สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 887 สาวใช้ตัวแสบ 791

ตอนที่ 887 สาวใช้ตัวแสบ 791
หากไม่ใช่เพราะอาการของเย่เชินหลินสาหัสมากเกินไป เธอก็คงไม่ปฏิบัติเช่นนี้ต่อเซี่ยชีหรั่นหรอก
แต่ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้อาการของเย่เชินหลินจะร้ายแรงเพียงใด เขาก็ไม่อยากเห็นใครพูดแบบนี้กับเซี่ยชีหรั่น
เขารีบสาวเท้ายาวเข้าไป แต่เซี่ยชีหรั่นกลับมองหน้าหลินต้าฮุยนิ่ง ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ“นายให้เธอพูดเถอะ เธอบอกว่าฉันไม่รู้อะไรเลย ฉันอยากรู้ว่ายังมีเรื่องอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีก”
เซี่ยชีหรั่นในขณะนี้กลับดูสงบขนาดนั้น หากไม่ใช่เพราะใบหน้าที่ซีดเซียวเกินไป จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ว่าเธอไม่สนใจอาการของเย่เชินหลิน
เธอสงบ ก็เพราะเธอคิดได้แล้ว
หลินหลิงพูดถูก หากเย่เชินหลินตาย เธอก็จะตายตามเขาไป
ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถอยู่เคียงข้างกันโดยมีชีวิต ก็ขอตายไปอยู่ด้วยกันตลอดไป ตอนนี้เธอมีความสุข เธอจะไม่ร้องไห้ และไม่คิดมาก เย่เชินหลินต้องไม่อยากเห็นเธอเป็นทุกข์และคิดมากแน่ๆ
ท่าทางของเซี่ยชีหรั่นทำให้หลี่เหอไท้และไห่ลี่หมินปวดใจเหลือเกิน พวกเขาทั้งสองคนต่างก็จะไปขัดขวางหลินหลิง ซึ่งแน่นอนว่าหลินหลิงก็สังเกตเห็นถึงท่าทางของพวกเขาแล้ว
มีผู้ชายมากมายขนาดนี้ชอบเธอ ต่อให้เย่เชินหลินเสียชีวิตไป เธอก็ไม่เสียใจมากเท่าไหร่หรอก เธอคงจะเช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็วและแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นไป
หลินหลิงรู้สึกไม่พอใจแทนเย่เชินหลิน
ตอนที่เย่เชินหลินไปออสเตรเลีย หลินหลิงเคยถามเขา ว่าทำไมไม่บอกเรื่องของเย่เจิ้งเหิงให้เซี่ยชีหรั่นไปเลย เขาบอกว่าเดี๋ยวเซี่ยชีหรั่นจะกังวลเรื่องเด็ก เขาไม่อยากให้เธอเป็นกังวล
นึกถึงคำพูดนั้นของเย่เชินหลิน และหันมามองดูผู้คนมากมายที่เป็นห่วงเซี่ยชีหรั่น หลินหลิงสติแตกอีกครั้ง
“เซี่ยชีหรั่น เย่เจิ้งเหิงเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด ร้องไห้ไม่ได้ เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ทุกเมื่อ”หลินหลิงพูดเสียงดังขึ้น เธอจะให้ทุกคนได้รับรู้ เธอไม่อยากเห็นใครเข้าใจเย่เชินหลินผิดอีก
พวกเขาคงรู้สึกว่าเขาประหลาดสินะ รู้สึกว่าทำไมเขาถึงได้ยอมทำอะไรประหลาดๆเพื่อผู้หญิงที่ไม่คู่ควรอย่างส้งหลิงหลิงทุกวัน
“เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ทำไมเขาไม่บอกฉัน”
“เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะเขากลัวเธอจะเป็นห่วงลูกมากเกินไป กลัวเธอเป็นห่วงเขาไงล่ะ เขาช่างโง่จริงๆ หากเธอรักเขาจริง เธอจะทิ้งเขาไปแบบนี้ได้ยังไง ตกลงส้งหลิงหลิงทำอะไรลงไป เธอถึงได้ยอมให้เขาอยู่ด้วยไม่ได้ หากไม่ใช่เพื่อเธอ เขาจำเป็นต้องไปตีสนิทกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยไหม เธอ…..”
“พอได้แล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว เขายังอยู่ระหว่างผ่าตัด อย่ามาทะเลาะกันที่นี่”ไห่ลี่หมินคว้าแขนหลินหลิงไว้ กระชากเธอออกมา ไม่ให้เธอเผชิญหน้ากับเซี่ยชีหรั่นโดยตรงอีก
หลินหลิงสติแตกไปตั้งนานแล้ว เธอจ้องหน้าไห่ลี่หมิน พร้อมกับแสยะยิ้มขึ้นอย่างเยาะเย้ย พลางเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น“นายก็มาด้วยหรือ นายมาดูว่าคุณเย่ของพวกฉันจะรอดไหมหรือ หากเขาตายไป นายก็จะได้รีบรับตัวเซี่ยชีหรั่นต่อใช่ไหม”
“เธอ”ไห่ลี่หมินขมวดคิ้วแน่น แทบอยากจะเข้าไปบีบคอหลินหลิงเหลือเกิน
เขาเพิ่งกลับมาจากหลินเจียง ก็มาหาเย่เชินหลินแล้ว เขาอยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง ระหว่างทางได้โทรศัพท์มาหาหลินต้าฮุย เมื่อได้รู้เรื่องที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็เกือบจะเป็นบ้าไปด้วยเหมือนกัน
นั่นคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขานะ คือเพื่อนที่ยอมสละชีวิตของเขาเพื่อตน ในเวลาคับขันได้ เขาจะยอมให้หลินหลิงมาตั้งคำถามแบบนี้กับเขาได้อย่างไร
“โปรดอยู่ในความสงบด้วยค่ะ”พยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกกับทุกคน
ทุกคนต่างสงบลง และมองไปยังไฟภายในห้องฉุกเฉิน
ทุกคนต่างเฝ้าภาวนาในใจ ขอให้เย่เชินหลินรอดพ้นปลอดภัย
“ชีหรั่น นั่งลงก่อนเถอะ โดยปกติการผ่าตัดแบบนี้ต้องใช้เวลานาน ”ไห่ลี่หมินเอ่ยต่อเซี่ยชีหรั่นเสียงเบา
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าอย่างไร้ความรู้สึก
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าโชคดีมาก ที่คราวที่แล้วเย่เชินหลินทำเป็นแตกหักกับพ่อแม่ของเขาเพื่อเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยในบ้านตระกูลเย่ เพราะเช่นนี้ ในช่วงนี้พ่อแม่ของเขาก็อาจจะไม่มาหาเขา
พวกเขาอายุมากขนาดนั้นแล้ว หากทราบเรื่องที่ลูกชายบาดเจ็บสาหัส พวกเขาต้องอยู่ไม่สุขแน่ๆ
เซี่ยชีหรั่นยังคงจ้องประตูห้องฉุกเฉินนิ่ง เฝ้ารออยู่ทุกวินาทีว่าจะเห็นเย่เชินหลินถูกเข็นออกมาจากด้านใน และเรียกเธอว่า“ชีหรั่นที่รัก”
เย่เชินหลิน ทำไมนายถึงได้โกหกเก่งขนาดนี้ เซี่ยชีหรั่นพร่ำพูดในใจ เธอยังจำเรื่องแกล้งรถคว่ำคราวนั้นได้ ทั้งๆที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่เขากลับบอกว่าเขาได้รับบาดเจ็บ
และเขายังบอกอย่างสร้างสรรค์อีกด้วยว่าบาดเจ็บตรงไหน คงเพราะไม่ต้องการให้ส้งหลิงหลิงเข้าใกล้เขาอีก เขาถึงได้จงใจโกหกไปแบบนั้น
และไหนจะเรื่องของเย่เจิ้งเหิงน้อยอีก เธอเคยถามเธอตั้งหลายหนว่าเด็กมีปัญหาอะไรหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่ยอมบอก ปิดบังเธอทุกครั้ง ทำให้เธอหลงเชื่อว่าเด็กไม่เป็นอะไรจริงๆ
เซี่ยชีหรั่น ทำไมเธอถึงได้โง่ขนาดนี้ ทำไมเธอถึงคิดไม่ได้ว่าหากเด็กไม่ได้เป็นอะไร เขามีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้ส้งหลิงหลิงออกไป
เย่เชินหลินยังบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดที่สุดในโลก ฉันว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โง่ที่สุดในโลกต่างหาก
เธอโง่มากจนเชื่อโม่เสี่ยวหนง เชื่อว่าส้งหลิงหลิงไม่ทำเรื่องร้าย แต่คนเดียวที่เธอควรจะเชื่อมากที่สุดอย่างเย่เชินหลิน เธอกลับเอาแต่สงสัยในตัวเขา
เธอเย็นชาขนาดนั้น บทจะจากไปก็จากไปเลย ตอนนี้ที่เขานอนหายใจรวยรินอยู่ในห้อง ก็เป็นฝีมือของเธอตุ๊กตาไม้
เซี่ยชีหรั่นเฝ้าโทษตัวเองไม่หยุด ทว่าบนใบหน้ากลับสงบนิ่งไร้ความรู้สึกใดๆ ยังคงจ้องประตูห้องฉุกเฉินนิ่งราวกับ
หลินหลิงได้ระบายทุกอย่างออกมาหมดแล้ว อารมณ์ของเธอก็ได้สงบสติลงแล้ว
เห็นเซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ตรงนั้นอย่างนั้น เธอก็เริ่มรู้สึกผิดที่ได้พูดกับเธอไปแรงขนาดนั้น หากเซี่ยชีหรั่นไม่รักเย่เชินหลิน เย่เชินหลินจะยอมเกิดและตายเพื่อเธอได้อย่างไร
หากคุณเย่รู้ว่าฉันต่อว่าผู้หญิงที่เขารักที่สุดไปอย่างนั้น เขาไม่มีทางขอบคุณฉันแน่ แต่เขาจะโทษฉัน
เธอทำตามคำสั่งมาโดยตลอด แต่ทำไมครั้งนี้เธอถึงได้วู่วามขนาดนั้นนะ
ไฟในห้องฉุกเฉินยังคงสว่างอยู่ ตราบใดที่ไฟยังไม่ดับ ก็แสดงว่าการผ่าตัดด้านในยังคงดำเนินอยู่ อย่างน้อยคณะแพทย์ก็ยังคงทำกันอย่างสุดความสามารถอยู่ ยังไม่ได้ยอมแพ้
และในขณะเดียวกัน การที่ไฟในห้องยังสว่างอยู่ ก็หมายความว่าเวลาในการผ่าตัดยังต้องยืดออกไป ยิ่งใช้เวลานานมากเท่าไหร่ ก็แสดงว่ายิ่งอันตราย
ทุกคนต่างลุ้นระทึกมาก หวังให้ไฟในห้องดับลง และในขณะเดียวการก็หวังให้ไฟในห้องสว่างต่อไป
และไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ทุกคนต่างเฝ้ารอโดยไม่ได้กินข้าวกินปลา ในที่สุด ไฟในห้องผ่าตัดก็ดับลงแล้ว
หัวใจของเซี่ยชีหรั่นลุ้นระทึกขึ้นมาอีกครั้ง วินาทีที่หมอออกมานั้น เธอแทบจะลืมหายใจไปแล้ว
“คุณหมอคะ ช่วยบอกฉันที ว่าเย่เชินหลินไม่ได้เป็นอะไร”เธอพุ่งเข้าไปราวกับคนบ้า กำชุดผ่าตัดของคุณหมอไว้แน่นพร้อมกับถามเขาด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
เธอได้เตรียมพร้อมที่จะร่วมเป็นร่วมตายกับเขาแล้ว แต่เธอก็ต้องหวังให้เย่เชินหลินมีชีวิตอยู่ต่อ เขายังมีพ่อแม่ และยังมีเย่เจิ้งเหิงน้อยที่กำลังป่วยอยู่
หากเธอไปกับเขา แล้วพ่อแม่ของเขาล่ะจะทำอย่างไร จะฝากให้ใครดูแล
“ใครคือญาติคนไข้ครับ”หมอขมวดคิ้วถามขึ้น
“ฉันค่ะ ฉันคือคนรักของเขา”เซี่ยชีหรั่นเอ่ย “ช่วยบอกฉันที ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร เขาต้องไม่เป็นอะไร”
หมอส่ายหน้าเบาๆ หัวใจของเซี่ยชีหรั่นหล่นลงไปในนรกทันที ส่ายหน้า หมายความอย่างไร
“ช่วยไว้ไม่ได้งั้นหรือคะ”เซี่ยชีหรั่นร้องถาม
ไห่ลี่หมินก็ยืนอยู่ข้างกายเซี่ยชีหรั่น เขากระชากคอเสื้อหมอเอาไว้ ตะคอกถามเขา“ช่วยไว้ไม่ได้จริงๆหรือ คุณรู้ไหมว่าเขาคือใคร เขาคือเย่เชินหลิน หากคุณรักษาจนเขาตายบนคุณ คุณรู้ไหมว่าจะเกิดผลอะไรตาม”
ไห่ลี่หมินไม่เคยใช้อำนาจข่มขู่ใครมาก่อน แต่ทว่าตอนนี้เขาเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ
เพื่อนของเขายังหนุ่มยังแน่นขนาดนั้น เขาจะจากไปแบบนี้ไม่ได้ เขาต้องฟื้นขึ้นมา
“ท่าน…ท่านหัวกรรมการบริหารไห่ครับ คุณปล่อยผมก่อน ผมไม่ได้บอกว่าช่วยไว้ไม่ได้”ปกติคุณหมอท่านนี้ก็ติดตามข่าวสารทางการเมืองอยู่ ดังนั้นจึงรู้จักไห่ลี่หมิน
งั้นก็แสดงว่าช่วยไว้ได้แล้ว
ทุกคนต่างพากันดีอกดีใจขึ้นมา ไห่ลี่หมินปล่อยมือออกจากคอเสื้อของเขา ก่อนจะเอ่ยถามเขาอย่างร้อนรนใจ“เขาไม่เป็นไรใช่ไหมๆ”
คุณตั้งใจจะส่ายหน้าอีกครั้ง แต่พอนึกได้ว่าหากเขาส่ายหน้าคนพวกนี้ก็จะทำอะไรบุ่มบ่ามอีก เขารีบเอ่ยขึ้น“เราได้นำกระสุนออกมาแล้วครับ กระสุนถูกยิงเข้าไปตรงหัวใจ ยังดีที่เขาเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย กระสุนจึงได้เอียงไปเล็กน้อย ไม่โดนหัวใจ แต่เนื่องจากระยะเวลาในการเดินทางนานเกินไป เขาเสียเลือดมากเกินไป ตอนนี้ยังหมดสติอยู่ อาการของเขายังโคม่าอยู่ ยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ เขายังต้องดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่ในห้องไอซียู หากเขาสามารถฟื้นขึ้นมาได้ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากเขาไม่ฟื้นขึ้นมา…..”
“เขาต้องฟื้นขึ้นมาแน่ เขาต้องฟื้น”เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างมั่นใจ แววตาของเธอจ้องหมออย่างดุดัน ราวกับไม่อนุญาตให้หมอพูดคำพูดข้างหลัง
“ครับ พวกเราเชื่อว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา”หมอเองก็พูดเช่นนี้
จากนั้น เย่เชินหลินก็ถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด เซี่ยชีหรั่นมองใบหน้าที่ซีดเผือดนั้นของเขา เธอรู้สึกปวดใจจนพูดอะไรไม่ออก
เธอวิ่งตามรถเข็นผ่าตัดไปตลอดทาง จนเย่เชินหลินถูกเข็นเข้าไปในห้องไอซีหนัก เธอจึงจำต้องชะงักเท้าลง
“ฉันอยากเข้าไปดูแลเขาข้างใน”เซี่ยชีหรั่นอ้อนวอนต่อหมอ
“ไม่ได้ครับ ห้องไอซียูเป็นห้องปลอดเชื้อโรค ตอนนี้เขายังอยู่ในอาการโคม่า ไม่สามารถอนุญาตให้คุณเข้าไปได้ครับ”คุณหมอเอ่ย ไห่ลี่หมินรั้งเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ ปลอบใจเธอ “อดทนรอก่อนเถอะ ให้ไอ้หมอนั้นรักษาตัวในนั้นอย่างสงบ ร่างของเขาแข็งกว่าวัวสักอีก ไม่เป็นอะไรแน่นอน”
“ใช่ เขาต้องไม่เป็นอะไรแน่ ฉันจะรอให้เขาฟื้นขึ้นมา”เซี่ยชีหรั่นเหมือนได้สติขึ้นมาแล้ว นัยน์ตาของเธอสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง
เธอหันมามองหลี่เหอไท้ที่อยู่ด้านหลัง เอ่ยเสียงเบา“พี่เหอไท้คะ พี่ไปห้างสรรพสินค้าเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะคะ ฉันจะไปซื้อแหวน ฉันจะขอเขาแต่งงาน ฉันจะแต่งงานกับเขา”
เมื่อเขาฟื้นขึ้นมา ฉันจะเป็นเจ้าสาวของเขา หากเขาไม่ฟื้นขึ้นมาตลอดชีวิต ฉันก็ยังจะเป็นเจ้าสาวของเขา หากเขาอยู่บนโลกใบนี้ ฉันจะอยู่เคียงข้างเขา หากเขาไปอีกโลกหนึ่ง ฉันก็จะติดตามเขาไปด้วย
เย่เชินหลิน ฉันจะไม่ปล่อยมืออีก จะไม่ปล่อยมือคุณตลอดไป
“อื้ม”หลี่เหอไท้พยักหน้าเล็กน้อย ยื่นมือไปกำมือเซี่ยชีหรั่น พร้อมกับเอ่ยว่า “อื้ม ฉันไปซื้อแหวนเป็นเพื่อนเธอ ตอนนี้ฉันก็พอจะรู้รสนิยมของไอ้หมอนั่นแล้ว ฉันช่วยเธอเลือกแหวนให้เขา เขาต้องชอบแน่ๆ”
เมื่อหลินหลิงได้ฟังสิ่งเหล่านี้ น้ำตาของเธอก็ไหลรินลงมาเช่นกัน จุๆเธอก็รู้สึกว่าเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นช่างมีความสุขมากเหลือเกิน
หากมีใครรักเธอเหมือนอย่างที่เย่เชินหลินรักเซี่ยชีหรั่น เธอเองก็พร้อมที่จะร่วมเป็นร่วมตายกับเขาเช่นกัน
เธอมองไปยังไห่ลี่หมินโดยไม่รู้ตัว แต่ไห่ลี่หมินนั้นกลับกำลังจ้องมองเซี่ยชีหรั่นอยู่ ซึ่งมันทำให้หัวใจของหลินหลิงแตกสลายอีกครั้ง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset