สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 859 สาวใช้ตัวแสบ 763

ตอนที่ 859 สาวใช้ตัวแสบ 763
เธอรีบลุกขึ้น เพราะเธอลุกเร็วเกิน ทำเอาเกือบล้ม เย่เชินหลินยื่นมือมา ยังไม่ทันโดนตัวเธอ เธอก็จับเก้าอี้ไว้ทัน แล้วก็นั่งกลับที่เดิมอย่างช้าๆ
หัวใจของเขาถูกเธอดึงไว้อย่างแน่น ไม่รู้ว่าเขาทนความวู่วามที่ไม่อุ้มเธอได้ไง
“คุณไม่ต้องรีบร้อน ไห่ลี่หมินบอกว่าจะมารับคุณไม่ใช่เหรอ? ฉันไปก่อน” เย่เชินหลินพูดจบอย่างไม่แยแส ลุกขึ้นจากไปแบบไม่มีเยื่อใยใดๆทั้งสิ้น
เธอไม่กล้ามองหลังของเขา น้ำตาไหลริมในใจหวนคิดถึงเพลงหนึ่งขึ้นมา:เราเคยสัญญาจะไม่ปล่อยมือที่จับไว้ของซึ่งและกัน แต่ความจริงมันบอกไว้แค่มีรักยังไม่พอ เดินไปถึงจุดทางแยกของถนน คุณเดินซ้ายฉันเดินขวา พวกเราต่างฝืนทนที่จะไม่หวนกลับมา……
เย่เชินหลิน เวลาจะทำให้เราลืมซึ่งกันและกันใช่มั้ย? จะมีสักวันหนึ่งมั้ย ?ฉันเผชิญหน้าคุณ ไม่ต้องมีน้ำตาอีก หัวใจก็นิ่งสงบไม่สั่นไหว
ถ้าหากมีวันนั้นจริงๆ ฉันคิดว่า ฉันคงไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด และไม่รู้สึกถึงความสุขอีกต่อไป
ไอ้คนสารเลว คุณเอาหัวใจฉันไป ต่อแต่นี้หัวใจว่างเปล่า ว่างเปล่า……ณ จุดที่เขาไม่ได้ยิน เธอตามใจตัวเองร้องไห้ออกมา
เซี่ยชีหรั่น ร้องเถิด น้ำตาไม่ได้แสดงถึงความอ่อนแอ ร้องให้พอ ต่อไปเธอก็ไม่ต้องมีน้ำตาไหลเพื่อเขาอีกแม้แต่หยดเดียว ยังไงเขาก็มีลูกชายของเขา มีแม่ของลูกชายเขา เธอเป็นแค่คนที่เขาไม่ต้องการ เธอเสียใจสิ้นหวังเพื่อเขามีประโยชน์อะไร?
ถึงจะเข้าใจว่าไม่มีใครมีหน้าที่จะมารักเราตลอดชีวิต แต่เผชิญกับการที่เขาหันหลังอย่างเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ เธอก็ต้องโกรธบ้าง
นี่เป็นเดือนแปดนะ อากาศร้อนขนาดนี้ เธอกลับรู้สึกหนาวไปทั้งตัว
เย่เชินหลินไม่มีทางที่จะให้ความอบอุ่นกับเธออีกแล้ว เซี่ยชีหรั่น เธอต้องเรียนรู้ที่จะหาความอบอุ่นเองนะ
เธอไม่รู้ฟุบที่เก้าอี้ร้องไห้ไปนานแค่ไหน ในที่สุดรู้สึกว่ามีมือที่อบอุ่นวางบนผมของเธอ ลูบอย่างนุ่มนวล
การสัมผัสแบบนี้ ช่างเหมือนเย่เชินหลินจริงๆ แต่เธอรู้ว่า ไม่ใช่ เธอคุ้นเคยเขามาก ไม่มีทางที่จะเห็นคนอื่นเป็นเขาแน่นอน
เงยหน้าขึ้น เห็นหลี่เหอไท้กำลังมองเธออย่างอ่อนโยน สายตาเต็มไปด้วยรักและเอ็นดู เซี่ยชีหรั่นเศร้าใจ เรียกเสียงเบาๆ พี่เหอไท้ ขอโทษนะคะ……”
“เด็กโง่” หลี่เหอไท้เรียกอย่างผ่อนคลาย ยื่นมือดึงเซี่ยชีหรั่น ให้เธอสามารถพิงตัวเขาได้
เมื่อกี้ดูเธอเหมือนจะหนาวมาก ตัวเธอดูเหมือนยังสั่นอยู่ ช่วงหน้าร้อน เธอหนาวได้ขนาดนี้ ดูท่าผู้ชายคนนั้นคงทำให้เธอสะเทือนใจมาก
เขาไม่ควรพาเธอมาพบเย่เชินหลิน สองคนเดี๋ยวนี้ดูท่าน่าจะคืนดีกันยากแล้วจริงๆ อย่างน้อยช่วงเวลาสั้นๆดูแล้วเป็นแบบนี้
“ชีหรั่น ผมพาคุณไปออสเตรเลีย นะ”เสียงของหลี่เหอไท้ดังขึ้นบนศีรษะของเธอ เธอเหนื่อยแล้ว เธอไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไป เธอทนไม่ไหวแล้ว
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า พูด “ได้ ไปออสเตรเลีย”
“พวกเรากลับบ้านเถิด” หลี่เหอไท้จูงมือเซี่ยชีหรั่น ท่าทางกันเองเป็นธรรมชาติมาก
นั่นเป็น ความรู้สึกระหว่างพี่ชายกับคนรัก เวลานี้เซี่ยชีหรั่นไม่มีเรี่ยวแรงที่จะมาแบ่งแยกว่าเขาทำไมถึงดีกับเธอขนาดนี้
ก็ถือว่าเขาเป็นพี่ชายเถิด เธออยากเห็นแก่ตัวสักครั้ง ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นไป อย่างน้อยพึ่งพาคนอีกคนช่วยเธอให้ลืมเย่เชินหลิน
ทำพาสปอร์ตต้องใช้เวลา ระหว่างที่รอ เซี่ยชีหรั่นรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยของหลี่เหอไท้ เธอทำให้ตัวเองไม่มีเวลา ถ้าว่างนิดหน่อย เธอก็จะคิดถึงคนคนนั้นทันที
อารมณ์เสียใจยิ่งนักวันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากยังไม่ได้ออกต่างประเทศสักที เธอก็อาจวู่วามไปหาเย่เชินหลินก็ได้
ว่ากันว่า เย่เชินหลินก็ไปต่างประเทศแล้ว นั่นเป็นเพราะเธอได้ข่าวจากบริษัทโดยไม่ตั้งใจ ส่วนไปที่ไหนนั้น เธอก็ไม่รู้ และก็ไม่อยากรู้ด้วย
สรุป ตั้งแต่จากกันวันนั้น พวกเขาก็เลิกติดต่ออยากสิ้นเชิง
หลี่เหอไท้กำลังปกป้องเธออย่างระมัดระวัง พยายามไม่ให้เธอมีโอกาสคิดถึงคนๆนั้น
ทำเรื่องไปต่างประเทศเรียบร้อย วางแผนการเดินทางทุกอย่างหลี่เหอไท้เป็นคนจัดการหมด
เขาคุ้นเคยออสเตรเลียมาก ครั้งหนึ่งเคยเรียนอยู่ที่โน่นสองปี สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของออสเตรเลีย เขาคิดว่าคงช่วยเซี่ยชีหรั่นได้แน่
ขึ้นเครื่องเที่ยวบินที่จะไปเมลเบิร์น ตอนเครื่องบินทะลุผ่านก้อนเมฆ เซี่ยชีหรั่นมองไปที่หน้าต่าง ท้องฟ้าฟ้าเป็นพิเศษ แสงอาทิตย์เผาไหม้ตาเธอ เพราะฉะนั้นเธอทนไม่ไหวน้ำตาถึงไหลไม่หยุด เธอพูดกับตัวเองว่า น้ำตานี้ไม่ได้ไหลเพื่อเย่เชินหลินอีกต่อไป
เธอไม่อยากให้คนอื่นเห็นน้ำตาเธอไหล เพราะฉะนั้น หลี่เหอไท้เลยแกล้งทำเป็นไม่เห็น แค่หยิบหนังสือพิมพ์ดูแบบเรื่อยเปื่อยอย่างเงียบๆ
บินสิบกว่าชั่วโมง เหนื่อยมาก ความดีของการเหนื่อยก็คือ ทำให้เซี่ยชีหรั่นหลับได้
ถึงจะนอนหลับ ในฝันก็ยังหนีไม่พ้นที่จะฝันถึงเย่เชินหลิน แต่ว่าในฝันไม่ได้เศร้าใจและหมดหนทางเหมือนในความเป็นจริง
เช้าวันที่สองเริ่มต้นการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง อากาศประเทศนี้ดีมาก ตอนพวกเขามาก็เป็นต้นเดือนของหน้าฝน อากาศเดือนเก้า อากาศถูกใจคนมาก
เซี่ยชีหรั่นรับลมอากาศที่บริสุทธิ์ ก็พยายามที่จะยิ้ม แต่ในใจก็ยังเศร้าใจอยู่
เดิมที หากเธออยากจะลืมคนๆนึง ต้องเดินไปถึงสุดขอบฟ้าสิ้นมหาสมุทร แต่ก็ยังลืมไม่ได้อยู่ดี
ทิวทัศน์บนถนนกับในประเทศไม่เหมือนกัน มีหลายสรรพสิ่งมีใหม่แปลกตา เช่นรถท้องถิ่นรูปร่างเหมือนเพชร สร้างได้สวยกว่าในประเทศเยอะ
อย่างไรก็ตามเซี่ยชีหรั่นกลับไม่สนใจสิ่งใหม่เหล่านี้
หลี่เหอไท้มีตั้งไว้ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนให้เธอผ่อนคลาย ไม่พูดเยอะ แต่บางทีแนะนำเรื่องสนุกๆของที่นี่ให้ฟัง เธอแกล้งทำเป็นฟังอย่างสนใจมาก
ช่วงนี้ท่าทางของเซี่ยชีหรั่นไม่ดีมาตลอด ผอมลงไปเยอะ หมดเรี่ยวแรงไปอัตโนมัติ
หลี่เหอไท้กลัวเธอเหนื่อย เขาจัดกำหนดการเดินทางช้ามา ใช้คำพูดเขาพูด จะพาเธอไปเที่ยวให้อย่างสุดๆ
พวกเขาอยู่ที่ เมลเบิร์นสองสามวัน ช่วงเวลาที่เขาพาเธอไปมหาลัย เมลเบิร์น
บางครั้งบางคราวเซี่ยชีหรั่นก็จะรู้สึกเหมือนมีใครจับจ้องเธอ เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร จะหันไปมองก็เหมือนจะไม่เห็นหน้าใครที่รู้จัก
หลังจากถึงเมลเบิร์น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายครั้ง
บางทีเธอก็คิดสับสนขึ้นมา หรือว่าเย่เชินหลินจะไม่ไว้ใจ ตามเธอมาที่ออสเตรเลีย
จากนั้นเธอก็ปฏิเสธความคิดของตัวเอง ถ้าเขาเป็นห่วงเธอจริงๆ คงไม่ใช้เวลานานขนาดนี้หรอก นี่เขาไม่ปรากฏตัวเลยสักครั้งเดียว
เธอรู้จักเขาดีขนาดนั้น ถ้าเขาอยู่ใกล้ๆจริง เธอคงเห็นเงาของเขาได้ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว
หรือไม่ก็อาจเพราะคิดถึงมากไป ถึงได้จินตนาการเพ้อฝันไร้สาระ
วันนี้เธอกับหลี่เหอไท้กินข้าวที่ร้านอาหาร ตอนที่หลี่เหอไท้ไปห้องน้ำ เธอรู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองเธอ
เธอมองไปตามที่รู้สึกถูกมอง เห็นโต๊ะที่นั่งห่างไปสองถึงสามโต๊ะมีผู้ชายนั่งอยู่คนนึง
ดวงตาที่ดูลึกลับของชายคนนั้นจ้องมองมาที่เธอ และหัวใจของเธอก็ตื่นตกใจเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูกเธอเคยเห็นชายคนนี้สองครั้ง เขาเป็นลูกครึ่งที่ให้บ้านเธอ
เขาเคยพูด พวกเขาจะต้องได้เจอกัน ยังพูดอีกว่าที่ติดหนี้เขาเธอต้องคืน
หรือว่าเขาจะไม่กระโดดหลายพันไมล์ข้ามมหาสมุทรเพื่อตามเธอไปหรือ? มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากจะบอกว่าบังเอิญ ก็คงจะเกินไป
เจ้าชายหย่าหลุนมองเซี่ยชีหรั่นสักพัก ก่อนหลี่เหอไท้กลับมา เขาก็ลุกขึ้นจากไป องครักษ์สองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาในตอนแรกตามมาติดๆ
“องค์ชาย ท่านตามเธอมาไกลขนาดนี้ ทำไมไม่คุยกับเธอสักประโยค? ทำไมคุณต้องหนีทุกครั้งที่เธอพบคุณล่ะ?” องครักษ์ถามเจ้าชาย เขากวาดสายตามององครักษ์อย่างเย็นชา พวกเขาเงียบไม่กล้าถามอีก
“องค์ชาย คืนนี้ท่านจะพักแรมที่เดิมไหม?”
“อืม”
“องค์ชายเชิญ” องครักษ์ทั้งสองใช้ภาษาฝานหลาย เจ้าชายหย่าหลุนขึ้นรถ บนรถยังมีบอดี้การ์ด องครักษ์ทั้งสองที่ตามเขาแต่แรกได้เข้าไปในรถด้านหลัง
“ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเจ้าชายตามจีบผู้หญิงขนาดนี้ ไม่แม้แต่พูดต่อหน้า นี่ต้องรอถึงเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายจะสนใจเขา?”
“ก็ใช่ไง แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสูงศักดิ์ หากเธอรู้จักตัวตนของเจ้าชายของเราเธอก็คงจะหวั่นไหว”
“คุณยังจำได้ใช่ไหม วันนั้นผู้ช่วยผู้หญิงคนนั้นในเมื่อกล้าเอาเครื่องดื่มสาดบนตัวของเจ้าชายพวกเรา ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีแต่ไม่รู้ตัว”
“วันนี้เธอเห็นเจ้าชายของพวกเรา เหมือนเห็นผีอย่างนั้น ฉันว่า ไม่ควรให้เจ้าชายของพวกเราลดตัวลงไปตามจีบเธอแล้ว”
“นายมีวิธีอะไร?”
“ฉันว่า…”องครักษ์อีกคนเข้าใกล้ข้างๆหูขององครักษ์อีกคน แล้วพูดเสียงเบาๆว่า
องครักษ์คนนั้นได้ฟังความเห็นของเขาจึงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “อย่างนี้ไม่ดีมั้ง เจ้าชายของพวกเราอาจได้ลดโทษ ถึงจะไม่ได้ลดโทษ แต่นายอย่าลืมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงของใคร เธอเป็นถึง….ของเย่เชินหลินแห่งบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป”
“นั่นคือเมื่อก่อน ตอนนี้พวกเขาเลิกกันตั้งนานแล้ว ช่วงเวลานี้พวกเราติดตามกับเจ้าชายเฝ้าสังเกตสะกดรอยผู้หญิงคนนั้น นานดูพวกเขาเคยเจอกันสักครั้งยัง?”
องครักษ์คนนั้นลังเลสักพัก พิจารณาว่าเจ้าชายที่เขามองว่าเป็นเทพเจ้านั้น ไม่มีความสำคัญต่อเซี่ยชีหรั่นเลย เขาก็ต้องการลงมืออย่างเด็ดขาดกับเธอ
แค่ทำให้เธอเป็นลม ส่งไปที่ที่เจ้าชายพักแรม…..
“ตอนนี้ข้างๆเธอยังมีหลี่เหอไท้ หลี่เหอไท้ก็ไม่ใช่คนเดียว ข้างกายเขายังมีบอดี้การ์ดที่อำพรางตัวอยู่ พวกเราลงมือนั้นไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
เห็นได้ชัดว่าผู้ดูแลที่เสนอนั้นไม่สนใจองครักษ์ของหลี่เหอไท้ เขาพูดอย่างเย็นชา “บอดี้การ์ดของเขาเป็นมืออาชีพกว่าพวกเราไหม? อย่าลืมการฝึกฝนของพวกเรา อีกอย่าง เรื่องนี้ยังไม่รีบร้อน แน่นอนเรายังต้องลดรัศมีคนรู้ความลงมือตอนที่หลี่เหอไท้ไม่อยู่”
หลี่เหอไท้กลับออกมาจากห้องน้ำ เห็นเซี่ยชีหรั่นสีหน้าท่าทางแปลกๆ
“เป็นอะไร?” เขาถาม
ครั้งที่แล้วเซี่ยชีหรั่นอยากเอาเรื่องของผู้ชายลึกลับบอกกับหลี่เหอไท้ ต่อมาคิดๆแล้วก็รู้สึกกลัวว่าเป็นตัวเองที่คิดเยอะไปเลยไม่ได้พูด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset