สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 927 สาวใช้ตัวแสบ 831

ตอนที่ 927 สาวใช้ตัวแสบ 831
“หลินหลิงเหรอ? ฉันอยู่โรงพยาบาล เธอหาใคร? ไห่ลี่หมินเหรอ? เขาไปรวมตัวกับเซี่ยชีหรั่นแล้ว” ส้งหลิงหลิงยิ่งพูดยิ่งเบา และกำชับเป็นพิเศษว่าอย่าบอกว่าเธอพูด “ฉันแค่ได้ยินมา แต่ไม่รู้แหล่งนะ”
เย่เชินหลินมีความรู้สึกไวต่อคำว่าเซี่ยชีหรั่นสามคำนี้มาก ส้งหลิงหลิงไม่ได้พูดเสียงแหลมสูงเหมือนตอนแรก จุดประสงค์เธอคืออยากให้เย่เชินหลินเข้าใจเซี่ยชีหรั่นผิด และไม่ได้พูดเบามากเท่าไร
เย่เชินหลินแสยะยิ้มมองละครที่ส้งหลิงหลิงกำกับเองเล่นเอง ไห่ลี่หมินเป็นพี่น้องของเขาตั้งแต่เล็กๆ ส้งหลิงหลิงแยกตัวไปนานมากจนลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ เพื่อนของภรรยาห้ามโดนรังแก ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ใช่เพื่อนธรรมดาด้วย ไม่อยากฟังสคริปต์ที่น่าเบื่อของส้งหลิงหลิงอีกแล้ว เย่เชินหลินก้าวเท้ายาวๆ ออกไป
“พวกจิ่วจิ่วไปถึงชีหรั่นหรือยัง? ” เห็นหลินต้าฮุยเดินมา ใบหน้าเย่เชินหลินก็ไม่มีอารมณ์ใดๆ ดวงตาที่ซ่อนความกังวลใจไม่มิดมองไปยังหลินต้าฮุยที่เดินมาข้างๆ ตน
“จะถึงแล้วครับ” หลินต้าฮุยรู้ว่าเย่เชินหลินใส่ใจความรู้สึกเซี่ยชีหรั่น กลัวว่าเธอจะเหงา คุณเซี่ยโชคดีมากจริงๆ
เย่เชินหลินเห็นสีหน้าหลินต้าฮุยก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เย่เชินหลินแค่ทำสีหน้าเย็นชาให้กับเขา
ส้งหลิงหลิงมองเย่เชินหลินออกไปอย่างหมดหวัง แววตาเย็นชามีความแค่นยิ้ม เย่เชินหลิน โลกของคุณ เซี่ยชีหรั่นคือทุกอย่างสินะ เย่เจิ้งเหิงก็เทียบเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ ใช่ไหม? ฉันรู้ว่าแผนเล็กๆ พวกนี้ทำให้พวกเธอแยกจากกันไม่ได้ แต่ทำให้พวกเธอไม่มีความสุข ส้งหลิงหลิงอย่างฉันก็มีความสุขแล้ว สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือเย่เชินหลินไม่ได้ตกหลุมพรางเธอเลย เธอเล่นละครฟรีตั้งแต่ต้นจนจบ
เย่เชินหลินไม่ได้ยินความในใจส้งหลิงหลิง เขาก็ออกไปแล้ว ยังไม่รู้เรื่องของชีหรั่นลึกซึ้งเท่าไร เย่เชินหลินไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่ เขาอยากหาเวลาพักจากงานไปหาชีหรั่น
เหลือขับรถสิบห้านาที เย่เชินหลินจอดรถไม่ไป ไม่รู้ว่าต้องไปต่อไหม วิ่งไปถึงจุดหมาย ในทางตรงข้ามกลับมีความรู้สึกคิดถึงบ้าน ก่อนที่ชีหรั่นจะออกมา เย่เชินหลินกลัวเห็นเธอ เลยให้เขาแอบมองเธออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว
เย่เชินหลินขับรถไปบ้านเซี่ยชีหรั่นสามสิบเมตร หาที่หลบเพื่อซ่อน ดวงตาลุ่มลึกคู่หนึ่งมองการเคลื่อนไหวรอบๆ บ้านเซี่ยชีหรั่น ลมพัดใบไม้ขยับนิดเดียวก็ไม่ปล่อยไป
เย่เชินหลินจ้องมองกลุ่มชายหญิงในห้องที่ดื่มเหล้ากันอย่างเต็มที่
ไห่ลี่หมินยกแก้วเหล้าเดินไปข้างๆ เซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่น ฉันจะพยายามช่วยเธอให้เต็มที่” นี่คือคำสัญญาของลูกผู้ชายคนหนึ่ง ดวงตาไห่ลี่หมินมีความเป็นมิตรอย่างช้าๆ หลี่เหอไท้ไม่ยอมน้อยหน้า ยืนขึ้นพูด “ชีหรั่น พี่เหอไท้ก็จะไม่ลังเลที่จะช่วยเธอให้ถึงที่สุด”
ชีหรั่นมองทุกคนอย่างประทับใจ น้ำตาที่เหมือนไข่มุกหยดลงพื้นทีละหยด
“ไม่ต้องร้องไห้ โตป่านนี้แล้วยังร้องไห้อีก” จิ่วจิ่วหยิบกระดาษทิชชูเช็ดหน้าให้ชีหรั่น
ชีหรั่นหยิบทิชชูมาเช็ดลวกๆ พูดอย่างสะอึกสะอื้น “ขอบคุณทุกคนนะ ขอบคุณทุกคนจริงๆ” เธอในตอนนี้หวังว่าคนคนนั้นจะพูดคำแบบนี้ออกมา จากนั้นเย่เชินหลินยุ่งมากเกินไป เซี่ยชีหรั่นไม่โทษเขา
โทรศัพท์ไห่ลี่หมินดังขึ้นผิดเวลา เห็นเบอร์ที่คุ้นเคย ไห่ลี่หมินก็ทำหน้าบึ้งตึงออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก
จิ่วจิ่วถามว่าใครโทรมาอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ
ไห่ลี่หมินไม่ได้เปิดเผยคำตอบ แค่บอกว่าตัวเองมีธุระต้องไปก่อนอย่างรู้สึกผิด
“ฉันจะไปส่ง” ชีหรั่นพูดว่าจะไปส่งไห่ลี่หมิน เธอมองเหยนชิงเหยียนและโม่เสี่ยวจุน คิดถึงเย่เชินหลินอยู่เสมอ อยากออกไปสูดอากาศ
ไม่มีคนอื่นแล้ว ไห่ลี่หมินจึงถามออกมาตรงๆ “ชีหรั่น เธอกับเย่เชินหลิน?”
“เราไม่เป็นไร เขาไปดูลูก ไม่รู้ว่าลูกเป็นไงบ้าง”
ไห่ลี่หมินยื่นมือออกมาตบเบาๆ เพื่อแสดงความสบายใจของตัวเอง
“ชีหรั่น เธอต้องเข้าใจเชินหลินนะ ยังไงก็เป็นลูกเขา” ไห่ลี่หมินเชื่อมาตลอดว่าชีหรั่นเป็นคนที่มีไหวพริบ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามสักหน่อย
“ฉันรู้ ฉันเชื่อใจเขา คุณมีธุระไม่ใช่เหรอ? รีบกลับไปเถอะ” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าส่งไห่ลี่หมินออกไป เธอไม่ใช่ผู้หญิงใจแคบ บอกว่าเข้าใจเย่เชินหลินแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ไม่หวาดระแวงตามอำเภอใจ เธอต้องการให้ความเชื่อใจเย่เชินหลินมากพอ
“งั้นฉันไปแล้ว เธอกลับไปเถอะ” ไห่ลี่หมินพยักหน้าโบกมือให้เซี่ยชีหรั่น ก้าวเท้ากว้างออกไป มีคนบอกว่าจงหวีฉวนครั้งหนึ่งเคยส่งคนไปบ้านพี่ส้งเป็นการส่วนตัว ไห่ลี่หมินต้องรีบไป
“อืม” ชีหรั่นแค่ตอบด้วยเสียงหนาจมูก
“ฉันไปแล้วนะ มีเวลาจะมาหาเธอ” ไห่ลี่หมินออกไปโดยไม่หันศีรษะกลับมา
มองไห่ลี่หมินออกไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็เหม่อมองถนนที่ว่างเปล่านั้น เชินหลิน ตอนนี้คุณยุ่งเรื่องของฉันอยู่ใช่ไหม? ถึงคุณจะยุ่งเรื่องของฉันก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นห่วง
คนหนึ่งอยู่ในลานบ้านมองไประยะไกล คนหนึ่งมองเซี่ยชีหรั่นอยู่ในความมืด ทัศนียภาพที่ประดับตกแต่งหนึ่ง ความฝันที่ประดับตกแต่งหนึ่ง
เย่เชินหลินซ่อนตัวอยู่ในความมืดตลอด เห็นคนเดินออกไปทีละคน จนกระทั่งหลินต้าฮุยโทรมา
“คนเฝ้าต้าเฟิ่งบอกว่าต้าเฟิ่งหายตัวไป”
“ว่าไงนะ?”
ต้าเฟิ่งหายไปแล้ว ตึงเครียด
“นายส่งคนไปสืบค้นลับๆ เยอะหน่อย ต้องหาต้าเฟิ่งเจอก่อนจงหวีฉวน ถ้าให้ไอ้แก่จงหวีฉวนนั่นหาเจอ ต้าเฟิ่งจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้” เย่เชินหลินคิดมาตรการโต้ตอบอย่างรวดเร็ว
“รู้แล้วครับ คุณนางกับคุณท่านให้คุณกลับบ้าน จะปีใหม่แล้ว” หลินต้าฮุยนึกถึงเย่เฮ่าหรันโทรมาอย่างค่อนข้างเยือกเย็น พูดออกมาโดยไม่ได้ระวัง
หลังจากที่รวมตัวกันในบ้านชีหรั่นอีกไม่กี่วันก็ปีใหม่แล้ว
ทุกคนซื้อของปีใหม่อย่างมีความสุข จ้าวเหวินอิงกำลังซื้อของสำหรับปีใหม่นึกขึ้นได้ว่าลูกสาวตัวเองยังกลับบ้านไม่ได้ น้ำตาก็คลอ กลัวว่าหลี่หมิงจุ้นจะเห็นเข้า ก็ไม่กล้าชัดเจนมากเกินไป เกลียดจงหวีฉวนจะตายอยู่แล้ว เรื่องของเซี่ยชีหรั่นจงหวีฉวนมันเป็นคนทำ จ้าวเหวินอิงอยากให้ผักในมือเป็นจงหวีฉวน จะโขกสับมันแรงๆ
“เหอไท้ ลูกออกไปซื้ออาหารมาเยอะหน่อย แล้วเดี๋ยวเอาไปให้ชีหรั่น” 
จ้าวเหวินอิงออกมาจากครัวแล้วพูดกับหลี่เหอไท้ที่ดูโทรทัศน์อยู่ ปีใหม่ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขมากเท่าไรนัก
“รู้แล้วครับแม่” หลี่เหอไท้พยักหน้า วางรีโมทลง สวมเสื้อโค้ตหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากบ้านไป นึกถึงคำพูดของแม่ ในใจเป็นห่วงเซี่ยชีหรั่นอยู่ตลอดเวลา ปีใหม่ของคนอื่นล้วนมารวมตัวกันที่บ้าน แต่ชีหรั่นไม่สามารถกลับบ้านได้
ซูเปอร์มาร์เก็ตมีชีวิตชีวาอย่างมาก ทุกคนถือของถุงใหญ่ถุงเล็ก ใบหน้ามีแต่ความสุข
คนที่หลี่เหอไท้เห็นไม่ใช่คู่รักที่สนิทสนม แต่เป็นคู่รักที่กลมเกลียวกัน หรือเป็นเพื่อนสนิทกัน มีแต่เขาที่โดดเดี่ยว
ซื้อผลไม้สักหน่อยก่อนแล้วกัน ผลไม้ที่บ้านน่าจะมีไม่มากแล้ว
หลี่เหอไท้ก้าวเท้ายาวเดินไปเขตผลไม้ พบดวงตากลมสดใสคู่หนึ่งใต้ที่วางผลไม้
มีคน นี่คือความคิดแรกของหลี่เหอไท้
ดวงตาคู่นั้นก็เห็นหลี่เหอไท้เช่นกัน มองหลี่เหอไท้อย่างดื้อรั้นและหวาดกลัว
ดวงตาคู่นี้ทำให้หลี่เหอไท้นึกถึงเซี่ยชีหรั่นขึ้นมาชั่วขณะ เมื่อก่อนชีหรั่นก็มีแววตาแบบนี้
หลี่เหอไท้ส่ายศีรษะหลุดยิ้ม มือใหญ่สะอาดสะอ้านยื่นไปหาดวงตาคู่นั้น
“ทำไมมาหลบอยู่ตรงนี้ ครอบครัวหาเธอไม่เจอจะเป็นกังวลเอานะ” หลี่เหอไท้พูดอย่างอ่อนโยน ฟังแล้วเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ
ดวงตาคู่นั้นมองหลี่เหอไท้ด้วยความงุนงง ไม่ออกมา และไม่พูดอะไรสักคำ
“ออกมา ฉันเลี้ยงของกิน” 
“ฉันไม่มีบ้าน”
ฟังเสียงแล้วเป็นเด็กผู้หญิง หลี่เหอไท้ไม่รู้ควรตอบอย่างไรไปชั่วขณะ คิดว่าเป็นเด็กน้อยที่หลงทาง แต่กลับเป็นเด็กน้อยที่โดดเดี่ยว
“ฉันจะพาเธอไปบ้านฉัน” คิดว่าปีใหม่เซี่ยชีหรั่นก็อยู่คนเดียว หัวใจเจ็บปวดอย่างไม่มีเหตุผล อยากพาเด็กผู้หญิงที่ไม่เคยเจอมาก่อนกลับบ้านโดยไม่รู้ตัว
“คุณเป็นคนไม่ดีเหรอ?” หลังจากเงียบไปไม่กี่นาที เสียงเด็กผู้หญิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนดิ้นรนครั้งใหญ่แล้วถึงได้เลือกผลลัพธ์นี้
หลี่เหอไท้มุมปากยกขึ้น ยิ้มอย่างอ่อนโยนมองไปที่ดวงตาสดใสคู่นั้นแล้วพูดขึ้น “ลุงไม่ใช่คนไม่ดีนะ”
ประโยคหนึ่ง แค่ประโยคเดียว เด็กผู้หญิงก็ออกไปกับหลี่เหอไท้ บางทีอาจจะเป็นเพราะเสียงหลี่เหอไท้อ่อนโยน บางทีอาจจะเป็นเพราะดวงตาหลี่เหอไท้อ่อนโยน หรือบางทีอาจจะเป็นโชคชะตา
หลี่เหอไท้พาเด็กผู้หญิงซื้อของที่ต้องการและรีบออกไป ทั้งตัวหลี่เหอไท้โดนของบังหมด ดีที่เอารถมาด้วย ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าจะเอาของพวกนี้กลับไปอย่างไร
เด็กผู้หญิงนั่งในรถอย่างเงียบๆ เดินไปไม่กี่นาทีก็ถามหลี่เหอไท้เบาๆ “ลุง เด็กพูดโกหกดีไหม? ”
เห็นเด็กผู้หญิงที่มีใบหน้าโตก่อนวัย ดวงตาเหมือนมีสิ่งที่เรียกว่าความเกลียดชังอยู่ สายตาหลี่เหอไท้ตกใจ ไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ผ่านเรื่องเลวร้ายอะไรมา ทำให้เธอถูกรายล้อมไปด้วยความเกลียดชังจริงๆ อยากให้เธอปล่อยวางความเกลียดชังต้องใช้เวลาสักหน่อย
หลี่เหอไท้คิดไม่กี่นาทีก็พูดขึ้นอย่างระมัดระวัง “พูดโกหกไม่ถูกต้อง แต่บางครั้งการโกหกเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน ต้องแยกให้ออกว่าอันไหนเจตนาดี อันไหนเจตนาร้าย”
เด็กที่อายุไม่กี่ขวบ หลี่เหอไท้ไม่ได้พูดอย่างจริงจัง และลืมมันไปในภายหลัง
เด็กผู้หญิงฟังสิ่งที่หลี่เหอไท้พูดจบก็เริ่มเงียบ ทั้งรถเงียบมากจนได้ยินเสียงเข็มหล่นอย่างชัดเจน
เมื่อใกล้ถึงบ้านเด็กผู้หญิงก็พูดขึ้นเบามาก “ฉันโกหกลุงคนหนึ่ง ตอนแรกฉันไม่ได้ตั้งใจโกหกเขา ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นคนไม่ดีหรือเปล่า” เสียงภายในรถค่อยๆ แพร่กระจาย
หลี่เหอไท้มองเด็กผู้หญิงที่เสื้อผ้ามอมแมม ตอบคำถามของเด็กผู้หญิงด้วยคำพูดที่เข้าใจง่าย
“ไม่เป็นไร รู้ว่าผิดก็แก้ไขได้” 
พูดประโยคนี้จบแล้วก็ไม่มีใครพูดอะไร
ไม่นานก็มาถึงบ้านใหญ่ตระกูลหลี่ หลี่เหอไท้จอดรถไว้ในโรงรถแล้วล็อก พาเด็กผู้หญิงลงจากรถ เด็กผู้หญิงเดินตามหลี่เหอไท้มาติดๆ ก้มศีรษะอยู่ตลอดเวลา ไม่กล้ามองคนอื่น
“ไม่ต้องกลัว ฉันจะพาเธอไปหาคุณปู่คุณย่า” หลี่เหอไท้ยังไม่ได้แต่งงานจนถึงตอนนี้ จ้าวเหวินอิงไม่ได้กังวลเหมือนแม่คนอื่นๆ และไม่ได้ตั้งใจพูดเรื่องนี้กับหลี่เหอไท้ ที่เขาพาเด็กผู้หญิงกลับมา อยากให้อยู่เป็นเพื่อนจ้าวเหวินอิงและหลี่หมิงจุ้น คลายความเบื่อหน่ายของผู้สูงอายุทั้งสอง “มา ปล่อยก่อน ฉันจะไปหยิบของ” หลี่เหอไท้มองเด็กผู้หญิงอย่างอ่อนโยน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset