สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 843 สาวใช้ตัวแสบ 747

ตอนที่ 843 สาวใช้ตัวแสบ 747
นี่ถือว่าเป็นวันที่ดีวันหนึ่ง ส้งหลิงหลิงหลับตาและสูดลมหายใจเข้าลึกๆสองอึก รู้สึกว่าอาการวันนี้มันช่างสดชื่นกว่าทุกวัน
เซี่ยชีหรั่นได้วิ่งมาถึงบริเวณหน้าประตูแล้ว ส้งหลิงหลิงจึงค่อยๆพูดขึ้นอย่างช้าๆว่า:“ชีหรั่น ฉันอยากจะเตือนคุณสักประโยคว่า คุณไล่หาโม่เสี่ยวหนงมาทุกที่แล้ว จะเป็นไปได้ไหมว่าหล่อนจะอยู่ในห้องของเย่เชินหลิน?ฉันได้ยินมาว่า ช่วงนี้คุณย้ายไปนอนที่ห้องของโม่เสี่ยวหนง ลับหลังคุณหล่อนคงจะไม่……”
เซี่ยชีหรั่นหยุดฝีเท้าลง หันหลังไปมองที่ส้งหลิงหลิง และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงต่ำว่า:“อย่าพูดจาเหลวไหล!น้องสาวของฉันไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นได้”
ส้งหลิงหลิงยิ้มและพูดขึ้นว่า:“โธ่ ฉันก็แค่เตือนคุณด้วยความปรารถนาดีก็เท่านั้น?ใครจะไปมองทะลุใจของคนอื่นได้ล่ะ?เมื่อวานนั้นเป็นวันเกิดของเย่เชินหลิน คุณไม่รู้สึกหรอว่าโม่เสี่ยวหนงนั้นโน้มน้าวให้ดื่มเหล้าขนาดไหน”
แรกเริ่มเซี่ยชีหรั่นนั้นเชื่อใจโม่เสี่ยวหนงเป็นอย่างมาก แต่เมื่อส้งหลิงหลิงพูดขึ้นมาเช่นนี้ เธอก็อดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานไม่ได้ ก็ใช่ที่เมื่อวานในช่วงรับประทานอาหารเย็นนั้น โม่เสี่ยวหนงกระตือรือร้นที่จะให้ทุกคนนั้นดื่มเหล้าเป็นอย่างมาก และพอถึงช่วงก่อนนอน หล่อนก็ยังไปที่ห้องเย่เชินหลินและดื่มเป็นเพื่อนเขาอีกแก้ว
เธอนั้นจำได้ว่าหลังจากที่เธอออกจากห้องของเย่เชินหลินแล้วนั้น ก็รู้สึกง่วงนอนเป็นอย่างมาก เธอนั้นก็คิดว่าเธอไม่น่าจะเหนื่อยขนาดที่อยากจะนอนขนาดนั้น
หรือว่า……หรือว่า เธอนั้นถูกโม่เสี่ยวหนงวางยา?อีกทั้งหล่อนยังนำไปเสิร์ฟสามแก้ว หรือว่า ……
เซี่ยชีหรั่นนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เธอนั้นอยู่ที่ไหหลำ ประสิทธิภาพของยาแฝดนั้น มันช่างน่าตกใจเสียจริง หากโม่เสี่ยวหนงวางยาเย่เชินหลิน จากนั้นโม่เสี่ยวหนงก็ถือโอกาสตอนที่เธอหลับ แอบไปที่ห้องนอนของเย่เชินหลิน ……
ไม่!เซี่ยชีหรั่นพยายามบังคับความคิดของตนให้คิดเช่นนั้น เธอนั้นไม่ควร ไม่ควรที่จะสงสัยโม่เสี่ยวหนง
หล่อนนั้นเป็นน้องสาวของเธอ เป็นมากกว่าน้องสาวแท้ๆเสียอีก เมื่อวานนี้หล่อนยังถามเธออยู่เลยว่าเธอจะรักหล่อนตลอดไปไหม หล่อนต้องการเธอขนาดนี้ หล่อนจะแย่งผู้ชายของเธอได้งั้นเหรอ?
แต่ว่าหากหล่อนไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น แล้วทำไมหล่อนจะต้องถามคำถามเช่นนั้นด้วย?
“คุณคิดดูสิ แม้กระทั่งตัวคุณก็ยังรู้สึกสงสัย?ฉันจะบอกอะไรให้นะ คุณไปดูที่ห้องของเย่เชินหลินก่อนเถอะ บางทีน้องสาวของคุณอาจจะอยู่ที่นั่น……”
“เป็นไปไม่ได้!” เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วแล้วขัดจังหวะการพูดของส้งหลิงหลิง และพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า:“หากคุณยังพูดยุแยงความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนอยู่ ฉันจะไปฟ้องหลิน”
ส้งหลิงหลิงถอนหายใจไปด้วย ส่ายหัวไปด้วย แล้วพูดว่า:“เฮ้อ ฉันก็แค่หวังดี หากคุณไม่รู้สึกขอบคุณก็ช่างเถอะ คิดซะว่าฉันไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน ฉันมีธุระจะไปหาเย่เชินหลินพอดี หากคุณไม่ไปดู เดี๋ยวฉันจะไปดูเอง หากเป็นอย่างที่ฉันคาดเดาไว้จริงๆแล้วล่ะก็ คุณคงจะรู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่มทลายเลยนะ”
เมื่อพูดจบ ส้งหลิงหลิงก็ค่อยๆเดินไปทางระเบียงทางเดิน
เซี่ยชีหรั่นยังคงหยุดอยู่ที่บริเวณหน้าประตู หล่อนหันหลัง มือของหล่อนนั้นสัมผัสอยู่บริเวณด้ามจับของประตูกระจก ประตูของกระจกนั้นหนักอึ้งเป็นหลายเท่า ราวกับว่าชาตินี้เธอจะผลักออกไปไม่ไหวเสียแล้ว
เธอนั้นก็เริ่มสงสัยโม่เสี่ยวหนงแล้ว แต่เธอก็ยังคงคิดว่าสิ่งที่ส้งหลิงหลิงพูดนั้นไม่เป็นความจริง แต่สิ่งที่โม่เสี่ยวหนงทำทั้งหมดนี้มันก็ผิดปกติจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล้าก่อนนอนแก้วนั้น ทำไมตอนนั้นเธอคิดไม่ถึงนะ
เธอยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู สีหน้านั้นดูเหม่อลอย ฝีเท้าของเธอนั้นก็เริ่มหนักขึ้น
เธอนั้นคิดว่า เธอไม่ควรที่จะสงสัยโม่เสี่ยวหนง แต่เธอนั้นไม่สามารถที่จะหยุดความคิดนั้นได้
เธอนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆ เปิดประตูออกมา บริเวณหน้าประตูนั้นมียามเฝ้าอยู่สองคน เธอจึงถามพวกเขาว่า:“เห็นคุณโม่ออกไปข้างนอกไหม?”
“คุณนายเย่ ไม่ได้ออกไปครับ!”ยามตอบขึ้นพร้อมกัน
“แน่ใจใช่ไหม?พวกคุณมาเฝ้าเวรตรงนี้ตั้งแต่กี่โมง?”
“คุณนายเย่ พวกเราเป็นเวรของเมื่อคืนนี้ครับ เป็นเวรกลางคืน และตอนนี้ก็กำลังจะเปลี่ยนเวร พวกเรามั่นใจว่าคุณโม่เสี่ยวหนงนั้นไม่ได้ออกไปข้างนอก”
ใจของเซี่ยชีหรั่นนั้นบีบแน่น โม่เสี่ยวหนงไม่ได้ออกไปข้างนอก นั้นหมายความว่าอย่างไร?สถานที่ที่เธอจะสามารถไปตามหาได้ เธอก็ไปตามหาทุกที่แล้ว ยกเว้นห้องนอนของเย่เชินหลิน……หล่อนจะอยู่ในห้องนอนจริงๆงั้นหรือ?
นี่ขนาดว่าเธอแค่คิดถึงความเป็นไปได้แค่นั้นเองนะ ใจของเธอก็เจ็บจนแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว
เธอนั้นมองยามสองคนนั้นด้วยสายตาที่เหม่อลอย และพูดขึ้นเพียงว่า:“ขอบคุณมาก ฉันทราบแล้ว”
เธอนั้นไม่รู้ตัวว่าเธอนั้นกลับมาที่คฤหาสน์นี้ได้อย่างไรกัน เธอพยายามก้าวเท้าอันหนักอึ้งของเธอเดินไปตามทางเดินและได้ยินเสียงแหลมของส้งหลิงหลิงพูดขึ้นว่า:“พระเจ้า โม่เสี่ยวหนง คุณอยู่ที่นี่ใช่ไหม?ทำไมคุณถึงได้มานอนอยู่กับเย่เชินหลินล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นราวกับถูกฟ้าผ่า สมองของเธอนั้นว่างเปล่าในทันใด สองเท้าของเธอนั้นรีบวิ่งไปที่ห้องนอนของเย่เชินหลินโดยสัญชาตญาณ
“เป็นไปไม่ได้!ส้งหลิงหลิง คุณโกหกฉัน!คุณมันผู้หญิงจิตใจต่ำช้า คุณโกหกฉัน!นั้นมันน้องสาวของฉันนะ เป็นไปไม่ได้!” ขณะที่เธอนั้นวิ่งไปปากของเธอนั้นก็กล่าวโทษส้งหลิงหลิง แต่ตนก็กลับพบว่าคำพูดของตนนั้นแทบจะไม่มีประโยชน์เลย
ประตูห้องนอนของเย่เชินหลินเปิดอยู่ เธอวิ่งเข้าไป เห็นส้งหลิงหลิงมองไปบนเตียงด้วยความตกใจ
เซี่ยชีหรั่นแทบไม่กล้าที่จะมองไปบนเตียง เธอกลัว กลัวว่าจะเป็นภาพที่ชาตินี้ก็ไม่อาจจะลืมได้
และในห้องนอนห้องนี้ เธอนั้นก็เคยเห็นภาพที่ส้งหลิงหลิงกับเย่เชินหลินนั้นอยู่บนเตียงด้วยกัน ภาพๆนั้น กระทั่งวันนี้ ก็ยังคงทำให้ ใจของเธอนั้นรู้สึกเจ็บปวด
ในตอนนั้นส้งหลิงหลิงยังเป็นว่าที่เจ้าสาวของเย่เชินหลิน การที่เธอจะเห็นภาพเช่นนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่ปกติ
แต่วันนี้ ผู้หญิงที่อยู่บนเตียงกับผู้ชายที่เธอรักนั้นคือน้องสาวของเธอ ที่เธอนั้นเห็นหล่อนเป็นน้องสาวแท้ๆของเธอ
“ส้งหลิงหลิง!คุณอย่าพูดจาเหลวไหล!คุณอย่าพูดจาเหลวไหล!ทำไมถึงได้กล้าพูดโกหกหน้าตาเฉย!คำพูดของคุณ ไม่มีใครเชื่อหรอก!น้องสาวของฉันไม่มีทางทำเช่นนั้น ไม่มีทาง!”เซี่ยชีหรั่นไม่ยอมหันไปมองที่เตียง เธอนั้นมองไปที่ส้งหลิงหลิง แต่ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่นพูดกับส้งหลิงหลิง
“ ไอโย่ว คุณก็มีตาไม่ใช่เหรอ?คุณก็หันไปมองดูที่เตียงเองสิ เขาทั้งสองคนคงจะเหนื่อยมาก ดูสิยังนอนกันอยู่เลย คุณดูสิ!”
“ไม่ !ฉันไม่ดู!ไม่มีอะไรน่าดู ฉันไปแล้ว ฉันไม่เชื่อ!” เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นจนจบอย่างโกลาหล จากนั้นหันหลังอยากที่จะหนีออกไปข้างนอก
ยิ่งเธอพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งแสดงให้รู้ว่า เธอนั้นไม่สามารถที่จะรับความจริงนี้ได้ ส้งหลิงหลิงรอช่วงเวลานี้มาเกือบปีแล้ว หล่อนจะยอมให้เซี่ยชีหรั่นหนีไปได้อย่างไรกัน
นี้คือบาดแผลที่เต็มไปด้วยเลือด หล่อนต้องการที่จะเปิดมันให้เซี่ยชีหรั่นได้เห็นกับตาตนเอง ให้ชีวิตนี้เธอนั้นลืมไม่ลง ให้เธอนั้นไม่สามารถที่จะยอมเข้าใกล้เย่เชินหลินอีกตลอดชีวิต!
ส้งหลิงหลิงขวางทางไม่ให้เซี่ยชีหรั่นนั้นเดินออกไป สองมือโอบไหล่ของเธอไว้ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า:“ชีหรั่น เมื่อสักครู่นี้ฉันก็พยายามเตือนคุณแล้วว่าจิตใจของมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง แต่คุณก็ไม่ยอมเชื่อ และในเวลานี้ คุณดูสิว่า เขาทั้งสองคนนั้นเสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่ ฉันยังละอายที่จะมองเลย แต่ว่าเรื่องมันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว และหากคุณคิดที่จะหลบหลีกมันก็ไม่ถูกต้อง ชีหรั่น ฟังฉันสักหน่อยเถอะ คุณยอมรับความจริงเถอะ เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ความผิดของเย่เชินหลิน เพราะน้องสาวของคุณเองก็อาจจะเต็มใจ?”
ยอมรับความจริง?เซี่ยชีหรั่นหลับตาและส่ายหัวอย่างสุดกำลัง เธอปฏิเสธที่จะลืมตาขึ้น เธอปฏิเสธที่จะดู เธอปฏิเสธ!
ความจริงเช่นนี้ เธอจะจะยอมรับได้เหรอ?เธอยอมตาย ดีกว่าจะเชื่อว่าผู้ชายที่เธอรักที่สุดมีสัมพันธ์บนเตียงกับน้องสาวของตนเอง“คุณถอยไปนะ!ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ ฉันไม่รู้อะไรเลย คุณถอยไป!ฉันจะไปแปรงฟัน ฉันจะไปออกกำลังกาย ฉันจะไปทำงาน เหมือนว่าวันนี้ไม่ต้องไปทำงานนะ ฉันต้อง ……”เซี่ยชีหรั่นพูดตะกุกตะกัก ใจของเธอนั้นเจ็บปวดมาก เธอไม่รู้ว่าจะสรรหาคำอะไรมาพูดแล้ว
เธอนั้นอยากที่จะสงบสติอารมณ์ของตนให้นิ่งกว่านี้ เธอนั้นรู้ดีว่าการที่ส้งหลิงหลิงยืนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อที่จะรอหัวเราะเยาะเธอ เธอต้องการที่จะยืนหยัดต่อไป เธออยากที่จะสงบจิตสงบใจ แต่เธอจะทำได้อย่างไรกัน?
“อย่าหนีนะ!คุณก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่อง……”ส้งหลิงหลิงพูดได้เพียงแค่ครึ่งเดียวก็ได้ยิน เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างรำคาญใจว่า:“เช้าขนาดนี้ พวกคุณทะเลาะอะไรกัน?”
“เชินหลิน คุณตื่นแล้วเหรอ?”ส้งหลิงหลิงถามขึ้นด้วยความดีใจ
แท้ที่จริงแล้วโม่เสี่ยวหนงนั้นตื่นนานแล้ว ตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงของส้งหลิงหลิงเอะอะโวยวายแล้ว
ในเวลานี้เธอนั้นเกลียดส้งหลิงหลิงที่สุด แล้วก็เกลียดตนเองด้วยที่เลอะเลือนถูกหล่อนหลอกใช้ เมื่อทุกคนรู้ความจริงแล้ว เธอจะแอบมีลูกกับเย่เชินหลินได้อย่างไรกัน?
หมดกัน ชีวิตเธอทั้งชีวิตจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมเสียแล้ว เซี่ยชีหรั่นไม่อยากที่จะยอมรับความจริง ช่วงเวลาที่เซี่ยชีหรั่นนั้นเสียใจ ภายในใจของเธอนั้นก็รู้สึกทรมานเช่นกัน
เธอนั้นอยากจะพูดเหลือเกินว่าทุกอย่างนั้นมันเป็นเรื่องเข้าผิด เธอนั้นอยากที่จะเป็นพี่ที่แสนดีต่อเหลือเกิน
แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นจะรักเธอ แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะรักเธออย่างไม่มีขอบเขต เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอลืมตาขึ้นมา และยอมรับว่าเธอนั้นมีสัมพันธ์รักบนเตียงกับเย่เชินหลิน ถึงเวลานั้นเย่เชินหลินก็จะทิ้งเธอ และเซี่ยชีหรั่นก็จะเอือมระอาและเบื่อหน่ายเธอ
สมัยก่อนนั้นเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงที่อยู่ในสังคมชั้นล่าง ช่วงนี้ก็เป็นเซี่ยชีหรั่น ทำให้เธอนั้นกลายเป็นหงส์ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ขับรถ สปอร์ทไปในทุกที่ ใครล่ะจะไม่อิจฉาเธอ?
นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปชีวิตที่หรูหราของเธอก็จะจบสิ้นแล้ว หากเสื้อคลุมที่หรูหราฟู่ฟ่านั้นถูกถอดลง และเมื่อเธอจะต้องไปพบปะกับผู้คน เธอก็คงจะเป็นเพียงลูกเป็ดขี้เหร่ตัวหนึ่ง
เธอนั้นยอมไม่ได้จริงๆ และโทษตนเองที่นอนหลับลึกเกินไป มาตื่นอีกทีก็ตอนเช้าแล้ว
ในเวลานี้ เขานั้นไม่อยากที่จะขยับตัว สมองของหล่อนนั้นกำลังครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ว่าจะต้องพูดแบบไหนเซี่ยชีหรั่นถึงจะยกโทษให้กับเธอ
ขอเพียงแค่เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่เกลียดหล่อน หล่อนก็จะยังคงมีโอกาส หล่อนก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด
“ใคร?ส้งหลิงหลิง?” ในขณะที่โม่เสี่ยวหนงกำลังครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไรนั้น เย่เชินหลินก็ถามขึ้นจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง
เขานั้นใส่เพียงกางเกงในตัวเดียว แต่ว่าร่างกายของเขานั้นมีผ้าห่มผืนบางๆปกปิดอยู่ โม่เสี่ยวหนงที่อยู่ข้างๆเขาก็ห่มผ้าห่มเพียงเล็กน้อย ร่างกายของหล่อนนั้นแทบจะเปลือยเปล่า เผยหน้าอกอันอิ่มเอิบออกมา
“เชินหลิน ฉันเอง ฉันจะมาถามคุณเกี่ยวกับเรื่องของเหิงเหิง ฉันเคาะประตูอยู่ตั้งนานก็ไม่มีเสียงตอบรับ ฉันก็เลยถือวิสาสะผลักประตูเข้ามา ใครจะไปรู้ว่าจะเห็นโม่เสี่ยวหนงกำลังนอนอยู่บนเตียงของคุณ ฉันนั้นตกใจเป็นอย่างมาก ทำให้ฉันลืมไปหมดเลยว่าฉันจะถามอะไรคุณ?”ส้งหลิงหลิงเขยิบตัวเข้ามาในห้องอีกสองก้าว จากนั้นแกล้งพูดขึ้นว่า
เซี่ยชีหรั่นนั้นก็ราวกับว่าตนเองนั้นเป็นตะปูที่เกาะอยู่ที่พื้น การที่ส้งหลิงหลิงพูดเช่นนี้ ทำให้รู้ว่าหล่อนนั้นไม่ได้พูดจาเหลวไหล
หากโม่เสี่ยวหนงนั้นไม่ได้นอนอยู่บนเตียง ส้งหลิงหลิงจะกล้าพูดเช่นนี้เหรอ?
ความจริงนั้นได้ปรากฏอยู่ที่เบื้องหน้าของเขาแล้ว หล่อนนั้นไม่อยากยอมรับและอยากที่จะวิ่งหนีความจริง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset