สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 793 สาวใช้ตัวแสบ 697

ตอนที่ 793 สาวใช้ตัวแสบ 697
เลี่ยวเหวยตงนั้นไม่ใช่คนโง่ การที่เย่เชินหลินพูดเช่นนี้ เขานั้นเข้าใจดี
“พี่สะใภ้สวยจริงๆ!โม่เสี่ยวหนงก็สวยเช่นกัน!สามารถแนะนำสาวสวยให้ผมขนาดนี้ เลี่ยวเหวยตงผมนับว่าเป็นบุญวาสนาเป็นอย่างมาก!”
หน้าตาของเลี่ยวเหวยตงนั้นไม่ได้ดึงดูดสายตาของผู้คนเป็นพิเศษ หากอยู่รายล้อมกับคนธรรมดาทั่วไปถือว่าอยู่ในระดับกลาง เพราะว่าเขานั้นก็ถือว่าเป็นข้าราชการรุ่นที่สอง ก็ต้องมีดูมีราศีบ้าง ดังนั้นหากดูในภาพรวม หน้าตาของเขาก็ดูไม่เลวเลย
โม่เสี่ยวหนงไม่ชอบใบหน้าทรงเหลี่ยมของเขา และก็ไม่ชอบหน้าตาจืดๆของเขา หล่อนอยู่ในแวดวงบันเทิง จึงชอบผู้ชายแบบเย่เชินหลินที่มีอวัยวะทั้งห้าชัดเจน
“ฉันสวยที่ไหนกัน คุณชมเกินไปแล้ว ฉันคิดว่าคุณนั้นหล่อจริงๆ หล่อกว่านักแสดงชายเบอร์หนึ่งในกลุ่มของฉันอีก”โม่เสี่ยวหนงชื่นชมเขาปากหวาน
เลี่ยวเหวยตงนั้นรู้สึกประทับใจในตัวของโม่เสี่ยวหนงเป็นอย่างมาก เด็กสาวคนนี้สวยจริงๆ สวยมาก สวยหวาน น่ารัก หากมองอย่างละเอียดแล้วเธอเต็มไปด้วยจริตที่งดงามของสตรี
ไม่ต้องพูดหรอกว่าเขาเป็นน้องภรรยาของเย่เชินหลิน แม้แต่หากหล่อนเป็นหญิงสาวในครอบครัวธรรมดาที่มีรูปร่างหน้าตาดีขนาดนี้เลี่ยวเหวยตงก็จะไม่ยอดพลาดอย่างแน่นอน
เมื่อหลายคนกำลังพูดถึงตรงนี้ เสียงร้องของเด็กทารกก็ดังขึ้น ดังมาจากข้างบนตึก สีหน้าของเย่เชินหลินครึมขึ้น และเหลือบมองพ่อบ้านครู่หนึ่ง
แวดวงสังคมในตงเจียงมีแค่นี้ เรื่องที่ส้งหลิงหลิงมีลูกกับเย่เชินหลินนั้นแพร่กระจายไปทั่ว ไม่มีใครที่จะไม่รู้เรื่องนี้
แน่นอนว่าเลี่ยวเหวยตงก็รู้เรื่องนี้ ในเมื่อมันเป็นเรื่องกระอักกระอ่วนใจ เขาจึงไม่ได้พูดอะไร และทำเป็นไม่ได้ยิน
พ่อบ้านก็รู้ความหมายในทันที ค่อยๆหันกลับไปและขึ้นไปบนตึก
“ฉันจะไปดูที่ห้องครัวหน่อยว่ายังมีกับข้าวอะไรอีก พวกคุณค่อยๆทานนะคะ”เซี่ยชีหรั่นนั้นดูออกว่าเย่เชินหลินนั้นร้อนใจ จึงลุกขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เมื่อพูดจบก็หันไปพยักหน้าให้กับเลี่ยวเหวยตง และรีบเดินออกจากห้องอาหาร
โม่เสี่ยวหนงนั้นรู้ดีว่าเย่เชินหลินนั้นให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้แค่ไหน ในเวลานี้นั้นเลี่ยวเหวยตงนั้นเป็นคนนอก หล่อนจึงไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป แท้ที่จริงแล้วหล่อนนั้นหวังว่าในเวลานี้ทั้งเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นไม่อยู่ตรงนี้แล้วล่ะก็ หล่อนก็จะสามารถแสดงเสน่ห์ ให้เลี่ยวเหวยตงต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
การที่เด็กนั้นร้องไห้ เป็นสิ่งที่ส้งหลิงหลิงนั้นจงใจ หล่อนไม่รู้ว่าจะขัดขวางการดูตัวของโม่เสี่ยวหนง อย่างไร ขณะที่กำลังอุ้มให้นมเด็กอยู่หล่อนก็คิดวิธีการที่จะใช้เด็กเป็นเครื่องมือได้
เมื่อเด็กนั้นร้องไห้ เย่เชินหลินก็คงจะไม่มีกระจิตกระใจในการรับประทานอาหารแล้ว สถานการณ์ก็จะวุ่นวาย การดูตัวครั้งนี้ก็ลงจะล้มเหลว
ขณะที่ส้งหลิงหลิงอุ้มเด็กอยู่นั้น มีหลายคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าหล่อน ทำไม่หล่อนกระทำการไม่สะดวก
“พวกคุณมายืนกันอยู่ตรงนี้ทำไม?ไม่เห็นเหรอว่าเด็กนั้นเหงื่อออกเต็มหัวแล้ว?ร้อนจะตายอยู่แล้ว!ออกไป ออกไปให้หมด หากฉันต้องการอะไรจะเรียกพวกคุณเอง!” ส้งหลิงหลิงไล่คนเหล่านั้นออกไป พวกเขาปิดประตูลง จากนั้นหล่นก็ตีไปที่เท้าน้อยๆของเด็กคนนั้นหนึ่งที
เด็กเล็กขนาดนี้ หากถูกตีจะไม่ร้องไห้ได้อย่างไรกัน เด็กน้อยเมื่อถูกตีหนึ่งทีก็ร้องไห้เสียแล้ว
“ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ แค่ดูดนมเองจะรีบไปทำไม แม่ก็กำลังให้นมลูกอยู่ไม่ใช่เหรอ?” ขณะที่ส้งหลิงหลิงกำลังพูดอยู่นั้น หล่อนก็ไม่ได้ให้นมลูก เพราะยังไงก็ตามหากเธอไม่ได้เรียก ก็คงไม่มีใครกล้าเข้ามา
เธอจงใจที่จะให้เด็กคนนี้ร้องไห้พักหนึ่ง ขณะที่พ่อบ้านกำลังเดินมา ก็ถามคนใช้และพี่เลี้ยงที่ยืนอยู่ข้างนอกว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณส้งบอกว่าคุณชายน้อยร้อน ไม่ให้พวกเรายืนล้อมหล่อนกับลูก อาจจะเป็นเพราะว่าคุณชายน้อยร้อนใจอยากจะดื่มนมก็เลยร้องไห้ พวกเราก็ไม่กล้าเข้าไปดู”
ส้งหลิงหลิงคนนี้ คิดจะก่อเรื่องอะไรอีกนะ?ก็คงจะจงใจทำอีกเป็นแน่?
พ่อบ้านเดาไม่ออกเลยว่าการที่ส้งหลิงหลิงทำเช่นนี้ในเวลาแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร เขาเคาะประตู แน่นอนว่าส้งหลิงหลิงได้ยินในสิ่งที่เขาพูด แต่หล่อนไม่อยากให้เขาเข้ามา ดังนั้นจึงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
เด็กยังคงร้องอยู่ ในเวลานี้เซี่ยชีหรั่นก็ขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงไม่เข้าไป?”เซี่ยชีหรั่นถามพ่อบ้าน
“คุณส้งยังไม่อนุญาตให้เข้าไป”พ่อบ้านตอบด้วยเสียงเบา
“เด็กร้องไห้ติดต่อกันเช่น ช่างหล่อนเถอะ พวกเราเข้าไปดูกันเถอะ!”แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นก็กลัวว่าส้งหลิงหลิงอาจจะกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ แต่เธอนั้นเป็นผู้หญิงเหมือนกันจึงไม่ได้ซีเรียสอะไร เธอผลักประตูเข้าไป ส้งหลิงหลิงก็ได้ให้เด็กน้อยนั้นได้ดูดนมแล้ว
“เหิงเหิง เป็นเด็กดี ไม่ร้องนะ แม่ก็กำลังให้ลูกดูดนมอยู่ไม่ใช่เหรอ?ลูกดูสิ ทำให้แม่ชีหรั่นต้องร้อนใจรีบขึ้นมาดู ” ส้งหลิงหลิงปลอบเบาๆ แต่เย่เจิ้งเหิงน้อยก็ยังคงร้องไห้หนักมาก แม้ว่าจะได้ดูดนมแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดร้อง
“ส้งหลิงหลิง คุณจงใจใช่ไหม?คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นนั้นเคร่งขรึม เมื่อเดินมาถึงเบื้องหน้าของส้งหลิงหลิง เธอก็ถามหล่อนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ชีหรั่น คุณหมายความว่าอย่างไรกัน?ฉันจงใจทำอะไร?”
“คนใช้และพี่เลี้ยงเด็กล้วนอยู่ข้างนอก มีคุณเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้องนี้ เด็กน้อยก็ร้องไห้ไม่หยุด คุณไม่ได้จงใจเหรอ?”เซี่ยชีหรั่นถามขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่สูงขึ้นเล็กน้อย
เมื่อคิดถึงเรื่องที่พี่เลี้ยงหลี่เคยพูด ในเวลานี้เมื่อเซี่ยชีหรั่นเห็นว่าส้งหลิงหลิงไม่ได้ร้อนใจเลยที่ลูกของตนนั้นร้องไห้ แถมยังมีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับเธอ เธอจึงโกรธมาก และอยากที่จะไล่แม่คนนี้ออกจากตำแหน่งเสียเดี๋ยวนี้
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่ ฉันทำให้เด็กร้องไห้ ฉันจะได้ประโยชน์อะไร?คุณคิดว่าฉันอยากจะให้เย่เชินหลินรู้สึกว่าฉันไม่คู่ควรกับการเป็นแม่คนงั้นหรือ ฉันอยากจะให้เย่เชินหลินผิดหวังในตัวฉัน แล้วก็ไล่ฉันออกไป?”ส้งหลิงหลิงเลิกให้นมเด็กน้อย จากนั้นก็จ้องหน้าเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก
เธอต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ให้เด็กน้อยนั้นร้องไห้สักพัก
เย่เชินหลินยังไม่ขึ้นมา คฤหาสน์หลังนี้ยังไม่เกิดความวุ่นวาย เป้าหมายของหล่อนยังไม่บรรลุผล ดังนั้นหล่อนยังวางมือไม่ได้
คำถามของส้งหลิงหลิงนั้น ทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องหยุดชะงัก หากดูตามเหตุผลแล้ว หากหล่อนต้องการที่จะอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ต่อไป หล่อนก็ควรที่จะดีกับเด็กคนนี้ แล้วทำไมหล่อนจะต้องจงใจไม่ยอมป้อนนมให้กับเด็กคนนี้หล่ะ
หากเป็นครั้งก่อนที่เย่เชินหลินไม่อยู่บ้าน แล้วหล่อนใช้โอกาสนี้ทำร้ายเด็กน้อยเพื่อโยนความผิดให้กับเซี่ยชีหรั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่วันนี้เย่เชินหลินนั้นอยู่บ้าน การที่เธอคิดจะทำเช่นนั้นมันจะดูไม่มีประโยชน์ไปเสียหน่อย
เด็กน้อยยังคงร้องไห้อยู่ ส้งหลิงหลิงก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมให้นมเด็ก ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกร้อนใจ ถอนหายใจลึกสองเฮือกและพูดด้วยเสียงเบาว่า:“ฉันเห็นเด็กร้องไห้ก็เลยร้อนใจไปหน่อย ถือเสียว่าฉันพลั้งปาก คุณรีบให้นมเด็กเถอะ”
ส้งหลิงหลิงยิ้มอย่างเย็นยะเยือก แกล้งทำเป็นปลอบเด็กและถามขึ้นว่า:“เซี่ยชีหรั่น คุณคิดว่าคำพูดเช่นนี้สามารถพลั้งปากพูดได้ด้วยเหรอ?คุณก็ถือว่าเป็นคนที่มีจิตใจเมตตาคนหนึ่ง แต่คุณหาว่าฉันเป็นคนไม่ดีต่อหน้าลูก บอกว่าฉันจงใจไม่ป้อนนมลูก คุณคิดว่าเด็กนั้นยังเล็กอยู่ฟังคำพูดของผู้ใหญ่ไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ?อีกทั้งมีคนอีกตั้งมากมายที่อยู่ข้างนอก พ่อบ้านก็อยู่ คนใช้ พี่เลี้ยงก็อยู่ พวกเขาล้วนได้ยินคำพูดของคุณ หากในอนาคตคำพูดเหล่านี้ถูกพูดต่อๆกันออกไป เมื่อลูกของฉันโตขึ้นจะคิดว่าฉันเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้ ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ ?คุณรู้สึกไม่คุ้นชินกับการที่ฉันมาอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ?คุณมาอุ้มลูกของฉันทุกๆวัน ก็เพราะหวังว่าวันหนึ่งฉันจะไปจากที่นี่ ฉันเคยบอกกับคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่า รอให้เด็กน้อยอายุครบหนึ่งเดือน รอให้เขานั้นเลิกดูดนมแม่ แล้วฉันจะจากไป เด็กคนนี้ทิ้งไว้ให้กับคุณก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องใจร้อนเช่นนี้? หรือว่าคุณอดใจรอให้ครบหนึ่งเดือนไม่ไหว ถึงได้รีบมาหาเรื่องฉัน ไล่ฉันไปจากที่นี่ใช่ไหม?”
คำพูดส่วนหน้าของส้งหลิงหลิงนั้นดูจริงจัง คำพูดส่วนหลังพูดเสียจนตนนั้นดูน่าสงสาร เมื่อพูดจบน้ำตาของหล่อนก็ค่อยๆไหลลงบนใบหน้าอย่างช้าๆ
เด็กน้อยยังคงร้องไห้อยู่บนข้อพับของหล่อน ร้องจนแทบจะหยุดหายใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มของเขานั้นแดงก่ำ
“คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ?ฉันไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนขนาดนั้น!รีบป้อนนมลูกเถอะ คุณดูสิเด็กร้องจนจะแย่อยู่แล้ว รีบป้อนเขาเดี๋ยวนี้ !ส่วนเรื่องอื่นนั้นรอให้เด็กเงียบก่อนค่อยว่ากัน!”
ยิ่งเซี่ยชีหรั่นนั้นร้อนใจมากเท่าไหร่ ส้งหลิงหลิงก็ยิ่งใจเย็นมากขึ้นเท่านั้น หล่อนมองเธอด้วยสายตาเย็นยะเยือกแล้วพูดขึ้นว่า:“ฉันไม่ป้อน คุณจะได้ใช้โอกาสนี้ ในการฟ้องเย่เชินหลินไง บอกว่าฉันไม่สมควรที่จะเป็นแม่คนไงล่ะ?จะได้สมดั่งที่คุณหวังไว้ !”
ส้งหลิงหลิงอยากจะดูสิว่า หากเด็กน้อยนั้นร้องไห้อย่างหนัก เย่เชินหลินจะกล่าวโทษเซี่ยชีหรั่นหรือไม่ สมน้ำหน้าที่หล่อนอยากยุ่งเรื่องชาวบ้านเอง
เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วสายตาของเธอนั้นตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยละสายตาออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กน้อยเลย
เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยไม่ได้ดังเหมือนตอนแรกแล้ว ลมหายใจกลับเริ่มติดขัด ดูเหมือนว่าจะร้องไห้จนหมดแรง เสียงก็ค่อยๆ แหบแห้ง
“ส้งหลิงหลิง เด็กน้อยร้องไห้จนเป็นเช่นนี้แล้ว คุณไม่รู้สึกสงสารเหรอ?รีบให้เขาดูดนมสิ!” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกทรมานใจ เธอรู้สึกเสียใจ ทำไมไม่เห็นแก่ส่วนรวม เธอไม่ควรกล่าวว่าส้งหลิงหลิงขณะที่เด็กน้อยคนนี้กำลังร้องไห้ เธอควรที่จะปลอบเด็กน้อยให้หยุดร้องไห้ก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน
“ลูกของฉัน ฉันก็ต้องรักสิ แต่ว่าตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ฉันคงจะไม่สามารถให้นมได้ เพราะเดี๋ยวเมื่อถึงเวลานั้นคุณก็จะเอาเรื่องของฉันไปฟ้องเย่เชินหลิน หากวันนี้คุณไม่ให้ความบริสุทธิ์กับฉันต่อหน้าคนอื่น ฉันก็จะไม่ให้นม!” ส้งหลิงหลิงยังคงยืนหยัดต่อไปด้วยสีหน้าที่เย็นชา เซี่ยชีหรั่นนั้นเกลียดตนเองมากที่ไม่มีน้ำนม มิฉะนั้นแล้วเธอก็คงจะให้นมด้วยตนเอง
เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยยิ่งนานยิ่งแผ่วลงเรื่อยๆ สถานการณ์ของการหายใจไม่ออกยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยชีหรั่นมองดูใบหน้าของเด็กน้อยที่กำลังขาดใจด้วยความร้อนใจ
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า:“คุณจะเอายังไงกันแน่ จะให้ฉันขอโทษคุณใช่ไหม?ได้!ฉันขอโทษ!ฉันผิดเอง ฉันพูดผิด คุณอย่าเอาเด็กน้อยนี่มาล้อเล่นเลยได้ไหม?”
พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆก็รู้สึกร้อนใจ การที่เด็กน้อยร้องไห้หนักเช่นนี้ ใครเห็นใครก็ต้องสงสาร ตัวเขาเองก็เป็นพ่อคนเหมือนกัน หากภรรยาของเขาเห็นลูกของตนร้องไห้เช่นนี้แล้วไม่ยอมให้นม หากขาไม่โกรธจนต่อยหน้าคนก็คงจะแปลก
“คุณส้ง มีเรื่องอะไรกันเราเอาไว้คุยกันทีหลังเถอะ ท่านให้นมลูกก่อนเถอะ คุณดูสิว่าเด็กน้อยนั้นร้องไห้หนักมาก คุณเย่จะต้องขึ้นมาดูเป็นแน่ หากคุณเย่กล่าวโทษคุณแล้วคุณจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”พ่อบ้านเดินมาอยู่ข้างๆส้งหลิงหลิง และพูดขึ้นด้วยความเคารพ
หากส้งหลิงหลิงไม่รู้ว่าเย่เชินหลินนั้นกลัวเด็กน้อยร้องไห้ เพราะเด็กน้อยนั้นมีปัญหาบางอย่างแล้ว หล่อนก็คงไม่กล้าที่จะต่อล้อต่อเถียงเช่นนี้กับเซี่ยชีหรั่น
ในเมื่อได้ลงมือทำแล้ว หล่อนก็จะทำเรื่องให้ใหญ่โตที่สุด แล้วหล่อนจะกลัวการที่เย่เชินหลินขึ้นมาได้อย่างไรกัน
หล่อนยิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้นอย่างเสียดสีว่า:“คุณดูสิ่งที่เจ้านายของคุณพูดกับฉันสิ เธอทำกับฉันยังไง คุณไม่เห็นเหรอ?คุณตาบอดหรือหูหนวก?ถึงได้กล้าเอ่ยชื่อเย่เชินหลินมาข่มขู่ฉัน แม้ว่าเย่เชินหลินจะมาแล้วจริงๆ ก็ต้องดูว่าใครถูกใครผิด?ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่อยากให้นมลูก ตอนนี้ฉันก็อยากให้ เพียงแต่ว่าฉันนั้นยอมไม่ได้”
“อุ……อุแว้……อุแว้ อุแว้……”เสียงลมหายใจของเย่เจิ้งเหิงนั้นเริ่มติดขัด ใบหน้าจิ้มลิ้มที่แดงก่ำนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว และออกคำสั่งว่า:“ชงนมผง รีบชงนมผงให้กับเด็กน้อย จากนั้นใช้ช้อนป้อน!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset