สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 895 สาวใช้ตัวแสบ 799

ตอนที่ 895 สาวใช้ตัวแสบ 799
ส้งหลิงหลิงกัดฟันไว้ด้วยความโกรธ แต่เธอทำอะไรกับฟางลี่น่าที่ไม่เคารพเธอเหมือนก่อนไม่ได้
ความจริงแล้วเธอก็ฟังบทสนทนาของพวกเขาไม่ชัดเจนเหมือนกัน เธอได้ยินแค่คำว่า“ตรวจเช็ค”สองคำ ซึ่งสองคำนี้อาจจะเป็นคำพูดธรรมดาแต่สำหรับคนทำผิดแล้วก็อาจจะรู้สึกอ่อนไหวได้
“เธอช่วยไปหยิบผ้าอ้อมของคุณชายน้อยให้หน่อยสิ” เธอสั่งสาวใช้ที่กำลังคุยกับฟางน่าอย่างเงียบๆ
เมื่อเกี่ยวข้องกับตัวน้อยเย่เจิ้งเหิงแล้วสาวใช้ก็ไม่กล้าปฏิเสธคำสั่งนั้น เธอจึงรีบขานตอบ ได้ค่ะ คุณส้ง จากนั้นก็รีบไปทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ในห้องรับแขกเหลือเพียงส้งหลิงหลิงกับฟางลี่น่า รอยยิ้มบนใบหน้าของส้งหลิงหลิงก็ได้หายไปในทันทีและเธอถามฟางลี่น่าอย่างเย็นชาว่า “บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ว่าเมื่อกี้พวกเธอคุยเรื่องอะไรกัน”
“ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วย?” ฟางลี่น่าเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่มีความเกรงกลัวใดๆ
ความจริงเธออยากเตือนส้งหลิงหลิงว่าตอนนี้เธอไม่ใช่ลูกสาวของอดีตรองประธานส้งอีกต่อไปแล้ว นกที่บินไม่ได้ก็ไม่ต่างอะไรจากไก่เดินดิน ตอนนี้ตำแหน่งของเธออาจเทียบไม่ได้กับสาวใช้คนนี้ด้วยซ้ำ
ส้งหลิงหลิงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วโน้มตัวไปกระซิบข้างหูของฟางลี่น่า “ฉันจะบอกเธอนะว่าเพราะอะไร เพราะว่าขอเพียงฉันพูดคำเดียวเซี่ยชีหรั่นก็จะไม่เชื่อเธอเลย ส่วนเย่เชินหลินก็คงไม่ต้องพูดถึง! เธออาจพูดถูก ตอนนี้ฉันไม่มีอำนาจที่จะช่วยเธอในทางที่ดีได้ แต่อย่าลืมนะว่าฉันทำอะไรกับเธอได้บ้าง เธอก็เห็นๆ อยู่ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร เย่เชินหลินก็จะเก็บฉันไว้ที่นี่อยู่แล้ว เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะว่าฉันเป็นแม่ของลูกไง จำใส่สมองเลยนะว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องตายตัว”
ฟางลี่น่าสีหน้าเคร่งเครียดและทำอะไรไม่ถูกเลย เธอคิดย้อนไปถึงเมื่อก่อนที่ถูกส้งหลิงหลิงใช้งานเหมือนทาส ถ้าวันหนึ่งส้งหลิงหลิงคิดใส่ร้ายเธอจริงๆ เธอคงต้องถูกขับไล่ออกจากบ้านหลังนี้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดๆ แล้วเธอบอกกับตัวเองว่าให้อยู่กับความจริง ณ ปัจจุบันจะดีกว่า
“ก็ไม่มีอะไรหรอก เมื่อกี้ได้ข่าวว่าคุณเย่ให้หลินต้าฮุยตรวจสอบอะไรบางอย่างที่นี่ ฉันก็ได้ยินมาแค่นี้”
ส้งหลิงหลิงสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นเธอพูดต่อ “อ่อ คิดว่ามีเรื่องอะไรกัน ฉันเห็นพวกเธอกระซุบกระซิบกันคิดว่ามีเรื่องใหญ่ซะละ เขาจะตรวจอะไรก็ให้เขาตรวจไป เอาล่ะ เธอไปทำงานต่อเลย”
ก่อนที่ฟางลี่น่าจะหันเดินออกไปส้งหลิงหลิงก็หยุดเธออีกครั้งแล้วกระซิบเบาๆ “วันหลังมีเรื่องอะไรอย่าลืมบอกกันด้วยนะ”
ใครจะบอกเธอ วันหลังฉันจะอยู่ห่างเธอไกลๆ เลย ไม่งั้นเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าฉันสมรู้ร่วมคิดอะไรกับเธออีก
“จริงด้วย เธอช่วยฉันอุ้มลูกขึ้นไปข้างบนหน่อย ฉันเริ่มรู้สึกเมื่อยมือแล้ว” ส้งหลิงหลิงสั่งฟางลี่น่า
เนื่องจากพ่อบ้านเคยสั่งไว้ว่าคนใช้ทุกคนในบ้านต้องช่วยกันดูแลลูกชายของคุณเย่ ดังนั้นฟางลี่น่าจึงไม่กล้าปฏิเสธ แม้เธอจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่เธอก็จำต้องฝืนทำตามคำสั่งแล้วอุ้มเย่เจิ้งเหิงขึ้นไป
ดูเหมือนว่าเจ้าตัวน้อยเย่เจิ้งเหิงเริ่มชินกับผู้คนแล้ว เพราะมีสาวใช้ในบ้านหลายคนช่วยกันดูแล จึงทำให้เขาเคยชินกับการถูกคนไม่ซ้ำหน้าอุ้ม เมื่อฟางลี่น่าเข้ามาอุ้มเขา เขาไม่ได้แสดงความไม่พอใจใดๆ และยังนอนอยู่ในอ้อมแขนของเธออย่างสบายใจ
ฟางลี่น่าเห็นใบหน้าของเย่เจิ้งเหิงยิ่งโตยิ่งคล้ายเย่เชินหลินและเธอก็รู้สึกอิจฉามาก
หากเธอฉวยโอกาสมีลูกให้กับคุณชายได้ในตอนนั้น วันนี้เธอคงไม่จำเป็นต้องห่วงอีกครึ่งชีวิตหลังของเธอและไม่จำเป็นต้องมาทำงานแบบนี้หรอก
แต่คนอย่างฉันฟางลี่น่าชีวิตนี้จะมีสิทธิ์ได้ขึ้นเตียงกับคุณเย่ไหม
หรือว่าจะต้องแก่ชราไปแบบนี้?
ถ้าส้งหลิงหลิงไม่กังวลใจในตอนนี้บางทีเธออาจรู้ทันความคิดของฟางลี่น่าและใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างแน่นอน แต่ในเวลานี้เธอคิดถึงเพียงเรื่องของหลินต้าฮุยที่กำลังตรวจสอบอะไรอยู่
โดยปกติแล้วหลินต้าฮุยจะแวะมาที่นี่และออกไปทันที แต่วันนี้เขาอยู่นานกว่าปกติ นั่นหมายความว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่แน่นอน หรือว่าเขากำลังหาหลักฐานการเปิดเผยข้อมูลให้เจ้าหญิงหย่าฮุ่ยอยู่?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ส้งหลิงหลิงรู้สึกประหม่าและรู้สึกลางสังหรณ์เริ่มไม่ดี
ถ้าคนอย่างเย่เชินหลินจะหาหลักฐานอย่างจริงจัง เกรงว่าเธอคงไม่ได้จบสวยเหมือนสองเรื่องที่แล้วที่เธอก่อไว้อย่างแน่นอน
เพราะจุดจบของสองครั้งที่แล้วไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมายเหมือนครั้งนี้
แม้จะทำให้เขาและเซี่ยชีหรั่นต้องเลิกกัน ซึ่งตอนนั้นทั้งสองก็ไม่ได้มีอะไรมาก แต่ครั้งนี้เธอถึงขั้นทำให้เย่เชินหลินต้องบาดเจ็บ
เพราะความวิตกกังวลเธอจึงไม่กล้าอุ้มลูกขึ้นไปชั้นบนเอง ถ้าไม่ทันระวังจนทำให้เด็กหกล้มร้องไห้ขึ้นมาเธอคงไม่เหลือฟางเส้นสุดท้ายอย่างแน่นอน
เธอเดินไปคิดไปจนกระทั่งอาหารกลางวันก็ยังไม่เลิกกังวล ถ้าหากเขารู้ความจริงขึ้นมาเธอควรทำอย่างไร
เธอควรยอมรับหรือควรปฏิเสธ?
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเธอต้องใช้เด็กเป็นที่กำบังของเธอ
สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจก็คือเหมือนในบ้านจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แม้จะได้ยินเขาพูดกันแต่สถานการณ์ทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ
ความกังวลของเธอจึงค่อยๆ สงบลงอีกครั้ง และหลังเที่ยงเธอได้งีบหลับพร้อมไปกับเจ้าตัวน้อยเย่เจิ้งเหิง
แต่ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
“ใคร?” เธอถามอย่างกังวล
โดยปกติแล้วจะไม่มีใครรบกวนเวลาพักผ่อนของเธอกับลูก ซึ่งเสียงเคาะประตูนี้ทำให้เธอรู้สึกตึงเครียดมาก
“คุณส้ง ผมหลินต้าฮุยเอง คุณเย่อยากพบคุณที่ชั้นล่างหน่อย”
งานเข้าแล้ว! ส้งหลิงหลิงขมวดคิ้วและคิดทันทีว่าเขารู้ความจริงแล้วใช่ไหม
เธอรีบมองไปที่ตัวน้อยเย่เจิ้งเหิงที่นอนอยู่บนเตียงและอธิษฐานในใจ ลูกจ๋า ลูกต้องช่วยแม่นะ
ครั้งนี้ลูกต้องช่วยแม่จริงๆ นะ แม่อาจจะถูกไล่ออกจากบ้านนี้ก็ได้
หลังจากที่ทำผิดเธอคิดเสมอว่าสักวันจะได้เจอกับสถานการณ์วันนี้ ดังนั้นเธอตกใจเพียงครู่เดียวก็ตั้งสติได้และเธอรีบตอบเขา “ได้ เดี๋ยวฉันลงไป ขอฉันเปลี่ยนชุดก่อน”
“เร็วเข้านะ อย่าปล่อยให้คุณเย่ต้องรอนาน!” หลินต้าฮุยพูดอย่างเย็นชา
ท่าทีที่เย็นชาของเขาทำให้ส้งหลิงหลิงมั่นใจกับสิ่งที่เธอคิดไว้
ที่จริงเธอสวมเสื้อที่พร้อมออกจากห้องโดยไม่ต้องเปลี่ยนชุดแล้ว เธอรู้ดีว่าต่อให้หลินต้าฮุยจะใจร้อนแค่ไหนเขาก็คงไม่บุกเข้ามาในห้อง ดังนั้นเธอจึงอ้างว่าจะขอเวลาเปลี่ยนชุดเพื่อทำใจสักพัก
เธอลุกจากเตียงสวมรองเท้าแตะแล้วเดินไปที่เตียงเด็กเพื่ออุ้มเย่เจิ้งเหิงที่กำลังนอนหลับอยู่
ลูกต้องร้องไห้แน่นอนถ้าหากเขานอนไม่อิ่ม และถ้าหากตอนนี้เย่เชินหลินรู้ความจริงของเธอและกำลังโกรธอยู่ เธอคิดว่าคงจะลงไปพบเขาไม่ได้ในตอนนี้
เธออุ้มตัวน้อยเย่เจิ้งเหิงขึ้นมาแต่เขาไม่ได้ร้องไห้เลย ส้งหลิงหลิงสีหน้าเคร่งขรึมและพูดในใจกับลูกว่า ตอนนี้แม่ต้องการให้ลูกร้องไห้ ไม่งั้นถ้าลูกเสียแม่ไปลูกจะโทษแม่ไม่ได้นะ
เธอจึงยื่นมือไปหยิกต้นขาของเด็กเบาๆ จนเด็กรู้สึกเจ็บและร้องไห้เสียงดังขึ้นมา
หลินต้าฮุยที่ยืนรออยู่หน้าประตูขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึม เขารู้ว่าส้งหลิงหลิงตั้งใจถ่วงเวลาอยู่อย่างแน่นอน
ไอ้ผู้หญิงเลวคนนี้ เธอต้องรู้ว่าเด็กร้องไห้ไม่ได้แน่เลย
หลินต้าฮุยเริ่มรู้สึกกังวล เขากลัวเย่เชินหลินจะหายโกรธและอาจจะไม่ไล่ส้งหลิงหลิงออกไปถ้าได้ยินลูกของเขาร้องไห้
“ต้าฮุย รบกวนคุณบอกคุณนายเย่ให้รอหน่อยนะ ตอนนี้ลูกงอแง เดี๋ยวกล่อมลูกเสร็จแล้วฉันค่อยลงไปนะ”
“ไม่ได้!” หลินต้าฮุยพูดอย่างเด็ดขาด จากนั้นเขาเหลือบมองไปที่สาวใช้สองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยกันกับเขาและสั่งว่า “พวกเธอสองคนไปปลอบคุณชายน้อย”
สาวใช้สองคนไม่ได้คุ้นเคยกับหลินต้าฮุย ดังนั้นเธอสองคนจึงไม่ได้ทำตามคำสั่งของเขา
โชคดีที่พ่อบ้านเดินขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก เขามองไปที่หลินต้าฮุยแล้วพูดกับสาวใช้สองคนนั้น “ท่านนี้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณชายเย่นะ วันหลังพวกเธอต้องทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่าง และตอนนี้ก็รีบไปทำตามคำสั่งของเขาเลย เดี๋ยวนี้!”
“ค่ะ พ่อบ้าน” สาวใช้ขานตอบแล้วเปิดประตูเข้าไป
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ต้าฮุย” พ่อบ้านถาม
“ส้งหลิงหลิงหาที่ตายล่ะสิ” หลินต้าฮุยเข้าไปกระซิบข้างหูของพ่อบ้าน
พ่อบ้านเข้าใจคำพูดของเขาดี
สาวใช้เข้าไปในห้องแต่ส้งหลิงหลิงไม่ยอมเอาลูกให้พวกเธอและยืนยันว่าจะเป็นคนกล่อมลูกเอง
“ถ้าปล่อยให้เธอเป็นแบบนี้ต่อไป วันนี้ผมจะเสียแรงเปล่าๆ เลยนะ” หลินต้าฮุยพูดกับพ่อบ้าน
เมื่อประตูห้องถูกเปิดออกและส้งหลิงหลิงก็แต่งตัวเรียบร้อยตามปกติ พ่อบ้านจึงส่งสายตาให้หลินต้าฮุย จากนั้นทั้งสองก็เข้าไปในห้องด้วยกัน
“คุณส้ง คุณเย่บอกว่าตอนนี้คุณยังไม่ต้องดูแลลูก ให้แม่บ้านช่วยดูแลไปก่อน ส่วนคุณต้องลงไปกับผม” พ่อบ้านพูดกับส้งหลิงหลิง
“ไม่ได้ ลูกฉันร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ฉันจะทิ้งให้ลูกร้องไห้แบบนี้ไม่ได้ ธุระคุณจะสำคัญเท่าไหร่มันก็ไม่สำคัญเท่าลูกของฉันหรอก” ส้งหลิงหลิงพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า
ใครจะยอมเชื่อเธออีก พ่อบ้านสีหน้าเย็นชาแล้วพูดกับสาวใช้ “พาเด็กมาที่นี่!”
“นี่พวกคุณคิดจะทำอะไร? จะแย่งลูกฉันไปงั้นเหรอ? ถ้าลูกของฉันร้องไห้หนักแล้วเป็นอะไรไปพวกคุณใครจะรับผิดชอบไหว!” ส้งหลิงหลิงขึ้นเสียง เมื่อเด็กได้ยินเสียงตะคอกของเธอก็ตกใจจนร้องไห้หนักขึ้น
“มากับผมนี่!” หลินต้าฮุยคว้ามือของส้งหลิงหลิงมา
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอพูดกับเจ้าหญิงหย่าฮุ่ยแล้วหลินต้าฮุยไม่เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้หญิงคนนี้เลย
เขาบีบแขนของส้งหลิงหลิงด้วยความแรงจนเธอรู้สึกเจ็บและยอมปล่อยมือเด็กโดยสัญชาตญาณ
สาวใช้จึงถือโอกาสรีบอุ้มเด็กไปและปลอบเขาอย่างนุ่มนวล
คราวนี้จะทำอย่างไรต่อ?
เมื่อไม่มีลูกให้พึ่งพา แน่นอนว่าส้งหลิงหลิงต้องรู้สึกตระหนกอย่างพูดไม่ถูก
หลินต้าฮุยไม่ได้รอช้า เขาคว้าแขนเธอแล้วรีบลากเธอออกไป
เขาจะไม่สนใจอะไรอีก ต่อให้เด็กร้องไห้จนเย่เชินหลินต้องตำหนิเขา เขาก็เต็มใจ เพราะเขาจะไม่ปล่อยให้นางงูพิษส้งหลิงหลิงคนนี้ได้อยู่ทำร้ายคนอื่นในบ้านนี้อีกต่อไป!
พ่อบ้านก็รอวันนี้มานานแล้ว เขาจึงหันกลับไปสั่งกับสาวใช้สองคนนั้นอย่างเด็ดขาด “พวกเธอสองคนดูแลคุณชายน้อยให้ดี ปิดประตูแล้วอย่าให้เด็กต้องร้องไห้อีก ถ้าเด็กไม่หยุดร้องภายในสามนาทีพวกเธอก็เตรียมตัวไปหางานใหม่เลย!”
ด้วยความร่วมมือของเขาทั้งสอง ส้งหลิงหลิงก็ถูกพาลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
เย่เชินหลินก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กเช่นกัน เซี่ยชีหรั่นจึงขมวดคิ้วแล้วพูดกับเขาเบาๆ “ลูกร้องไห้อยู่ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูนะ”
เธอเดาได้ว่าที่ตอนนี้เด็กกำลังร้องไห้นั้น อาจเป็นเพราะส้งหลิงหลิงจงใจทำ และเธอก็คิดว่าเย่เชินหลินรู้ทันเหมือนกัน
เย่เชินหลินสีหน้าเคร่งเครียดแล้วพูดอย่างเย็นชา “ไม่ต้องสนใจ ร้องไห้ตายของเรื่องของมัน!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset