สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 811 สาวใช้ตัวแสบ 715

ตอนที่ 811 สาวใช้ตัวแสบ 715
ถึงแม้เขาจะไม่พูดอะไร แต่เซี่ยชีหรั่นก็สามารถเดาได้ว่าธุรกิจของเขาน่าจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง
เธอเกลียดตัวเองจริงๆที่ความสามารถไม่เพียงพอ ไม่สามารถแบ่งเบาภาระจากเขาได้
เมื่อทำอาหารเสร็จ เซี่ยชีหรั่นไปเรียกเย่เชินหลินที่ห้องหนังสือ พบว่าเขากำลังหลับตาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ใช้สองนิ้วถูขมับตนเอง
เห็นเขาเป็นแบบนี้ ไม่ต้องพูดว่าเซี่ยชีหรั่นรู้สึกสงสารมากเพียงไหน
เธอเดินเข้าตรงหน้า เอามือแตะหน้าผากเขาเบาๆ ช่วยนวดขมับให้เขาอย่างช้าๆ
เย่เชินหลินยังคงหลับตาเหมือนเดิม มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขารู้สึกว่ามีผู้หญิงที่เอาใจใส่ดูแลอย่างเซี่ยชีหรั่น เขาช่างโชคดีมาก ไม่ว่าจะต้องเจอกับความยากลำบากสักเพียงไหน เขาไม่สนใจ
“เหนื่อยหรอ?หลิน มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ?”
มือใหญ่ของเย่เชินหลินคว้ามืออันบอบบางของเธอไว้ จากนั้นดึงเธอนั่งลงบนตัก จ้องมองไปที่ใบหน้าเล็กๆ และพูดว่า:“แค่คุณมีความสุขทุกวัน ก็เป็นการช่วยผมแล้ว”
“คุณพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าตนเองไม่มีค่า ฉันอยากทำได้ดีอย่างหลินหลิง ฉันอยากช่วยคุณได้หลายอย่างตอนที่คุณยุ่งบ้าง”
“อันที่จริงคุณทำได้มากกว่าเธอ เพียงแค่พวกคุณอยู่ในสถานะที่ต่างกัน ผมต้องการคนรัก ไม่ใช่ผู้ช่วย เด็กโง่”เย่เชินหลินลูบไล้เส้นผมของเธอ
“ฉันเข้าใจค่ะ เพียงแต่ตอนที่คุณยุ่ง ก็ต้องการผู้ช่วยไง”
“ตัวของผมเองสามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง เข้าใจไหม?”เย่เชินหลินยื่นมือออกไปลูบคิ้วที่กำลังขมวดของเซี่ยชีหรั่น
“กินข้าวหรือยัง?”เขาถาม
“ค่ะ กินแล้ว”
หลังจากรับประทานอาหาร เย่เชินหลินต้องการกลับไปที่ห้องหนังสืออีก แต่ถูกเซี่ยชีหรั่นบังคับให้ออกไปเดินย่อยข้างนอกสักรอบ
เธอพูดว่าเพิ่งกินข้าวเสร็จ หากทำงานทันทีจะไม่ดีต่อสุขภาพ เย่เชินหลินจึงรู้ว่าความเป็นแม่บ้านของเธอนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ
หลังจากเดินย่อยกลับมา เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ขวางการทำงานของเขาต่อไป
ตัวเธอเองก็นำงานกลับมาทำที่บ้านนิดหน่อย เธอเปิดคอมพิวเตอร์บริษัทในห้องนอนของเย่เชินหลิน
ประมาณสองทุ่มกว่าโม่เสี่ยวหนงกลับถึงบ้าน เธอตรงเข้ามาหาเซี่ยชีหรั่นทันที
“เสี่ยวหนง ว่าไง? การพบครอบครัวของพวกเขาไม่ราบรื่นหรอ?”เซี่ยชีหรั่นเห็นโม่เสี่ยวหนงมีสีหน้าไม่ค่อยดี จึงรีบวางงานในมือลงทันที
“เปล่าค่ะพี่ ราบรื่นมาก พ่อแม่ของเขาชอบฉันมาก”
“งั้นทำไมถึงทำหน้าเศร้าแบบนี้ล่ะ มีอะไรเล่าให้พี่ฟังได้นะ”
โม่เสี่ยวหนงถอนหายใจออกหนึ่งครั้ง พูดว่า:“พี่ค่ะ อันที่จริงมีอยู่หนึ่งเรื่อง ฉันไม่รู้จะหาทางออกยังไง ฉันผิดเอง ฉันเห็นแก่หน้ามากเกินไป ดังนั้นจึงพูดโกหกออกไป”
“พูดมา แท้จริงเกิดอะไรขึ้น เธอพูดแบบนี้พี่ร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว”
โม่เสี่ยวหนงถอนหายใจอีกรอบ ถึงจะพูดต่อ:“คือว่า พวกเขาต่างรู้ว่าฉันคือน้องสาวของพี่ ตอนกินข้าวจึงถามฉันว่าพ่อแม่ทำงานที่ไหน ฉันจึงตอบว่าพวกเขาทำงานที่ตงเจียง สวัสดิการประจำตำแหน่งค่อนข้างดี ฉันบอกว่าพี่เขยจัดการให้ พวกเขาได้ฟังก็ตื่นเต้น แถมยังพูดอีกว่าอยากไปเยี่ยมบ้านของเราเร็วๆนี้ เลยถามฉันว่าบ้านอยู่ไหน ฉันจึงตอบว่าพี่เขยซื้อบ้านให้พ่อกับแม่ในเขตเมือง อยู่บนถนนซินหยวน”
เสียงพูดของโม่เสี่ยวหนงเบาลงเรื่อยๆ คิ้วของเซี่ยชีหรั่นก็ค่อยๆขมวดขึ้น
เธอรู้จักนิสัยของโม่เสี่ยวหนง เธอพูดแบบนี้เธอคาดไว้ล่วงหน้านานแล้ว
“พี่ พี่โมโหหรอ?ฉันรู้ว่าพี่ต้องโมโหอยู่แล้ว อันที่จริงตอนนั้นฉันไม่ทันได้คิด พวกเขาเอาแต่ถามฉันว่าพี่สาวพี่เขยดีกับฉันหรือเปล่า ฉันไม่อยากเสียเลี่ยวเหวยตงไป ฉันรู้ว่าพวกเขามองว่าฉันเป็นน้องสาวของพี่ ถึงได้ต้อนรับฉันอย่างอบอุ่น ดังนั้นในตอนนั้นฉันเลยสับสน เพื่อจะแสดงออกว่าพี่สาวและพี่เขยดีกับฉัน ฉันจึงต้องพูดโกหก พี่ค่ะ ฉันรู้ว่าการพูดโกหกเป็นสิ่งไม่ดี พวกเราควรซื่อสัตย์กับผู้อื่น แต่คนนอกจะเข้าใจสถานการณ์ของพวกเราได้อย่างไร ผู้คนต่างคิดว่าพี่เป็นผู้หญิงร่ำรวยในตงเจียง มีเงินมากมายจนนับไม่ถ้วน ถ้าบอกว่าพ่อแม่ของตนเองยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆเก่าๆในเมืองหลินเจียง ใครจะไปเชื่อล่ะ ถ้าพวกเขาว่าฉันฉันไม่อะไรหรอก แต่กลัวพวกเขาจะพูดได้ว่าพี่ดูแลพ่อแม่ไม่ดี ไม่กตัญญู ใช่ไหมล่ะ?”
ความจริงโม่เสี่ยวหนงรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นไม่มีเงิน เธอรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นคนหน้าบาง ไม่แบมือของเงินเย่เชินหลิน
ถึงแม้เย่เชินหลินยืนยันจะให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอก็ไม่รับไว้
เพียงแค่เธอมีเย่เชินหลิน และมีตระกูลหลี่ เธอต้องการเงินมากมายแค่ไหนก็ได้
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน สามารถจับเย่เชินหลินได้แน่นอนว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้ ในกรณีที่เธอล้มเหลว ถึงตอนนั้นคงยากจน ดังนั้นเธอจึงต้องการใช้ประโยชน์จากการแต่งงาน รับสิทธิประโยชน์บางอย่างก่อน
มันคงจะดีมาก หากจัดการให้พ่อแม่ของเธอทำงานในตงเจียง พวกเขาจะมีรายได้ อนาคตก็จะเป็นของเธอ
เซี่ยชีหรั่นจะไม่เข้าใจคำพูดของโม่เสี่ยวหนงได้อย่างไร นึกถึงชีวิตที่หรูหราของเธอกับเย่เชินหลินในทุกวันนี้ แถมยังได้อาศัยในคฤหาสน์อย่างดี ส่วนพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงของเธอยังมีชีวิตความเป็นอยู่ไม่ดีเท่าที่ควร เธอจะไม่รู้สึกละอายใจได้อย่างไร
ครั้งก่อนพวกเขาพูดว่าจะเลิกกัน เย่เชินหลินโอนทรัพย์สินครึ่งหนึ่งเป็นชื่อของเธอ แต่เธอไม่ต้องการ
เงินและอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้น แถมยังโอนเป็นชื่อเธอ เธอรู้ว่าเย่เชินหลินให้แล้วให้เลย เพียงแต่เธอกับเขายังไม่ได้แต่งงานกัน เธอไม่ต้องการของจากเขา แม้จะแต่งงานแล้ว เธอก็ละอายใจ เธอไม่ได้ต่อสู้ดิ้นรนกับเขา มีสิทธิ์อะไรไปแบ่งสิ่งที่เขาต้องต่อสู้มาอย่างสุดชีวิต
ครั้งนี้โม่เสี่ยวหนงทำให้เธอมีปัญหา ถึงแม้จะเป็นปัญหาเรื่องบ้าน เธอสามารถคิดหาวิธีแก้ไขได้ ส่วนปัญหาเรื่องงานของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงค่อนข้างจัดการยากจริงๆ
“พี่ ทำไมพี่ไม่พูดอะไรเลย โมโหหรอ?ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว ฉันจะบอกเหวยตง ให้เขาบอกพ่อแม่ว่าฉันพูดโกหก ฉันไม่อยากทำให้พี่ลำบากใจ พี่”
โม่เสี่ยวหนงพูด จากนั้นจึงเปิดกระเป๋า หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ทำท่าทางโทรหาเลี่ยวเหวยตง
เซี่ยชีหรั่นจนปัญญา ในใจก็รู้ว่าเธอเพียงเสแสร้งแค่นั้น แต่ถึงอย่างไรเธอก็คือน้องสาวที่รัก แม้จะเอาแต่ใจ เธอก็ไม่อาจอยู่เฉยกับเรื่องของเธอ
นอกจากนี้บางอย่างที่โม่เสี่ยวหนงพูดก็ถูก อันที่จริงพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงของเธอก็นับว่าเป็นพ่อตาแม่ยายของเย่เชินหลิน ถ้ามีคนรู้ว่าพ่อตาแม่ยายของเขาอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ไม่ดีแบบนั้น ดูเหมือนจะทำให้เย่เชินหลินเสียหน้า
เซี่ยชีหรั่นจะไม่รู้ได้อย่างไร สมมุติว่าครั้งที่แล้วแม่เลี้ยงไม่ทำเรื่อง เย่เชินหลินก็คงจะคิดถึงจุดนี้ได้นานแล้ว คงจะทำอะไรเพื่อตระกูลโม่มากมาย
“เสี่ยวหนง พี่จะคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องบ้านนะ ส่วนเรื่องงาน พี่ไม่กล้ารับปาก แต่จะทำอย่างเต็มที่ พ่อกับแม่ดูแลพี่มาหลายปี พี่ก็ควรจะช่วยเหลือพวกเขาเรื่องบ้าน เพียงแต่ เธอห้ามพูดเรื่องนี้กับพี่เขย พี่จะหาคนอื่นช่วยคิดหาวิธี”
โม่เสี่ยวหนงไม่สนใจว่าเธอจะไปคิดหาวิธีที่ไหน อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นการกู้ยืมเงิน ก็มีคนจ่ายคืนแทนเธอ เธอโม่เสี่ยวหนงขอแค่ได้อยู่บ้านดีๆ รอพ่อแม่หาเงินมาให้เธอนั่งนับก็พอ
“พี่ ฉันรู้ว่าพี่ดีกับฉันมาก และพี่ก็ดีกับพ่อแม่เหมือนกัน พี่เป็นคนกตัญญู”
โม่เสี่ยวหนงดีใจมาก เซี่ยชีหรั่นกลับทำได้เพียงยิ้มอย่างกลุ้มใจ
เธอจะไปยืมเงินจากใคร?ถ้ายืมเงินจากคนอื่น หากเย่เชินหลินจับได้ เขาจะโกรธหรือเปล่านะ?
เย่เชินหลินเป็นคนมีอีโก้มาก ยิ่งเป็นคนที่มีความคิดว่าชายเป็นใหญ่ หากถูกเขาจับได้ว่าเธอขอความช่วยเหลือจากชายอื่น จะต้องโมโหแน่นอน
ดังนั้นเธอเกรงว่าหากจะหาใครช่วย คงจะต้องเป็นผู้หญิง ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้ชายได้
ในขณะที่เซี่ยชีหรั่นยังคงคิดในใจว่าจะหาใครมาช่วยดี โม่เสี่ยวหนงก็พูดขึ้นอีกว่า:“พี่ และฉันจะบอกพี่อีกอย่าง ที่ตั้งของบ้านต้องไม่แย่ และบ้านต้องไม่เล็กเกินไปนะ”
“อืม พี่เข้าใจแล้ว”
ตอนนี้ราคาบ้านในตงเจียงแพงมาก ถ้าเอาตามความต้องการของโม่เสี่ยวหนง ซื้อห้องชุดสามห้องนอนและสองห้องโถงใจกลางเมือง หากต้องการจ่ายเงินเต็มจำนวน คงไม่ต้องพูดถึงสองล้าน
พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงก็อายุเยอะแล้ว ในเมื่อเธอต้องการให้เกียรติพวกเขา แน่นอนว่าไม่อาจให้พวกเขาจำนองซื้อบ้าน ปล่อยให้พวกเขาแบกรับเรื่องการจำนอง
ตอนนี้เงินเดือนของเซี่ยชีหรั่นไม่ได้เยอะ แค่เพียงไม่กี่พันหยวน หากกู้สองล้าน สำหรับคนอย่างเย่เชินหลิน คงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน แต่ถ้าเธอชำระคืนเอง คงไม่สามารถชำระได้หมดภายในปีสองปี
ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับเธอต้องหายืมคนที่ไม่รีบร้อนใช้เงิน
“พี่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันกลับห้องก่อนนะ พี่จะขึ้นไปหาเด็กที่ชั้นบนไหม?ถ้าพี่อยากไป ฉันจะไปกับพี่ ไม่ได้เห็นหน้าเด็กน้อยของบ้านทั้งวัน ฉันรู้สึกแปลกๆ”
“เดี๋ยวพี่จะไปกับเย่เชินหลิน ถ้าเธออยากไปดูเด็ก ก็ขึ้นไปคนเดียวได้เลย”การที่โม่เสี่ยวหนงต้องการไปหาส้งหลิงหลิง เซี่ยชีหรั่นไม่รู้สึกสงสัยเลยสักนิด
โม่เสี่ยวหนงพยักหน้า พูดว่า:“โอเค ฉันรู้ว่าพี่ต้องคิดเรื่องบ้าน เหนื่อยแย่เลย ถึงอย่างไรคนรอบข้างพี่ต่างมีเงิน บ้านหลังเดียวเรื่องเล็กน้อย ฉันรู้ว่าไม่กี่นาทีพี่ก็จัดการได้แล้ว”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างลำบากใจอีกครั้ง พยักหน้า
“ฉันไปล่ะ”
โม่เสี่ยวหนงปิดประตูจากไป ในสมองของเซี่ยชีหรั่นยังคงนึกถึงคนที่รู้จักทุกคน
เธอเป็นคนไม่ชอบขอความช่วยเหลือจากใคร ปัญหาในวันนี้ ทำให้เธอคิดไม่ออก
โม่เสี่ยวหนงขึ้นไปชั้นบน เคาะประตูห้องส้งหลิงหลิง เมื่อได้ยินส้งหลิงหลิงพูดว่าเข้ามาได้ เธอจึงเดินเข้าไปและพบว่าเธอกำลังอุ้มลูกเล่นหยอกล้ออยู่
“ฉันมาหาเด็ก”โม่เสี่ยวหนงพูด ส้งหลิงหลิงเห็นเธอมาคนเดียว รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันใด
ในห้องอาจมีเครื่องดักฟัง แต่ไหนแต่ไรเธอไม่กล้าพูดส่งเดชในห้องนี้
“เหิงเหิงต้องนอนแล้ว ถ้าอยากเจอเด็ก ดึกกว่านี้ค่อยมากับพี่สาวของเธออีกครั้ง”ส้งหลิงหลิงพูดเสียงเบา
โม่เสี่ยวหนงแปลกใจนิดหน่อย คิดในใจว่าทำไมเธอถึงมีท่าทางต่อเธอเช่นนี้?
เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ ส้งหลิงหลิงกลัวจริงๆ ตอนนี้ไม่กล้าจัดการกับเซี่ยชีหรั่น ต้องการล้มเลิกแผนครั้งก่อน?
ถ้าเธอไม่ช่วยแล้ว เพียงเธอตัวคนเดียวจะสามารถจับเย่เชินหลินได้อย่างไร ดูแล้วคงไม่มีทาง
ไม่ได้การแล้ว เธอไม่อาจปล่อยให้ส้งหลิงหลิงกลับคำพูด เธอต้องจุดไฟในใจของเธอ
โม่เสี่ยวหนงคิดว่าฝีปากของเธอก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ดังนั้นเธอต้องพูดโน้มน้าวใจส้งหลิงหลิงถึงจะถูก
เธอก้าวขึ้นมาตรงหน้า ส้งหลิงหลิงส่ายหน้าเบาๆ แต่โม่เสี่ยวหนงไม่ได้สังเกต ส้งหลิงหลิงไม่กล้าแสดงท่าทางมาก กลัวตอนที่เย่เชินหลินดูกล้องวงจรปิดจะมองเห็นท่าทางแปลกๆของเธอ กำลังป้องกันเธอ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset