สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 920 สาวใช้ตัวแสบ 824

ตอนที่ 920 สาวใช้ตัวแสบ 824
เช้าวันนี้เมื่อโม่เสี่ยวจุนเห็นรายงานข่าว เขาก็รีบมากับไห่ฉิงฉิงทันที
ถ้าเขาเจอเย่เชินหลินขณะที่รู้เนื้อหารายงานข่าว เขาอาจจะคว้าคอเสื้อเขาแล้วต่อย หลังจากคิดมาตลอดทาง เขาก็สงบลงแล้ว ทำไมเขาจะไม่เข้าใจ เย่เชินหลินก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเหมือนกัน
“ฉันต้องการคำพยานของนาย” เย่เชินหลินพูด โม่เสี่ยวจุนตอบอืม
“ฉันยังต้องไปประชุมกับพวกทนายความ ไปก่อนนะ”
บอกเสร็จแล้ว เย่เชินหลินก็ขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล
เมื่อเขาลงรถที่บริษัทฝู้ซื่อก็มีสื่อมวลชนมาล้อมรอบ เหล่านักข่าวถามเขาว่า “คุณเย่ ตอนนี้คู่หมั้นคุณกำลังถูกสงสัยเรื่องความบริสุทธิ์ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?”
“คุณเย่ คู่หมั้นคุณถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร เพราะไม่อยากให้คุณรู้ธาตุแท้ของเธอ คุณเกลียดที่เธอหลอกลวงไหม? ”
เย่เชินหลินกำหมัด เขาอยากให้ไอ้พวกบ้าที่ได้รับคำสั่งหายไปให้หมดเลย เขาอยากซัดคนพวกนี้แรงๆ ที่ทำให้เซี่ยชีหรั่นเดือดร้อน
“เกี่ยวกับคำถามทุกคน เดี๋ยวฉันจะจัดงานแถลงข่าวทันที” เขาพูดจบก็สั่งหลินหลิงที่พาทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกมาจากอาคารสำนักงาน “เชิญเพื่อนๆ นักข่าวเข้ามาในห้องประชุมบริษัทฝู้ซื่อ อีกสิบนาทีจะแถลงข่าวเกี่ยวกับคู่หมั้นของฉัน”
“ค่ะ คุณเย่!” หลินหลิงอยากจะไล่นักข่าวออกไป ไม่คิดว่าเย่เชินหลินไม่เพียงแต่ไม่ไล่พวกเขา แถมยังมีการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่
เธอคิดสักพัก รู้สึกว่าเย่เชินหลินคงอยากใช้สิ่งนี้ในการฟื้นฟูชื่อเสียงส่วนหนึ่งของเซี่ยชีหรั่นล่ะมั้ง
เขาเองก็ไม่เต็มใจเผชิญหน้ากับสื่ออย่างแน่นอน ดูเหมือนเขาจะเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อเซี่ยชีหรั่นจริงๆ
เหล่านักข่าวเห็นว่าเย่เชินหลินยอมตอบคำถามก็ดีใจไปโดยปริยาย แต่สิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับความตั้งใจเดิมของพวกเขา
ภารกิจที่พวกเขาได้รับก็คือทำให้เย่เชินหลินลำบากใจ ให้เขาพูดไม่ออก แต่พวกเขาเห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นของเย่เชินหลิน ทันใดนั้นก็ตระหนักแล้วว่าพวกเขาอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เชินหลิน
สิบนาทีต่อมา เย่เชินหลินมาที่ห้องประชุมตรงเวลา เขาอธิบายขั้นตอนให้กับหลินหลิงแล้ว ดังนั้นหลินหลิงจึงประกาศกับนักข่าวทั้งหมดก่อน “อีกสักครู่คุณเย่จะให้ทุกคนถามคำถามของแต่ละคนเป็นเวลาสิบนาที ก่อนหน้านั้นเขาจะบอกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดกับทุกคน”
ตอนเย่เชินหลินพูด ในห้องประชุมก็เงียบ
“อันดับแรก ฉันอยากประกาศว่าคู่หมั้นของฉันเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ฆ่าคนแน่นอน อันดับที่สอง สิ่งที่ฉันอยากบอกก็คือ คู่หมั้นของฉันเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก เรื่องที่คนอื่นสงสัยเกี่ยวกับนิสัยเธอมันเป็นเรื่องโกหกที่ไร้สาระ อันดับที่สาม ของปลอมยังไงมันก็คือของปลอม ฉันจะหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคู่หมั้นฉันให้เร็วที่สุด และหวังว่าถึงตอนนั้น เพื่อนๆ สื่อมวลชนจะยึดถือหลักการแสวงหาความจริงจากข้อเท็จจริง กู้คืนชื่อเสียงของเธอ”
เหล่านักข่าวเงียบก่อนสักพักหนึ่ง จากนั้นก็มีคนเริ่มโจมตีอีกครั้ง
“คุณเย่ ว่ากันว่าเพราะเธอกลัวคุณรู้ประวัติความรักครั้งก่อนของเธอจึงเกิดความคิดฆ่าคน ทำไมคุณถึงบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก คุณกลัวว่าถูกเธอหลอกใช่ไหม? ”
เย่เชินหลินดูสงบอย่างมาก เขาหันหน้าไปทางกล้อง พูดขึ้นเสียงเบา “การพูดหลอกลวงไม่มีอยู่จริง ที่เธอเข้าตระกูลเย่มาก็เพื่อแฟนเก่าของเธอ เรื่องนี้เธอไม่เคยโกหกฉัน เธอสารภาพกับฉันตั้งนานแล้ว”
“แปลว่าเธอมีความรู้สึกลึกซึ้งมากกับแฟนเก่าเหรอคะ? ” นักข่าวคนหนึ่งดูเหมือนจับจุดอ่อนได้ ซักถามไปหนึ่งประโยค
“ถ้ามีคนคนหนึ่งดูแลคุณตั้งแต่อายุสามขวบ ดูแลคุณมาตลอดยี่สิบปี ถ้าคุณเป็นคนที่มีมโนธรรม คุณจะไม่รู้สึกลึกซึ้งกับเขาเหรอ? ” เย่เชินหลินถามกลับ
นักข่าวหญิงคนนั้นตอบไม่ได้ทันที นักข่าวอีกคนหนึ่งจึงเอ่ยเสริม “ในเมื่อมีความรู้สึกลึกซึ้งขนาดนั้น ทำไมเธอถึงทอดทิ้งเขาแล้วมาคบกับคุณ? เพราะเธออยากอยู่ในบ้านคนรวย เพื่อชื่อเสียงและความร่ำรวยเหรอ?”
“คู่หมั้นฉันคิดว่าแฟนเก่าเธอตายไปแล้วเลยมาคบกับฉัน และฉันก็จีบเธออย่างหลงใหล สำหรับเรื่องชื่อเสียงและความร่ำรวย พ่อเธอคือเสนาธิการหลี่ ฉันเป็นลูกชายของใครทุกคนก็รู้อยู่ จากมุมมองชื่อเสียง ฉันไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าเธอ เรื่องความร่ำรวย บริษัทหลี่ซื่อก็แข็งแกร่งกว่าบริษัทฝู้ซื่อ”
หลังจากเย่เชินหลินตอบ เหล่านักข่าวก็เงียบไปสักพักหนึ่ง กำลังคิดว่าจะดำเนินบทสนทนากับอีกฝ่ายต่อไปอย่างไร
“คุณเย่ ถ้าเธอกับแฟนเก่ามีความรู้สึกลึกซึ้งมากเหมือนที่คุณพูดจริงๆ ก็เป็นไปได้อย่างมากว่าความใกล้ชิดจะเกิดขึ้น คุณรู้ได้ยังไงว่าเธอบริสุทธิ์? ”
“พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกันมากๆ สามารถเรียกได้ว่าเป็นแฟน แต่ความจริงพวกเขาเหมือนพี่น้องมากกว่า”
“คุณเย่ เป็นไปได้ไหมที่คุณจะถูกหลอก? ” นักข่าวคนหนึ่งถาม
สีหน้าเย่เชินหลินไร้อารมณ์อยู่ตลอด แค่พูดขึ้นเรียบๆ “เมื่อก่อนเย่เชินหลินเปลี่ยนผู้หญิงทุกวัน ข่าวซุบซิบก็มีตลอด เชื่อว่าทุกคนในที่นี้คงรู้กันหมดว่าฉันเป็นคนยังไง? ผ่านผู้หญิงมามากขนาดนั้น พวกคุณยังสงสัยการสังเกตผู้หญิงของฉันอีกเหรอ?”
“คือ……”
ไม่ว่าเหล่านักข่าวจะถามคำถามแบบไหน เย่เชินหลินก็ตอบได้อย่างรัดกุมอยู่ตลอด
ตอนนี้พวกเขาขี่หลังเสือแล้วลงยาก ไม่เขียนออกมา ดูเหมือนจะเป็นการสัมภาษณ์ที่เปล่าประโยชน์ เขียนออกมาก็ไม่ทำให้เย่เชินหลินลำบากใจ และเป็นการช่วยเย่เชินหลินแก้ไขชื่อเสียงให้กับเซี่ยชีหรั่นด้วย
“แถลงข่าวสิ้นสุดแค่ตรงนี้” เย่เชินหลินลุกขึ้นเม้มปากเดินออกจากห้องประชุมไป
ออกประตูไปแล้ว หลินต้าฮุยก็กระซิบข้างหูเขา “คุณเย่ครับ เจอตัวหลานสาวผู้ตายแล้ว เราแอบพาเธอไปย่านที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่ง ตอนนี้คุณไปเจอเธอได้แล้ว”
“โอเค เดี๋ยวไป” เหล่าผู้สื่อข่าวหูผึ่งกันหมด ประโยคนี้ของเขาที่ว่าเดี๋ยวไป มันทำให้พวกเขาได้กลิ่นตุๆ ทันที
“คุณเย่ คุณจะใช้วิธีพิเศษ เช่นคุกคามชีวิตความปลอดภัยของพยาน ใช้หลักฐานปลอมเพื่อยกคำพิพากษาของคู่หมั้นคุณใช่ไหม? ” มีนักข่าวถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่” เย่เชินหลินตอบสั้นๆ จบแล้ว หลินหลิงเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาตั้งนานแล้ว พูดกับเหล่านักข่าวว่า “สัมภาษณ์คุณเย่จบแล้ว เขาต้องไปทำงาน ทุกท่านกรุณาออกไปด้วย”
เหล่านักข่าวยังอยากตามไป ก็ผ่านแนวป้องกันของเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปไม่ได้
เย่เชินหลินและหลินต้าฮุยขึ้นรถตรงไปเขตชุมชนที่หลินต้าฮุยกล่าวมา ต้าเฟิ่งอยู่ในห้องหนึ่ง หลินต้าฮุยให้คนรักเขาดูแลเธอเป็นพิเศษ
คนรักเขาเป็นคนอ่อนโยนมากและเป็นที่นิยมในหมู่เด็กน้อย หลินต้าฮุยกลัวว่าจะดูแลต้าเฟิ่งไม่ดี และปล่อยให้เธอตื่นตระหนกจากนั้นก็จะเกิดการต่อต้านและส่งผลต่อการสื่อสาร
เย่เชินหลินมีสีหน้าจริงจังอยู่ตลอดเวลา ตอนที่เห็นต้าเฟิ่ง เขาก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนโยน
มันแปลกๆ ที่เด็กจะพูดโกหก เด็กต้องได้รับการชี้นำที่มุ่งร้ายหรือถูกคุกคามโดยผู้ใหญ่อย่างแน่นอน
“คุณเป็นใคร? ” ต้าเฟิ่งถามอย่างระมัดระวังด้วยความกลัว
“ฉันคือหัวหน้าทนายความของเซี่ยชีหรั่น ฉันมาหาเธอเพราะอยากถามอะไรเธอนิดหน่อย”
“คุณคือผู้สมรู้ร่วมคิดของฆาตกร! คุณเป็นคนเลว! เซี่ยชีหรั่นฆ่าป้าของฉัน คุณยังช่วยเธออีก ทำไมคุณเลวขนาดนั้น?” อารมณ์ของต้าเฟิ่งพังทลายทันที เธอด่าและตีเย่เชินหลิน ความเกลียดชังแบบนั้นไม่เหมือนเสแสร้งออกมา
เย่เชินหลินรู้ความรู้สึกของต้าเฟิ่งที่มีต่อป้าเธอตั้งนานแล้ว ไม่แปลกใจที่เด็กจะสะเทือนใจแบบนี้ ในใจของเธอ พี่ส้งเหมือนแม่ผู้ให้กำเนิดเธอเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเธออาจจะได้เห็นการเสียชีวิตของป้าเธอด้วยตาตัวเอง สำหรับเด็กคนหนึ่งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มันเป็นการทำร้ายจิตใจมากเกินไป
เย่เชินหลินเกิดความเมตตาต่อเด็ก แต่ก็ต้องถามในสิ่งที่ควรถาม ต้องพูดในสิ่งที่ควรพูด
“ลุงรู้ว่าเธอรู้สึกแย่ในใจมากๆ เธอพูดต่อสิ” เย่เชินหลินพูดอย่างอ่อนโยน
“คุณอย่ามาเสแสร้ง คุณเป็นคนเลว ใครที่จะช่วยเธอก็เป็นคนเลวกันหมด! เธอเป็นฆาตกร และคุณก็เป็นฆาตกรด้วย!” ต้าเฟิ่งยังคงสะเทือนใจ
เย่เชินหลินปล่อยให้เธอด่านานมาก เขาฟังเธอด่าด้วยสีหน้าอ่อนโยนอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าเธอจะตีเขา เขาก็ไม่แสดงท่าทีปฏิเสธเลยสักนิด
ต้าเฟิ่งด่าจนเหนื่อย ตีจนเหนื่อยแล้ว ค่อยๆ สงบขึ้น
“ต้าเฟิ่ง เธอพูดโกหก” เย่เชินหลินมองตาต้าเฟิ่งตรงๆ จู่ๆ ก็พูดขึ้น
“ฉัน……ฉันไม่ได้โกหก” ต้าเฟิ่งค่อนข้างตะกุกตะกัก พลังความมั่นใจดูเหมือนจะน้อยลงนิดหน่อยในพริบตาเดียว
“เธอพูดโกหก ป้าเธอไม่ได้พูดต่อหน้าเธอว่าให้เซี่ยชีหรั่นปล่อยเธอไป” เย่เชินหลินมองต้าเฟิ่งและพูดขึ้นอย่างมั่นใจมาก
ต้าเฟิ่งกัดปาก อย่างไรแล้วเธอก็เป็นเด็กสาวที่ยังไม่เจนโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับการสั่งสอนตั้งแต่เด็กว่าพูดโกหกมันไม่ถูกต้อง เธอพูดโกหกต่อหน้าเย่เชินหลินหลายรอบแล้ว เธอจึงรู้สึกผิดไปโดยปริยาย
เพียงเวลาสักครู่หนึ่ง เธอก็จำสิ่งที่คนคนนั้นพูดกับเธอได้ เธอคิดว่าห้ามตกหลุมพรางเย่เชินหลิน เธอจึงเงยหน้าขึ้นแล้วพูดขึ้นอีก “เธอพูด! เธอพูดมัน ฉันได้ยินกับหูตัวเอง เธอวางเงินไว้บนโต๊ะชาในบ้านฉัน พูดกับป้าของฉันว่าให้เธอลืมความลับของเธอไปซะ หวังว่าเงินพวกนี้จะทำให้เธอลืมได้ ป้าฉันขอร้องเธอ บอกว่าฉันไม่กล้าเอาเงินของเธอหรอก ขอร้องให้เธอปล่อยฉันไป” ต้าเฟิ่งพูดสิ่งเหล่านี้อย่างรวดเร็ว มองแวบเดียวก็เหมือนการท่อง มันเป็นเรื่องโกหก
“ต้าเฟิ่ง!” จู่ๆ เย่เชินหลินก็เพิ่มโทนเสียง ขมวดคิ้วมองต้าเฟิ่ง จู่ๆ เขาก็จริงจังแบบนี้ ต้าเฟิ่งตกใจกลัวจนตัวสั่นอย่างอดไม่ได้
“ถ้าเธอพูดโกหกแบบนี้ ฆาตกรที่แท้จริงที่ฆ่าป้าของเธอก็จะหนีไปได้ เธอเข้าใจไหม? ”
เขาพูดแบบนี้ ทำให้รู้สึกเข้าใจมากขึ้น ต้าเฟิ่งเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างทันที และดูเหมือนตกใจนิดหน่อย เดิมทีเธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ฆ่าป้าเธอไม่ใช่เซี่ยชีหรั่น
เธอรู้แค่ว่าเมื่อวานเธอกลับไปถึงบ้านก็เห็นป้าเธอนอนจมกองเลือด ตอนนั้นเธอตกใจมาก กรีดร้องว่ามีคนฆ่า จากนั้นก็มีเพื่อนบ้านบอกให้เธอแจ้งตำรวจ เธอถึงคิดแจ้งตำรวจ
เธอรู้สึกขอบคุณป้าเพื่อนบ้านคนนั้นมาก เมื่อก่อนเธอก็ดูแลเธอบ่อยๆ
ป้าถามว่าป้าเธอเป็นศัตรูกับใคร มีใครเคยมาที่บ้านมาก่อนไหม เธอเลยบอกว่าคนที่ชื่อเซี่ยชีหรั่นมา
พี่สาวที่เป็นเพื่อนบ้านบอกว่าคนที่ฆ่าต้องเป็นเซี่ยชีหรั่นแน่ๆ และสอนเธอว่าควรพูดอย่างไรถึงจะช่วยป้าเธอเอาผิดได้
“ต้าเฟิ่ง ป้าเธอเป็นคนดีมาก เธออย่าให้ป้าเธอตายฟรีๆ ต้องล้างแค้นให้ป้าเธอนะ! ฉันบอกเธอให้ว่าบ้านเซี่ยชีหรั่นมีอำนาจ เธอต้องฟังป้านะ ป้าจะบอกให้ว่าเธอควรพูดยังไงเธอหนีไม่พ้น”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset