สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 827 สาวใช้ตัวแสบ 731

ตอนที่ 827 สาวใช้ตัวแสบ 731
ปากที่คมเหมือนมีดของโม่เสี่ยวหนงคุณนางเลี่ยวจะทนได้ยังไง
เธอมีสีหน้าแดงก่ำ โกรธจนพูดไม่ออก ทำได้แค่ยกนิ้วขึ้นชี้โม่เสี่ยวหนง
“ชี้อะไร? คุณคิดว่าคุณมีอะไรรึไง? ฮึ ไม่ใช่เพื่อประจบพี่สาวกับสามีพี่สาวฉันรึไงถึงได้แต่งงานกับฉัน อย่านึกว่าฉันไม่รู้ เลี่ยวเหวยตงรู้สึกเสียใจภายหลังอย่างชัดเจน เฮ้อ กลัวสามีพี่สาวฉันล่ะสิ เสียใจแต่ก็ต้องทนแต่งกับฉันสิน่ะ? ฉันจะบอกพวกคุณให้น่ะ! อย่าคิดว่าจะรังแกคนอย่างโม่เสี่ยวหนงได้ง่ายๆ กินซุปหนึ่งถ้วยก็ให้เกียรติพวกคุณแล้ว ถ้าเป็นบ้านอื่น เอาเสลี่ยงมาเชิญจะเลี้ยงฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเห็นแก่หน้าเขา”
โม่เสี่ยวหนงมีท่าทีที่เย่อหยิ่งเกินไป จนทำให้คุณนางเลี่ยวโกรธจนแทบหายใจไม่ออก
เธอไม่ชี้ไปที่โม่เสี่ยวหนงอีก กลับกัดฟันแน่นและชี้ไปที่ลูกชาย
“เหวยตง,เหวยตง ถ้าแก…ถ้าแกยังเห็นฉันเป็นแม่ ก็ไล่เด็กที่ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนนี่ออกไปเดี๋ยวนี้!”
โม่เสี่ยวหนงยิ้มเย็นชาและถามอย่างเยาะเย้ยว่า : “คุณคิดว่าลูกชายคุณจะกล้าขนาดไหนกันเชียว? ฉันเป็นน้องสาวภรรยาของใคร เป็นน้องสาวใคร ตระกูลบ้านๆ อย่างตระกูลเลี่ยว กล้าทำผิดต่อฉัน สงสัยจะไม่อยากอยู่ในตงเจียงต่อแล้วสิน่ะ”
“แก!” คุณนางเลี่ยวโกรธจนตัวสั่นหนักมากยิ่งขึ้น
“แกออกไปจากบ้านฉัน ต่อให้พวกฉันจะอยู่ในตงเจียงต่อไปไม่ได้ ก็ไม่มีทางยอมรับผู้หญิงอย่างแก เหวยตง แกรีบพาเธอออกไปตอนนี้เลย!”
เลี่ยวเหวยตงขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก สีหน้าสับสนไปมา
สุดท้ายแล้ว เขาประคองไหล่ของแม่ไว้และพูดเกลี้ยกล่อมอย่างเบาๆ ว่า : “แม่รีบนั่งลงก่อน อย่าโกรธไปเลย ความจริงแล้วเสี่ยวหนงก็ไม่ได้ตั้งใจ เธอเป็นคนตรงไปตรงมาบวกกับเป็นคนมั่นใจหน่อยๆ แม่อย่าโกรธไปเลย เดี๋ยวฉันกลับคุยกับเธอให้ดีเอง”
โม่เสี่ยวหนงตะคอกและพูดอย่างภูมิใจว่า : “เห็นรึยัง? ลูกชายยังรู้จักวางตัวได้ดีกว่าคุณอีก เป็นคนนะต้องรู้จักดูสถานการณ์ เขาไม่ได้บอกไว้ว่ารู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีรึไง? รู้ว่าตัวเองรับผิดไม่ไหวก็อย่าหาเรื่อง ฉันยังให้ความเคารพผู้ใหญ่อย่างพวกคุณทุกวัน อย่าทำเป็นไร้ยางอายไปหน่อยเลย!”
“พอแล้วเสี่ยวหนง อย่าพูดแบบนี้กับแม่ฉันอีก กลับไปที่ห้องได้แล้ว!” เลี่ยวเหวยตงมองสีหน้าที่ดูไม่ได้ของแม่ตัวเอง สุขภาพของแม่ไม่ค่อยดี เขาเกรงว่าแม่จะโกรธจนเกิดโรคร้ายแรง ดังนั้นจึงพูดแบบนั้นกับเสี่ยวหนงให้แม่เห็น
ครั้งนี้เสี่ยวหนงถูกระงับไฟที่กำลังโกรธลง เธอจ้องมองไปที่เลี่ยวเหวยตงและตะโกนว่า : “คุณจะกล้าเกินไปแล้ว คุณกล้าด่าฉัน ฉันจะทำให้คุณรับผิดชอบไม่ไหว”
พูดจบ เธอรีบวิ่งไปคว้ากระเป๋าในห้องอาหารและออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวหนงอย่าไป คุณอย่าไปน่ะ” เลี่ยวเหวยตงรีบตามา แต่กลับได้ยินเสียงแม่เรียกอยู่ด้านหลัง : “โอ๊ย ฉันโกรธจะเป็นจะตายอยู่แล้ว”
เขาหันกลับมองหน้าแม่ซีดเผือด ตาเหลือกขึ้นบน มือเป็นตะคริวแน่นจนกางออกไม่ได้
ครั้งนี้เลี่ยวเหวยตงไม่สามารถตามเสี่ยวหนงไปได้ เขารีบดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากดโทรหารถพยาบาล ขณะนั้นเองเลี่ยวซึ่งลี่ที่นั่งฟังอยู่ในห้องก็รีบออกมา

โม่เสี่ยวหนงที่กำลังโกรธขับรถสปอร์ตคันใหม่ของเธอไปที่คฤหาสน์ของเย่เชินหลินด้วยความโกรธ รถของเธอและรถของเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นมาถึงคฤหาสน์ไล่เลี่ยกัน
“เสี่ยวหนง? ” เซี่ยชีหรั่นเห็นรถของเสี่ยวหนงจึงรีบเปิดประตูลงมา
เสี่ยวหนงเองก็ลงจากรถ โยนกุญแจให้กับรปภ.คนหนึ่งและสั่งว่า : “ขับรถไปจอดที่โรงจอดรถด้วย”
เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ด้านหน้า รปภ.ไม่กล้าขัดคำสั่ง แต่ก็ไม่พอใจกับการออกคำสั่งด้วยท่าทีโกรธโมโหของโม่เสี่ยวหนง
“มาได้ยังไง? เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยชีหรั่นมองเธอที่กำลังโกรธ แต่เธอไม่มีเวลามาสนใจรายละเอียดอะไรมากมาย จึงรีบเดินไปตรงหน้าเธอและมองอย่างพิจารณา
“พี่ เลี่ยวเหวยตงรังแกฉัน! พวกเขาทั้งครอบครัวรังแกฉัน!” โม่เสี่ยวหนงพูดพลางร้องไห้พลาง
รปภ.เปิดประตูรถให้เย่เชินหลิน หลังจากเขาลงจากรถ ก็มองโม่เสี่ยวหนงด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
ในเมื่อตระกูลเลี่ยวยอมรับการกดดันของเขาแต่งงานกับโม่เสี่ยวหนง ตามความจริงแล้วต้องไม่กล้ารังแกเธอ ต่อให้โม่เสี่ยวหนงร้องไห้ยังไง เขาก็ไม่มีทางหลงเชื่อเธอ
เซี่ยชีหรั่นก็เข้าใจนิสัยของโม่เสี่ยวหนง เธอไม่รังแกคนอื่นก็ต้องขอบคุณฟ้าดินมากแล้ว ใครจะไปกล้ารังแกเธอ เธอไม่ใช่คนที่จะอดทนยอมกลืนกินอารมณ์โกรธของตัวเองเลย?
ถึงแม้จะรู้ความเป็นมา แต่เซี่ยชีหรั่นก็ยังห่วงใยโม่เสี่ยวหนง เธอยื่นมือไปช่วยเช็ดน้ำตาให้โม่เสี่ยวหนง และพูดอย่างอบอุ่นว่า “โอเค มีอะไรเข้าไปคุยกับพี่ด้านในน่ะ”
“พี่ พี่เขย พวกคุณไม่เชื่อว่าคนตระกูลเลี่ยวจะกล้ารังแกฉันใช่ไหม?” โม่เสี่ยวหนงน้ำตาคลอ มองเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างอบอุ่นและพูดว่า “เด็กโง่ อย่าเพิ่งพูดเรื่องรังแกไม่รังแกเลย พวกเข้าไปด้านกันเถอะ เธอเล่าให้ฉันฟังว่าความจริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น ดีไหม?”
“พี่ ฉันจะคุยตรงนี้ ฉันโกรธมาก ไม่อยากรอให้กลับถึงห้องแล้วค่อยพูด!” โม่เสี่ยวหนงดูเอาแต่ใจ เซี่ยชีหรั่นไม่รู้จะทำยังไง จึงพูดเพียงว่า : “ก็ได้ ถ้าทนไม่ไหว ก็คุยตรงนี้แล้วกัน ฉันรอฟังอยู่”
เย่เชินหลินไม่อยากได้ยินคำพูดเรื่องมโนพวกนี้ เขาเม้นปากและหันหลังเดินขึ้นบันไดไป
“พี่เขย อย่าเพิ่งไป ได้ไหม?” โม่เสี่ยวหนงพูดอย่างน่าสงสาร แต่เพื่อเซี่ยชีหรั่นเขาหยุดเดินและหันกลับมาพูดอย่างนิ่งเฉยว่า : “แค่เรื่องทะเลาะกันเล็กน้อยระหว่างคนเป็นแฟนกัน เรื่องแบบ เล่าให้พี่สาวเธอฟังก็พอแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยว”
“พี่เขย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แบบนั้น ฉันพูดกับพวกเขาไปแล้วว่า อยากจะรังแกฉันก็ต้องด้วยว่าสามีพี่สาวฉันเป็นใคร คุณรู้ไหมว่าแม่เขายังไง? แม่เขาบอกไม่สนใจหรอกว่าสามีพี่สาวจะเป็นใคร จะเป็นใครก็แล้วแต่ไม่สามารถมาบังคับให้ผู้หญิงแบบนี้เข้ามาอยู่ในครอบครัวตระกูลเลี่ยวได้ ฉันเถียงไปไม่กี่คำ เพราะความรักของฉันกับเลี่ยวเหวยตง พวกเราถึงได้อยู่ด้วยกัน พี่เขยฉันไม่เคยบังคับใคร แม่เขายังพูดอีกว่า เย่เชินหลินก็แค่อาศัยบารมีของบรรพบุรุษ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ไปทั่ว ตอนนั้นฉันโกรธมาก เลยพูดว่าแม่เขาไม่กี่ประโยค สรุปแม่เขาก็สั่งให้เลี่ยวเหวยตงไล่ฉันออกมา ยังไล่ให้ไสหัวไปให้พ้น พี่ พี่เขย ฉันโกรธจะเป็นจะตายทั้งโกรธทั้งปวดใจ พวกพี่ดูสิ เลี่ยวเหวยตงเพิ่งจะบอกรักฉันได้ไม่นานไม่ใช่รึไง? พริบตากลับกลายเป็นคนล่ะคน แค่เพราะฉันกินซุปมากไปหน่อย ฉันกินมากก็หาว่าฉันไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ฉัน…ฉันจะยกเลิกงานหมั้นกับเลี่ยวเหวยตง! ฉันจะไม่ยอมอยู่ด้วยกันกับเขาเด็ดขาด!”
พูดจบ โม่เสี่ยวหนงเริ่มร้องขึ้นมาอีกครั้ง ยิ่งร้องยิ่งเจ็บปวดใจ
เย่เชินหลินขมวดคิ้วเล็กน้อยสีหน้าเป็นนิ่งลึกขึ้น
เซี่ยชีหรั่นดูออกว่าเขาเริ่มไม่พอใจเล็กน้อยจึงรีบพูดว่า : “หลิน คุณ…คุณ คุณกลับห้องไปก่อนเถอะ ฉันจะจัดการเรื่องของเสี่ยวหนงเอง”
เซี่ยชีหรั่นต้องการจะกล่อมเย่เชินหลินว่าอย่าไม่ฟังคำพูดของโม่เสี่ยวหนงเพียงฝ่ายเดียวแล้วไปทำร้ายตระกูลเลี่ยว เพราะเดิมที่โม่เสี่ยวหนงเป็นคนโอ้อวด แถมยังชอบพูดโกหกอีก
“พี่? ฉันโดนคนอื่นชี้หน้าด่าแบบนี้ พี่ยังไม่โกรธอีกรึไง?” โม่เสี่ยวหนงน้ำตาไหลเศร้าพลางมองหน้าเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจและพูดเสียงต่ำว่า : “เด็กโง่ พี่เป็นห่วงเธออยู่แล้ว”
“เป็นห่วงฉัน แล้วทำไมให้พี่เขยกลับขึ้นห้องไปก่อนล่ะ? แบบนี้แสดงว่าพี่ไม่ต้องการให้เขาช่วยฉันน่ะสิ? ฉันนะไม่เป็นไร แต่ที่พวกเขาไม่เห็นพี่เขยในสายตาแบบนี้ได้รึไงกัน?”
“เสี่ยวหนง เธอยังไม่อธิบายอะไรเลย แล้วจะให้เขาช่วยเธอ แบบนี้ไม่ค่อยมีเหตุผลน่ะ ตรงนี้คนเยอะ พวกเรากลับไปคุยกันดีๆที่ห้องดีกว่า” เซี่ยชีหรั่นเข้าไปพูดเบาๆ ใกล้หูของเสี่ยวหนง
“ก็วันนี้ที่บ้านของพวกเขาตุ๋นซุปถั่งเช่าหนึ่งถ้วยเล็ก แม่เขาบอกว่าให้ฉันดื่มบำรุงร่างกาย เพื่อจะได้ตั้งท้องไวๆ แค่เห็นของพวกนั้นฉันก็ขยะแขยงแล้ว แต่ก็คิดว่านั้นเป็นความตั้งใจของผู้ใหญ่ ฉันก็พยายามกินเข้าไป กินเสร็จก็เห็นสีหน้าของแม่เขาไม่ดี ของพ่อเขาก็ไม่ดี เขาเองก็เหมือนกำลังโกรธ ฉันเองก็งงงวยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังโกรธอะไร หลังจากนั้นตาเฒ่าก็บอกมีเรื่องด่วน กินข้าวไม่ทันเสร็จก็เดินออกไปแล้ว เลี่ยวเหวยตงลุกขึ้นมาดึงแม่ตัวเองบอกมีคนอยากขอความช่วยเหลือจากแม่ ไปคุยกันส่วนตัวหน่อย ฉันรู้สึกแปลกใจ ก็แอบตามไปด้านหลังพวกเขาพวกเขาเข้าไปในห้องก็พูดว่าฉันไม่ดี บอกว่าซุปนั้นเตรียมไว้สำหรับฉันกับเลี่ยวเหวยตงสองคน ว่าฉันไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ฉันสับสน พี่ ตอนที่แม่เขาบอกคือเตรียมให้ฉันคนเดียว พี่ไม่คิดว่าแปลกรึไง? ฉันดูก็รู้ว่าหาเรื่องให้ฉันผิด!”
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินแวบหนึ่ง ท่าทีเขากลับมาไร้ความรู้สึกอีกครั้ง
ครั้งนี้เซี่ยชีหรั่นคิดว่าโม่เสี่ยวหนงไม่ได้พูดโกหก เธออาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนิดหน่อย คิดว่าหลังจากไม่ได้รับความธรรมเธอคงพูดอะไรไม่น่าฟังออกไป จากนั้นคนตระกูลเลี่ยวถึงได้ไม่เกรงใจเธอ
ใจของเซี่ยชีหรั่นเข้าใจดี แต่การแต่งงานก็จองไว้แล้ว เธอยังคงอยากจะเห็นโม่เสี่ยวหนงเลี่ยวเหวยตงลงเอยกันด้วยดี
“โอเค พี่รู้แล้ว เรื่องนี้ก็มีที่ตระกูลเลี่ยวทำไม่ถูก เข้าไปกับพี่ สงบจิตสงบใจลงก่อน” เซี่ยชีหรั่นดึงแขนโม่เสี่ยวหนงให้ตามเข้ามา
โม่เสี่ยวหนงพูดเสริมเติมแต่งจบแล้ว และก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เดินสะอึกสะอื้นตามเซี่ยชีหรั่นของเข้าไปในห้องนอนของเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินหลบไปที่ห้องหนังสือ
กลับมาที่ห้องโม่เสี่ยวหนงยังทำเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม และพูดด้วยเสียงอ่อนกับเซี่ยชีหรั่นว่า : “พี่ พี่รู้ไหม? พวกคนตระกูลเลี่ยวคิดว่าพวกเรามาจากตระกูลเล็กๆ คิดว่าฉันคงไม่เคยกินอะไรที่เป็นของดี ถึงได้กินซุปถั่งเช่าหมดถ้วยคนเดียว ถ้าฉันยังคบอยู่ด้วยกันกับเลี่ยวเหวยตง และพี่เขยไม่ช่วยออกหน้า ฉันคงอยู่อย่างลำบากในครอบครัวเขา”
เซี่ยชีหรั่นให้โม่เสี่ยวหนงนั่งลงบนเตียง และรินน้ำส่งให้เธอ1แก้ว รอจนอารมณ์เธอสงบลงและค่อยๆ เกลี้ยกล่อมเธอว่า : “เด็กโง่ ถ้าเธออยากจะอยู่เลี่ยวเหวยตงตลอดชีวิต เรื่องพวกนี้เธอต้องค่อยปรับตัว เธอคิดดูน่ะ การเติบโตมาของพวกเธอทั้ง2คนไม่เหมือนกันเลย เธอจะปรับตัวเข้ากับบ้านเขาก็ไม่ง่ายๆ แม้ฉันจะอยู่กับเย่เชินหลิน แต่ต่อหน้าครอบของเขาฉันต้องระมัดระวังเหมือนกัน บางครั้งการอดทนไม่ได้แสดงว่าเราโดนเอาเปรียบ แต่เพื่อคนที่รักทุกคน พวกเราจำเป็นต้องอดทน เธอพอจะเข้าใจความหมายของพี่ไหม?”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset