยวถามแล้วหรือยัง? ”
เธอใส่ใจกับเรื่องของโม่เสี่ยวหนงมาก โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่โม่เสี่ยวหนงแท้ง เธอยังจำเรื่องบุพเพสันนิวาสของเธอได้
ครั้งนี้เป็นเย่เชินหลินที่พูดขึ้นมาเอง เธอไม่อยากพลาดไป
“ถามแล้ว ”
“เป็นยังไงบ้า? ฝ่ายนั้นเขายินยอมไหม? คุณให้เขาดูรูปของเสี่ยวหนงหรือยัง? เสี่ยวหนงหน้าตาสวย ฉันว่าผู้ชายส่วนมากต้องชอบเธอแน่ๆ ”
เย่เชินหลินแค่ยิ้มๆ แล้วพูดว่า : “คุณก็ไม่ดูเลยว่าใครแนะนำ ยังต้องดูรูปอีกเหรอ? ”
เซี่ยชีหรั่นถึงฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็ใช่ เย่เชินหลินเป็นใคร เกรงว่าพวกคนพวกนั้นจะหาช่องหาเข้าหาคนที่มีฐานะสูงกว่าไม่ได้นะซิ แต่ว่าเรื่องพวกนี้ เธอก็ได้ยินมาจากคนอื่นเท่านั้น ถึงยังไงเธอก็รู้จักติดต่อกับเย่เชินหลินมาตั้งนาน ก็ไม่เคยเห็นใครมาหาเขา ส่งของขวัญให้เขา ขอร้องให้เขาทำเรื่องอะไรนะ
“หลิน คุณว่าในชีวิตความเป็นจริง คนระดับฐานะอย่างคุณนี้ยังมีคนมากมายอยากมาอาศัยบารมีของคุณ อยากปีนเข้าทางคุณจริงๆเหรอ? ” เซี่ยชีหรั่นถามเสียงเบา
ท่าทางของเธอเหมือนกับเด็กนักเรียนที่อยากรู้อยากเห็น เย่เชินหลินมองดูเธอ รู้สึกว่าน่ารักจริงๆ
“คุณว่าไงล่ะ? ” เขาย้อนถามกลับแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู
“ฉันไม่รู้ ถึงยังไงฉันก็ไม่เคยเห็นคนมาหาคุณ ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว พวกเราพูดเรื่องเสี่ยวหนงเถอะ ฝ่ายนั้นเขายินยอมจริงๆเหรอ? งั้นได้นัดเรื่องนัดเจอกันคืนนี้ไหม? ”
“คุณกำลังสงสัยความสามารถในการจัดการเรื่องของผู้ชายคุณอยู่ หรือสงสัยว่าผู้ชายของคุณไม่มีเวลาคิด? ” เย่เชินหลินแกล้งทำท่าโกรธ และถามเธอ
ใบหน้าเล็กๆของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้นมา พูดเสียงต่ำว่า : “อะไรอา ฉันสงสัยคุณที่ไหน ฉันเชื่อคุณแน่นอนนะ ฉันก็แค่รีบร้อน อยากเห็นว่าคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง เหมาะสมที่จะคู่กับเสี่ยวหนงหรือเปล่า ”
“ตอนเย็นก็ได้เจอแล้ว แต่ว่าอย่าหวังให้มากเลย หน้าตาของเขาห่างจากผู้ชายของคุณมากเลยนะ ”
“เจอะเจอะเจอะเสียงจุปาก หน้าหนา ฉันไม่เคยเห็นคุณชมตัวเองขนาดนี้มาก่อน ” เซี่ยชีหรั่นหัวเราะแล้วพูด
“ผู้ชายของคุณหน้าตาไม่ดี? ” เย่เชินหลินถามเธออย่างจริงจัง แถมยังใช้สายตาเหยี่ยวจ้องมองไปที่ใบหน้าเล็กๆของเธอ มองอย่างไม่กะพริบตา
เธอพูดว่าเขาหน้าตาไม่ดีได้เหรอ? เขาเป็นผู้ชายที่ดูโดดเด่นที่สุดในบรรดาที่เธอเคยเห็นมา ใบหน้าของเขาสวยงามและสมบูรณ์แบบเหมือนกับว่าถูกแกะสลักออกมาเลย
เพียงแค่มองใบหน้าของเขา เธอก็ลุ่มหลง และเวียนหัวแล้ว
ถึงแม้ว่าโม่เสี่ยวจุนจะมีความคล้ายคลึงกับเขาบ้าง แต่ในความงดงามนั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่มาก เสี่ยวจุนดูเหมือนมีความซึมเศร้านิดหน่อยอยู่ตลอด แต่ในแววตาของเย่เชินหลินนั้นมักจะให้ความมั่นคงหนักแน่นกับผู้คน
เซี่ยชีหรั่นหันกลับไปมองเขา อดไม่ได้ที่จะใจลอยหลงไปแล้ว
ท่าทางอย่างนั้นของเธอดึงดูดใจเขามากจริงๆ เย่เชินหลินหัวใจเต้นแรง ดึงเธอเข้ามากอด แล้วเอาริมฝีปากบางบรรจงจูบลงไปที่ปากเล็กๆของเธอ
รูปลักษณ์ของเขาเขารู้ดี แต่ว่าผู้หญิงของเขา ถ้าสมมุติว่าพวกเขาให้คะแนนเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกละก็ เขาคิดว่าคะแนนของผู้หญิงของเขาก็ถือว่าสูงมากเลยทีเดียว
เขาชอบมองใบหน้าเล็กๆของเธอ ไม่ว่าเธอจะยิ้ม หรือว่าโกรธ หรือแม้กระทั่งร้องไห้ ทุกท่าทางและกิริยาของเธอเขาก็ลุ่มหลงหมด
เซี่ยชีหรั่นถูกเขาจูบ เป็นเพราะอยู่ในร้านอาหาร ถึงแม้ว่าทั้งสองจะอยู่ในห้องที่นั่งพิเศษที่ไม่มีใครเขามารบกวน แต่เธอก็ยังกลัวว่าจะมีพนักงานบริการเดินเข้ามาอย่างกะทันหัน ไม่กล้าที่จะจูบเขาอย่างไม่เกรงใจต่อ
แม้ว่าจูบของเย่เชินหลินยังก็ไม่เสร็จสิ้น แต่ก็ต้องตัดใจปล่อยเธอ
ยังไงที่นี่ก็เป็นร้านอาหาร เขาก็ไม่เอาเธอที่นี่แน่นอน
ใบหน้าเล็กๆของเซี่ยชีหรั่นมีสีแดงระเรื่อ พูดเสียงอ่อนช้อยออกมานิดหนึ่ง : “คุณนี้ทำไมถึงน่าเกลียดอย่างนี้นะ พูดเรื่องเสี่ยวหนงอยู่ ทำไมพูดอยู่ดีๆคุณก็…… ”
“ใครใช้ให้คุณดึงดูดผมล่ะ ” เย่เชินหลินพูดอย่างไม่รู้สึกผิด
“ใคร ใครดึงดูดคุณแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นคุณ……คุณนั่นแหละ ขี้เกียจจะพูดกับคุณ ฉันจะไปทำงานแล้ว ”
“พวกเราพักผ่อนอีกสักแป๊บค่อยไปทำงาน ” เย่เชินหลินพูด ดูท่าทางของเขาก็แค่วางมาด ไม่ได้คิดทำเรื่องร้ายแรงอะไร
เซี่ยชีหรั่นไม่เชื่อว่าเขาจะนั่งพักเฉยๆนะ เห็นได้ชัดว่าเขาขอร้อง ทั้งที่เมื่อคืนวานเพิ่งมีแท้ๆ วันนี้ประพฤติตัวไม่ดีอีกแล้ว
ถ้าเธอเชื่อเขาล่ะก็ เธอก็เหมือนคนโง่ เหมือนเอาเนื้อเข้าปากเสือ
“ไม่ไป ฉันจะทำงาน ตอนบ่ายฉันยังมีงานมากมายที่จะต้องทำ ” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างยืนหยัด
“ก็ได้ งั้นตอนนี้คุณก็ไม่ทำงานเถอะ แต่ว่า คุณต้องส่องกระจกดีๆนะ คิดหาวิธีการจัดการกับอารมณ์สักหน่อย ” เย่เชินหลินมองมาที่เซี่ยชีหรั่น หัวเราะแล้วพูดออกมา
เซี่ยชีหรั่นถึงได้รู้ว่าใบหน้าของตัวเองร้อนขึ้นมาแล้ว ถ้ากลับบริษัทไปตอนนี้ คนอื่นๆต้องวิพากษ์วิจารณ์เธอแน่นอน
“เกลียดคุณจริงๆเลย! ” เธอหน้ามุ่ย เย่เชินหลินหัวเราะออกมา ยื่นมือออกมาโอบที่เอวของเธอ พาเธอเดินออกประตูไป
ไม่ไกลจากร้านอาหารตงเจียงมากนักก็เป็นโรงแรมห้าดาวในนามของฝู้ซื่อ เย่เชินหลินพาเซี่ยชีหรั่นเดินเล่นมาถึงที่นั่น แล้วพักผ่อนในห้องประธานาธิบดีของชั้นบนสุด
พูดว่าพักผ่อน เธอมีโอกาสที่จะได้พักผ่อนที่ไหนกันล่ะ เพิ่งเดินเข้าประตูก็ถูกเย่เชินหลินที่เหมือนเสือที่โหดเหี้ยมกดเข้าที่ประตูแล้วจูบอย่างเต็มเหนี่ยว
ไม่ต้องพะวงแม้แต่น้อย เซี่ยชีหรั่นตกอยู่ในกำมือของเขาอีกครั้ง
หลังเสร็จ เขาก็อุ้มเธอไปวางไว้บนเตียงอย่างรักและทะนุถนอม ให้เธอนอนพักดีๆสักแป๊บ แล้วพูดว่าไม่ต้องรีบร้อนทำงาน
“ไม่ได้! ถึงแม้พี่เหอไท้จะไม่อยู่ ฉันก็ไม่สามารถพูดว่าไม่ไปทำงานก็ไม่ไปทำงานได้ เพราะเป็นเรื่องแบบนี้ มันเลยไม่ดีนะ ”
“นอนก่อนเถอะ ตื่นมาแล้วค่อยไป ถ้านอนไม่ตื่นก็นอนต่อไป ” เย่เชินหลินลูบผมที่เปียกชื้นของเธอ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“เย่เชินหลิน ครั้งหน้าคุณอย่าทำแบบนี้อีกนะ! ” เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว พูดอย่างเข้มงวด
“คุณก็ได้รับความพึงพอใจมากอยู่ไม่ใช่เหรอ? ” เย่เชินหลินหัวเราะ ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้นมาทันทีอีกครั้ง ความมั่นใจก็ไม่เพียงพอ
“ถึงยังไงที่หลังตอนเที่ยงคุณก็ทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่อนุญาตให้มารบกวนการทำงานของฉัน ไม่อย่างนั้น……”
“คุณจะทำอะไรได้? ”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเหมือนกับว่าเธอไม่มีอะไรที่จะสามารถขู่เขาได้เลยจริงๆ ทำได้แค่ถอดหายใจออกมาหนึ่งครั้ง หลับตาแล้วพูดว่า : “ขี้เกียจจะสนใจคุณ ฉันนอนดีกว่า ”
“โกรธแล้ว? ที่หลังตอนเที่ยงผมจะพยายามอดทนไว้ โอเคหรือยัง? เด็กน้อย! ” เย่เชินหลินโน้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากของเธอ แล้วเลื่อนริมฝีปากมาจูบที่ปากเล็กๆของเธออีกครั้ง
ถ้าอยากให้เขาไม่ทำอะไรเธอจริงล่ะก็ เว้นแต่ว่าเขาจะมองไม่เห็นเธอเท่านั้นแหละ แค่เธออยู่ตรงหน้าเขา เขาก็จะคิดไปทั่ว น่าแปลกจริงๆ ทำไมเขาไม่เคยมีอาการแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นนะ
ปฏิกิริยาของเขาเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกได้ เธอหลบหันไปนอนอีกข้าง พูดเสียงเบา : “พอแล้ว ขอบคุณมากๆเลย คุณอย่ามานอนบนเตียงเลย คุณลุกขึ้น ให้ฉันนอนพักผ่อนเงียบๆคนเดียวแป๊บหนึ่ง ”
ดูท่าทางแล้วเธอคงกลัวจริงๆ เย่เชินหลินก็หัวเราะขึ้นมา แล้วลุกจากเตียงไปอาบน้ำ
เซี่ยชีหรั่นตั้งนาฬิกาปลุกเรียบร้อย ถึงจะวางใจแล้วนอนหลับได้
บ่ายโมงครึ่ง เซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมาพอดี ตอนนั้นเย่เชินหลินกำลังยุ่งอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์
เซี่ยชีหรั่นมองใบหน้าด้านข้างของเขา หน้าตาเข้มขรึม ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องกลุ้มใจกับงานนิดหน่อย
เธอยังง่วงอยู่ แต่ก็กลัวว่าเย่เชินหลินไม่ยอมให้เธอไปทำงาน ก็เลยตั้งใจแกล้งทำเป็นมีชีวิตชีวา รีบลุกขึ้นมานั่งทันที
“ตื่นแล้วเหรอ? ” เย่เชินหลินหันกลับไปมองเธอ สังเกตท่าทางของเธอ
“ตื่นแล้ว ฉันจะไปทำงานแล้ว ”
หลังจากที่เย่เชินหลินบันทึกไฟล์ แล้วส่งไปที่อีเมลเสร็จแล้วนั้น ก็ปิดเครื่อง และลุกขึ้นเดินไปด้านหน้าของเธอแล้วถามเธอว่า : “นอนหลับดีแล้วเหรอ? ถ้าง่วงก็นอนต่อ ทำงานสายไปนิดหน่อยก็ไม่สำคัญ ”
“ฉันรู้ ฉันไม่ง่วงแล้ว ไปเถอะ คุณก็ดูเหมือนจะมีเรื่องที่ต้องทำใช่ไหม ”
“ตอนบ่ายมีประชุม ” เย่เชินหลินช่วยเซี่ยชีหรั่นเอาเสื้อผ้าที่ตกกระจายอยู่ที่พื้นเก็บขึ้นมาแล้วยื่นให้เธอ
เซี่ยชีหรั่นหมุนตัวกลับรีบใส่ชุดให้เรียบร้อย แล้วทั้งสองคนก็ออกจากโรงแรม
ทำงานตอนบ่ายเซี่ยชีหรั่นก็ยังรู้สึกง่วงอยู่ แต่กลับไม่นอน ง่วงมากไม่ไหวจริงๆ เธอลุกขึ้นเดินๆแล้วเดินไปเอาน้ำมาดื่ม
และก็ไม่รู้ว่าเอาน้ำกลับมาแล้วกี่รอบ ก็เห็นผู้หญิงยืนอยู่หน้าประตูอยากจะเคาะประตูห้องของเธอ ยกมือขึ้นมาหลายรอบ แต่แล้วก็วางมือลงอย่างลังเล
คนนี้เธอรู้จัก ถึงแม้จะไม่สนิทมาก แต่ก็เคยคุยหลายครั้ง
“คุณส้ง มีธุระหรือเปล่า? ” เซี่ยชีหรั่นถาม ทำให้ผู้หญิงคนนั้นสะดุดตกใจ
“มี คุณเซี่ย ”
“เรียกฉันว่าชีหรั่นเฉยๆก็ได้ ”
“ชีหรั่น ฉันมีเรื่องหนึ่งที่อยากให้คุณช่วย ฉันแค่รู้สึกไม่กล้าที่จะเปิดปากพูด เพราะฉะนั้น……” ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าคุณส้งรู้สึกอึดอัดนิดๆ เซี่ยชีหรั่นเห็นท่าทางแบบนั้น ก็ทนไม่ได้ แล้วพูดออกมาว่า :“มีเรื่องอะไรก็เข้าไปคุยข้างในกันเถอะ ”
“ดี! ดี! ”คุณส้งพยักหน้า เดินตามเซี่ยชีหรั่นเข้าห้องทำงานของเธอไป
“คุณเชิญนั่งก่อน เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาเสิร์ฟให้คุณ ”
“ค่ะ! ค่ะ! ”คุณส้งยังคงแสดงความเคารพทั้งยังพยักหน้าอย่างเหมือนคนต่ำต้อย เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าเธอต้องมีเรื่องสำคัญอะไรที่อยากจะขอร้องเธอแน่ๆ ไม่อย่างนั้นไม่ทำแบบนี้
เซี่ยชีหรั่นเทน้ำเสร็จเรียบร้อย กลับไปที่ห้องแล้วยื่นให้คุณส้ง เธอรับมาแต่กลับไม่ดื่ม และยังเอาวางไว้บนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านหน้าโซฟา
“คุณมีเรื่องอะไรพูดมาเถอะค่ะ ” เซี่ยชีหรั่นเห็นเธอทำท่าทางไม่เป็นธรรมชาติ ก็เลยถามเธอ ทำให้เธอกล้าพูดออกมา
“คืออย่างนี้ ที่บ้านของพี่สาวฉันมีเด็กที่เรียนดีมากๆ แต่ว่า เป็นคนชนบท พี่สาวฉันเสียชีวิตไปค่อนข้างเร็ว เด็กก็เลยเป็นของฉัน ฉันมีความรับผิดชอบต่อเด็กมาก อยากให้เธอได้เรียนดีๆ สอบเข้ามหาลัยดีๆ พี่เขยของฉันเป็นคนพิการ คุณปู่คุณย่าของเด็กก็แก่หมดแล้ว หลังจากนี้ทุกคนในบ้านก็หวังพึ่งเธอแล้ว เฮ้อ! ผลการเรียนของเธอดีมาก เรียนที่มัธยมต้นอันดับหนึ่งของตงเจียงไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ติดที่เป็นคนชนบท ก็เลยเข้าไม่ได้ ”
พูดถึงตระกูลส้ง เซี่ยชีหรั่นฟังตั้งนานก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเธอเลย
เห็นเซี่ยชีหรั่นมีความงุนงง คุณส้งก็เลยหัวเราะออกมา พูดว่า : “ฉันพูดจนทำให้คุณสับสนแล้วใช่ไหม? คืออย่างนี้ ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นคู่หมั้นของลูกชายประธาน……”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset