สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 868 สาวใช้ตัวแสบ 772

ตอนที่ 868 สาวใช้ตัวแสบ 772
สายตาของเขามีเสน่ห์อย่างมาก เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถูกเขาทำให้หลงใหลตั้งแต่แรกแล้ว คิดๆดูยังไงตัวเองก็เป็นถึงองค์หญิง จะบีบบังคับคนอื่นทั้งๆที่คนอื่นก็พูดแล้วว่าเหนื่อยคงไม่ดี
“ได้ ตามใจคุณ แกะน้อยของฉัน”
“องค์หญิงรอสักครู่ ผมไปอาบน้ำก่อนแล้วจะมาทานอาหารเช้าเป็นเพื่อน” เย่เชินหลินพูดเสร็จ แล้วก็เดินออกไป ก่อนไปใบหน้าของเขายังคงยิ้มตลอด
ครั้งนี้ท่าทีเขาที่เผชิญหน้ากับเธอไม่เหมือนครั้งก่อนตอนที่อยู่ฝานหลาย เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยสามารถรู้สึกได้
เขาเป็นผู้ชายคนแรกและเป็นคนเดียวที่เธอไม่สามารถควบคุมได้นับแต่เธออายุครบสิบหกเป็นต้นมา การเอาชนะเขาได้ จึงทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจมาก
แน่นอน ยังต้องรอให้พวกเขาได้เป็นกายเดียวกันก่อน เธอถึงจะรู้สึกภาคภูมิใจได้อย่างแท้จริง
หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว เย่เชินหลินก็ส่งเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยกลับไปยังห้องรับแขกสุดหรูห้องนั้นของเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน และพูดกับเธอว่า “องค์หญิง ผมมีความคิดอย่างหนึ่ง อยากหาสถานที่ที่มีแต่เราสองคน ผมไม่ชอบเวลาแสดงความรักต่อกันแล้วมีคนมากมายมารบกวน สถานที่นี่ผมก็คิดไว้แล้ว นั่นก็คือภูเขาไฉ่หวินที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเลสูงสุดของมณฑลตงเจียง ผมคิดว่าคืนนี้เราสองคนไปกลางเต้นบนยอดเขา แน่นอน องค์หญิงเข้าออกมักมีองครักษ์ตามอารักขามากมาย คงไม่กล้าไปกับผมกระมัง หากองค์หญิงไม่กล้าไป ผมก็เข้าใจ แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างชอบผู้หญิงที่มีความกล้าหาญ”
“ไปกางเต้นเป็นการส่วนตัวบนเขา?” เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถามอย่างสงสัย คิดถึงตัวเองมีความฝันแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เสด็จพ่อก็เคยจัดให้เธอ แล้วก็เหมือนอย่างที่เย่เชินหลินพูด ตอนนั้นมีผู้ติดตามเยอะมาก กางเต้นเต็มพื้นที่ไปหมด แล้วเต้นของเธอถูกล้อมให้อยู่ตรงกลาง
เธอไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้น คาดหวังที่จะได้กางเต้นอยู่ด้วยกันสองคนมากกว่า
โดยเฉพาะเธอคาดหวังอยากที่จะทำให้ตัวเองเป็นที่เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างในใจผู้ชายที่เธอชอบ เธอจะไม่มีทางทำให้เย่เชินหลินคิดว่าเธออ่อนแอ
“ใช่ผม” เย่เชินหลินพูด
“ได้ ฉันยินดีมาก แค่เราสองคน ไม่เอาผู้ติดตามไปสักคน”
เย่เชินหลินอมยิ้ม เดินก้าวไปข้างหน้า โอบกอดเอวของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย แล้วกระซิบพูดข้างหูเธอว่า “ผมจะไม่ทำให้องค์หญิงผิดหวัง”
หัวใจของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย เต้นรุนแรง เธอสามารถแยกแยะออกว่าการที่หัวใจเต้นตอนที่อยู่กับเย่เชินหลินแบบนี้ไม่เหมือนเวลาที่อยู่กับผู้ชายคนอื่น ผู้ชายคนอื่น เธอน่าจะชอบเพราะความต้องการของร่างกายมากกว่า ต่อให้กับหลี่เหอไท้ก็เหมือนกัน เย่เชินหลินสามารถพูดแบบนี้กับเธอ เธอก็รู้สึกมีความสุขที่สุดแล้ว มีความสุขเหมือนกับตอนที่ขโมยทานลูกกวาดตอนเด็กๆ
“ฉันรู้ว่าคุณแข็งแรงมาก และจะต้องมีฝีมืออยู่ไม่น้อย” มือของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยวางอยู่บนใบหน้าเย่เชินหลิน แค่แตะเพียงนิดเดียว เย่เชินหลินก็หลบอย่างไร้ร่องรอย
“ผมยังสู้รบเก่ง องค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย”
“ฉันรู้” เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยยิ้มพูด
ที่แท้เย่เชินหลินก็มีการเตรียมการไว้ ก่อนแล้ว เขาเตรียมชุดปีนเขาไว้ให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยชุดหนึ่งเหมือนดั่งเสกมายากล เหมาะสมกับขนาดรูปร่างของเธอพอดี และเป็นสีเสื้อคลุมกันลมที่เธอชอบกับรองเท้าปีนเขาต่างๆ
“องค์หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ผมก็จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
ไม่นาน เย่เชินหลินก็เปลี่ยนสวมชุดสำหรับไปปีนเขา
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเห็นสีฉูดฉาดบนร่างกายตัวเอง ส่วนเย่เชินหลินสวมชุดสีน้ำเงิน ทั้งสองคนไม่ใช่ชุดคู่กัน และก็ไม่ใช่สีเดียวกัน ทำให้เธอผิดหวังเล็กน้อย
“เป็นอย่างไรบ้าง? องค์หญิง?” เย่เชินหลินถาม
“ทำไมถึงไม่เป็นสีคู่กันล่ะ?” เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถามขึ้นมาตรงๆ เธอเคยเห็นรูปที่เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นไปในสถานที่ต่างๆด้วยกัน เห็นเขาชอบสวมชุดคู่กัน
เย่เชินหลินหัวเราะ พร้อมพูดว่า “ผมไม่อาจเอื้อมที่จะสวมชุดคู่กับองค์หญิง จะเป็นการล้ำเส้นเกินไป”
ไม่ว่ายังไงท่าทีของเขาก็ยังดี เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็จะไม่กัดเรื่องเล็กน้อยอย่างไม่ปล่อย
“ฉันจะประทับอยู่ที่ตงเจียงระยะหนึ่ง โอกาสที่เราจะได้สวมชุดคู่ยังมีอีกเยอะ วันนี้ไม่บังคับก็ได้” เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยพูด
“องค์หญิงพูดถูก” ท่าทีของเย่เชินหลินทำให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยรู้สึกว่า ขอเพียงเธอยืนยันที่จะสวมชุดคู่ร่วมกับเขา ยังไงเขาก็ตกลง
ทั้งสองคนเดินทางออกจากบ้านพัก ผู้ติดตามตามไปถึงแค่ตีนดอย เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยให้คนพวกนั้นรออยู่ที่ตีนดอย บอกว่าหากมีเหตุสุดวิสัยจะติดต่อพวกเขา
เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิตองค์หญิง พวกผู้ติดตามไม่กล้าตัดสินด้วยตัวเอง แต่ด้วยเพราะเป็นคำสั่งขององค์หญิงก็ไม่กล้าไม่เชื่อฟัง
ไม่มีหนทางแล้วจริงๆ คนที่เป็นหัวหน้าผู้ติดตามจึงโทรหาเสด็จพ่อขององค์หญิงเพื่อขอความเห็น สุดท้ายเสด็จพ่อของเธอก็พูดเพียงว่าให้ทำตามที่องค์หญิงต้องการก็พอ
แล้วก็เช่นนี้ เย่เชินหลินแบกเต้นแบกน้ำไปด้วยตัวเอง นอกจากนั้นพวกเขายังเตรียมอาหารเที่ยงกับอาหารเย็นมาจากบ้าน โดยใสไว้ในกล่องรักษาอุณหภูมิ เย่เชินหลินต้องแบกสัมภาระเยอะมาก
ตอนที่ขึ้นเขามาไม่มีผู้ติดตาม เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยขอช่วยเย่เชินหลินถือของ
“ขอบคุณองค์หญิง ไม่เป็นไร ของแค่นี้เองไม่มีปัญหา”
“มีกันแค่เราสองคนยังต้องเรียกองค์หญิงอะไรกัน คนอื่นได้ยินเข้าจะแปลกใจ” เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยพูดขึ้น
“คนอื่นฟังภาษาฝานหลายไม่รู้เรื่อง” เย่เชินหลินหัวเราะ
“ก็ถูก” เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็หัวเราะ
ตั้งแต่เธอเติบโตมา ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะมีโอกาส ได้ออกมาเที่ยวกับผู้ชายสองต่อสองแบบนี้ ไม่มีองครักษ์ติดตามสักคน พวกเขาเป็นเหมือนดังคู่รักธรรมดาทั่วไป
มองดูเงาหลังสูงใหญ่ของเย่เชินหลิน ยังมีสิ่งของเยอะแยะขนาดนั้นที่เขาแบกมาเพื่อเธอ เธอรู้สึกซาบซึ้งเหมือนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อยากดื่มน้ำไหม?” ปีนขึ้นมาได้สักพัก เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็มีเหงื่อไหลท่วมตัวแล้ว เย่เชินหลินหยุดฝีเท้า แล้วหยิบน้ำออกให้เธอ
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยดื่มน้ำไปนิดหน่อย แล้วก็เริ่มปีนเขากับเขาต่อ
ทั้งสองเดินๆหยุดๆ ชมวิวทิวทัศน์มาตลอดทาง เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเห็นคู่รักที่เดินทางมากับพวกเขาพวกนั้น ต่างก็กำลังถ่ายรูปตัวเอง ก็เกิดอยากถ่ายขึ้นมาด้วย จึงถ่ายรูปกับเย่เชินหลินไว้มากมาย
เย่เชินหลินยังคงดูแลเธอเป็นอย่างดี สิ่งที่เธอร้องขอ เขาแทบจะยินยอมทุกอย่าง
แม้กระทั่งตอนที่เธอเหนื่อยแล้วให้เขาแบก เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“ปล่อยฉันลงมาเถอะ แบบนี้ฉันรู้สึกเป็นห่วงคุณ” เย่เชินหลินก็ปล่อยเธอลงมา ทั้งสองจึงได้นั่งพักผ่อนอยู่บนหินด้านข้างทางสักพัก
เย่เชินหลินหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กออกมายื่นให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเช็ดเหงื่อ เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยกลับยื่นหน้าไปตรงหน้าเขาอย่างดื้อรั้น เพื่อให้เขาช่วยเช็ด
เขาหัวเราะบางเบา ไม่ได้ปฏิเสธกับสิ่งที่เธอต้องการ ผ้าเช็ดหน้าแต่บนใบหน้าของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย ในใจของเธอรู้สึกหวานซึ้งอย่างที่สุด
เธอยืนมือออกไปจับข้อมือของเย่เชินหลินไว้ เธอจ้องมองหน้าของเขายังกล้าหาญ มองตั้งแต่ระหว่างคิ้วของเขาไปจนถึงริมฝีปากบาง
ความหมายของเธอชัดเจน เธออยากที่จะจูบกับเขา นี่เป็นการจูบที่เธอรอคอยอย่างที่สุด
เย่เชินหลินยื่นมือโอบกอดคอของเธอ ริมฝีปากกำลังจะแตะริมฝีปากของเธอ แล้วก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงกรีดร้องขึ้นว่า “อ้า เหมือนมีงู”
“รีบไป” ท่าทีเย่เชินหลินเคร่งขรึม รีบก้มลงอุ้มเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยแล้วรีบเดินขึ้นไปบนเขา
เดินไปสักพักหนึ่งแล้วเขาค่อยปล่อยเธอลงมา เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็ตกใจ สีหน้าขาวซีดขึ้นมาทันที
“ไม่ต้องกลัว ผู้หญิงคนนั้นอาจจะดูผิดก็ได้” เย่เชินหลินพูดขึ้น เขาเพิ่งพูดเสร็จ แล้วก็เห็นผู้หญิงที่กรีดร้องเมื่อกี้เดินจูงมือขึ้นมากับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายพูดขึ้นอย่างรักใคร่ว่า “ดูเธอสิ ตัวเองทำให้ตัวเองตกใจ ท่อนไม้ท่อนหนึ่งเธอก็เห็นว่าเป็นงู”
ผู้หญิงคนนั้นแลบลิ้น แล้วพูดว่า “ฉันก็แค่ตั้งใจที่จะลองดูความกล้าของคุณเท่านั้น”
ทั้งสองคนถกเถียงกัน ไม่ช้าก็เดินมาถึงตรงหน้าเย่เชินหลินกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย
เย่เชินหลินมองดูเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย แล้วก็หัวเราะ เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยหน้าแดง เธอรู้สึกว่าตนเองทำให้เย่เชินหลินเห็นด้านที่เธออ่อนแอไปเสียแล้ว
และในตอนนี้ เธอก็ตัดสินใจ ต่อให้เห็นงูแล้วจริงๆ เธอก็จะต้องทำเป็นไม่กลัว ต่อให้เกิดเหตุการณ์ที่อันตรายอีก เธอก็จะต้องกล้าเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ จะให้เขาดูถูกเธอไม่ได้
ภูเขาไฉ่หวินลูกนี้ไม่เสียทีที่ชื่อเขาไฉ่หวิน สูงมากจริงๆ เย่เชินหลินพาเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเดินหลงทาง ดังนั้นกว่าจะเดินมาถึงบนยอดดอย กลางเต็นท์เสร็จก็ค่ำแล้ว
ภายในเต็นท์มีไฟตะเกียง และยังมีผู้ชายที่แข็งแรงขนาดนี้อยู่ด้วย เจ้าหญิงหย่าฮุ่ย จึงไม่รู้สึกหวาดกลัว
ทั้งสองคนทานอาหารค่ำภายในเต็นท์เสร็จ เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว
“องค์หญิง” เย่เชินหลินเรียกขาน เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยมองดูเย่เชินหลินภายใต้แสงตะเกียง พูดขึ้นอย่างลุ่มหลงว่า “เรียกฉันว่าหย่าฮุ่ย”
“หย่าฮุ่ย…” เย่เชินหลินเรียกอย่างอ่อนโยน แววตาแบบนั้นของเขาทำให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยยิ่งรู้สึกใจแทบสลาย
เพราะเธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว ไม่อย่างนั้นจะต้องกระทำกับเขาอย่างดุเดือดสักครั้งแน่
“ปวดเมื่อยเท้ามากใช่ไหม? ผมเอาน้ำมันนวดมา ผมช่วยให้นวดองค์หญิง”
“อืม”
“จะช่วยฉันนวดจริงๆหรือ?” เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยแปลกใจ และก็ซาบซึ้งใจมาก เธอรู้ว่าเย่เชินหลิน ไม่ใช่คนที่จะทำดีกับคนอื่นไปเรื่อยแบบนั้น เขาเป็นคนที่หยิ่งมาก
เธอค่อนข้างคิดไม่ออกว่าทำไมเขาถึงมาทำดีกับเธออย่างกะทันหันแบบนี้ หรือว่าหลงเสน่ห์ของเธอแล้วจริงๆ?
หากใช่ แล้วทำไมเมื่อก่อนเขาไม่เป็นแบบนี้? หรือว่าในน้ำมันของเขามีปัญหาอะไร? เขามีแผนร้ายต่อเธอ?
หากเขาสนใจในร่างกายของเธอจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีแบบนี้ เธอไม่มีทางปฏิเสธที่จะเป็นกายเดียวกับเขาอยู่แล้ว
หากเขาอยากวางยาเธอ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ องครักษ์ของเธอล้วนอยู่ด้านล่าง และก่อนออกเดินทางเธอก็มีการป้องกันไว้ แม้แต่เสด็จพ่อของเธอก็รู้ว่าเธอขึ้นเขามากับเย่เชินหลิน หากเกิดอะไรขึ้น เย่เชินหลินจะเอาตัวรอดยังไง?
รู้ว่าเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยกำลังคิดอะไรอยู่ เย่เชินหลินจึงพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “องค์หญิงกำลังกลัวว่าน้ำมันของผมจะมีอะไรที่ไม่สามารถบอกใครได้หรือ? ผมจะลองทา หากผมไม่มีปัญหาอะไร แล้วองค์หญิงอยากทาค่อยทา ไม่อยากทาก็ไม่เป็นไร”
เย่เชินหลินเทน้ำมันลงบนมือ ดึงขากางเกงขึ้นมา แล้วถูกบนขาของเขาไปมาอย่างมากมาย
เขาดูเหมือนจะโกรธแล้ว เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยรู้สึกผิด บางทีเขาอาจจะหวังดี หรือว่าที่เขาดูแลเธอแบบนี้ เขามีจุดประสงค์อื่น ยังไงเธอก็เป็นองค์หญิง สิ่งที่เขาต้องการให้เธอช่วยใช่ว่าจะไม่มี

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset