สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 823 สาวใช้ตัวแสบ 727

ตอนที่ 823 สาวใช้ตัวแสบ 727
เหล่าเด็กรุ่นหลังของทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้รับเชิญ เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินก็ไป
จงหวีฉวนเฝ้ารอวันนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เยว่มู่หลานหวังว่าลูกสาวจะได้แต่งงานกับชายที่ปรารถนา เพียงแค่เรื่องวุ่นวายของหลี่เหอไท้และเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยยังไม่เรียบร้อย
ถึงตอนนี้ก็ยังมีรายการบันเทิงบางช่องยังคงเล่นข่าวของพวกเขา นี่ทำให้เยว่มู่หลานเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกสาวอยู่ตลอด
หลี่หมิงจุ้นไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของพวกเขา เหตุผลเดียวก็คือจงหวีฉวน เมื่อ2ครอบครัวเจอหน้ากัน จงหวีฉวนยิ้มต้อนรับ
ตระกูลหลี่ในฐานะฝั่งชาย ก็ไม่นิ่งเฉยแถมยังกระตือรือร้นเช่นกัน
หลี่หมิงจุ้นและจงหวีฉวนหลังจับมือกันแล้ว เยว่มู่หลานก็จับมือทักทายเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นมารยาท จงหวีฉวนกับจ้าวเหวินอิงก็จับมือกัน
ตลอดชีวิตนี้เธอไม่อยากเจอผู้ชายคนนี้ แต่เพื่อการแต่งงานของหลี่เหอไท้ จ้าวเหวินอิงก็ยินดีวางอารมณ์ที่ไม่ดีของเธอไว้อีกด้านหนึ่ง และยอมจับมืออย่างสุภาพโดยไม่ถืออะไร
เยว่มู่หลานไม่ละสายตาตอนที่ทั้งสองคนจับมือกัน กระทั่งถึงตอนที่เธอและจ้าวเหวินอิงทักทายกัน ท่าทีขอเธอก็ดูเย็นชา
จ้าวเหวินอิงถือผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ความเย็นชาของเยว่มู่หลานก็เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งรอยยิ้มเท่านั้น
หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว จึงเสิร์ฟชาและของว่างก่อน หลี่หมิงจุ้นเป็นผู้ใหญ่ของฝ่ายชายแสดงการต้อนรับตระกูลจงทุกท่าน
“หยุนซางสูงส่งและใจกว้าง เหอไท้พูดกับฉันว่าเขาหลงรักหยุนซางมาก ดังนั้นวันนี้พวกเราตระกูลหลี่ถือโอกาสเจรจาการแต่งงานอย่างเป็นทางการกับภรรยาประธานจง หวังว่าสองครอบครัวจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันอย่างมีความสุข”
จงหวีฉวนได้ยินประโยคนี้ไม่เพียงแค่เห็นที่พักพิงของลูกสาว เขาเหมือนเห็นรางวัลรางวัลสำคัญตกอยู่ในมือเขาแล้ว
หลี่หมิงจุ้นแสดงความคิดเห็นเสร็จ พูดตามเหตุผลแล้วเขาเป็นตัวแทนการแสดงท่าทีของฝ่ายหญิง ตอนที่เขากำลังจะพูด จงหยุนซางกลับยิ้มอย่างอบอุ่นและพูดว่า : “พ่อ ฉันอยากจะพูดสักหน่อย”
จงหวีฉวนตกใจเล็กน้อย คิดถึงหลายวันก่อนที่เขาสองพ่อลูกมีปากเสียงกัน เขาอดกังวลไม่ได้ว่าจงหยุนซางจะสร้างความวุ่นวายอะไรขึ้นมา
แต่ตอนนี้ทุกคนมองไปที่เธอ ยากที่เขาจะขัดขวางไม่ให้เธอพูด
“หยุนซาง…” เขาเรียกชื่อจงหยุนซาง
“พ่อ ฉันอยากจะบอกว่า ฉันคิดวิเคราะห์มาช่วงเวลาหนึ่ง ฉันและเหอไท้ใกล้ชิดกันในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อเร็วๆ นี้เขาไปที่ฝานหลาย และมีข่าวบางอย่าง…แน่นอน ฉันเชื่อเขา เพราะเรื่องเหล่านี้ฉันได้รับผลกระทบทางจิตใจเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่อยากคุยเรื่องการแต่งงานเร็วขนาดนี้ จริงๆ แล้วฉันควรทักทายกับคุณลุงหลี่คุณป้าหลี่ก่อน และควรจะปรึกษากับพ่อแม่ให้ดีก่อน ฉันไม่มั่นใจมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่ายไม่สบายใจ เลยปล่อยมาจนถึงตอนนี้จึงจะพูดออก ขออภัยอย่างยิ่ง”
คำพูดทั้งหมดของจงหยุนซางอยู่ในหลักเหตุผล ผู้ใหญ่ของตระกูลหลี่ไม่มีคำถามอะไรต่อเธอ แต่หลี่เหอไท้ยังคงแปลกใจ
พวกเขาคุยกันแล้ว หรือว่าทั้งหมดคือการเสแสร้ง แท้จริงแล้วจงหยุนซางไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธการแต่งงานต่อหน้าคนมากมาย
ที่บอกว่าพิจารณามาระยะเวลาหนึ่ง เป็นแค่วิธีการพูดที่ละมุนละไมเท่านั้น
“หยุนซาง เป็นคนทำไมพูดกลับไปกลับมา เธอตกลงกับเหอไท้ไปแล้ว จึงทำให้เกิดการพบกันวันนี้ พวกเราทุกคนเชื่อเหอไท้ ข่าวพวกนั้นมีแต่เรื่องหลอกลวงประชาชน พวกเราจะปล่อยให้ข่าวมามีผลกระทบได้ยังไง”
“พ่อ ขอโทษ อาจจะเพราะสภาพจิตใจฉันไม่ดีพอ ดังนั้นฉันต้องขออภัยพ่อ แม่ของฉัน และคุณลุงหลี่คุณป้าหลี่รวมถึงทุกคนในที่นี้ด้วย” จงหยุนซางยืนขึ้น หลี่เหอไท้ที่นั่งอยู่ข้างเธอก็ลุกขึ้นและจับที่ไหล่ของจงหยุนซางและพูดอย่างอบอุ่นว่า : “หยุนซางนั่งลง เดิมทีเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ ข่าวของผมกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยแพร่กระจายไปทั่ว ทำให้คุณเจ็บปวดเป็นความผิดของผมเอง”
“ขออภัยทุกท่าน เพราะพฤติกรรมเจ้าชู้ของผมทำให้หยุนซางเจ็บปวด ถ้าทุกคนอยากจะประณามก็ประณามผม คุณลุงจงคุณป้าจง ขออภัยอย่างยิ่งที่ทำให้พวกคุณผิดหวัง” หลี่เหอไท้พูดจบ จึงโค้งคำนับให้จงหวีฉวนและเยว่มู่หลาน
เขายังโค้งคำนับให้หลี่หมิงจุ้นและจ้าวเหวินอิง การพูดคุยเรื่องการแต่งงานครั้งนี้จบลงด้วยความล้มเหลว จงหวีฉวนจะสบายใจได้ยังไง
“เหอไท้ นั่งลง วัยรุ่นก็ต้องมีเจ้าชู้บ้าง อย่าไปพูดถึงเรื่องฟังไม่ศัพท์จับมากระเดียดพวกนี้เลย ถึงเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นก่อนการหมั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่หนักหนาอะไรขนาดนั้น หยุนซาง ไปคุยกันกับพ่อหน่อย เชิญทุกท่านนั่งคุยกันไปก่อน”
พูดจบจงหวีฉวนลุกขึ้นยืน ขัดตรงหน้าทุกคน จงหยุนซางไม่อยากให้พ่ออับอาย ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นและเดินตามจงหวีฉวนออกจากห้องอาหารไป
ด้านข้างมีห้องรับรองเล็กอยู่ สองพ่อลูกเดินตามกันไป ประตูปิดลง จงหวีฉวนลดสีหน้าลง
เพียงพริบตาเดียว เขาคิดว่าตอนนี้ต้องขอร้องลูกสาว จึงถอนหายใจออกมาอีกครั้งและเกลี้ยกล่อมเธอ : “หยุนซาง ความหวังของพ่อลูกรู้ดี ลูกไม่อยากอยู่กับผู้ชายเจ้าชู้พ่อเข้าใจ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธเด็ดขาดแบบนี้ แค่หมั้นไปก่อน ปล่อยเวลาผ่านไปสักพัก ถ้าไม่อยากแต่งก็ค่อยหาเหตุผลมาขอหย่า แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่รึไง?”
“พ่อ พ่อรู้จักฉัน ถ้าจะใช้ประโยชน์จากตระกูลหลี่แบบนี้ฉันทำไม่ได้” จงหยุนซางสีหน้าจริงจัง น้ำเสียงหนักแน่นอย่างไม่มีทางเจรจาได้
จงหวีฉวนกดเสียงต่ำ และพูดอีกว่า : “นี้ถือว่าใช้ประโยชน์อะไร เป็นเพราะลูกของตระกูลหลี่ทำเรื่องที่ไม่สามารถให้อภัยกับลูก…”
“พ่อ อย่าเกลี้ยกล่อมฉันอีกเลย ฉันตัดสินใจไปแล้วและจะไม่เปลี่ยนใจด้วย”
“ตกลงเธอต้องการอะไร หรือว่ายังลืมคุณเย่ไม่ได้ จริงๆแล้วความสัมพันธ์กับหลี่เหอไท้ก็เป็นเรื่องหลอกลวงอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?” จงหวีฉวนสีหน้าเคร่งขรึมและขมวดคิ้วถาม
ที่จงหยุนซางไปหาหลี่เหอไท้บอกให้เขาแกล้งทำเป็นคบกับเธอ ไม่ใช่เพราะเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่น
ถ้าตอนนี้พ่อยังเข้าใจว่าเธอยังคงชอบเย่เชินหลินอยู่ มีความเป็นได้มากที่พ่อจะเปลี่ยนความสนใจเป็นคนกลางจับเธอกับเย่เชินหลินให้อยู่ด้วยกัน
จงหยุนซางส่ายหน้าและพูดว่า : “พ่อ ดูเหมือนตอนนี้จะคิดมากไปหน่อย จนมองไม่เห็นความเจ็บปวดใจของฉันที่มีต่อหลี่เหอไท้ คิดว่านิสัยของพวกเราจะหลอกคบกันไปรึไง? ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีเรื่องแบบนี้ออกมา ฉัน…ฉันไม่อยากพูดแล้ว คุณจะคิดยังไงก็แล้วแต่”
“พูดแบบนี้แสดงว่าเธอเปลี่ยนใจรักคนอื่นแล้ว? แล้วทำไมถึงปล่อยหลี่เหอไท้? ฉันบอกแล้วไง ผู้ชายเจ้าชู้เป็นเรื่องปกติ เธออยู่ด้วยกับใครถึงจะรับรองได้ว่าเขาจะไม่เจ้าชู้?”
“ฉันยอมตาย ดีกว่าอยู่อย่างเสียศักดิ์ศรี คุณไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่เปลี่ยนใจ พวกเรากลับไปเถอะ มื้อค่ำครั้งนี้ควรถึงเวลาแยกย้ายได้แล้ว”
พูดถึงตรงนี้ ในใจของจงหยุนซางกลับเศร้า เธอคิดว่าเธอแค่ต้องการหลอกพ่อเท่านั้น แค่ แยกย้าย สองคำนี้กลับทำให้เธอรู้สึกอึดอัด
ตรงหน้าดูเหมือนจะมีแต่รูปที่หลี่เหอไท้สนิทสนมใกล้ชิด กอดจูบ จับมือกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย เธอไม่รู้ว่าเธอจะไปดูรูปของพวกเขาทำไม หลังจากดูไปแล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงลืมไม่ลง
เธอรักเย่เชินหลินมาหลายปี เธอคิดว่าตลอดชีวิตนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนใจได้ กลับไม่รู้เลยว่าช่วงระยะเวลาสั้นๆ ความอ่อนโยนและการเอาใจใส่ของหลี่เหอไท้กลับปลูกความรักขึ้นมาในใจเธอ
ถ้าเธอรู้ตัวเร็วกว่านี้ เธออาจจะไม่มีทางปล่อยให้หลี่เหอไท้ไปเจอกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย
เธอคิดอย่างเศร้าใจ ถึงเธอจะรู้ตัวแล้วยังไง เธอมีสิทธิ์อะไรไปขัดขวางเขาล่ะ?
“หยุนซาง” จงหวีฉวนเพิ่งจะเรียกชื่อของจงหยุนซาง มีคนเคาะประตู เขาจึงทำเพียงแค่กลืนสิ่งที่จะพูดลงคอไป และตอบไปว่าเข้ามา
ประตูเปิดออก หลี่เหอไท้ยืนหล่อเหลาตรงหน้าประตู และพูดกับจงหวีฉวนว่า : “คุณลุงจงคงกำลังเกลี้ยกล่อมหยุนซางใช่ไหม ผมขอลองหน่อยเถอะ”
จงหวีฉวนช่วยไม่ได้จริง ใครเป็นคนก่อคนนั้นต้องเป็นคนแก้ ในเมื่อทั้ง2คนมาถึงขั้นตอนการพูดคุยเรื่องการแต่งงานกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวง ก็มีเพียงแค่พวกเขา2คนเท่านั้นที่จะแสดงตอนต่อไป
“หวังว่าพวกเธอจะคิดอย่างรอบคอบ คนหนุ่มสาวอย่าตัดสินใจหุนหันพลันแล่นเกินไป บางเรื่องถ้าพลาดไปแล้ว ก็อาจจะไม่มีโอกาสอีก” จงหวีฉวนพูดอย่างมีนัยลึกซึ้งและปิดประตูเดินออกไป
เขาเดินไปได้สองก้าว แต่ก็ยังรู้สึกไม่วางใจ จึงหันสำรวจรอบด้านว่าไม่มีใครสังเกตเห็น จึงแอบเดินย่องเข้าที่ด้านข้างประตู
ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังเป็นประธานคณะกรรมเมือง พูดตามความเหมาะสมแล้วการแอบฟังตามกำแพงแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ทำแน่นอน อย่างไรก็ตามการแข่งขันระหว่างเขากับเย่เฮ่าหรันถึงขั้นสถานการณ์ตึงเครียดที่สุดแล้ว เขาจึงไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้
จงหยุนซางและหลี่เหอไท้ต่างเงียบกันอยู่นาน ไม่นานหลี่เหอไท้เริ่มพูดอย่างนุ่มนวล
“หยุนซาง ทำไมถึงเปลี่ยนความตั้งใจกะทันหัน? พวกเราคุยกันแล้วไม่ใช่รึไง? เธอถือสาเรื่องของฉันกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยจริงไหม?”
พวกเขาไม่ได้คุยกันใกล้ๆ อย่างนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว หัวใจของจงหยุนซางเต้นเบาๆ แต่กลับเป็นการเต้นที่เจ็บปวด
เธอหวังไว้มากว่าจะเป็นแฟนกันจริง อย่างน้อยเธอก็จะมีจุดยืนที่จะประณามเขาว่าเขาทอดทิ้งเธอ
ตอนนี้ ต่อให้เธอไม่สบายใจมาแค่ไหนเธอก็ต้องกลืนลงไป ที่เธอตัดสินใจทำแบบนี้ไม่แค่เรื่องของเขาและเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเท่านั้น
จริงๆ แล้วเธอคำนึงถึงเขามากกว่า เธอรู้ว่าเขาคือผู้ชายที่มีท่าทีงดงาม พวกเขาหมั้นกัน และหย่ากันภายหลัง เขาต้องเสียชื่อเสียงในภายหลังแน่นอน
คนที่ใจเขาชอบคือเซี่ยชีหรั่น เธอดูออก ระหว่างเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินเพราะส้งหลิงหลิงมีลูก ความรักของพวกเรายังไม่รู้ว่าจะไปรอดไหม ดังนั้นหลี่เหอไท้ก็ถือว่ายังมีโอกาส
เธอไม่คาดหวังว่าวันหนึ่งที่หลี่เหอไท้แต่งงานกับพี่สาวและจะไม่มีทางไปจีบน้องสาวได้อีก ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะหยุดไว้เพียงเท่านี้
“ถือสา น่าจะมีนิดหน่อย ไม่ว่าจะพูดยังไงพวกเราเป็นแฟนกันเพียงแค่ในนามเท่านั้น” จงหยุนซางตรงไปตรงมา หลี่เหอไท้พูดอย่างเคร่งขรึม : “ขอโทษ ขอโทษจริงๆ ที่เป็นภาระให้คุณมากขนาดนี้”
“ไม่ เหอไท้ ที่ฉันยอมปล่อยไม่ใช่เพราะคุณกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย แต่เพราะชีหรั่น คุณเสียสละโดยไม่เห็นแก่ตัวเพื่อเธอ ยอมบังคับตัวเองไปกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย… ฉันคิดว่าคุณชอบเธอขนาดนี้ คุณควรไปแย่งชิงหรือรอเธอ”
หลี่เหอไท้ยิ้มออกมาอย่างสับสน อารมณ์ทั้งหมดรวมกับรอยยิ้มนั้น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset