สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 882 สาวใช้ตัวแสบ 786

ตอนที่ 882 สาวใช้ตัวแสบ 786
“ถ้าไม่อยากยิ้ม ก็ไม่ต้องยิ้ม” หลี่เหอไท้เอ่ย
“เปล่านี่คะพี่เหอไท้ ความจริงในใจฉันมีความสุขมาก จากสายตาที่เขามองฉัน ฉันดูออก ว่าเขาดีใจที่ฉันมา”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เซี่ยชีหรั่นก็ถอนหายใจเบาออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะพึมพำลำพัง“เพียงแต่เวลาน้อยเกินไปแล้ว ฉันยังไม่ทันได้ถามเขาเลยว่าเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม เวลาส่วนใหญ่ของเขามักอยู่ที่ฝานหลาย เขาชินกับอาหารการกินของที่นั่นไหม กลางคืนนอนหลับสบายดีไหม ฉันรู้สึกว่าเขาผอมลงไปมาก ไม่รู้เลยจริงๆว่าพอจะทำให้เพื่อเขาได้บ้าง ให้เขาสุขสบายยิ่งขึ้น และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จึงจะสามารถยุติชีวิตแบบนี้ลงได้”
“เขาบอกว่าใกล้แล้ว”หลี่เหอไท้มองเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน ขณะที่กำลังขับรถอยู่ก็ได้ยื่นมือข้างหนึ่งมายีผมเซี่ยชีหรั่นเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ
“เขาบอกว่าใกล้แล้วจริงๆหรือ”
“อืม ฉันเชื่อว่าเขาพูดแบบนี้ ก็แสดงว่ามันใกล้จบแล้วจริงๆ เธออดทนอีกนิดนะ อีกไม่นานพวกเธอก็จะได้อยู่ด้วยกันทุกวันแล้ว เธอไม่ต้องเป็นห่วงเขาขนาดนี้แล้ว”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า“ค่ะ”
“สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำให้เขาได้ในขณะนี้ก็คือใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข คนของเขายังคอยติดตามเธออยู่นะ รับรองว่าต้องส่งพวกรูปภาพและคลิปวิดีโอของเธอให้เขาแน่นอน”
“ทราบแล้วค่ะ พี่เหอไท้ ฉันก็แค่รู้สึกถอดถอนใจเฉยๆ ไม่รู้ว่าจะได้เจอเขาอีกเมื่อไหร่”
เมื่อกลับถึงบ้าน เซี่ยชีหรั่นก็ได้สงบสติอารมณ์ลงแล้ว
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน เธอพยายามยิ้มสุดชีวิต แต่เมื่อถึงเวลากลางคืนเธอก็จะยิ่งคิดถึงเขามากยิ่งขึ้น
เธอยังคงยืนเซ่ออยู่หน้าหน้าต่าง มองไปยังทิศทางคฤหาสน์ของเย่เชินหลิน
สองสามวันนี้เธอไม่เห็นข่าวการพลอดรักของพวกเขาทั้งสองแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่คฤหาสน์ของเย่เชินหลิน หรือว่าเย่เชินหลินตามเธอไปฝานหลายแล้ว
เธออยากให้ข่าวสารของพวกเขาออกตามสื่อต่างๆ อย่างน้อยเธอก็จะได้รู้ผ่านสื่อว่าตอนนี้คนรักอยู่ที่ไหน
หลี่เหอไท้ดูออก ถึงแม้บนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นจะมีรอยยิ้ม แต่หลังจากที่เธอพบเย่เชินหลิน อารมณ์ของเธอก็ไม่ได้ดีเหมือนช่วงก่อนหน้านี้แล้ว
เขารู้สึกโกรธตัวเองเหลือเกินที่ไม่สามารถแทนที่คนคนนั้นได้ หากเขาสามารถแปลงร่างได้ ให้เขาแปลงร่างเป็นเย่เชินหลิน ทำให้เซี่ยชีหรั่นมีความสุขขึ้นมาบ้าง เขายินดีทำแน่นอน
“ชีหรั่น ฉันมีบ้านพักตากอากาศติดทะเลสาบนอกเมืองอยู่หลังหนึ่ง ที่นั่นในฤดูหนาวอากาศจะอบอุ่น ฤดูร้อนอากาศจะเย็น ใกล้จะถึงวันตรุษจีนแล้ว ในเมืองจะค่อนข้างวุ่นวาย เราไปพักที่นั่นกันสักสองวันเถอะ”หลี่เหอไท้
เซี่ยชีหรั่นเข้าใจในความหวังดีของหลี่เหอไท้ และอีกอย่างสองวันนี้จ้าวเหวินอิงที่ตั้งใจจะเยี่ยมพ่อแม่ของเธอก็ไม่ได้ไป ก็เพื่อเธอ เซี่ยชีหรั่นคิดว่า หากเธอไปกับหลี่เหอไท้ แม่และเสนาธิการหลี่ก็จะทำอะไรๆสะดวกยิ่งขึ้น
เธอจึงได้ตอบตกลงไปทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ หลังจากนั้นสองสามวัน เธอก็ออกเดินทางไปกับหลี่เหอไท้
หลี่เหอไท้ขับรถไปเอง และด้านหลังยังมีรถตามติดมาอีกสองคัน คันหนึ่งคือคนที่เย่เชินหลินส่งมาดูแลอารักขาเซี่ยชีหรั่น ส่วนอีกคันหนึ่งคือบอดี้การ์ดของหลี่เหอไท้เอง
ถึงแม้ว่าบ้านพักจะไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่ก็มีห้องนอนเป็นจำนวนมาก คนพวกนี้สามารถเข้าพักที่นี่ได้ทั้งหมดเลย
เซี่ยชีหรั่นมองทะเลสาบที่สงบนิ่ง จิตใจของเธอก็ค่อยๆสงบลง เหมือนอย่างที่หลี่เหอไท้หวัง
เขาเองก็ไม่ได้ไปรบกวนอะไรเธอ ยามที่เธอต้องการคนเคียงข้าง เขาก็อยู่เคียงข้างเธอ มองดูทะเลสาบไปกับเธอ
ยามที่เธอไม่ต้องการ เขาก็ไปจัดการเรื่องงานที่ต้องทำ
ในเวลาเจ็ดโมงเช้า หลังจากที่เย่เชินหลินร่วมทานอาหารเช้ากับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเอ่ยขึ้น“เย่ ลูกน้องได้จัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้เรียบร้อยแล้ว เราจะกลับฝานหลายตอนแปดโมง คุณมีปัญหาอะไรไหม”
“ไม่มี”
เย่เชินหลินเองก็รอที่จะไปฝานหลายเช่นกัน เขาเตรียมการไว้พอสมควรแล้ว ไปฝานหลายอีกครั้งหนึ่ง เขาก็สามารถแตกหักกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยได้แล้ว
ส่วนเรื่องเด็ก ก็ไม่จำเป็นที่เขาต้องจัดการด้วยตนเอง
ถึงตอนนั้นเขาก็สามารถบอกความจริงแก่เจ้าหญิงหย่าฮุ่ย จะเก็บเด็กไว้หรือไม่ ก็สุดแล้วแต่เธอจะตัดสินใจเอง
อาจเพราะต้องการที่จะเอาชนะมาก บวกกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยก็เจ้าเล่ห์มาก ไม่มีพิรุธเลยสักนิด เพราะฉะนั้นจนขึ้นเครื่องไปแล้ว เย่เชินหลินก็ไม่รู้ว่าเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยแอบทำอะไรลับหลังไว้ เตรียมการอะไรไว้
เครื่องบินออกบินจากสนามบินนอกเมือง บินทะยานผ่านม่านเมฆ เข้าสู่ระดับการบินปกติ มุ่งตรงไปยังประเทศฝานหลาย
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยและเย่เชินหลินต่างนั่งอยู่บนโซฟาคนละตัว เย่เชินหลินเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน“ถ้าเหนื่อย ก็นอนพักเถอะ”
“ฉันไม่เหนื่อย วันนี้ฉันอารมณ์ดีเป็นพิเศษ”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยมองหน้าเย่เชินหลิน พลางกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม
ตั้งแต่เล็กจนโตผู้ชายคนนี้คือผู้ชายที่เธอหลงใหลที่สุด นึกไม่ถึงว่าเมื่อคนเราหลงใหลอะไรมากๆก็จะหลงจนลืมความตั้งใจไป สูญเสียความเป็นตัวเองไป
และเธอก็คว่ำข้าวเม่าเพราะตัวผู้ชายคนนี้มากที่สุดเช่นกัน แต่แน่นอน วันนี้เธอจะทำให้เขาล้มหน้าคว่ำอย่างไม่เป็นท่ายิ่งกว่า
หลังจากที่เครื่องบินบินไปได้สักพักใหญ่ๆ เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยคาดว่าคงบินผ่านเมืองตงเจียงไปแล้ว
คิดว่าตอนนี้ลูกน้องของเธอน่าจะพบตัวเซี่ยชีหรั่นแล้ว และจ่อกระบอกปืนไว้บนศีรษะของเธอ เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยปกปิดความรู้สึกตื่นเต้นในใจแทบไม่อยู่
เธอชนะแล้ว
ชัยชนะเช่นนี้ เธอควรจะแบ่งปันให้แก่ผู้ชายตรงหน้าคนนี้
หลังจากที่พูดคุยกับเธอไป เย่เชินหลินก็ตกอยู่ในภวังค์ เขาไม่ได้มองเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย และไม่ได้มองทิวทัศน์ด้านนอกด้วย แต่หลับตานั่งพิงอยู่บนโซฟาหนังแท้ ราวกับได้หลับใหลไปแล้ว
เขากำลังครุ่นคิดอยู่ ว่าแผนการทั้งหมดของเขามีข้อบกพร่องตรงไหนไหม จะสามารถจัดการเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยและเจ้าชายหย่าหลุนที่มาระรานเขาและเซี่ยชีหรั่นทีเดียวอย่างเด็กขาดเลยได้ไหม
ขณะนั้นเอง เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยลุกขึ้นยืน เดินมาตรงหน้าเขา เอ่ยถามเขายิ้มๆ“ไม่ดูทิวทัศน์ข้างนอกหน่อยเหรอ”
“ไม่มีอะไรน่าดู”เย่เชินหลินหลับตาเอ่ยตอบ
“งั้นหรือ แต่ฉันว่ามันน่าดูมาก จะว่าไป ท้องฟ้าสีฟ้าก้อนเมฆสีขาวแบบนี้ แสดงแดดอ่อนโยนสวยงามแบบนี้ ดูไปก็เหมือนโลกที่บริสุทธิ์ไร้มลทินจริงๆ แต่น่าเสียดาย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้เชยชมสิ่งเหล่านี้ สำหรับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว และคนที่กำลังจะเสียชีวิต คิดอยากจะชมทิวทัศน์แบบนี้สักนิด ก็เกรงว่าไม่มีโอกาสแล้ว ”
เย่เชินหลินรู้สึกว่าคำพูดพวกนี้ของเธอประหลาดไม่น้อย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ลืมตาขึ้นมา ถามเธอ“คนที่เสียชีวิตไปแล้ว และคนที่กำลังจะเสียชีวิตอะไรกัน”
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยฉีกยิ้มอย่างประหลาด ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เย่เชินหลิน นายมันไอ้คนหลอกลวง นายขโมยหัวใจฉันไปแล้ว และยังให้ไอ้คนชั้นต่ำมาร่วมหลับนอนกับฉันแทนนายอีก ในใจนาย ฉันคือคนที่โง่มากใช่ไหม”
แย่แล้ว
เธอรู้แล้ว
สิ่งแรกที่เย่เชินหลินนึกถึงก็คือเซี่ยชีหรั่น ที่เธอพูดว่าไม่ได้ชมทิวทัศน์อะไรอีก ต้องหมายถึงเซี่ยชีหรั่นแน่ๆ
“คุณทำอะไรเซี่ยชีหรั่น”เย่เชินหลินร้องคำราม พร้อมกับมือใหญ่ที่ยื่นออกไป บีบคอเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเอาไว้ อย่างที่เขาเคยจินตนาการนับครั้งไม่ถ้วน
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที พลางดวงตาก็แดงก่ำขั้นมาทันที
เธอรู้ ว่าเขาแคร์ผู้หญิงคนนั้นมากเกินไป
หากเขาไม่วู่วามขนาดนี้ หากเขายังมีความรู้สึกดีๆกับเธออยู่บ้างแม้เพียงเศษเสี้ยว หากเขาก็รักเธออยู่บ้าง เธออาจจะพิจารณาที่จะไว้ชีวิตเขา
เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอทำอะไรเซี่ยชีหรั่นไป ก็เข้ามาบีบคอเธอไว้ โดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเธอคือคนท้อง มันทำให้เธอรู้สึกโกรธเกลียดจนถึงขีดสุด
“เป็นไรล่ะ นายลองทายดู ทันทีที่เครื่องบินออกบิน สมองของเธอก็จะระเบิด ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยแค่ไหน……ฮาๆๆๆ เมื่อถูกยิง ก็ไม่สวยแล้ว”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยถูกบีบคอเอาไว้ เสียงหัวเราะที่ดังออกมาจึงฟังดูน่าเกลียดมาก
เย่เชินหลินเลือดขึ้นหน้าทันที เขาออกแรงบีบยิ่งขึ้น จนข้อนิ้วดังกรอกแกรก
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยใบหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที เนื่องจากขาดออกซิเจน เกิดไอแค่ก…แค่กขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่
“เธอรีบสั่งให้พวกมันหยุดเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้”เย่เชินหลินคำรามอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เนื่องจากเขาวู่วามเกินไป เพราะคิดว่าต่อไปอาจไม่ได้พบหน้าหญิงสาวอันเป็นที่รักของเขาอีก หัวใจของเขากำลังสั่นเทา ความหวาดกลัวอันไร้ขีดจำกัดได้เข้ามาครอบงำเขาไว้
หย่าฮุ่ยบ้าเอ้ย หากเธอฆ่าผู้หญิงของเขาจริงๆ เขาจะทำให้เธอตายอย่างทุกข์ทรมานอย่างที่สุด
เขาจะผลักเธอลงจากเครื่องบิน ให้ร่างของเธอไม่เหลือชิ้นดี
“กลัวงั้นหรือ ฉันไม่มีทางสั่งให้พวกมันหยุด ไม่มีทาง”สีหน้าของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิด
เธอโกรธมาก จนลืมความกลัวไปแล้ว
ณ ขณะนี้ ทุกวินาทีของเซี่ยชีหรั่นถือว่าสำคัญมาก เย่เชินหลินไม่มีเวลามาเจรจาต่อรองอะไรกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย
เขาปล่อยมือข้างหนึ่งออก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า โทรศัพท์ได้ถูกเขาตั้งไว้เป็นโหมดเครื่องบิน
ตอนนี้ เขาได้กดเปิดสัญญาณโทรศัพท์ แต่กลับพบว่าไม่มีสัญญาณเลย
เนื่องจากตอนนี้เขาควบคุมเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว แรงบนมือจึงเบาลงไปมาก เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยจึงสามารถพูดได้อย่างปกติ
“เย่เชินหลิน นึกไม่ถึงล่ะสิ ผู้หญิงที่นายคิดว่าโง่ที่สุด ก็มีเวลาที่ฉลาดเหมือนกัน ฉันจะบอกให้ ก่อนที่เครื่องบินจะออกบิน ฉันก็ได้สั่งให้คนเตรียมเครื่องตัดสัญญาณไว้แล้ว ตอนนี้โทรศัพท์ของทุกคนบนเครื่องไม่สามารถติดต่อโลกภายนอกได้ ฮ่าๆๆ เย่เชินหลิน เสียใจมากล่ะสิ ที่ให้คนอื่นขึ้นเตียงกับฉัน การที่ผู้หญิงของนายเกิดเรื่อง นายจะโทษใครไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวนายเอง”
ร้อนใจ โกรธแค้น หากไม่ใช่เพราะสภาพจิตใจของเขาเข้มแข็งพอ ไม่อย่างนั้นป่านนี้เขาคงบ้าไปแล้ว
เย่เชินหลินกระชากเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไว้อีกครั้ง บีบคอเธอไว้แน่น เอ่ยเสียงทุ้ม“ใครอยู่ข้างนอก”
เมื่อพนักงานบนเครื่องได้ยินคนเรียก ก็รีบเปิดประตูเข้ามา และพบภาพเย่เชินหลินบีบคอเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นตกใจจนหวีดร้องขึ้น
“อ๊าก นาย บังอาจนัก อยากตายหรือไง”เธอตะโกนเป็นภาษาฝานหลาย
เย่เชินหลินส่งสายตาพิฆาตไป พลางมือของเขาก็ไม่หยุดที่จะเพิ่งแรงบีบบนคออันเรียวเล็กของเจ้าหญิงหย่าฮุ่ย
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยดวงหน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว ไอแค่ก..แค่กไม่หยุด
“ไปสั่งให้กัปตันเครื่องบินย้อนกลับไปเดี๋ยวนี้”เย่เชินหลินสั่งเสียงทุ้ม
จิตใจของเขาก็วุ่นวายไปตั้งนานแล้ว เขากำลังพยายามบังคับให้ตนเองสงบอยู่
เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเป็นบ้าไปแล้ว เธอไม่กลัวตาย แต่เขากลัวผู้หญิงของเขาตาย
“ห้ามฟังเขา”เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยเอ่ยพูดประโยคนี้ออกมาอย่างยากลำบาก
ตอนนี้เธอเพียงคิดว่าต่อให้ต้องตายไปพร้อมกับเย่เชินหลิน เธอก็ไม่มีวันปล่อยให้เขาและเซี่ยชีหรั่นเสวยสุขเด็ดขาด
แม้นว่าพนักงานบนเครื่องจะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset