สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 926 สาวใช้ตัวแสบ 830

ตอนที่ 926 สาวใช้ตัวแสบ 830
จิ่วจิ่วโทรเสร็จแล้วพบว่าเจ้าของโทรศัพท์หายไป ควรเอาโทรศัพท์นี้ให้ใคร? สิ่งนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้
“เอามาให้ฉัน ฉันจะเอาให้เชินหลิน” ส้งหลิงหลิงพูดขึ้นอย่างอ่อนน้อม ในใจคิดอย่างรวดเร็วว่าถ้าได้โทรศัพท์เย่เชินหลินมาแล้วควรใช้ประโยชน์มันอย่างไรดี จิ่วจิ่วมองพ่อบ้านที่หวาดกลัว มองส้งหลิงหลิงที่ไม่สามารถซ่อนแผนร้ายได้ ให้ส้งหลิงหลิงเหรอ? ผู้หญิงคนนี้คงไม่ใช้โทรศัพท์นี้ทำเรื่องเลวร้ายหรอกมั้ง? จิ่วจิ่วไม่ได้คิดมากไป จริงๆ แล้วสำหรับจิ่วจิ่ว ส้งหลิงหลิงมีความหมายพ้องกับคำว่ากบฏ
“เธอฝันไปเหอะ” จิ่วจิ่วมองส้งหลิงหลิงอย่างดูถูก เธอไม่ได้ใจดีเหมือนเซี่ยชีหรั่น
“ใครจะกล้าเอาโทรศัพท์เจ้าชายตระกูลเย่? ” สายตาเย็นชาของส้งหลิงหลิงเหลือบมองพ่อบ้าน แล้วมองจิ่วจิ่วอีกครั้ง จิ่วจิ่วยัยนี่เรื่องเยอะจริงๆ สักวันเธอต้องให้จิ่วจิ่วรู้จุดจบที่ทำให้เธอไม่พอใจ
ตอนแรกส้งหลิงหลิงอยากให้เซี่ยชีหรั่นเข้าใจผิดเย่เชินหลิน ตอนนั้นเธอสามารถใช้โอกาสเข้า-ออกห้องได้ แม้ว่าเธอจะมีโอกาสแต่ก็โดนจิ่วจิ่วทำลาย ส้งหลิงหลิงกัดฟันกรอด อย่างไรก็ตามเธอเป็นได้แค่เสือที่ไม่มีฟัน
“พ่อบ้าน คุณเอาโทรศัพท์ไว้ ถ้าให้ใครเอามันไปจากคุณ ฉันเชื่อว่าคุณเย่จะทำอะไรบ้าง คุณก็รู้ดีกว่าฉัน” จิ่วจิ่วไม่มองส้งหลิงหลิงเลย เอาโทรศัพท์ให้พ่อบ้านที่หวาดกลัวทันที ออกไปอย่างสง่าผ่าเผย แม้ว่าส้งหลิงหลิงจะใช้สายตามองอยู่ด้านหลังเธอจนแทบเกิดรู จิ่วจิ่วก็ไม่มองส้งหลิงหลิงแม้แต่นิดเดียว
“คุณคือพ่อของเด็กน้อยใช่ไหม? ” แพทย์ถามยืนยัน
“ครับ”
“ต่อไปต้องดูแลเด็กคนนี้ให้ดี เด็กน้อยผู้น่าสงสาร อย่าให้เขามีอารมณ์แปรปรวน” สุดท้ายแพทย์ก็บอกเย่เชินหลินว่าเย่เจิ้งเหิงต้องนอนโรงพยาบาลทำการตรวจ เย่เชินหลินทำได้เพียงตอบตกลงโดยไม่มีทางเลือก
หลังจากเย่เชินหลินได้ยินคำแนะนำของแพทย์ ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเชื่อ
ถือแบบฟอร์มต่างๆ ที่แพทย์ให้มาส่งให้พ่อบ้าน
“พ่อบ้านวันนี้ฉันอยู่โรงพยาบาลนะ” เย่เชินหลินพูดอย่างเย็นชา เย่เจิ้งเหิงนอนโรงพยาบาล ต้องอยู่โรงพยาบาลดูแลเขา เย่เชินหลินในฐานะพ่อไม่สามารถผลักภาระให้ผู้อื่นได้
ส้งหลิงหลิงได้ยินประโยคนี้ก็ดีใจอย่างมาก เย่เชินหลินไม่สนใจเซี่ยชีหรั่นจริงๆ ด้วย เธอยิ้มกว้างด้วยความสุขเดินไปข้างๆ เย่เชินหลิน ถึงจะมีลูกแล้ว หุ่นของส้งหลิงหลิงก็ไม่ได้เสียรูปร่างเท่าไร
“ฉันจะอยู่ดูแลลูกด้วย” ส้งหลิงหลิงมองเย่เชินหลินอย่างขอความช่วยเหลือ มีน้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าของสตรีที่เมื่อร้องไห้ก็ยังดูงดงามมีเสน่ห์อย่างไม่สามารถบรรยายได้ แต่ความร้ายกาจที่มองไม่เห็นได้เติมเต็มหัวใจที่อ้างว้างของเธอ
อย่างไรแล้วส้งหลิงหลิงก็คือแม่ของเย่เจิ้งเหิง เย่เชินหลินไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธ ส้งหลิงหลิงก็อยู่โรงพยาบาลอย่างมีเหตุผล
ดำเนินการทั้งหมดเสร็จสิ้นตอนสามโมง เย่เชินหลินเดินผ่านทางเดินเงียบๆ เดินมาที่คนน้อยๆ แล้วโทรหาเซี่ยชีหรั่น
“ที่รัก ฉันคิดถึงคุณ” เย่เชินหลินไม่รอให้เซี่ยชีหรั่นเอ่ยปากก็พูดความคิดถึงออกไปด้วยเสียงแหบพร่า
กว่าจะหาเวลาได้ ความคิดถึงของเย่เชินหลินก็เติบโตเหมือนวัชพืช
ไม่เจอหนึ่ง วันเหมือนผ่านไปสามฤดูใบไม้ร่วง เย่เชินหลินไม่อยากอยู่ห่างเซี่ยชีหรั่นเลยแม้แต่ครู่เดียว
“ลูกสบายดีแล้วใช่ไหม ฉันไม่เป็นอะไร” ได้ยินความรู้สึกที่แท้จริงของเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นก็เมาแล้ว ไม่รู้ว่า เย่เจิ้งเหิงสบายดีหรือเปล่า เซี่ยชีหรั่นยังอดไม่ได้ที่จะอยากรู้เพื่อสบายใจ ถึงเธอจะไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเย่เจิ้งเหิง เย่เจิ้งเหิงคือลูกของเย่เชินหลิน แต่เซี่ยชีหรั่นก็มองเขาเป็นลูกของตนตั้งนานแล้ว
“คุณเย่ คุณนางโทรมา” หลินต้าฮุยมองเย่เชินหลินที่โทรศัพท์อยู่ เอ่ยปากอย่างค่อนข้างลำบากใจ
ความรู้สึกที่คุณเย่มีต่อเซี่ยชีหรั่นเขาเห็นทั้งหมดด้วยตาตัวเอง คุณนางคือแม่ของคุณเย่ คุณเย่เคารพคุณแม่ หลินต้าฮุยเป็นพยาน
โชคดีที่เซี่ยชีหรั่นช่วยเขาแก้ปัญหานี้ได้
“หลิน งั้นเราว่างก่อนนะ” เซี่ยชีหรั่นคิดถึงเย่เชินหลินก็จริง แต่เธอก็รู้ว่าฝู้เฟิ่งหยีก็คิดถึงลูกชายเหมือนกัน
“โอเค ฉันจะไปหาคุณดึกหน่อยนะ”
เซี่ยชีหรั่นวางสายไปก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหู
“ชีหรั่น เรามาเยี่ยมเธอแล้ว”
เสียงดังไร้กังวลของจิ่วจิ่วดังขึ้นด้านนอก เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็วางสายตอนนี้ ฟังเสียงฝีเท้าดูเหมือนจะมีสองสามคน นอกจากจิ่วจิ่วใครมาอีก? พี่เหอไท้?
ไม่รอให้เซี่ยชีหรั่นได้เดาจิ่วจิ่วก็บุกเข้ามา
เซี่ยชีหรั่นเห็นสามคน ใบหน้าแข็งทื่อเผยรอยยิ้ม ไม่มีเย่เชินหลิน เธอยังมีจิ่วจิ่ว
“พี่ชีหรั่น” ไห่ฉิงฉิงพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู
“เข้ามาเร็ว” ชีหรั่นทักทายทุกคนให้เดินเข้าไป
เดิมทีอยากถามทุกคนว่าอยากดื่มอะไร กำลังจะเอ่ยปากก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เซี่ยชีหรั่นพึ่งพาคนอื่นดำรงชีวิต ไม่สามารถต้อนรับแขกได้
“ชีหรั่น วันนี้เราจะจัดปาร์ตี้ที่นี่” จิ่วจิ่วพูดเสียงดัง “ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว”
มองเข้าไปในรถก็เห็นอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ดวงตาเซี่ยชีหรั่นเต็มไปด้วยความคาดหวัง
จิ่วจิ่วสั่งให้โม่เสี่ยวจุนย้ายอาหารมา ใครใช้ให้เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่นี่ล่ะ งานหนักก็ต้องรบกวนเขาเท่านั้น นี่คือคำพูดเดิมของจิ่วจิ่ว
โม่เสี่ยวจุนไม่พูดอะไรก็ย้ายอาหารมา
ไห่ฉิงฉิงเห็นโม่เสี่ยวจุนย้ายอาหารคนเดียวก็เดินไปช่วยย้ายอาหารที่มีน้ำหนักเบา จิ่วจิ่วเห็นแล้วก็ขำขึ้นมาอย่างสนุกสนาน “ฉิงฉิงสงสารเสี่ยวจุนเหรอ? ”
ไห่ฉิงฉิงหน้าแดงนิดหน่อย จ้องเขม็งจิ่วจิ่ว
“ไม่พูดแล้วๆ พูดอีกเดี๋ยวมีคนโกรธ จริงสิ ชีหรั่นที่นี่มีห้องครัวไหม? ” จิ่วจิ่วเดินเข้าไปในบ้านไม่เห็นสถานที่ทำอาหาร เลยถามเซี่ยชีหรั่นที่ตามเข้ามา
“ไม่มี ที่นี่ไม่รู้เดิมทีไว้สำหรับทำอะไร” เซี่ยชีหรั่นเห็นสามคนดูมีความสุข ก็รู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อยเลย
“สถานที่ซอมซ่ออะไรเนี่ย ไม่มีห้องครัวแล้วคนจะกินข้าวยังไง ไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว” จิ่วจิ่วกระทืบเท้าแรงๆ พูดบ่น
เซี่ยชีหรั่นเห็นจิ่วจิ่วกระตือรือร้นในการทำอาหารมาก ยิ้มและพูดขึ้น “งั้นเรามาสร้างห้องครัวชั่วคราวกันไหม? ” ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากจิ่วจิ่วทันที ยกย่องชีหรั่นว่าเป็นคนฉลาดมาตลอด ไห่ฉิงฉิงก็ไม่มีความคิดเห็น
โม่เสี่ยวจุนกลายเป็นคนงานที่โชคร้าย สร้างห้องครัวชั่วคราวให้ทุกคน ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ห้องครัวที่มีสไตล์ก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน จิ่วจิ่วกระตือรือร้นอยากลอง เริ่มแผนใหญ่สำหรับการทำอาหาร
สามสาวเก็บผัก ล้างผัก แบ่งงานกันทำอย่างเป็นระเบียบ มีแค่โม่เสี่ยวจุนเท่านั้นที่ไม่มีอะไรทำและเริ่มทำความสะอาด
ความคิดถึงก็ถูกทำให้เจือจางลง
ผลของการใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ได้อาหารโต๊ะใหญ่ สีและกลิ่นหอมครบครัน จิ่วจิ่วหัวเราะเบาๆ พูดขึ้น “คราวหน้าเราหาโอกาสจัดโต๊ะจีนกินกันดีกว่า”
เซี่ยชีหรั่นมองจิ่วจิ่วอย่างดูถูก ฉันไม่รู้จักเธอ เธอมันกินจอมตะกละ
“อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ชีหรั่นอ่า การกินเป็นสิ่งที่มีความสุขมากๆ ชีวิตคนเราต้องอยู่กับปัจจุบันนะ” จิ่วจิ่วส่ายศีรษะพูดขึ้น ลักยิ้มบนใบหน้าน่ารักผิดปกติ
ไห่ฉิงฉิงขมวดคิ้วแน่นพูดขึ้น “อาหารโต๊ะใหญ่ขนาดนี้ เรากินไม่หมดหรอก ทิ้งไปก็เสียดาย เหอๆ เรียกพี่ชายฉันมาร่วมทำลายทัพดีกว่า” พูดจบไม่รอให้คนอื่นเห็นด้วยก็โทรหาไห่ลี่หมิน ไห่ลี่หมินช่วงนี้ยุ่งกับเรื่องเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ทานอาหารดีๆ เลย คนเหล็กก็ต้องการอาหารเหมือนกัน
จิ่วจิ่วเดินไปรอบโต๊ะสองรอบแล้วสรุปขึ้นมา “มันเยอะเกินไปจริงๆ แหละ เราสี่คนกินไม่หมดหรอก” เธอพูดอย่างช้าๆ “ฉันเรียกเหยนชิงเหยียนมาได้ไหม?”
ไห่ฉิงฉิงบอกว่าจะให้พี่ชายเธอมา คนแรกที่จิ่วจิ่วนึกถึงเลยก็คือเหยนชิงเหยียน
“คุณผู้หญิง เธออายุไม่น้อยแล้ว รีบหาสามีเถอะ” เซี่ยชีหรั่นเห็นท่าทางเขินอายของจิ่วจิ่ว ก็พูดหยอกล้อ
“พี่ ฉันเอง เราอยู่สถานที่เฝ้าระวังของชีหรั่น เดี๋ยวฉันส่งที่อยู่ไปให้พี่ มากินข้าวที่นี่กับเราสิ” ไห่ฉิงฉิงพูดน้ำเสียงผ่อนคลาย ใบหน้ายิ้มสวยทำให้จิ่วจิ่วมองไปที่เซี่ยชีหรั่น ใบหน้าเต็มไปด้วยการภาวนา
มองแววตาละโมบโลภมากของจิ่วจิ่ว ชีหรั่นก็ใช้แววตาถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอ”
“ยืมโทรศัพท์หน่อยสิ” จิ่วจิ่วใช้ปากตอบชีหรั่น ไห่ฉิงฉิงกำลังโทรหาไห่ลี่หมินอยู่ จิ่วจิ่วอายที่จะพูดเสียงดัง
ชีหรั่นถูกลักยิ้มบนหน้าจิ่วจิ่วดึงดูด ไม่ได้สังเกตเห็นแววตาเธอ
ไห่ฉิงฉิงเพิ่งวางสาย จิ่วจิ่วก็ตะโกนเสียงดัง “เซี่ยชีหรั่นเธอไม่สนใจฉันใช่ไหม ขอฉันยืมโทรศัพท์เธอหน่อย คิดไม่ถึงเลยนะ ฉันใจสลายแล้ว”
จิ่วจิ่วยื่นมือที่ค่อนข้างอวบวางบนหัวใจ ทำท่าทางอกหัก
“เอาไปๆ รีบให้คนรักเธอมาเร็วๆ ” เซี่ยชีหรั่นมองจิ่วจิ่วอย่างขำๆ ไห่ฉิงฉิงก็มองจิ่วจิ่วอย่างนินทา
“เดี๋ยวก็ให้คนรักเธอมาด้วยสิ” จิ่วจิ่วพูดขึ้นอย่างไม่เต็มใจ พูดจบก็นึกถึงคุณเย่ที่อยู่โรงพยาบาล เย่เจิ้งเหิงไม่สบาย แบบนั้นก็มาไม่ได้
เซี่ยชีหรั่นสะท้อนนึกถึงเย่เชินหลิน
“ชีหรั่น เย่เจิ้งเหิงป่วย เห็นส้งหลิงหลิงผู้หญิงคนนั้นร้องไห้เสียใจ คิดแล้วน่าจะค่อนข้างหนัก วันนี้คุณเย่คงมาไม่ได้” จิ่วจิ่วพยายามพูดอย่างระมัดระวังให้มากที่สุด กลัวทำให้เซี่ยชีหรั่นเจ็บ ผู้หญิงที่มีความรักจะใจแคบมาก ผ่านเรื่องของส้งหลิงหลิงมา นี่กลายเป็นคำพูดที่ชาญฉลาดของจิ่วจิ่ว
ประโยคเดียวทุกคนเงียบหมด
โม่เสี่ยวจุนมองเซี่ยชีหรั่น ไห่ฉิงฉิงมองโม่เสี่ยวจุนอีกครั้ง สถานการณ์นี้กลายเป็นวงข้าวโพดล้ม
เซี่ยชีหรั่นยิ้มให้กับทุกคนแล้วพูดขึ้น “ไม่เป็นไร เด็กป่วยเป็นเรื่องใหญ่ ฉันโทรบอกพ่อแม่ก่อนนะ ให้พี่ฉันมาที่นี่” ให้หลี่เหอไท้มา เซี่ยชีหรั่นแค่อยากบอกผ่านหลี่เหอไท้ไปบอกแม่ว่าตอนนี้เธอสบายดีมาก นึกถึงวันที่เข้าสถานีตำรวจ จ้าวเหวินอิงมีสีหน้ากังวล เซี่ยชีหรั่นไม่อยากให้ผู้สูงอายุทั้งสองเป็นห่วง
หลี่เหอไท้ที่รับโทรศัพท์พูดอย่างตื่นเต้น “ฉันขอเวลาครึ่งชั่วโมง ไม่ๆ สิบห้านาทีก็ได้”
ตามที่คาดไว้ สิบสามนาทีหลี่เหอไท้ก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคน เหลือแค่เหยนชิงเหยียนที่ยังไม่มา
ขณะที่เหยนชิงเหยียนรับโทรศัพท์จิ่วจิ่ว ส้งหลิงหลิงและหลินต้าฮุยอยู่ขนาบข้างเขาพอดี แค่มุมมอง หลินต้าฮุยไม่เห็นส้งหลิงหลิง เธอได้ยินจิ่วจิ่วและกลุ่มเพื่อนมารวมตัวก่อน และได้ยินชื่อที่มีความสัมพันธ์ผิดปกติกับเซี่ยชีหรั่น นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เย่เชินหลินให้จิ่วจิ่วไปเป็นเพื่อนเซี่ยชีหรั่น ยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้น ส้งหลิงหลิงมีแผนการเกิดขึ้นอีกครั้ง
หลังจากส้งหลิงหลิงรอให้เหยนชิงเหยียนออกไปอย่างสงบเยือกเย็น ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา รอให้เย่เชินหลินเข้าสู่กับดัก เธอรับสายและค่อยๆ เดินไปใกล้ๆ เย่เชินหลิน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset