สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 841 สาวใช้ตัวแสบ 745

ตอนที่ 841 สาวใช้ตัวแสบ 745
“ทราบแล้ว”
“คุณพ่อคะ วันนี้เป็นวันเกิดของเย่เชินหลิน เขาบอกว่าเขาอยากจะขอโทษท่าน……”เย่เฮ่าหรันฟังผ่านโทรศัพท์อย่างนิ่งเงียบ เซี่ยชีหรั่นได้ยินเสียงถอนหายใจของเขาที่ค่อยๆคลายลง ขณะที่กำลังจะพูดเพิ่มเติม เย่เชินหลินก็เข้ามาแย่งโทรศัพท์ของเธอแล้วพูดว่า:“คุณพูดมั่วอะไรของคุณ ผมบอกตั้งแต่เมื่อไหร่กันว่าผมจะขอโทษ?”
“คุณจะปากแข็งไปทำไม?พูดคำว่าขอโทษกับพ่อของตัวเองจะเป็นไรไป คุณไม่รู้หรอกว่าคุณนั้นโชคดีแค่ไหน”เซี่ยชีหรั่นกระซิบเบาๆ คิ้วของเย่เชินหลินนั้นขยับ จากนั้นก็พูดกับปลายสายว่า:“ประธานเย่!”
ยังจะเรียกว่าประธานเย่อีก!เจ้าคนนี้ทำไมถึงได้ปากแข็งนัก เธอนั้นอยากที่จะงัดปากของเขาออกมาให้เขาเรียกปลายสายว่าพ่อ
“อืม”เย่เฮ่าหรันรับคำด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
เขานั้นรู้จักลูกชายของตนเองเป็นอย่างดี ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเรียกตนว่าประธานเย่ แต่สำหรับเขาแล้วก็เหมือนกับว่าเขาเรียกตนว่าพ่อนั้นแหละ
“ดูแลแม่ของผมให้ดี”
เจ้าเด็กคนนี้ จะเอ่ยปากพูดสักประโยคหนึ่งก็ยังพูดถึงแต่แม่ของเขา เย่เฮ่าหรันยิ้ม
“แม่ผมล่ะ?ให้แม่มารับโทรศัพท์หน่อย”
นี้ก็หมายความว่ากำลังจะสิ้นสุดการพูดคุยระหว่างเขากับพ่อของเขาแล้วงั้นเหรอ?เซี่ยชีหรั่นมองเขาอย่างประหลาดใจ เมื่อได้ยินเขาถามหาแม่เสียแล้ว
“แม่ครับ สองสามวันมานี้แม่ไปเที่ยวสนุกไหมครับ?”เย่เชินหลินถาม
“ดีใจ น่าเสียดายที่ลูกกับเซี่ยชีหรั่นไม่ได้มาเที่ยวด้วยกัน หากเป็นเช่นนั้นแล้วครอบครัวเราพร้อมหน้าก็จะสนุกยิ่งขึ้น”
จิ่วจิ่วที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อได้ยินฝู้เฟิ่งหยีพูดขึ้นว่าครอบครัวเดียวกัน เขาก็เหลือบมองเธอครู่หนึ่ง เธอนั้นรู้สึกกระอักกระอ่วนใจจึงก้มหน้าลง
ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ช่วงนี้ของเธอกับเหยนชิงเหยียนยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไหร่ ยังคงเคอะเขินอยู่ คุณรุกเข้ามา ฉันกลับถอยหลังแต่ว่าดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้รีบร้อนอะไร จึงเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่มีใครยอมใคร
“ประธานเย่กระตือรือร้นหรือเปล่า?”เย่เชินหลินถามขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้นั้นทำให้ฝู้เฟิ่งหยีนั้นหน้าแดง
ช่วงนี้เย่เฮ่าหรันนั้นไม่ได้แข็งทื่อ ไร้ชีวิตชีวาและวางมาดขรึมเหมือนเดิมแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าเขาได้รับอิทธิพลมาจากตอนที่เขาไปอยู่ต่างประเทศ เขานั้นยังกระตือรือร้นที่จะจับมือเธอก่อน อีกทั้งยังเคยจูบเธอบนถนนอีกด้วย สิ่งเหล่านี้แน่นอนว่าเธอคงไม่สะดวกใจที่จะเล่าให้ลูกชายฟังเป็นแน่ แค่เพียงเธอคิด ภายในใจก็รู้สึก หวานปานน้ำผึ้งแล้ว
“ดูเหมือนว่าจะกระตือรือร้นไม่เบาเลย ถ้างั้นพวกคุณกลับมาแล้วก็มาจัดงานแต่งงานเถอะ ผมจะให้หลินหลิงจัดการให้”
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ ช่างเถอะ จัดงานแต่งงานอะไรกัน อายุขนาดนี้แล้ว อายคนอื่นเขา?อีกทั้งคนข้างนอกมีใครบ้างที่ไม่รู้เรื่องหย่าร้างของเราทั้งสองคนบ้าง ฉันกลับไปก็แอบจดทะเบียนกับเขาก็น่าจะเพียงพอแล้ว ลูกก็เหมือนกันนะ แม่คิดว่าลูกควรที่จะไปจดทะเบียนกับเซี่ยชีหรั่นได้แล้ว หากเป็นเช่นนี้แล้วคุณในบ้านถึงจะไม่รู้สึกกังวลใจ”
“ผมทราบแล้วครับ”เย่เชินหลินเหลือบมองเซี่ยชีหรั่นครู่หนึ่ง และพูดขึ้นเบาๆ
เขานั้นทราบดี เพียงแต่ว่าเขานั้นไม่อยากที่จะแค่จดทะเบียนกับเซี่ยชีหรั่นเพื่อให้มันจบๆไป เขานั้นอยากจะจัดงานแต่งงานเพื่อเป็นความทรงจำที่แสนโรแมนติกให้กับเธอ
หลังจากที่หลินหลิงกลับมาแล้ว งานที่สำคัญที่สุดของเธอก็คือเตรียมจัดงานแต่งงานให้กับพวกเขา ซึ่งมันก็ใกล้เข้ามาแล้ว รอให้ทุกอย่างพร้อม เขาก็จะขอเธอแต่งงานในสถานที่สุดแสนพิเศษ
หลังจากที่วางโทรศัพท์ลง เซี่ยชีหรั่นก็อดไม่ได้ที่จะบ่นเย่เชินหลินด้วยเหตุผลนานาประการ แต่เย่เชินหลินก็พูดไปเพียงว่าเธอนั้นช่างขี้บ่นเสียเหลือเกิน
“ฉันพูดจริงจังนะ คุณจะเรียกเขาว่าพ่อเมื่อไหร่กัน เขานั้นรอมายี่สิบกว่าปีแล้วนะ?”
“เขาชินแล้ว”เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างราบเรียบ
“เรื่องๆนี้จะคุ้นชินได้ยังไงกัน?เป็นไปไม่ได้!หลิน คุณรับปากฉันสิ ว่าวันที่เราแต่งงานกัน คุณจะเรียกเขาว่าพ่อ ได้ไหม?”
“ไม่เรียก!”เย่เชินหลินนั้นดื้อราวกับเด็กน้อย ใบหน้าจิ้มลิ้มของเซี่ยชีหรั่นนั้นเงียบขรึม และพูดขึ้นว่า:“ช่างเถอะ หากคุณไม่เรียก ฉันก็จะไม่แต่งงานกับคุณ”
“คุณกล้า!”
“คอยดูแล้วกันว่าฉันกล้าไม่กล้า ยังไงฉันก็จะไม่แต่งงานกับคุณ”
“ไม่แต่งก็ไม่ต้องแต่ง คนที่อยากจะแต่งงานกับเย่เชินหลินเยอะแยะไป”
“ได้ งั้นคุณก็ไปขอพวกหล่อนแต่งงานเถอะ”เซี่ยชีหรั่นจ้องมองเย่เชินหลินครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินจากไป ยังไม่ทันจะเดินได้กี่ก้าว เย่เชินหลินก็คว้าเธอมาไว้ในอ้อมกอดเสียแล้ว
“จะมากอดฉันทำไม?จะไปขอผู้หญิงอื่นแต่งงานไม่ใช่เหรอ?คุณก็ไปขอสิ!”
“ยังไงผมก็จะขอคุณแต่งงาน คนอื่นนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาผมเลย” ไม่ง่ายเลยที่เย่เชินหลินจะบอกรักเธอเช่นนี้ ภายในใจของเซี่ยชีหรั่นนั้นรู้สึกหอมหวาน และในขณะที่เขาเข้ามาจูบเธออีกครั้ง เธอก็ยกปลายเท้าขึ้น เพื่อรับจูบของเขา
หลังจากที่จูบเสร็จ ทั้งสองก็จูงมือกัน จากนั้นก็เดินไปที่คฤหาสน์อย่างช้าๆ เซี่ยชีหรั่นนั้นอยากที่จะอยู่กับเขาในทุกวินาที แต่น่าเสียดายที่เธอนั้นจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อนโม่เสี่ยวหนง
“หลิน ฉันไม่อยากแยกจากคุณเลย แต่ว่าแม้ว่าตัวฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวหนง แต่ภายในใจฉันก็ยังคิดถึงคุณเสมอ”เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู เซี่ยชีหรั่นก็พูดขึ้นเสียงเบา เย่เชินหลินลูบเส้นผมของเธอ และถามเธอว่า:“เมื่อไหร่คุณจะเลิกดีกับหล่อนเสียที?”
“ไม่ได้หรอก หล่อนเป็นน้องสาวของฉัน ตั้งแต่เล็กฉันก็อยากที่จะดูและหล่อนตลอดไป”
“ไม่ว่าหล่อนจะทำอะไร คุณก็จะยังดีกับหล่อนอยู่ใช่ไหม?แล้วถ้าหากว่าหล่อนนั้นแย่งผมไปล่ะ?”เย่เชินหลินถามขึ้นเชิงล้อเล่น
“คุณเลิกพูดไร้สาระได้แล้ว หล่อนไม่มีทางทำเช่นนั้น อีกทั้งหากหล่อนคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ คุณก็คงไม่ยอมให้หล่อนแย่งหรอก”
“มันก็ไม่แน่นะ คุณไม่เข้าใจผู้ชาย ผู้ชายล้วนมีความปรารถนาต่อผู้หญิงที่มีเสน่ห์เย้ายวน คุณไม่เห็นเหรอว่าในประวัติศาสตร์นั้นก็มีจักรพรรดิที่แต่งงานทั้งกับพี่และน้องเป็นจำนวนมาก?”ขณะที่เย่เชินหลินพูดประโยคนี้ สีหน้าของเขานั้นดูจริงจัง
คิ้วของเซี่ยชีหรั่นก็ถูกขมวดขึ้น และพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า:“อย่าพูดจาส่งเดช เสี่ยวหนงไม่ใช่คนแบบนั้น คุณก็ยิ่งไม่ใช่ด้วยเช่นกัน หากต่อไปคุณพูดเช่นนี้อีก ฉันจะโกรธแล้วนะ”
เย่เชินหลินเหลือบมองเซี่ยชีหรั่นอย่างตั้งใจ ยื่นมือออกไปลูบที่เส้นผมของเธอแล้วพูดว่า:“ไม่พูดแล้ว กลับกันเถอะ ไปอยู่เป็นเพื่อนผมที่ห้องสักหน่อยเถอะ”
“ขอบคุณมากหลิน การที่ฉันใช้น้ำเสียงเช่นนั้นพูดกับคุณ คุณไม่โกรธใช่ไหม?”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยคำขอโทษ เย่เชินหลินทำเพียงยิ้ม เธอนั้นก็ดูออกว่าเขานั้นไม่ได้โกรธจริงๆ
เมื่อไปที่ห้องนอนของเย่เชินหลิน เมื่อตอนกลางวันนี้ทั้งสองได้ดื่มด่ำกับความรักหลายครั้งแล้ว เรี่ยวแรงของเซี่ยชีหรั่นนั้นแทบจะหมดแล้ว เธอนั้นรู้ว่ากำลังกายของเย่เชินหลินนั้นเยอะมาก ดังนั้นเธอจึงตั้งใจที่จะรักษาระยะห่างกับเขา
ทั้งสองนั้นนั่งคุยกัน การสนทนาส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ในหัวข้อการจัดงานฉลองวันเกิดของเย่เชินหลิน พวกเขาหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะสามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างหลี่เหอไท้กับจงหยุนซางได้ และพวกเขาก็หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างไห่ลี่หมินกับหลินหลิงจะเปลี่ยนไป
ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันตามลำพังนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็สิบโมงแล้ว ขณะที่เซี่ยชีหรั่นกำลังจะไปหาโม่เสี่ยวหนง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“พี่สาว พี่เขย เสี่ยวหนงเอง ฉันสามารถเข้าไปได้ไหมคะ?”
“เข้ามาเถอะเสี่ยวหนง!”
โม่เสี่ยวหนงเปิดประตูและเดินเข้ามา เซี่ยชีหรั่นเห็นหล่อนนั้นถือถาดมา ในถาดนั้นมีแก้วอยู่สามใบ
“เสี่ยวหนง น้องคิดจะทำอะไร?เมื่อสักครู่นี้ก็ดื่มมามากพอแล้ว แล้วทำไมยังจะต้องดื่มอีก?”เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น
“พี่คะ วันนี้เป็นวันเกิดของพี่เขย ฉันคิดว่าเขานั้นยังไม่ได้สนุกเต็มที่เลย พวกพี่ทั้งสองก็ยังอาลัยอาวรณ์กันอยู่เลย ฉันอยากจะดื่มคารวะพี่เขยสักแก้วค่ะ ชาโตว์ ลาฟิต-รอธส์ชิลด์ของปีนี้ เป็นเหล้าที่พี่เขยนั้นชอบที่สุด พวกเราดื่มเป็นเพื่อนเขาสักแก้วเถอะค่ะ พี่เขยคะ วันนี้วันเกิดของคุณ ก็ให้พี่สาวฉันดื่มสักแก้วเถอะค่ะ เธอไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิด ความสามารถในการดื่มเหล้าของพี่สาวฉันนั้นไม่เลวเลย”
เย่เชินหลินมองดูแล้วพบว่า เหล้าทั้งสามแก้วนี้ มีอยู่แก้วหนึ่งที่สีเข้มกว่าปกติ ซึ่งเป็นชาโตว์ ลาฟิต-รอธส์ชิลด์ในปีนั้นที่เขาชื่นชอบจริงๆ
“เสี่ยวหนง อย่าดื่มเลย” เซี่ยชีหรั่นพูดโน้มน้าวขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเสี่ยวหนงนั้นเริ่มมีคราบน้ำตา หล่อนพูดขึ้นอย่างเศร้าสร้อยว่า:“สิ่งที่ฉันดื่มไปเมื่อสักครู่นี้ยังคงไม่สามารถทำให้ฉันนอนหลับได้ พี่คะ ให้ฉันดื่มฉลองเป็นเพื่อนพี่ทั้งสองคนเถอะค่ะ ฉันขอร้องล่ะ”
เซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นคนใจอ่อน เมื่อเห็นว่าโม่เสี่ยวหนงนั้นกำลังจะร้องไห้ เธอจึงทำได้เพียงรับปาก
“ได้ ดื่มเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่จะไปนอนเป็นเพื่อน”
“พี่สาวของฉันนั้นดีที่สุดเลย!”โม่เสี่ยวหนงพูดขึ้นด้วยความดีอกดีใจ หล่อนเสิร์ฟแก้วไวน์สีที่เข้มที่สุดให้กับเย่เชินหลิน โดยมีอาการมือสั่นเล็กน้อย จากนั้นก็เสิร์ฟให้กับเซี่ยชีหรั่นหนึ่งแก้วและให้ตนเองอีกหนึ่งแก้ว จากนั้นก็วางถาดไว้ที่ตู้ลิ้นชักบนหัวเตียง
เย่เชินหลินแกว่งแก้วเหล้าแล้วถามขึ้นว่า:“ทำไมเหล้าของเธอทั้งสองคนไม่เหมือนกับของผมล่ะ?”
“แน่นอนว่าไม่เหมือน เหล้าของพวกเราทั้งสองคนนั้นไม่เข้มเหมือนกับของพี่เขย พี่เขยก็กลัวว่าพี่สาวจะเมาเหล้าไม่ใช่เหรอคะ?พี่เขย ชนแก้ว !” โม่เสี่ยวหนงยกแก้วเหล้าขึ้น เย่เชินหลินชนแก้วกับโม่เสี่ยวหนง จากนั้นเงยหน้าขึ้น แล้วดื่มจนหมดแก้ว
เมื่อโม่เสี่ยวหนงเห็นว่าแก้วเหล้านั้นได้ว่างเปล่าลงแล้ว ก็คิดถึงครั้งแรกที่ได้เจอกับเย่เชินหลิน คิดถึงช่วงระยะเวลาอันยาวนานที่หล่อนนั้นได้วางแผน จนในที่สุดความปรารถนาที่จะได้เป็นผู้หญิงของเขานั้นใกล้จะเป็นจริงแล้ว
“พี่คะ พี่ก็ดื่มเถอะค่ะ ”โม่เสี่ยวหนงพูดขึ้นกับเซี่ยชีหรั่น หล่อนพยายามที่จะกดทับความรู้สึกดีใจของเธอไว้ ในแก้วเหล้าของเซี่ยชีหรั่นนั้นมียานอนหลับอยู่ ขอเพียงเธอดื่ม หล่อนก็จะสามารถทำตามแผนที่วางไว้ได้จนสำเร็จ
เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นว่า:“หลิน สุขสันต์วันเกิด!”
เมื่อพูดจบ เธอก็เงยหน้าแล้วดื่มเหล้าจนหมดแก้ว
สำเร็จแล้ว!ภายในใจของโม่เสี่ยวหนงนั้นดีใจเป็นอย่างมาก มือไม้สั่นไปหมด หล่อนนั้นก็ยกแก้วเหล้าที่อยู่ในมือดื่มจนหมด
“พี่คะ พวกเราไปนอนกันเถอะ ขอโทษนะคะที่ต้องทำให้พี่ทั้งสองต้องแยกจากกันอีกแล้ว ฉันไม่กล้านอนคนเดียวจริงๆค่ะ”โม่เสี่ยวหนงพูดขึ้น
“ไม่เป็นไร”แค่เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นแค่สามคำ จากนั้นก็หันไปพูดกับเย่เชินหลินว่า:“หลิน ฉันไปแล้วนะ คุณก็รีบพักผ่อนเถอะ”
“อืม”เย่เชินหลินพยักหน้า
โม่เสี่ยวหนงกับเซี่ยชีหรั่นนั้นกลับห้องไปด้วยกัน ไม่ถึงสองนาที เซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกว่าเวียนหัว อยากที่จะนอนแล้ว
“เสี่ยวหนง พี่รู้สึกง่วงแล้ว ทำไมถึงได้รู้สึกง่วงขนาดนี้ล่ะ?”
“คงเป็นเพราะว่าเมื่อตอนกลางวันนี้พี่คงจะเหนื่อยเกินไป พี่คะ พี่รีบไปนอนเถอะ พักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้สึกสดชื่นเองค่ะ”
“อืม พี่นอนแล้วนะ เสี่ยวหนงหากเธอรู้สึกกลัวก็เรียกพี่ได้ตลอดเวลานะ……”เมื่อเซี่ยชีหรั่นพูดจบก็หลับลง คำเหล่านี้ทำให้ภายในใจของโม่เสี่ยวหนงรู้สึกไม่สบอารมณ์
หล่อนนึกถึงคำพูดของส้งหลิงหลิง หากอยากครอบครองผู้ชายที่ดีที่สุดก็ต้องใจโหด หล่อนนั้นไม่สามารถที่จะถอยหลังได้ จำเป็นที่จะต้องเดินหน้าต่อไป
“พี่คะ?พี่คะ?”หล่อนเรียกเธอสองที ลมหายใจของเซี่ยชีหรั่นนั้นถี่เป็นปกติ เรียกก็คงจะไม่ตื่นแล้ว
โม่เสี่ยวหนงรีบลุกขึ้นและใส่รองเท้าเป็นที่เรียบร้อย กัดริมฝีปาก อยากจะทำให้ตนเองนั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ
หล่อนคิดว่า เวลานี้ยาที่อยู่ในร่างกายของเย่เชินหลินนั้นน่าจะออกฤทธิ์แล้ว น่าจะเกิดภาพหลอน คงจะคิดว่าหล่อนนั้นคือเซี่ยชีหรั่น
หล่อนนั้นผลักประตูห้องของเย่เชินหลิน ไฟภายในห้องนั้นได้ดับลงแล้ว ภายในห้องนั้นมีเพียงเสียงลมหายใจของเย่เชินหลินเท่านั้น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset