สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 899 สาวใช้ตัวแสบ 803

ตอนที่ 899 สาวใช้ตัวแสบ 803
เธอสามารถเดาได้ว่าส้งหลิงหลิงจะพูดจาประชัดประชดเธอ และสีหน้าของเธอก็เย็นชามากเช่นกัน
“ส้งหลิงหลิง นี่เธอไม่คิดจะถามถึงลูกเธอเลยเหรอ?” เธอพูดอย่างเย็นชา
แน่นอนว่าส้งหลิงหลิงอยากจะถาม แต่เธอคิดๆ แล้วไม่ถามจะดีกว่า ได้แต่ส่งเสียงบ่นอย่างเย็นชา
“อย่ามาเสแสร้งเลย เธอไม่ได้สนใจว่าลูกฉันจะเป็นอย่างไรหรอก”
“แล้วเธอใส่ใจลูกจริงๆ เหรอ? ส้งหลิงหลิง! เธอเป็นแม่ที่ขาดความรับผิดชอบที่สุดที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ เธอรู้ดีว่าเธอจะได้อยู่ที่บ้านตระกูลเย่ไปตลอดถ้าเธอตั้งใจดูแลลูกและไม่คิดหาเรื่องใคร เธอรู้ดีว่าสุขภาพร่างกายของลูกเธอไม่ดีอยู่แล้ว แต่เธอก็พยายามก่อเรื่องจนได้ เธอทำไปได้ไง?” เซี่ยชีหรั่นเหลือทนและไถ่ถามถึงความรู้สึกของเธอ ตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจแทนเด็กมาก
“พอที สรุปเธอมาทำอะไรที่นี่ ฉันไม่อยากฟังคำเทศนาจากเธอหรอก เธอมีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา ถ้าไม่มีก็รีบไปให้พ้น!” ส้งหลิงหลิงตะคอก
เซี่ยชีหรั่นอยากหันหลังแล้วเดินจากไปจริงๆ แต่เมื่อนึกสึกภาพสีหน้าอันเศร้าหมองของเย่เชินหลินที่ยืนอยู่ตรงหน้าเด็กในเมื่อคืนนี้ ทำให้เธอต้องกัดฟันทนไว้ เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดกับเธออย่างใจเย็นที่สุด “ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะอยากขอให้เธอกลับไปช่วยดูแลลูก เพราะตอนนี้สุขภาพของเด็กแย่ลงเรื่อยๆ”
“เหอะ เธออยากให้ฉันกลับไปฉันก็กลับไปได้เลยงั้นเหรอ เธอมีอำนาจตัดสินใจเหรอ?” ส้งหลิงหลิงถามด้วยความโกรธ
“ถือว่าเธอฉลาดจริงๆ ที่รู้ว่าเย่เชินหลินไม่อยากให้เธอกลับไป แต่ตอนนี้เด็กพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเด็กตงเจียง ถ้าเธอเป็นห่วงลูกจริงๆ เธอต้องหาวิธีไปขอร้องเขา บางทีเขาอาจจะใจอ่อนและยอมให้เธอกลับไปก็ได้”
“เธอกลับไปเถอะ ฉันไม่ไป” ส้งหลิงหลิงยังคงตอบอย่างไม่พอใจ เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าวันหนึ่งเด็กทนไม่ไหวจริงๆ เย่เชินหลินจะมาขอให้เธอกลับไปและเธอก็จะรอวันนั้นเช่นกัน
“พี่ เป็นอะไรของพี่เนี่ย เมื่อคืนยังคิดถึงลูกจนร้องไห้อยู่เลย แล้วตอนนี้ปฏิเสธทำไม? พี่มีเรื่องกับคุณหญิงเย่นะ ทำไมต้องปล่อยให้ลูกต้องลำบากไปด้วย!” เซี่ยชีหรั่นยังไม่ทันตอบก็มีเสียงบางคนพูดจากข้างหลัง
เป็นเสียงที่ค่อนข้างคุ้นเคยมาก เธอจึงหันไปมองก็ได้เห็นเซียวเสี่ยวลี่ที่กำลังอุ้มท้องโตและมือถือถุงพลาสติกแล้วยืนอยู่ด้านหลัง ในถุงนั้นใส่กล่องยาหลายกล่อง
“คุณนายเย่!” เซียวเสี่ยวลี่เรียกเซี่ยชีหรั่น จากนั้นก้าวไปข้างหน้า แต่สิ่งที่ทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องประหลาดใจคือเธอเอนกายลงแล้วค่อยๆ คุกเข่าลง
“เธอคิดจะทำอะไร?” เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความประหลาดใจและเอื้อมมือไปประคองตัวเธอด้วยสัญชาตญาณ
อย่างไรก็ตามเธอเป็นผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์อยู่และดูน่าสงสารมาก
“คุณนายเย่คะ หนูอยากขอร้องคุณนายเย่ช่วยปล่อยครอบครัวเราไปเถอะ คุณดูสิ ตอนนี้ตระกูลส้งของเราลำบากแค่ไหน? ขาของซูหาวก็ไม่มีวันหายดีและเขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว สุขภาพร่างกายของแม่สามีหนูก็ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนอีก และตอนนี้ทั้งครอบครัวต้องอาศัยหนูคนเดียวซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์เพื่อไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงทั้งครอบครัว ทุกอย่างนี้มันก็แย่มากพอแล้ว แต่เรื่องทั้งหมดเราจะโทษใครไม่ได้เพราะมันเป็นเวรเป็นกรรมที่เราได้ก่อเอาไว้ เราเคยทำผิดก็จริงแต่พวกเราก็ได้ชดใช้กันพอสมควรแล้วไม่ใช่เหรอ? ตั้งแต่พี่สาวหนูกลับมาก็มีคนแปลกหน้าคอยมาสร้างความเดือดร้อนให้เรา คุณดูสิ หน้าต่างประตูก็ถูกทุบทิ้งหมดแล้ว ในสภาพอากาศหนาวเย็นแบบนี้เราไม่มีเงินแม้แต่จะซ่อมประตูเลย ไม่พอลูกในท้องของหนูยังต้องพลอยลำบากไปด้วย”
เซี่ยชีหรั่นมองขึ้นไปทิศทางที่เธอชี้และได้เห็นประตูไม้ถูกกระแทกจนเป็นรูขนาดใหญ่
เธอไม่รู้จริงๆ ว่าความตกต่ำของครอบครัวหนึ่งมันจะอนาถขนาดนี้
“เซียวเสี่ยวลี่! ทำไมเธอถึงไร้ศักดิ์ศรีขนาดนี้ ไปขอร้องเธอทำไม?” ส้งหลิงหลิงถาม
“ขอโทษจริงๆ ค่ะพี่ ถ้าไม่ขอร้องเธอ หนูไม่รู้จะไปขอร้องใครอีกแล้ว หนูไม่อยากให้พวกเขามาสร้างปัญหาอีก หนูกลัวลูกหนูจะเป็นอะไรไป” เซียวเสี่ยวลี่พูดด้วยน้ำตา เซี่ยชีหรั่นจึงก้มลงไปจับแขนเธอไว้แล้วพูดเบาๆ “เธอลุกขึ้นเถอะ ฉันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก เดี๋ยวฉันลองกลับไปคุยกับเย่เชินหลินก็แล้วกัน”
“สิ่งที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้แหละ ส้งหลิงหลิง เธอจะกลับไปหรือไม่ก็อยู่ที่เธอแล้วล่ะ” เซี่ยชีหรั่นเหลือบไปมองส้งหลิงหลิงแล้วหันหลังเดินจากไป
เธอเข้าใจดี ถ้าหากส้งหลิงหลิงไม่อยากกลับไปต่อให้เธอจะขอร้องอย่างไรเธอก็ไม่ไปอยู่ดี และอีกอย่างเย่เชินหลินก็ไม่ต้องการให้เธอมาขอร้องส้งหลิงหลิงด้วยเหมือนกัน
นอกจากนี้เด็กคนนี้ก็ยังเป็นลูกแท้ๆ ของเธอ ไม่ว่าจะกลับไปในฐานะของความเป็นแม่หรือว่าจะกลับไปในฐานะช่วยเหลือครอบครัวตระกูลส้ง เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
ถ้าเธอพาส้งหลิงหลิงกลับไปแบบนี้ เย่เชินหลินอาจไม่เต็มใจให้ส้งหลิงหลิงอยู่ แต่ถ้าส้งหลิงหลิงกลับไปขอร้องเย่เชินหลินและเมื่อเขาเห็นความจริงใจของเธอที่มีต่อเด็ก บางทีเขาอาจจะยอมให้เธอดูแลลูกต่อก็ได้
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นเดินลงจากบันไดเธอก็สังเกตเห็นบานกระจกของบ้านนี้ถูกทุบแตกไปหมด จึงทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมาก และหลังจากที่กลับเข้าไปในรถเธอก็ได้ถามหลินต้าฮุย “หลังจากส้งหลิงหลิงกลับมา เย่เชินหลินให้นายส่งคนมาหาเรื่องครอบครัวตระกูลส้งไหม?”
“เปล่าครับ” หลินต้าฮุยตอบอย่างเด็ดขาด
ไม่ใช่ได้ไง? เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าต้องเป็นคนของเย่เชินหลินแน่ที่มาก่อเรื่องให้กับพวกเขา
“ตอนนี้ครอบครัวของเขาตกอับจนไม่เหลืออะไรแล้ว ในบ้านมีทั้งคนพิการและหญิงมีครรภ์ด้วย ถ้านายได้รับคำสั่งนี้จริงๆ ก็เห็นแก่พวกเขาเถอะนะ เย่เชินหลินเองก็ไม่มีเวลามาใส่ใจกับครอบครัวนี้หรอก”
“ครับ นายหญิง ถ้าผมได้รับคำสั่งจากคุณเย่จริงๆ ผมจะทำตามคำสั่งของคุณนะครับ แต่คุณเย่ของเราไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะครับ เขาไม่ได้เป็นคนชอบหาเรื่องใครง่ายๆ แบบนี้หรอกครับ ตอนนั้นส้งซูหาวเกือบเสียชีวิตในโรงพยาบาลแต่คุณเย่ให้ผมส่งคนไปช่วยชีวิตเขาไว้ และบ้านหลังนี้ที่เขาย้ายมาอยู่ก็เป็นคำสั่งจากคุณเย่เหมือนกันครับ ท่านเกรงว่าจะมีศัตรูเก่าของครอบครัวตระกูลส้งมาหาเรื่องอีก จึงให้พวกเขาย้ายมาอยู่ที่ไกลหน่อยจะได้ปลอดภัยกว่าครับ อีกอย่างคุณเย่ให้ผมปล่อยข่าวออกไปว่าอย่าให้ใครมาทำอะไรครอบครัวตระกูลส้งอีกนะครับ”
“อื้ม ฉันเข้าใจละ” เซี่ยชีหรั่นพูด
เธอหวังว่าจะได้เห็นเย่เชินหลินมีน้ำใจต่อผู้อื่นและเธอก็รู้ด้วยว่าเย่เชินหลินไม่ใช่คนเลว เขาเป็นคนดีต่อผู้อื่นเสมอ
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นกลับไปถึงโรงพยาบาลเธอก็รู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นแม่ของเธอกำลังนั่งคุยกับเย่เชินหลินอยู่หน้าห้องผู้ป่วย
“กลับมาแล้วเหรอ?” เย่เชินหลินถาม
“อื้ม” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าตอบอย่างทำตัวไม่ถูก เธอคิดในใจว่าคนอย่างเธอไม่เหมาะกับการทำชั่วเลยจริงๆ ไหนๆ ก็คิดจะโกหกคนแล้ว น่าจะเตี๊ยมกับแม่ไว้ก่อน ช่างไม่รอบคอบเลยจริงๆ แล้วทำไมแม่ต้องมาที่นี่ด้วย
“คุณแม่มาที่นี่ได้ไง?” เซี่ยชีหรั่นนั่งลงข้างๆ แล้วถามแม่
“แม่ได้ข่าวว่าเชินหลินได้รับบาดเจ็บ แล้วหลานก็ไม่สบายด้วย แม่เลยแวะเข้ามาเยี่ยมหน่อย”
“คุณแม่ครับ ผมกับลูกไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ คุณแม่ไม่ต้องห่วง แต่ช่วงนี้ชีหรั่นอยู่โรงพยาบาลไม่ได้กินดีๆ ไม่ได้พักผ่อนดีๆ เลยครับ คุณแม่พาเธอกลับไปก่อนดีกว่าครับ” เย่เชินหลินพูด
“นั่นสิ ชีหรั่นก็ดูโทรมๆ นะ ลูกจ๋า กลับบ้านกับแม่ก่อนไหม?” จ้าวเหวินอิงแตะใบหน้าบางๆ ของเซี่ยชีหรั่นแล้วถามด้วยความเป็นห่วง
เธอเห็นว่าที่นี่มีคนช่วยกันดูแลเยอะแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เซี่ยชีหรั่นอยู่ต่อ แต่ถ้าเธอจะมาจริงๆ ก็ให้เธอกลับไปพักก่อนแล้วค่อยมาก็ได้
“หนูยังไม่กลับค่ะคุณแม่ หนูอยากอยู่กับเชินหลินที่นี่ก่อน อาการบาดเจ็บของเขายังไม่หายดีเลย หนูไม่อยากให้คนอื่นมาดูแลแทนค่ะ”
“เธอนะ เอาเถอะ งั้นแม่จะแวะมาหาบ่อยๆ ก็แล้วกัน พวกเธออยากกินอะไรก็บอกแม่นะ เดี๋ยวแม่ทำมาให้” จ้าวเหวินอิงพูดอย่างอ่อนโยน
“ไม่ต้องรบกวนคุณแม่หรอกครับ ที่บ้านก็มีคนคอยช่วยเยอะแยะเลย” เย่เชินหลินรีบปฏิเสธและเซี่ยชีหรั่นก็เห็นด้วยกับเขา เพราะเธอก็ไม่อยากให้แม่ต้องไปๆ มาๆ หลายรอบเหมือนกัน
อากาศข้างนอกของช่วงฤดูหนาวค่อนข้างหนาวเย็น เธอเกรงว่าแม่จะเป็นหวัดหรือป่วยได้
“ในโรงพยาบาลเชื้อโรคเยอะ คุณแม่อย่าอยู่ที่นี่นานเลย เดี๋ยวหนูส่งคุณแม่ออกไปนะ” เซี่ยชีหรั่นพูดจบเย่เชินหลินก็เตรียมลุกขึ้นไปส่งด้วย แต่จ้าวเหวินอิงก็ห้ามเขาไว้
“ลูกรักษาตัวดีๆ ก่อน เชินหลิน” ช่วงนี้ร่างกายของเย่เชินหลินค่อนข้างอ่อนแอ เพราะตอนนี้เพิ่งผ่านมาเพียงแค่สองสามวันหลังจากที่เขาได้รับการบาดเจ็บ และสองวันนี้เขาไม่ได้พักผ่อนเพียงพอจึงทำให้แผลในร่างกายฟื้นฟูค่อนข้างช้า ดังนั้นเขาจึงไม่ฝืนลุกขึ้นเพื่อเดินออกไปส่งแม่ยาย
หลังจากส่งแม่เสร็จเซี่ยชีหรั่นก็ได้เดินกลับมาและเธอได้เห็นสีหน้าอันบูดบึ้งของเย่เชินหลิน จึงทำให้เธอรู้ทันทีว่าเขากำลังรู้สึกโกรธเธออยู่
แน่นอนเธอต้องรู้ว่าเขากำลังโกรธเธอเรื่องอะไร เธอจึงค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งข้างเขาแล้วยิ้มพูดเบาๆ “หลิน คือว่าฉัน……”
“ผมไม่ชอบใครมาหลอกผมแบบนี้ ต่อให้ทำเพื่อผมก็ตาม” เย่เชินหลินพูดอย่างเย็นชา
เขารู้ได้ไงว่าเธอไปทำอะไรมา?
ผู้ชายแบบนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าคนอื่นทำเพื่อเขาอยู่แต่ก็ยังเหวี่ยงใส่คนอื่นอีก น่าหมั่นไส้จริงๆ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคุณจริงๆ นะ หลิน ฉันรู้ว่าคุณไม่ยอมปล่อยให้ฉันไปแน่ ฉันจึง……”
“รู้แล้วยังจะไปอีก?” น้ำเสียงของเย่เชินหลินค่อนข้างแย่ เพราะสองวันนี้เขารู้สึกหงุดหงิดมาก อีกอย่างตัวเขาเองก็แทบจะทนไม่ไหวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเห็นความทุกข์ทรมานของลูกแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะขอรับแทนลูกทุกอย่าง
ถ้าหากยังคงเป็นแบบนี้อีกต่อไป เขาสงสัยกับตัวเองจริงๆ เลยว่าเขาควรใจอ่อนและยอมให้ส้งหลิงหลิงกลับมาใช่หรือไม่ แต่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เขาจะนำงูเห่ากลับมาไว้ข้างๆ เซี่ยชีหรั่นอีกไม่ได้จริงๆ
เขายอมปล่อยลูกที่มาแบบไม่ได้ตั้งใจคนนี้จากไปมากกว่าจะปล่อยให้ผู้หญิงที่เขารักที่สุดต้องตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง
“เย่เชินหลิน! ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงลูกมาก ฉันก็เป็นห่วงเหมือนกัน ถือว่าฉันขอร้องคุณแล้วล่ะ ได้ไหม? ให้เธอกลับเถอะนะ ฉันเชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เธอจะไม่กล้าทำผิดอีกแล้ว ฉันไม่ต้องการให้คุณไปขอร้องเธอกลับมาหรอกนะ แต่ฉันอยากให้คุณรับปากฉัน ถ้าวันหนึ่งเธอกลับมาขอร้องคุณแล้วคุณจะไม่ปฏิเสธและไล่เธอไปอีก……”
“ไม่!” เย่เชินหลินตัดคำพูดเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ผมเคยบอกแล้วว่าจะไล่มันไปให้พ้น และผมก็จะไม่ยอมให้มันกลับมาอีก”
“แล้วลูกจะทำยังไง?” เซี่ยชีหรั่นลดเสียงลงและถามด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น “หรือว่าเราทั้งสองต้องทนดูเจ้าตัวเล็กจากโลกนี้ไปตั้งแต่อายุแค่นี้เหรอ?”
“นั่นเป็นโชคชะตาของเขา มันก็สมควรแล้ว!” เย่เชินหลินพูดอย่างไม่แยแส
“พอได้แล้ว อย่าปากแข็งแบบนี้ได้ไหม? ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงลูกมาก มากกว่าฉันด้วยซ้ำ เขาเป็นลูกแท้ๆ ของคุณนะ เมื่อคืนฉันเห็นคุณยืนอยู่ข้างๆ ลูก”
“หยุดพูดได้แล้ว! ต่อให้เขาตายผมก็จะไม่ยอมให้ส้งหลิงหลิงกลับมา”
“เพราะอะไร? เพราะฉันใช่ไหม?” เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นยืนแล้วถามต่อหน้าเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินไม่ได้พูดอะไร
“เย่เชินหลิน คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังทำเพื่อฉันอยู่ ถ้าลูกจากไปจริงๆ ฉันคงต้องโทษตัวเองไปจนตายแน่ หลิน ฉันทราบซึ้งใจมากที่คุณทำเพื่อฉันขนาดนี้ ฉันรู้ว่าฉันสำคัญที่สุดในใจคุณ แต่คุณก็สำคัญที่สุดในใจฉันเหมือนกัน รับปากฉันนะ เพื่อฉันจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิด ให้ส้งหลิงหลิงกลับมาช่วยชีวิตลูกเถอะนะ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset