สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 935 สาวใช้ตัวแสบ 839

ตอนที่ 935 สาวใช้ตัวแสบ 839
หลังจากผู้พิพากษาอ่านบันทึกจึงถามขึ้นว่า : “ผลพิสูจน์ว่าเป็นลายมือของผู้ตายไหม? โม่เสี่ยวจุนเป็นใคร?”
โม่เสี่ยวจุนได้ยินชื่อของตัวเองถูกกล่าวถึง เขาแตะมือของไห่ฉิงฉิง เดินขึ้นศาลโดยไม่ลังเล
“คุณคือโม่เสี่ยวจุน?”
“ใช่ ฉันกับเซี่ยชีหรั่นโตมาด้วยกัน” โม่เสี่ยวจุนยืนยันต่อหน้าทุกคน
“ผู้ตายกล่าวว่า เพราะความสัมพันธ์ที่น่าอับอายของคุณกับเซี่ยชีหรั่น ทำให้เธอถูกทำร้าย คุณว่ายังไง”
ผู้พิพากษามองโม่เสี่ยวจุนด้วยสายตาแหลมคมคู่นั้น
“เซี่ยชีหรั่นเป็นน้องสาวของฉัน ตั้งแต่เด็กฉันดูแลเธอมาตลอด ก่อนหน้านี้พวกเรามีความสัมพันธ์แบบคู่รัก ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าอะไรคือความรัก เอาความรักแบบญาติเป็นความรักแบบหนุ่มสาว ตอนนี้คนรักของฉันคือไห่ฉิงฉิง ฉันไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อเธอ” โม่เสี่ยวจุนมองไปที่ไห่ฉิงฉิงที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เขาจะดูแลไห่ฉิงฉิงตลอดไป เซี่ยชีหรั่นก็จะถูกฝังไว้ในใจ ไห่ฉิงฉิงเป็นความรับผิดชอบที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ตลอดชีวิต
ตอนนั้นประธานไห่ลุกขึ้นเดินออกมาท่ามกลางผู้คน และพูดเสียงดังว่า : “ฉันเป็นพยานได้ บันทึกเล่มนั้นไม่ใช่ของผู้ตาย ต่อให้เป็นของผู้ตายก็ไม่ใช่ความจริงใจที่เขียนลงไป” น้ำเสียงเหมือนจุดเริ่มต้นของพายุอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้คนเริ่มแตกตื่น
ประธานไห่เดินไปด้านข้างเซี่ยชีหรั่น นั่งลงตรงที่พยาน จงหวีฉวนไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของเขา ถ้าประธานไห่ไม่ปรากฏตัว จงหวีฉวนยังเป็นห่วงว่าจะมีแผนอะไรสำรองอีก จากความรักที่ประธานไห่มีต่อเซี่ยชีหรั่น เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเธอ
“ฉันเคยไปบ้านของผู้ตาย นี้เป็นใบรายการสินค้าที่ต้องซื้อที่เจอในบ้านเธอ อีกใบเป็นใบเสร็จ” ประธานไห่เอากระดาษสองใบที่เจอในบ้านของพี่ส้งส่งขึ้นไป มีสองอย่าง ที่บอกว่าบันทึกเป็นไม่จริงและเป็นเรื่องที่จัดฉากได้ง่าย
ผู้พิพากษามองดูคร่าวๆ ตัวอักษรในใบรายการสินค้าที่ต้องซื้อกับในบันทึกเหมือนกันมาก ดูก็รู้ว่าเป็นลายมือของคนคนเดียวกัน
“คุณเอาไปพิสูจน์หน่อย” ผู้พิพากษาพูดกับเจ้าพนักงาน เพื่อแสดงความยุติธรรม
ศาลเงียบขึ้นในทันที รอผลการพิสูจน์
ช่วงเวลาที่รอช่างยาวนาน และเพียงชั่วขณะเช่นกัน แววตาของประธานไห่ทำให้เย่เชินหลินสบายใจ
“รายงานท่านผู้พิพากษา นี้เป็นลายมือของผู้ตาย” ผลการพิสูจน์ถูกนำเสนอให้ผู้พิพากษาด้วยความเคารพ
“ทำไมถึงบอกว่าบันทึกไม่ใช่ของผู้ตาย” ผู้พิพากษามองไปที่ประธานไห่ เพื่อนบ้านของพี่ส้งก็มองไปที่ประธานไห่แบบผู้ชนะ มุมปากเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ปิดไม่อยู่ ก็บอกไปแล้วว่าเป็นลายมือของพี่ส้ง ดูสิว่าทำไมคุณถึงบอกว่าไม่ใช่เธอเขียน
ประธานไห่พูดอย่างไม่เดือดร้อนว่า : “ใบรายการสินค้าที่ต้องซื้อกับใบเสร็จสอดคล้องกัน รบกวนท่านผู้พิพากษาช่วยดูตรงวันที่ บนนั้นมีลายเซ็นของพี่ส้ง ในใบรายการสินค้าที่ต้องซื้อไม่มีปากกา ในใบเสร็จที่ซื้อสินค้ามามีปากกาน้ำเงิน ใบบันทึกเป็นปากกาสีดำมาโดยตลอด จนกระทั่งก่อนผู้ตายจะตาย นิตยสารที่ผู้ตายอ่านยังมีลายมือที่เขียนโดยปากกาน้ำเงิน” ประธานไห่ส่งนิตยสารอีกเล่มให้เจ้าพนักงาน
“บันทึกมีคนจงใจทำขึ้น คิดว่าน่าจะมีคนจงใจใส่ร้ายเซี่ยชีหรั่น ก่อนที่จำเลยจะเดินออกจากที่นี่ พวกเราต้องการฟ้องเรื่องการใส่ร้ายของคนคนนี้” สายตาของเย่เชินหลินมองไปที่จงหวีฉวนอย่างยิ้มไม่ยิ้ม เขาอยากรู้ว่าตอนนี้จงหวีฉวนจะมีอาการอย่างไร
จงหวีฉวนมองเย่เชินหลินอย่างเจ้าเล่ห์และตอบกลับด้วยรอยยิ้มมุมปาก คนนอกมองมาจะเข้าใจว่าจงหวีฉวนเห็นด้วยกับเย่เชินหลิน
“งั้นเสื้อผ้าจะว่ายังไง” หลิงจื่อลุกขึ้นยืนอีกครั้งอย่างตื่นเต้น ความสัมพันธ์ของเธอกับพี่ส้งดี อาการที่แสดงออกทางสีหน้าจริงใจกว่าเพื่อนบ้านเยอะมาก
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ผู้พิพากษา ผู้พิพากษาพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าอนุญาตให้พูดได้
“เสื้อผ้าของฉันตรงมุมเสื้อหรือคอเสื้อจะปักคำว่าหลินไว้ เรื่องนี้มีฉันรู้คนเดียว เสื้อผ้าของเย่เชินหลินฉันก็แอบปักคำว่าหรั่น ช่วงเวลาที่ฉันอยู่ที่นี้ไม่ได้กลับบ้าน คุณสามารถไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านฉัน เสื้อผ้าที่ซื้อมามากกว่า3เดือนแล้วจะมีรอยปักทั้งหมด” เซี่ยชีหรั่นไม่ได้มองไปที่เย่เชินหลิน ไม่รู้ว่าคุณชายเย่รู้เรื่องนี้แล้วจะโกรธรึเปล่า ทั้งหมดเธอเป็นคนทำเอง
เย่เชินหลินไม่ใช่แค่ไม่โกรธ แต่ยังอารมณ์ดี ผู้หญิงที่ตัวเองรักก็คิดถึงเขาตลอด คุณชายเย่ไม่สนใจการทำอะไรด้วยตัวเองของเธอ ยังไม่ถึงเวลาที่คุณชายเย่จะสอบถามคนคนนี้
“ไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านเขา ตรวจสอบเสื้อผ้าอย่างตั้งใจหน่อย” ผู้พิพากษาออกคำสั่ง
สีหน้าจงหวีฉวนปกติ แต่ใจในกลับด่าทอประธานไห่และเซี่ยชีหรั่น ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะร่วมมือกันทำให้ยุ่งยากขนาดนี้ นึกถึงของสองอย่างที่อยู่ในตู้เซฟ ของสองอย่างนี้กลายเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก
เวลาผ่านไปเร็ว รอจากบ้านตระกูลหลี่ไปหาเสื้อผ้าที่คฤหาสน์ของตระกูลเย่ เป็นอย่างที่เซี่ยชีหรั่นพูด
เจ้าหน้าที่ตรวจเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดส่ายหน้า ไม่มีตัวอักษร
โม่เสี่ยวจุนรู้ว่าตัวเองต้องออกโรงอีกครั้ง เขาขออนุญาตจากผู้พิพากษา
ผู้พิพากษาพยักหน้า อนุญาตให้เขาพูด
“เสื้อผ้าของเซี่ยชีหรั่นชุดนี้เป็นแฟชั่นที่ออกมาจากปารีสแฟชั่นวีคในปีนี้ ประเทศจีนมีสองชุด ชุดหนึ่งอยู่กับที่เซี่ยชีหรั่น อีกชุดหนึ่งอยู่ในมือคนชื่ออาซาน ฉันไปที่ร้านเพื่อจะซื้ออีกชุดที่เหมือนกันให้เซี่ยชีหรั่น คิดไม่ถึงว่าอีกชุดหนึ่งจะถูกคนที่ชื่ออาซานซื้อไป และยังไม่ทิ้งข้อมูลอะไรไว้อีกด้วย จนถึงวันนี้ร่องรอยยังไม่ชัดเจน นี้อธิบายได้ว่าเสื้อผ้าในที่เกิดเหตุไม่น่าจะเป็นของเซี่ยชีหรั่น แต่เป็นของคนที่ชื่ออาซาน” โม่เสี่ยวจุนบอกที่เขารู้ทั้งหมด เขาหาทั่วเมืองแล้วก็ยังหาอาซานไม่เจอ ไม่รู้ว่าคนคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ไหม
“ไปดูที่ร้านที่เขาพูดถึงว่าเป็นเรื่องจริงไหม”
“เซี่ยชีหรั่น อุปกรณ์ที่ใช้ฆ่าคน มีลายนิ้วมือของเธออยู่ เธอจะว่ายังไง” คุณน้าเพื่อนบ้านส่งเสียงแหลมดังออกมา เมื่อเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นหาหลักฐานมาได้หนึ่งอย่าง เธอเริ่มลนลานขึ้นมา
“ห้ามส่งเสียงดัง” ผู้พิพากษาขมวดคิ้วแน่น และมองไปที่คุณน้าข้างบ้านอย่างไม่ค่อยพอใจ
“พี่ส้งให้ฉันช่วยหั่นผัก บนนั้นต้องมีลายนิ้วมือฉันแน่นอน” นี้ปัญหาที่เซี่ยชีหรั่นเป็นห่วงที่สุด นี้เป็นไม้ตาย บนมีดทำครัวมีลายนิ้วมือของเธอเป็นเรื่องจริง
“ข้ออ้าง” คุณน้าเพื่อนบ้านกล่าวอย่างหวาดกลัว กลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นกำลังหาข้ออ้าง เธอยิ่งเสียงดังแบบนี้ กลับยิ่งทำให้จิตใจของตัวเองร้อนรน
ด้านล่างเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ผู้คนเริ่มขยับ
จงหวีฉวนมองไปที่เย่เชินหลิน เขารู้สึกได้ว่าปัญหานี้เย่เชินหลินสามารถแก้ไขได้ ดูไปแล้ววันนี้ใช้ไม่ได้ มีผู้สมรู้ร่วมคิดเพิ่มขึ้น เด็กพวกนี้แก้ไขปัญหาได้อย่างง่ายดาย จงหวีฉวนไม่สบายใจ
เย่เชินหลินลุกขึ้นในตอนนี้ แววตาที่เรียบง่าย ด้านล่างจึงสงบลง เขาเกิดมาพร้อมความสง่าผ่าเผยอย่างราชา
“ฉันเป็นทนายของเซี่ยชีหรั่น ขณะที่ดูแลคดีนี้ฉันเคยไปที่สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยเหลืออยู่รอบบ้านของผู้ตาย” ขณะที่เย่เชินหลินพูด เขาเฝ้าดูผู้หญิงที่อ้างตัวว่าเป็นโจทก์มาโดยตลอด เย่เชินหลินพูดแบบนี้ เธอเริ่มมีความสุข สีหน้าพึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด
เย่เชินหลินยิ้มอย่างชั่วร้าย เปิดเผยเร็วขนาดนี้ ดีใจเร็วเกินไปรึเปล่า จงหวีฉวนทำไมถึงหาผู้หญิงที่ไม่มีสมองแบบนี้มา?
เมื่อคนอื่นๆ ฟัง นี้ก็เหมือนไม่พูดอะไรรึเปล่า? จ้าวเหวินอิงมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างห่วงใย ในฐานะคนเป็นแม่ ความร้อนใจบนสีหน้าของเธอเห็นได้อย่างชัดเจน
“แต่ว่า แต่ฉันเจอมีดหนึ่งเล่มจากบ้านที่อยู่แถวๆ บ้านของพี่ส้ง” เย่เชินหลินหยิบถุงที่ปิดอย่างมิดชิดออกมา ส่งให้เจ้าพนักงาน ตอนที่เขามอบสิ่งของให้ก็ไม่ลืมที่จะสังเกตอาการผู้หญิงคนนั้น เป็นอย่างที่คาดไว้ ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเห็นมีดเล่มนั้นสีหน้าไม่เหมือนผู้ชนะ กลับกัน หน้าเธอกลับขาวซีด สายตาเต็มไปด้วยความกลัว
“หลังจากเกิดเรื่องฉันและเจ้าหน้าที่ชันสูตรเข้าไปดูศพด้วยกัน บาดแผลของผู้ตายมีช่องเล็กๆ แต่มีดในบ้านของพี่ส้งสมบูรณ์ดีไม่ช่องเล็กๆ เห็นได้ชัดว่านี้ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ใช้ฆ่าผู้ตาย ฉันเจออุปกรณ์นี้ในบ้านของเพื่อนบ้านผู้ตาย ตรงกลางของมีดเล่มนี้มีช่องเล็กๆ อยู่” เย่เชินหลินชี้นิ้วไปที่ตรงกลาง
“เอาไปตรวจลายนิ้วมือ” ผู้พิพากษาออกคำสั่ง พลางมองไปที่แพทย์นิติเวช
“ใช่ แผลของผู้ตายมีรอยเล็กๆ”
เมื่อได้ฟังผู้หญิงคนนั้นเริ่มลนลานขึ้นมา และพูดไม่หยุดว่า : “เซี่ยชีหรั่นต่างหากที่เป็นฆาตกร คุณพูดมั่ว รอยเล็กๆ มีที่ไหน” เธอกลัวมากที่สุดแล้ว มีดเล่มนั้นเธอทิ้งไปแล้วชัดๆ ทำไมถูกเก็บกลับมาได้
“คุณกำลังตั้งคำถามกับการตัดสินของฉัน?” แพทย์นิติเวชมองเธออย่างไม่พอใจ แบบนี้เป็นการสงสัยในอาชีพของเขา เขาไม่พอใจมาก
ผู้หญิงคนนั้นพูดกระซิบอะไรบางอย่างที่คนอื่นไม่ได้ยิน สีหน้าแสดงความกลัว แค่ไม่มีใครสังเกตเห็นความกลัวของเธอ
คนอื่นๆ ได้ฟังถึงตรงนี้เริ่มฮือฮาขึ้นมา
จิ่วจิ่วตะโกนเสียงดังเรียก : “เซี่ยชีหรั่น ดีมากๆ เลย”
“เงียบ” ผู้พิพากษาเคาะเสียงดัง สีหน้าเคร่งขรึมมองไปที่จิ่วจิ่ว
จิ่วจิ่วแลบลิ้น คิดว่า เซี่ยชีหรั่นจะพ้นจากความผิด เธอดีใจมากๆ ยังดีที่ควบคุมตัวเองได้ไม่ลุกขึ้นมาเต้นรำ เธอดีใจแทนเซี่ยชีหรั่นจริงๆ
“ฉันแนะนำให้ตรวจลายนิ้วมือของเธอพร้อมกัน” เย่เชินหลินมองไปที่ผู้หญิงที่กำลังร้อนรนคนนั้นเบาๆ กล้าที่จะใส่ร้ายผู้หญิงของเขาก็ต้องกล้ารับผลที่จะตามมา
“ฉันไม่ต้องการ” ไม่รอให้เจ้าพนักงานเดินมา เพื่อนบ้านของพี่ส้งก็ต่อต้านเสียงดัง แบบนี้ไม่ใช่การอธิบายว่าตัวเองเป็นฆาตกรฆ่าคนรึไง เธอลุกขึ้นต้องการหลบหนี สีหน้าแสดงออกอย่างสับสน แค่ดูก็รู้ว่าคิดอะไรไม่ดีในใจ
เธอไม่พูดยังจะดีกว่า พูดแบบนี้ไม่ใช่การอยากปกปิดและกลับเปิดเผยให้รู้รึไง จะหลบหนีตอนนี้ก็ไม่ได้ ต้องรออยู่รับโทษตามกฎหมาย
“หยุด ที่นี่ไม่ใช่ตลาดที่คุณอยากจะมาก็มาอยากจะไปก็ไป” ผู้พิพากษาเคาะค้อนตรงหน้า สีหน้าไม่พอใจและพูดอย่างสง่าผ่าเผย
ผู้หญิงคนนั้นตกใจ เธอมองสายตาเหล่านั้นที่สงสัยกังวลอย่างหวาดกลัว ในเมื่อเธอเป็นคนตัวเล็กๆ ที่ไม่เคยเจอเรื่องใหญ่แบบนี้ ตอนนี้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ปิดปากไม่พูดอะไร
เจ้าพนักงานรับอุปกรณ์ที่พบในละแวกเพื่อนบ้านผู้หญิงจากเย่เชินหลินเอาไปตรวจ ตำรวจที่ไปร้านเสื้อผ้าผู้หญิงกลับมาแล้ว พร้อมพาพนักงานแนะนำสินค้าคนนั้นที่โม่เสี่ยวจุนไปเจอมาด้วย
ยังถือว่าพนักงานแนะนำสินค้าเล่าเรื่องที่อาซานไปซื้อเสื้อผ้าได้อย่างชัดเจน เจ้าพนักงานเอามีดและเพื่อนบ้านผู้หญิงคนนั้นออกมา บอกผลการพิสูจน์กับผู้พิพากษา
ก็ยังมีแค่เซี่ยชีหรั่นที่กำลังพูด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset