สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 792 สาวใช้ตัวแสบ 696

ตอนที่ 792 สาวใช้ตัวแสบ 696
หากไม่ได้เป็นเพราะว่าความต้องการของเลี่ยวเหวยตง มีเพียงสาวสวยเพียงอย่างเดียว เย่เชินหลินก็คงจะไม่จับคู่ให้กับพวกเขา นิสัยของโม่เสี่ยวหนงเขานั้นรู้ดี และเขาก็คิดว่าหล่อนนั้นไม่คู่ควรกับหนุ่มหล่อมากความสามารถ
เขาอุตส่าห์จัดการให้กับเธอเรียบร้อยแล้ว แต่โม่เสี่ยวหนงกลับไม่รับน้ำใจนี้ สีหน้าของเย่เชินหลินเคร่งขรึม และพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า:“หากไม่อยากเจอก็ไม่ต้องเจอ ไม่มีใครบังคับคุณ พ่อบ้าน!”
พ่อบ้านก้าวขึ้นมาข้างหน้า พูดขึ้นด้วยความเคารพว่า:“คุณเย่ ผมอยู่นี่ครับ ไม่ทราบว่ามีอะไรจะกำชับครับ”
“คุณช่วยไปโทรศัพท์หาเลี่ยวเหวยตง บอกเขาว่าไม่ต้องมาแล้ว น้องสาวของภรรยาผมติดธุระ”
“ไม่ไม่ไม่ พี่เขย ฉันไม่ได้หมายความเช่นนั้น ฉันก็แค่ ฉันก็แค่รู้สึกแปลกใจ ขอโทษนะคะ พี่เขย พี่อย่าโกรธเลย”โม่เสี่ยวหนงรีบสะบัดมือเซี่ยชีหรั่นออก จากนั้นออกไปยืนขวางพ่อบ้าน รีบอธิบายกับเย่เชินหลิน
ใบหน้าของเย่เชินหลินยังคงเรียบเฉย เซี่ยชีหรั่นก็ยังคงก้าวเท้าไปข้างหน้า โอบไหล่ของเย่เชินหลินและพูดด้วยน้ำเสียงเบาว่า:“ไหนๆคนก็มาแล้ว จะบอกให้เขากลับกลางทางก็คงจะดูไม่ดี หลิน คุณอย่าอารมณ์เสียเลย เป็นเพราะฉันไม่ดีเอง ฉันควรจะบอกเสี่ยวหนงก่อน ครั้งที่แล้วเธอ ……คุณก็รู้ เธออาจจะมีบาดแผลอยู่ในใจในเรื่องของการจัดคู่ อย่าโทษเธอเลย”
“ใช่ค่ะ พี่เขย ฉันมีแผลบางอย่างอยู่ในใจ แต่ว่าตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว ไม่ช้าก็เร็วฉันจะต้องข้ามผ่านมันไป พี่อุตส่าห์แนะนำให้ฉัน ฉันขอบคุณจากใจ คนที่คุณแนะนำจะต้องดีอย่างไม่มีที่ติแน่นอน ฉันจะลองพิจารณาผู้ชายคนนี้อย่างตั้งใจ”โม่เสี่ยวหนงพูดขึ้นอย่างรีบร้อน
“เมื่อสักครู่นี้ยังมีแผลใจ ตอนนี้คิดได้แล้ว หล่อนนั้นคิดได้รวดเร็วจริงๆ” เย่เชินหลินพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่จริงจังประโยคหนึ่ง โอบไหล่ของเซี่ยชีหรั่น และพูดกับพ่อบ้านว่า:“ในเมื่อโม่เสี่ยวหนงอยากจะพบ งั้นก็ไม่ต้องโทรแล้ว ให้เลี่ยวเหวยตงมาเถอะ”
เมื่อพูดจบ ก็โอบเซี่ยชีหรั่นเดินไปข้างหน้า
เซี่ยชีหรั่นอยากที่จะหยุดฝีเท้าลงเพื่อที่จะบอกกับโม่เสี่ยวหนงว่าอย่าเสียใจไปเลย แต่มือของเย่เชินหลินนั้นคว้าเธอไว้แน่น แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ต้องการให้เธอไป
โม่เสี่ยวหนงมองเขาทั้งสองที่ค่อยๆเดินจากไป โกรธจนต้องขบฟันแน่น
เซี่ยชีหรั่น!ฉันจะคิดเสียว่าพี่หวังดีกับฉันก็แล้วกัน คิดเสียว่าพี่เป็นพี่สาวที่ยิ่งใหญ่ ฉันก็แค่โทรหาเขาตอนดึก?ไม่ได้ใช้คำพูดที่เกินไป ไม่ได้ทำเรื่องที่เลวร้าย ทำไมพี่จะต้องรีบร้อนจับคู่ให้กับฉันด้วย พี่กลัวว่าฉันจะแย่งเขาไปใช่ไหม?
ฉันจะแย่งเขาให้ได้!
แม้ว่าฉันจะดูตัวสำเร็จก็ตาม หรือแม้ว่าฉันจะแต่งงานไปแล้ว ฉันก็จะไม่ล้มเลิกที่จะตามจีบเขา
ส่วนเย่เชินหลินนั้น ใบหน้าของช่างเย็นชาเสียจริง แถมยังพูดเสียดสีเธอต่อหน้าคนอื่นอีก เขาก็แค่เกิดมาหน้าตาดี ตระกูลดี ฐานะร่ำรวยก็เท่านั้นไม่ใช่เหรอ?ต่อให้เก่งกาจแค่ไหน เขาก็ยังเป็นแค่คนคนหนึ่ง หากเป็นคนก็จะต้องมีจุดอ่อน เธอไม่เชื่อว่าเธอจะไม่สามารถจับเขาไว้ในกำมือได้
เดิมทีโม่เสี่ยวหนงนั้นรังเกียจลูกชายของรองประธาน รู้สึกว่าเซี่ยชีหรั่นได้เคียงคู่กับลูกชายของประธาน แต่ตนเองนั้นกลับจะได้เคียงคู่กับลูกชายของรองประธาน ซึ่งระดับนั้นแตกต่างกัน เธอนั้นไม่เต็มใจ
เมื่อเธอคิดในอีกมุมหนึ่ง เธอกลับรู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่ใช่โอกาสที่ดี
พวกเขาต้องการที่จะกีดกันเธอไม่ใช่เหรอ?หากว่าเธอมีผู้ชายเป็นของตนเองแล้ว หรือแม้กระทั่งแต่งงานแล้ว นั้นแหละถึงจะเป็นวิธีการปกปิดความคิดที่อยู่ในใจเธอที่ดีที่สุด
เซี่ยชีหรั่น คิดไม่ถึงเลยว่าโม่เสี่ยวหนงจะรู้จักใช้วิธีแผนซ้อนแผน?
เย่เชินหลินให้พ่อบ้านจัดการอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการให้เกียรติโม่เสี่ยวหนงและเป็นการไว้หน้าเลี่ยวเหวยตง ดังนั้นวันนี้คฤหาสน์ทั้งหลังจึงยุ่งวุ่นวาย
นับตั้งแต่หลังจากที่ส้งหลิงหลิงขออนุญาตเย่เชินหลินให้สามารถออกไปทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ ทุกวันก็จะลงมาเดินเล่นข้างล่างตึกหนึ่งรอบ
วันนี้เธอได้ยินพวกคนใช้วิพากษ์วิจารณ์์กันอย่างลับๆ ว่าจะจัดงานดูตัวให้กับโม่เสี่ยวหนง ข่าวๆนี้สำหรับส้งหลิงหลิงแล้วไม่ใช่ข่าวดีสักเท่าไหร่นัก
เมื่อมองดูเขาใกล้จะอายุครบหนึ่งขวบแล้ว หล่อนวางแผนว่าหากครบหนึ่งเดือนแล้วหล่อนจะวางยาโม่เสี่ยวหนงกับเย่เชินหลิน
แต่หากโม่เสี่ยวหนงแต่งงานและออกจากคฤหาสน์หลังนี้ไป แผนการนี้ก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
หลังจากที่เขากลับไปในห้อง เขานั้นใจร้อนดุจดังไฟไหม้ อยากที่จะขัดขวาง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงร้อนใจเท่านั้น
เย่เชินหลินพาเซี่ยชีหรั่นกลับมาที่ห้องนอนชั้นหนึ่งของพวกเขา สีหน้าของเย่เชินหลินนั้นยังคงดำคล้ำ
“หลิน คุณโกรธจริงๆเหรอ?แม้ว่าบางครั้งเสี่ยวหนงจะไม่รู้ประสีประสา แต่ว่าจิตใจของเธอนั้นไร้เดียงสา อาจจะพูดจาตรงเกินไป คุณอย่าโกรธเลย ฉันรู้ว่าคุณจัดการเรื่องดูตัวให้กับหล่อนก็เพื่อฉัน ฉันขอบคุณคุณมาก จริงๆนะ คุณอย่าโกรธเลย”
“จิตใจของหล่อนนั้นไร้เดียงสา?เป็นเพราะหล่อนไม่ไร้เดียงสาต่างหาก หล่อนถึงได้มีพฤติกรรมเช่นนี้” เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างเย็นชา
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจเฮือกหนึ่ง กดเสียงลงต่ำ จากนั้นก็พูดโน้มน้าวเย่เชินหลิน:“ไม่ต้องไปสนใจ หรอกว่าหล่อนนั้นจะเป็นอย่างไร เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามหล่อนก็เป็นน้องของเธอ หากไม่มีตระกูลโม่ก็ไม่มีฉันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของเธอ อีกทั้งไหนๆคุณก็ได้เริ่มทำเรื่องดีๆไปแล้ว ก็ต้องทำต่อไปให้เสร็จ อย่าโกรธเลย โกรธจนไม่หล่อแล้ว”
“คุณก็นะ!”เย่เชินหลินลูบผมของเซี่ยชีหรั่นครู่หนึ่ง พูดอย่างจนปัญญาว่า:“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ใส่ชุดแบบนี้จะไปพบแขกได้อย่างไรกัน?”
เซี่ยชีหรั่นเหมือนยกภูเขาออกจากอกแล้วยิ้มหวาน
“แน่นอนว่าคงจะไม่แต่งตัวเช่นนี้ ฉันจะใส่ชุดคู่รักกับเจ้าชายใหญ่ของตระกูลเย่ ฉันจะใส่กระโปรงสีเขียวอ่อนตัวนั้น ส่วนคุณใส่เสื้อเชิตสีเขียวอ่อน ฉันคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว”
“เรื่องเล็กน้อย”เย่เชินหลินกลอกตามองเธอ
“คุณรับปากแล้ว?ไม่โกรธแล้ว?ถ้างั้นฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันเปลี่ยนเสร็จก็จะไปหยิบเสื้อเชิตในห้องเก็บเสื้อผ้า รอฉันสักครู่นะ”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นพูดจบ ขณะที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำก็ถูกเย่เชินหลินคว้าแขนเอาไว้
“คุณทำอะไรของคุณเนี่ย?ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“ก็เปลี่ยนต่อหน้าผมเนี้ยแหละ มันคือกำไร”เย่เชินหลินพูดเสียจริงจัง ใบหน้าจิ้มลิ้มของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้นทันที
“คุณ……”
“อย่างกับไม่เคยเปลี่ยน จะอายทำไม รีบเปลี่ยนสิ ไม่เช่นนั้นผมจะโกรธต่อนะ”เย่เชินหลินโกรธราวกับเด็ก เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร กลัวว่าแขกจะรอนาน และกลัวว่าโม่เสี่ยวหนงจะไม่พอใจ จึงทำได้เพียงยอมศิโรราบ
เธอกัดริมฝีปากบนใบหน้าแดงก่ำ เธอถอดชุดทำงานออก
เมื่อถอดเสร็จ เย่เชินหลินก็โอบกอดเธอ และจูบเธออย่างแรงสองสามที
“อึม……น่ารําคาญ……อย่าทำแบบนี้สิ”
ราวกับว่าเขาต้องการที่จะระบายความโกรธ จึงแกล้งหยอกล้อเธอครู่หนึ่ง จากนั้นจึงค่อยๆปล่อยเธอ
เขาคิดอยากจะทำเช่นนั้นจริงๆ แต่ว่าเวลาน้อย เขาคงจะทำอะไรเธอไม่ได้ หากว่าผมต้องการที่จะจัดการกับคุณจริงๆก็ต้องรอให้ถึงตอนกลางคืนเสียก่อน
“พอได้แล้ว จูบก็จูบแล้ว ไม่โกรธแล้วได้ไหม?”เซี่ยชีหรั่นขอร้องเขาเบาๆ
“ไม่ได้ ผมจะดูคุณเปลี่ยน”
“โรคจิต!” เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นเบาๆ เธอทำได้แค่เพียงถอดกระโปรงต่อ
จึงทำให้อดนึกถึงครั้งหนึ่งที่เขาเคยทรมานหล่อน ให้หล่อนนั้นลองชุดนอนให้เขาดูตัวแล้วตัวเล่า เมื่อคิดถึงหนุ่มคนนั้น และมองเย่เชินหลินที่อยู่เบื้องหน้า เธอรู้สึกดีขึ้น เขานั้นได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ตอนนี้แม้ว่าเขานั้นจะเลวร้ายแค่ไหน ก็ไม่ทำเช่นนั้นกับเธออีก
“หากการดูผู้หญิงของตนเองแล้วเป็นโรคจิต โลกใบนี้ก็คงไม่มีผู้ชายที่ปกติแล้วล่ะ”เย่เชินหลินนั่งลงข้างเตียง มองดูกระต่ายน้อยที่น่ารักของเขาถอดเสื้อผ้าอยู่เบื้องหน้าเขา
ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นเริ่มแดงขึ้น กว่าจะเปลี่ยนชุดเสร็จนั้นยากลำบาก จากนั้นจึงรีบออกจากห้องไปหาเสื้อผ้าให้กับเย่เชินหลิน
จังหวะที่เธอเดินออกจากห้องนอน ก็ปะทะกับโม่เสี่ยวหนงพอดี โม่เสี่ยวหนงเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ ในใจก็ยิ่งโกรธขึ้นไปใหญ่
พี่สาวที่แสนดี รู้ทั้งรู้ว่าฉันกำลังโกรธอยู่ ก็ยังจะหนุงหนิงอยู่ในห้องกับเขาได้ คุณไม่สนใจเรื่องของฉันเลยใช่ไหม
“เสี่ยวหนง เธอยังโกรธอยู่อีกเหรอ?อย่าโกรธเลย พี่ได้ยินพี่เขยของเธอบอกว่าคนที่แนะนำให้เธอนั้นเป็นคนดี เธอลองคบกับเขาดูเถอะ หากเธอสามารถหาที่พักพิงที่ดีได้ พี่ก็วางใจ พ่อกับแม่ก็วางใจ”
ที่สำคัญก็คือพี่วางใจใช่ไหม เหอะๆ วางใจก็ดีแล้ว ฉันจะไม่ทำให้ความหวังดีของพี่ต้องสูญเปล่า
“ค่ะ พี่ ฉันรู้แล้ว ฉันก็กลับไปแต่งตัวที่ห้องแล้วไม่ใช่เหรอ?แต่งหน้าอ่อนๆ ฉันเกรงว่าเขาจะไม่ชอบฉันเสียมากกว่า”
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรกัน เธอสวยขนาดนี้จะมีผู้ชายสักกี่คนที่จะไม่ชอบเธอ”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้น
“ก็อาจจะใช่ค่ะ โม่เสี่ยวหนงนั้นสวยดั่งดอกไม้ ใช่ไหมคะพี่?ฮ่าฮ่า ฉันกลับห้องก่อนนะคะ ได้ยินมาว่าเขาคนนั้นกำลังจะมาถึงแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นมองดูเงาหลังของโม่เสี่ยวหนงที่กำลังจะเดินจากไป ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าทำไมเจ้าเด็กคนนี้เปลี่ยนแปลงความคิดได้รวดเร็วเช่นนี้ เมื่อตะกี้ยังบอกว่าได้ดีใจอยู่เลย แต่ตอนนี้ทำไมกลับเต็มใจขึ้นมา
แต่ไหนแต่ไรมาโม่เสี่ยวหนงก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเช่นนี้ อย่าคิดมากอีกเลย คิดมากไปก็เหมือนกับกำลังทำร้ายหล่อนทางอ้อม
รอจนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นหยิบเสื้อผ้าให้กับเย่เชินหลิน หลังจากที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แขกก็มาถึงพอดี
แม้ว่าเลี่ยวเหวยตงจะเป็นลูกชายของรองประธาน ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีแต่เมื่อเปรียบเทียบกับเย่เชินหลินแล้ว เขานั้นยังห่างชั้นนัก
การที่เขามาเยือนในวันนี้ และได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งมันเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ
เมื่อดูจากจุดๆนี้ จะเห็นได้ว่าเย่เชินหลินนั้นให้ความสำคัญกับน้องสาวภรรยาคนนี้ไม่น้อย
วันนี้ช่วงเช้ามีคนบอกกับเขาว่า เย่เชินหลินมีน้องสาวของภรรยาอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็คือภรรยาคนปัจจุบันของเขาเซี่ยชีหรั่น อยากจะหาแฟน ก็เลยฝากฝังคนให้ช่วยแนะนำให้กับเขา
ตอนนั้นเขารู้สึกราวกับว่ามีขนมเปี๊ยะตกลงมาจากฟ้าแล้ว แล้วก็ยังหล่นมาบนหัวเขาอีกด้วย หากดูตอนนี้แล้วช่างเป็นขนมเปี๊ยะชิ้นใหญ่มาก ทำให้เขานั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
หลายปีที่ผ่านมาเขานั้นอยากที่จะเข้าหาเย่เชินหลิน แต่ก็ไม่เคยได้โอกาสนั้นเลย
ในที่สุดก็มีโอกาส ไม่ต้องบอกหรอกว่าน้องสาวของภรรยาเย่เชินหลินนั้นสวยแค่ไหน เพราะต่อให้หล่อนนั้นน่าเกลียดสักแค่ไหนเขานั้นก็เต็มใจอยู่ดี
งานเลี้ยงในวันนี้จัดที่ห้องอาหาร หลังจากที่แขกสองสามคนได้นั่งลง อาหารก็เริ่มเสิร์ฟ
“เหวยตง นี่คือคู่หมั้นของผมเซี่ยชีหรั่น ส่วนท่านนี้คือน้องสาวของเธอโม่เสี่ยวหนง” ขณะที่เย่เชินหลินแนะนำอยู่นั้น เขาจงใจที่จะแนะนำชื่อและชื่อสกุลของเซี่ยชีหรั่นและโม่เสี่ยวหนงต่อกัน
ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าเลี่ยวเหวยตงนั้นคิดอะไรอยู่ เขาจะต้องคิดหาผลประโยชน์จากความสัมพันธ์กับเย่เชินหลินในครั้งนี้อย่างแน่นอน
เขาต้องการให้เขารู้ว่า น้องสาวภรรยาก็จริง แต่ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ เพราะฉะนั้นในความสัมพันธ์ก็ยังคงมีความแตกต่างอยู่

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset