สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 919 สาวใช้ตัวแสบ 823

ตอนที่ 919 สาวใช้ตัวแสบ 823
ถึงแม้ในปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้ทำงานเป็นทนายความเลย แต่อย่างน้อยเขาก็มีใบรับรอง
เพราะมีแค่ทนายเท่านั้นที่สามารถเจอเซี่ยชีหรั่นได้ เขาเลยใช้วิธีพวกนี้ ทำตามขั้นตอนที่ควรทำ เมื่อคืนหลังจากคุยเรื่องคดีกับทนายความแล้ว เขาก็ไปตระกูลหลี่ โน้มน้าวจ้าวเหวินอิง ให้เขาเป็นทนายความแก้ต่างให้กับเซี่ยชีหรั่น
เมื่อสถานกักกันเปิดขึ้น เขาก็ดำเนินการขั้นตอนเข้าไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
“แผลคุณล่ะ? ” เซี่ยชีหรั่นถามเขาเสียงเบา
อย่างไรแล้วนอกประตูก็ยังมีตำรวจอยู่ เธอกลัวว่าเสียงจะดังเกินไป อีกฝ่ายคิดว่าพวกเขาพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับคดีและจะถูกตักเตือนเอา หรือตัดสิทธิ์คุณสมบัติของเย่เชินหลิน เธอเลยไม่กล้าพูดเสียงดัง
เย่เชินหลินจับไหล่เธอ มองใบหน้าเล็กของเธอ หัวเราะเบาๆ บ่งบอกว่าแผลเขาไม่มีปัญหา
เมื่อผู้หญิงของเขาได้รับความทุกข์ต่างหากเขาถึงได้มีปัญหา และต้องยึดมั่นไว้
“เรามานั่งคุยกัน” เย่เชินหลินดึงมือเซี่ยชีหรั่นให้เธอนั่งเก้าอี้
ถึงเขาจะมีใบรับรองทนายความ แต่หนึ่งคือไม่เคยทำการแก้ต่างมาก่อนจริงๆ สองคือการป้องกันคดีอาญาต้องมีประสบการณ์
วันนี้เขาจะมาถามอะไร เขาได้หารือกับทนายความทั้งหมดแล้ว หลังจากกลับไปทีมทนายความก็จะประชุมอีกครั้งเพื่อหาแนวทางแก้ไข
เขาไม่ได้ร้อนใจไปหาจงหวีฉวน เรื่องแบบนี้ เขารู้ว่าจงหวีฉวนไอ้เจ้าเล่ห์มันไม่ยอมรับหรอกว่ามันเป็นคนทำ เขาต้องแก้ไขปัญหาของเซี่ยชีหรั่นผ่านช่องทางกฎหมายก่อนที่เธอจะถูกลงโทษ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจงหวีฉวนกลัวว่าเขาจะใช้วิธีการบางอย่าง มันจงใจให้สื่อเปิดโปง ตอนนี้ทุกคนคิดว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นฆาตกรจริงๆ เขาจึงต้องหาหลักฐานที่แน่นหนาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ
เนื่องจากถูกใส่ร้าย มันต้องมีข้อบกพร่องแน่ๆ
เซี่ยชีหรั่นเห็นหน้าเย่เชินหลินเคร่งขรึมจริงจังก็ประทับใจ เธอเช็ดน้ำตาเงียบๆ และนั่งหน้าโต๊ะ
เย่เชินหลินดูออกว่าเซี่ยชีหรั่นหลับไม่สนิท แต่เวลาที่เขามานั้นมีจำกัด ไม่อยากใช้เวลาปลอบโยนเธออย่างไร้ประโยชน์
“ตำรวจทรมานให้สารภาพหรือเปล่า? ” เขาถามอย่างทำตามหน้าที่
ถึงจะรู้ว่าคงไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม
เซี่ยชีหรั่นส่ายศีรษะเบาๆ
ต่อมาเย่เชินหลินก็มุ่งเป้าไปที่ครั้งสุดท้ายที่เซี่ยชีหรั่นพบพี่ส้ง ตอนนั้นคุยอะไรทำอะไรกับพี่ส้ง และถามอย่างละเอียดว่ามีใครอยู่ที่นั่นหรือไม่
“ตำรวจบอกว่าหลานสาวพี่ส้งเป็นคนแจ้งความ และระบุว่าฉันเป็นคนฆ่า เธอยังพูดว่าตอนนั้นพี่ส้งบอกฉันว่าให้ปล่อยเธอไป ประโยคนี้ฉันไม่ได้พูดเลย แปลว่าหลานสาวพี่ส้งต้าเฟิ่งพูดโกหก ฉันคิดว่านี่น่าจะเป็นเบาะแสสำคัญ แต่ฉันเดาว่าที่พวกเขาบอกว่าต้าเฟิ่งพูดแบบนี้เพราะอยากยืนยันว่าฉันมีเหตุจูงใจ มีอีกสองคนเป็นพยาน ในบริษัทเราสองคนนี้สนิทกับพี่ส้งมาก คนหนึ่งชื่อเสี่ยวลู่ คนหนึ่งชื่อหลิงจื่อ เดาว่าคุณคงเห็นแล้วในรายงาน สองคนนี้โกรธฉันมาก ฉันว่าไม่เหมือนการแสดงนะ ฉันรู้สึกว่าเป็นไปได้มากที่สุดที่พี่ส้งจะโดนใครบีบบังคับตั้งแต่แรก ตั้งใจบอกพวกเขาแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่สองวันก่อนพวกเธอมองฉันแปลกไป ฉันเองก็ไม่ได้คิดมาก ฉันโง่จริงๆ”
พูดๆ อยู่ เซี่ยชีหรั่นก็อดไม่ได้ที่จะโทษตัวเอง
คิดว่าตอนนั้นเธอควรยืนกรานไม่รับของพี่ส้ง เธอใจอ่อนเกินไปเลยโดนหลอกใช้
มันเป็นแค่เรื่องทั่วๆ ไป ใครจะไปคิดว่ามันจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่โตอย่างฆาตกรรมได้ล่ะ
“อย่าโทษตัวเองเลย ฉันเคยบอกแล้ว ถ้าบางคนต้องการวางแผนอย่างละเอียดจริงๆ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรคุณก็จะตกหลุมพรางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่าว่าแต่คุณเลย ไม่ว่าคนที่ทรงพลังมากแค่ไหนก็หนีไม่พ้นหรอก”
เย่เชินหลินปลอบเธอแบบนี้ จริงๆ แล้วเขาโทษตัวเองยิ่งกว่า
เขารู้ว่าเขาบังคับจงหวีฉวนเข้มงวดไปหน่อย และช่วงนี้ก็มีเรื่องลูก รวมถึงเรื่องที่เขาบาดเจ็บ ความสนใจส่วนใหญ่อยู่ที่บริษัท สนใจเรื่องเซี่ยชีหรั่นน้อย
แน่นอนเพราะเขาคิดว่าไม่ว่าจงหวีฉวนจะเลวแค่ไหน ก็คงไม่ถึงขั้นลงมือกับลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองหรอก
เขามองไอ้แก่นั่นผิดไป มันกลายเป็นหมาบ้าตัวหนึ่งที่กัดคนไปทั่ว ไม่รักคนในครอบครัวเลยสักนิด
“มีอะไรอยากเสริมอีกไหม? ” เย่เชินหลินถามอีกครั้ง
“มีค่ะ” เมื่อคืนเซี่ยชีหรั่นนอนไม่หลับ นอกจากเป็นห่วงแม่และเย่เชินหลินแล้ว เธอยังคิดอย่างละเอียดเกี่ยวกับคดี เธอไม่ได้เรียนเอกกฎหมาย จึงมีหลายๆ เรื่องที่เธอไม่เข้าใจ แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เธอรู้ว่าต้องบอกให้เย่เชินหลินฟัง
“คุณจำได้ไหมที่ฉันบอกคุณว่าพี่ส้งอยากขอบคุณฉัน? เธอใส่เงินไว้ในผักหมื่นหยวน ตำรวจบอกฉันว่าหลานสาวพี่ส้งบอกว่าหมื่นหยวนนี้ฉันเป็นคนเอาไปให้พี่ส้งตั้งแต่แรก พวกเขาบอกว่าจุดประสงค์ฉันคือต้องการปิดปากพี่ส้ง เพราะในไดอารี่พี่ส้งบันทึกเรื่องราวที่ฉันเจอกับโม่เสี่ยวจุน”
พูดถึงตรงนี้ เซี่ยชีหรั่นคิดว่าเย่เชินหลินคงอ่านข่าวแล้ว เขาเชื่อใจเธอขนาดนี้ เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจจริงๆ
“พวกคุณได้เจอกันเป็นการส่วนตัวไหม?” เย่เชินหลินถาม
เขาเชื่อใจเซี่ยชีหรั่น แต่สำหรับเรื่องที่เธอไปเจอโม่เสี่ยวจุนเป็นการส่วนตัว เขาก็ยังเป็นห่วงอยู่บ้าง
ตอนนี้ในสถานการณ์แบบนี้ เขากลัวว่าเซี่ยชีหรั่นจะรู้สึกแย่ ถ้าเป็นตอนปกติ เขาต้องแสดงสีหน้าให้เธอเห็นแน่ๆ
“ไปเจอมา แต่ไม่ได้นัดนะ เขาบังเอิญผ่านมาที่ทำงานฉันเมื่อเห็นฉันก็เข้ามาคุยกันไม่กี่ประโยค” 
เย่เชินหลินสีหน้ายังคงจริงจัง ถึงขั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แปลว่าในไดอารี่พี่ส้งมีบางส่วนที่เป็นความจริง”
“ใช่” นี่คือสิ่งที่เซี่ยชีหรั่นกังวล คำโกหกของพี่ส้งมีบางส่วนที่เป็นความจริง และมีพยานด้วย ดังนั้นเรื่องแรงจูงใจในการฆ่า ทำให้เธอกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำ
“มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากบอกคุณ” ใบหน้าเล็กของเซี่ยชีหรั่นตึงเครียดเช่นกัน
“ชุดนั้นที่ฉันใส่ไปบ้านพี่ส้งเมื่อวานมันแปลกมากที่ใช้เป็นหลักฐานได้ ตอนตำรวจเอามาให้ฉัน ฉันเห็นเลือดเปื้อนบนเสื้อผ้า ฉันแปลกใจมาก เพราะหลังจากที่ฉันออกจากบ้านพี่ส้งแล้วกลับมาบ้านแม่ ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงมากินข้าว”
“จะบอกว่าชุดนั้นอาจจะมีคนขโมยเอาไปวางไว้ในที่เกิดเหตุงั้นเหรอ? ” 
“อืม” 
“รู้แล้ว” เย่เชินหลินก้มศีรษะเขียนเรื่องเหล่านี้ด้วยลายมือ
หลังจากทั้งสองคนคุยเกี่ยวกับคดีนี้ไม่กี่ประโยค เย่เชินหลินก็ยื่นมือมาจับมือเซี่ยชีหรั่น มองเธออย่างแน่วแน่ พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม “รอก่อนนะ ไม่นานคุณจะเป็นอิสระ เชื่อฉัน คุณเองก็ต้องเข้มแข็งนะ!”
“ฉันจะเข้มแข็งค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะ พวกเขารู้แล้วว่าฉันเป็นลูกสาวหัวหน้าจง ไม่มีใครทำให้ฉันลำบากใจหรอก” เซี่ยชีหรั่นพูดสั้นๆ เธอไม่อยากให้เย่เชินหลินกังวลเพราะเธอจริงๆ
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง ในแววตามีความรู้สึกผิด มีความไม่เต็มใจและความทุกข์
เขามองเธอเยอะๆ ไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะมีความคิดพาเธอออกไปในตอนนี้
เย่เชินหลินออกมาจากห้องสำหรับพบปะก่อน เขาไม่ได้หันศีรษะไปมอง แต่ได้ยินเสียงฝีเท้าเซี่ยชีหรั่นถูกผู้คุมพาตัวไป
เซี่ยชีหรั่นเดินเบามากตลอด ครั้งนี้เขาฟังแล้วรู้สึกฝีเท้าเธอหนักอึ้งผิดปกติ ราวกับจะกระทืบหัวใจเขา
เดินออกมาจากประตูใหญ่สถานกักกัน โทรศัพท์เย่เชินหลินก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ตขึ้นมาดู โม่เสี่ยวจุนโทรมา
“อยู่ไหน? ” โม่เสี่ยวจุนถามอย่างเย็นชา
เขามา ต้องมาเพราะเซี่ยชีหรั่นอย่างแน่นอน
เรื่องครั้งนี้มันเกี่ยวข้องกับเขา เขาไม่มาหาเขาเอง เย่เชินหลินก็ต้องไปหาโม่เสี่ยวจุน
เขาถือว่าเป็นหนึ่งในพยาน เพื่อพิสูจน์ว่าความลับของสองคนที่บันทึกในไดอารี่พี่ส้งเป็นความเท็จ แต่มันโน้มน้าวไม่พอ
“อยู่นอกประตูสถานกักกัน”
“ฉันกำลังจะถึงพอดี นายรอฉันอยู่ที่เดิมนะ ฉันอยากคุยกับนายไม่กี่ประโยค” โม่เสี่ยวจุนพูดจบก็กดตัดสาย
เขาสอบถามข้อมูลมามากมาย รู้ตำแหน่งที่เซี่ยชีหรั่นถูกกักตัวแล้ว เลยรีบมาตั้งแต่เช้าตรู่
เขาอยากนัดเย่เชินหลิน เขาและไห่ฉิงฉิงมาที่สถานกักกันเพื่อหาทางดูว่าจะได้เจอเซี่ยชีหรั่นไหม หลังจากเยี่ยมชมแล้วเขาก็ไปพบเย่เชินหลิน
ไม่นานสักพัก โม่เสี่ยวจุนก็มาถึงสถานกักกัน แค่ไม่กี่นาที เย่เชินหลินไม่รู้มองนาฬิกาไปกี่ครั้งแล้ว เขามีหลายสิ่งต้องทำ ไม่อยากเสียเวลานาน
ไห่ฉิงฉิงและโม่เสี่ยวจุนมาสองคน ไห่ฉิงฉิงไปหาหัวหน้าสถานกักกันเพื่อหาทาง โม่เสี่ยวจุนตรงมาหาเย่เชินหลินเพื่อพูดคุย
“มีเรื่องอะไร รีบๆ พูด” เย่เชินหลินแสดงอารมณ์ใจร้อนนิดหน่อย
เดิมทีสิ่งที่โม่เสี่ยวจุนอยากบอกมากที่สุดก็คือให้เขาเชื่อใจเซี่ยชีหรั่น
พอเห็นเขาอยู่ประตูทางเข้าสถานกักกัน เขาไม่ต้องพูดประโยคนี้ก็รู้ว่าเขาเชื่อใจเซี่ยชีหรั่น
“ดูเหมือนความเชื่อใจที่เธอมีให้นายสองครั้งก่อนถือว่าไม่สูญเปล่า เย่เชินหลิน ชีหรั่นเธอถูกใส่ร้าย ฉันกับชีหรั่นสองคนบริสุทธิ์ใจกัน ไม่เคยจูบกันด้วยซ้ำ”
“ฉันรู้” 
เขารู้อย่างแน่นอน ผู้หญิงคนนี้ไร้ประสบการณ์มากแค่ไหนตอนเพิ่งคบกับเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยครอบครองผู้หญิง จะไม่รู้ได้อย่างไรกัน
“เรื่องฆ่าคนเธอยิ่งโดนใส่ร้ายเลย แซ่เย่ เธอเป็นคนธรรมดา ไม่มีใครใส่ร้ายเธอขนาดนี้ ดังนั้นเรื่องนี้มันต้องเกี่ยวกับนายและตระกูลเย่ เธอได้รับความไม่ยุติธรรมเพื่อนายมามาก ชื่อเสียงเธอถูกทำลายครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้บางคนเริ่มพุ่งความสนใจในชื่อเสียงของเธอแล้ว ถ้านายรักเธอจริงๆ ก็รีบช่วยเธอเคลียร์ข้อกล่าวหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุด”
นี่ถ้าเป็นแต่ก่อน เย่เชินหลินจะให้ใครมาพูดแบบนี้กับเขาได้อย่างไร ตอนนี้เขากลับอยากให้โม่เสี่ยวจุนพูดให้แรงขึ้นอีก เขาพูดไม่ผิดเลย เขาทำให้เซี่ยชีหรั่นได้รับความไม่ยุติธรรมเยอะเกินไปแล้ว
เธออ่อนแอขนาดนั้น อยู่คนเดียวในสถานกักกันอย่างหมดหนทาง เผชิญหน้ากับกำแพงหนาวเย็น ในใจเธอจะรู้สึกแย่แค่ไหน 
โม่เสี่ยวจุนโทษเย่เชินหลิน แต่เมื่อเห็นท่าทางหนักอึ้งของเขา เขาก็รู้ว่าแซ่เย่สงสารเซี่ยชีหรั่นมาก เกรงว่าความเสียใจของเขาไม่น้อยไปกว่าเขาเลย อาจจะมากกว่าเขาด้วยซ้ำ?
“ฉันจะช่วยเธอเหมือนกัน นายอยากให้ฉันทำอะไรก็ติดต่อฉันได้ทุกเมื่อ” โม่เสี่ยวจุนไม่โทษเย่เชินหลินอีกต่อไป เขาไม่อยากให้เขาวุ่นวายใจเกินไป ตอนนี้ต้องการสติปัญญาของทุกคนถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset