สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 934 สาวใช้ตัวแสบ 838

ตอนที่ 934 สาวใช้ตัวแสบ 838
“จะปีใหม่แล้ว อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น ต้องมีใครบางคนที่กังวลจะไปขึ้นศาลมากกว่าพวกเรา เพียงแค่รอให้ผ่านปีใหม่ก็จะให้ศาลเปิดพิจารณาคดี ชีหรั่นก็จะได้ลบล้างความสงสัย” หลังจากเย่เชินหลินเข้ามาในห้องไม่มองเซี่ยชีหรั่นแม้แต่น้อย เพียงแค่ตัวเองไม่ตอบตกลงจงหวีฉวน เห็นการแข่งขันสำหรับตำแหน่งนั้นเร่งรัดขึ้นเรื่อยๆ จงหวีฉวนต้องร้อนใจกว่าตนเอง เขาต้องการใช้เซี่ยชีหรั่นกดดันตัวเอง อยากเห็นตอนขึ้นศาลที่พวกเขาไม่มีทางออกแบบนี้ถึงจะเห็นได้ชัดเจนว่ามีแค่เขาเท่านั้นที่ช่วยเซี่ยชีหรั่นได้ และก็มีแค่วิธีนี้ที่จะบีบบังคับเย่เชินหลินได้
จงหยุนซางพอได้ยินว่าใครบางคนที่พูดถึงก็คือพ่อของเธอ สีหน้าก็อึดอัดขึ้นมา จึงพูดขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ และอยากให้เย่เชินหลินอยู่ต่อ
จงหยุนซางเห็นสีหน้าดำมืดของเย่เชินหลิน ส่ายหน้า สงสัยคุณชายเย่คงจะมีธุระ เธอเองก็อยากกลับบ้านไปดูว่าจงหวีฉวนจะทำยังไงต่อ
“พวกเรากลับก่อนน่ะ นานๆ ทีพวกเธอจะได้อยู่ด้วยกัน” จงหยุนซางดึงต้าเฟิ่งลุกขึ้นและบอกลา หลี่เหอไท้ก็ลุกขึ้นและขอตัวเพราะยังมีธุระต้องจัดการ
เซี่ยชีหรั่นดูแล้วไม่มีใครอยู่ต่อ จึงไปส่งด้วยตัวเองที่หน้าประตู
“มีเวลาว่างก็มาเล่นกับฉัน ฉันอยู่คนเดียวเหงาอยู่น่ะ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มและโบกมือ ต้าเฟิ่งยืนแอบอยู่ด้านหลังหลี่เหอไท้อย่างอึดอัดโดยไม่มองเซี่ยชีหรั่น
ระหว่างที่หลี่เหอไท้กำลังลังเลว่าจะชวนจงหยุนซางไปบ้านตระกูลหลี่ดีไหม โทรศัพท์ของจงหยุนซางก็ดังขึ้น
จงหยุนซางยิ้มและบอกหลี่เหอไท้ว่ามีธุระให้พวกเขากลับไปก่อน มองส่งต้าเฟิ่งและที่หลี่เหอไท้จากไปแล้ว จงหยุนซางจึงจะรับโทรศัพท์
“แม่ โทรมามีอะไร?” จงหยุนซางไม่เข้าใจเยว่มู่หลานโทรมาเวลานี้มีธุระอะไร
“ทำไมเพิ่งจะรับโทรศัพท์ รู้ไหมพ่อแกไปไหน? ตั้งแต่ปีใหม่จนตอนนี้ 3 วันแล้วยังไม่เห็นเงาเลย” เสียงของเยว่มู่หลานในโทรศัพท์ซ่อนความโกรธไว้ มีธุระอะไรที่สำคัญกว่าการอยู่พร้อมหน้ากันในช่วงปีใหม่? ช่วงนี้เธอไม่ค่อยเข้าใจจงหวีฉวนมากขึ้นเรื่อยๆ
จงหยุนซางนึกถึงครั้งสุดท้ายที่ได้คุยโทรศัพท์กับจงหวีฉวน เดาว่าพ่อของเธอต้องกำลังหลบเธออยู่แน่นอน เพราะไม่อยากให้เยว่มู่หลานกับจงหวีฉวนทะเลาะกัน จงหยุนซางจึงโกหกไป
“แม่ พ่อต้องงานยุ่งมากแน่ๆ” จงหยุนซางคิดแล้วคิดอีกหรือว่ากลับไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ดีกว่า เรื่องเซี่ยชีหรั่นมีคนอื่นอีกหลายคนกำลังช่วยอยู่อีกไม่นานความจริงจะถูกเปิดเผย แต่ตอนนี้พ่อไม่อยู่ แม่อยู่คนเดียว จงหยุนซางไม่ค่อยพอใจพ่อตัวเองเล็กน้อย
เซี่ยชีหรั่นมองทั้งสามคนที่จากไป คิดถึงบ้านตัวเองเล็กน้อย เดินเข้ามาในบ้านของคนแปลกหน้าอย่างขวัญหนีดีฝ่อ พอเห็นเย่เชินหลินจึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีคนอยู่ในบ้าน เซี่ยชีหรั่นเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้เย่เชินหลินยืนอยู่ด้านนอกตั้งนาน จึงดึงมือเย่เชินหลินมากุมไว้อย่างห่วงใย ความรักที่ไม่ส่งเสียงเติมเต็มพื้นที่ว่างเล็กๆ ในเวลานี้
มือของเย่เชินหลินเย็นมาก น่าจะเพราะยืนอยู่ด้านนอกนานแล้ว
ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่วิธีที่ดี เซี่ยชีหรั่นคิดถึงตอนเด็กๆ เพราะที่บ้านมีลูกสามคน พ่อแม่บุญธรรมยุ่งอยู่กับการดูแลโม่เสี่ยวหนง ตอนหน้าหนาวมือเธอเย็นจนบวมแดง โม่เสี่ยวจุนเอาน้ำร้อนใส่แก้วมาให้เธอ เพื่อให้เธอจับไว้
“คุณรอฉันสักครู่” เซี่ยชีหรั่นปล่อยมือของเย่เชินหลิน และเดินไปต้มน้ำร้อนในครัว
ขณะที่เซี่ยชีหรั่นปล่อยมือ เย่เชินหลินรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก มองเงาของเซี่ยชีหรั่นที่กำลังยุ่ง เย่เชินหลินเดินไปด้วยความทุกข์ใจ ต้องการให้เซี่ยชีหรั่นพัก
เย่เชินหลินยังไม่ทันได้พูดอะไร เซี่ยชีหรั่นก็ยื่นแก้วมาให้เย่เชินหลินด้วยสองมือ แก้วใบนี้ถูกปิดผามิดชิด
“คุณถือแก้วนี้ไว้ มือจะได้ไม่เย็นเกินไป ที่นี่ไม่ใช่ในบ้าน” น้ำเสียงของเซี่ยชีหรั่นอ่อนโยนเหมือนขนนก ค่อยทำความสะอาดหัวใจของเย่เชินหลิน ใจในที่เคยเต็มไปด้วยหญ้ารกก็เปลี่ยนเป็นดอกไม้สดใส เย่เชินหลินรู้สึกว่านี้คือช่วงเวลาที่อบอุ่นที่สุดในชีวิตเขา
เย่เชินหลินมองหน้าและริมฝีปากของเซี่ยชีหรั่น การเชื้อเชิญที่เห็นได้ชัดแบบนี้ไม่ลิ้มลองจะปล่อยให้ผ่านไปได้ไง เขาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะข้างๆ ดึงเซี่ยชีหรั่นมาจูบปากแดงๆ ของเธอ ไม่เจอหนึ่งวันคิดถึงจนเข้ากระดูก ช่วงเวลาที่ดีแบบนี้ไม่ปล่อยผ่านให้สิ้นเปลือง
“หลิน นี้ยังกลางวันอยู่น่ะ” เซี่ยชีหรั่นขยับตัวเบาๆ ตอนปีใหม่ไม่เหมือนปกติ ไม่รู้ว่าจะมีใครมาที่นี่บ้าง ที่นี่เทียบไม่ได้กับคฤหาสน์ของคุณชายเย่ ถ้าคนอื่นมาเห็นจะดูไม่ดี ถึงแม้เซี่ยชีหรั่นจะเป็นคุณนายเย่ แต่เรื่องนี้สำหรับชายหญิงแล้วยังเป็นเรื่องน่าอายมาก
“ที่รัก ฉันคิดถึงคุณ” เย่เชินหลินจูบเธออย่างดูดดื่ม จนอยากจะให้เธอละลายเข้าในตัว
เย่เชินหลินคิดถึงเซี่ยชีหรั่น คิดถึงจนหัวใจเจ็บปวด เขากดดันมาตลอดที่จะไม่มาหาเซี่ยชีหรั่น ผู้หญิงที่ตัวเองรักออกมาไม่ได้ ใจของคุณชายเย่รู้สึกผิดมาตลอด
แค่สองคำและหนึ่งจูบ เซี่ยชีหรั่นก็ตัวอ่อนจนสามารถบิดเอาน้ำออกมาได้
“หลิน ฉันก็คิดถึงคุณ” ความปรารถนาของคู่รักเปลี่ยนไปทันที การจูบที่เรียบง่ายเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
เย่เชินหลินไม่ได้ต้องการเพียงแค่การจูบเท่านั้น เขาต้องการมากกว่านั้น ร่างกายเรียกร้องต้องการเธอ
คุณชายเย่อุ้มเซี่ยชีหรั่นไปที่ห้องนอนและปิดประตู การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กำลังเกิดขึ้น โทรศัพท์ของหลินต้าฮุยดังขึ้น คุณชายเย่ก็ไม่ได้ยิน
คุณชายเย่และเซี่ยชีหรั่นยังไม่ได้เข้าถึงหัวข้อสำคัญ หลินต้าฮุยที่อยู่ในห้องรับแขกพูดขึ้นมา : “คุณชายเย่ โรงพยาบาลโทรมาแจ้งข่าว วันนี้อาการป่วยของเย่เจิ้งเหิงน้อยแย่ลง”
เซี่ยชีหรั่นผลักเย่เชินหลิน เธออยากให้เย่เชินหลินอยู่ต่อ เธอคิดถึงลมหายใจที่อบอุ่นของเย่เชินหลิน เมื่อคิดถึงเย่เจิ้งเหิงน้อยที่ยังเล็กแต่ต้องรับความทุกข์ทรมานจากการป่วย เซี่ยชีหรั่นรู้สึกสงสารจับใจ เธอได้รับความรักจากเย่เชินหลินอย่างเต็มที่ เวลาที่พวกเขาจะอยู่ด้วยกันหลังจากนี้ยังมีอีกมาก เซี่ยชีหรั่นไม่ยื้อเย่เชินหลินไว้ เธอไม่อยากเป็นผู้หญิงเห็นแก่ตัว ไม่ต้องพูดถึงเย่เชินหลินไม่ชอบเธอ เธอก็จะเสียสละตัวเอง
“เด็กดี ครั้งหน้าพวกเราจะไม่อยู่ที่นี่” เย่เชินหลินจูบหน้าผากเซี่ยชีหรั่น พูดคำสัญญาออกมาเบาๆ ได้เวลาต้องสู้แล้ว
ไม่อยู่ที่นี่ ภาพสถานที่ที่ทั้งสองคนคุ้นเคยปรากฏขึ้นมาทันที ก็รู้ดีว่าเย่เชินหลินไม่ได้หมายถึงอะไรดี เธอหน้าแดงไม่กล้ามองหน้าเย่เชินหลิน รู้สึกเสียใจมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเย่เชินหลินก็ไม่ต้องลำบากแบบนี้ ยิ่งคิดเซี่ยชีหรั่นยิ่งไม่สบายใจ
เธอเดินมาช่วยเย่เชินหลินสวมเสื้อผ้าและผูกเนกไท
ตอนค่ำเย่เชินหลินไม่ได้มาที่นี่ หนึ่งวันผ่านไปแบบนี้
เซี่ยชีหรั่นจะเจอเย่เชินหลินตอนขึ้นศาล
ศาลที่สงบ ผู้พิพากษาเป็นคนแก่อายุ50ปี นั่งอย่างเคร่งขรึม สีหน้าจริงจัง ไม่มีความรู้สึกใดๆ ดูเป็นระบบระเบียบ
บรรยากาศที่อึดอัดทำให้คนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
เซี่ยชีหรั่นนั่งในตำแหน่งของจำเลย เธอเห็นด้านล่างมีคนรู้จักมากมาย มีจ้าวเหวินอิง หลี่หมิงจุ้น หลี่เหอไท้ เย่เฮ่าหรัน ฝู้เฟิ่งหยี
เสียงของเซี่ยชีหรั่นทำให้ปั่นป่วนทันที
“แม่ พ่อ พวกคุณ” ยังไม่ทันได้พูดอะไร ผู้พิพากษาเคาะเสียงดัง
“สงบนิ่ง” ผู้พิพากษาเสียงดังกว่าปกติ
ทันใดนั้นเสียงในศาลก็เงียบลง จนได้ยินเสียงหัวใจของทุกคนเต้น อากาศในห้องเหมือนจะแน่นิ่ง
“ฝ่ายโจทก์ พวกคุณพูดได้” ผู้พิพากษาไม่สนใจท่าทีของคนอื่นๆ และมองไปทางฝ่ายโจทก์หน้านิ่งไร้อารมณ์
เซี่ยชีหรั่นมองไปทางโจทก์ ไม่ใช่ต้าเฟิ่ง แต่เป็นเพื่อนบ้านที่เจอตอนไปบ้านต้าเฟิ่งเมื่อวันก่อน วันนี้เธอแต่งตัวประดับไปด้วยเพชรนิลจินดาไม่น้อย นี้ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจแต่ก็ยังอยู่ในเหตุผล
เย่เชินหลินเป็นทนายของเซี่ยชีหรั่น เขานั่งอยู่ด้านข้างเธอโดยวางแผนไว้อย่างดี แววตาที่ดูเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม มองจงหวีฉวนที่อยู่ไม่ไกล จงหวีฉวนก็มองมาที่เขา ท่าทีของเย่เชินหลินทำให้เขารู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี แต่จงหวีฉวนก็คือจงหวีฉวน ต่อให้เขารู้ตัวว่าจะพ่ายแพ้เขาก็จะไม่ออกอาการมาแม้แต่น้อย ยังไม่ใช่ก้าวสุดท้าย ยังบอกไม่ได้ว่าใครคือผู้ชนะ อีกอย่างไม่ใช่ว่าเขาไม่มีแผนสำรอง คนเจ้าเล่ห์มีแผนสำรองอยู่แล้ว อย่างเขาไม่ใช่แค่3แผนแน่นอน
“ฉันเห็นเซี่ยชีหรั่นรีบออกไปจากบ้านของพี่ส้ง คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นฆาตกรหลบหนี จนกระทั่งต้าเฟิ่งร้องไห้เสียงดังโวยวายถึงจะรู้ว่าพี่ส้งถูกเธอฆ่าไปแล้ว” เพื่อนบ้านที่แต่งตัวจัดเต็มพูดอย่างขุ่นเคือง มองเซี่ยชีหรั่น อย่างกับเป็นศัตรู มองแบบนั้นอย่างกับว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อของเธอ เย่เชินหลินมองแววตาของเธออย่างละเอียด ท่าทีสามารถแสดงได้ แต่ความรู้สึกในแววตาจริงๆ ไม่สามารถหลอกใครได้ เธอไม่มีความเศร้ามากมาย
“จำเลย คุณมีอะไรจะพูด”
ผู้พิพากษามองและถามเซี่ยชีหรั่น
“วันนั้นฉันรีบร้อนออกไปจากบ้านของพี่ส้ง เพราะแม่ฉันโทรศัพท์มาให้ฉันกลับไป” เซี่ยชีหรั่นได้รับความรักจากสายตาของจ้าวเหวินอิง และพยักหน้าให้แม่เบาๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าแม่ไม่ต้องเป็นห่วง
“ให้เธอออกมาเป็นพยาน”
จ้าวเหวินอิงส่งโทรศัพท์ให้ผู้พิพากษา เขาเปิดบันทึกการโทรของทั้งสองคน และเงยหน้ามองไปทางฝ่ายโจทก์
“เซี่ยชีหรั่น ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เธอฆ่าคนไปแล้วค่อยโทรหาแม่”
ไม่รอให้ผู้พิพากษาพูด เพื่อนบ้านรีบพูดอย่างไม่สนใจว่า : “พี่ส้งดีกับเธอขนาดนั้น แค่เขารู้ความลับของเธอ เธอก็ฆ่าเขา เธอทำได้ยังไง” คุณน้าเพื่อนบ้านกล่าวทั้งน้ำตาเหมือนเป็นความจริง ถ้าเธอไม่ใช่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เธอต้องเชื่อน่าว่าตัวเองเป็นคนฆ่า
“ความลับอะไร?” ผู้พิพากษาถามอย่างเคร่งขรึม สายตาที่เยือกเย็นทำให้เพื่อนบ้านที่แต่งตัวประดับประดานั้นรู้สึกเย็นเหมือนถ้ำน้ำแข็ง เธอคิดถึงคนนั้นที่บอกว่าตัวเองไม่ต้องกลัว
“พี่ส้งรู้เรื่องของเซี่ยชีหรั่นกับโม่เสี่ยวจุน…” เธอตั้งใจพูดไม่จบ ถือว่าเป็นวิธีที่ไม่เลว เจ้าเล่ห์มาก
“จำเลย เกี่ยวกับเรื่องนี้คุณว่ายังไง”
“โม่เสี่ยวจุนคือพี่ชายของฉัน วันนั้นพี่ชายไปหาฉัน พี่ส้งเห็นพี่ชายแล้ว ฉันบอกพี่ส้งแล้วว่าเขาคือพี่ชาย” คำตอบของเซี่ยชีหรั่นเหมือนกับที่ตอนในสถานีตำรวจ
“คุณโกหก บันทึกของพี่ส้งไม่ได้บอกแบบนี้”
เสี่ยวลู่และหลิงจื่อลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น ปกติสองคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ส้ง ตอนนี้พี่ส้งตายไปแล้ว ทั้งสองคนรู้แค่ว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นฆาตกร ต้องการแค่จะส่งของเซี่ยชีหรั่นเข้าคุก
พอตำรวจได้ยินเสี่ยวลู่และหลิงจื่อพูดถึงสมุดบันทึก จึงรีบเอาสมุดบันทึกส่งขึ้นไปทันที
จงหวีฉวนรู้สึกเหมือนชัยชนะอยู่ไม่ไกล แค่เพียงเซี่ยชีหรั่นไม่สามารถลบล้างข้อสงสัยได้ เขาก็จะทำให้เย่เชินหลินยอมจำนนได้ เขายังคงมองไปที่เย่เชินหลินอย่างระมัดระวัง เย่เชินหลินไม่มีข้อเรียกร้องต่อการพิจารณาก่อนหน้านี้ คิดแล้วก็ไม่น่าจะง่ายขนาดนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังมีแค่เซี่ยชีหรั่นที่กำลังพูด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset