สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 941 สาวใช้ตัวแสบ845

ตอนที่ 941 สาวใช้ตัวแสบ845
“ดูแลหล่อนให้ดีดีล่ะ”เซี่ยชีหรั่นกำชับคนใช้ที่อยู่ข้างๆส้งหลิงหลิง
แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะสงสารส้งหลิงหลิง แต่ใจของเธอนั้นกลับไม่อยากเจอหล่อน เธอนั้นกำลังเตรียมที่จะเรียกจิ่วจิ่วออกไปเดินเล่นข้างนอก
สาวใช้ทั้งสองคนนั้นเพิ่งมาใหม่ แม้ว่าจะเคยได้ยินเรื่องราวของส้งหลิงหลิง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นท่าทางวางอำนาจของส้งหลิงหลิงความสกปรกของส้งหลิงหลิงทำให้ทั้งสองคนนั้นไม่อยากดูแล แน่นอนว่าพวกหล่อนไม่ได้เอามาใส่ใจ
ขณะที่เซี่ยชีหรั่นกำลังจะเดินออกจากประตูหลังของสวนดอกไม้ เธอก็มักจะรู้สึกว่ามีใครแอบมองเงาหลังของเธออยู่ เซี่ยชีหรั่นหันมาสาวใช้ก็รีบมาอยู่ข้างๆส้งหลิงหลิงทันที ส้งหลิงหลิงยิ้มและกอดตุ๊กตาผ้าอยู่ตลอด เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าส้งหลิงหลิงนั้นไม่มีความผิดปกติอะไร จึงคิดว่าตนเองนั้นคิดมากไปเอง
ส้งหลิงหลิง ตอนนี้คุณก็มีความสุขกว่าเมื่อก่อนแล้วมิใช่เหรอ?
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว หล่อนมีเวลามาสนใจเรื่องไร้สาระของส้งหลิงหลิงเสียที่ไหนกัน
ช่วงวันเวลาที่ไม่มีการก่อกวนจากส้งหลิงหลิงนั้นเป็นช่วงเวลาที่หอมหวาน เช้าตรู่นี้เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นไว้แน่นไม่อยากที่จะจากไป
“หลิน รีบลุกเถอะ วันนี้คุณมีประชุมกับผู้ถือหุ้นไม่ใช่เหรอ?”เซี่ยชีหรั่นมองดูผู้ชายที่ยังอยากเอาชนะ ทั้งต้องการที่จะใช้การประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปในการล่อเสือออกจากถ้ำ มิฉะนั้นแล้วเธอก็จะตกเป็นเบี้ยล่าง
เด็กน้อย วันนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อน แต่ว่าต่อจากนี้คุณจะต้องอาบน้ำให้สะอาดเตรียมรอการกลับมาของผมนะ!
หลังจากที่เย่เชินหลินจากไป เซี่ยชีหรั่นก็ว่างไม่มีอะไรทำ เมื่ออ่านหนังสือไปแล้วครู่หนึ่ง ก็คิดขึ้นได้ว่าสองวันแล้วยังไม่ได้ไปดูเย่เจิ้งเหิง ก่อนหน้านี้ส้งหลิงหลิงเป็นคนดูแลเขามาตลอด ตอนนี้ส้งหลิงหลิงนั้นดูไม่ปกติ เรื่องการดูแลเย่เจิ้งเหิงนั้นเป็นหน้าที่ของพ่อบ้านหรือไม่ก็สาวใช้ เธอจึงอยากที่จะไปดูว่าเด็กคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
พ่อบ้านอุ้มเย่เจิ้งเหิงเพื่อพาไปหาพี่เลี้ยงให้ป้อนนม เมื่อเซี่ยชีหรั่นเห็นก็จะเดินเข้าไปดู และก็ไม่รู้ว่าส้งหลิงหลิงนั้นโผล่มาจากไหน และต้องการที่จะตามไปด้วย สาวใช้สองคนก็พยายามดึงตัวหล่อนไว้ไม่ให้เดินไป ส้งหลิงหลิงก็พัวพันอยู่กับเซี่ยชีหรั่นร้องเรียกพี่ไม่หยุด เซี่ยชีหรั่นจนปัญญา จึงพาหล่อนติดตามพ่อบ้านไปหาพี่เลี้ยงด้วย เธอนั้นคิดว่าส้งหลิงหลิงนั้นบ้าไปแล้ว คงไม่สามารถทำเรื่องเลวร้ายที่คาดไม่ถึงได้แล้ว หากเซี่ยชีหรั่นรู้ว่าส้งหลิงหลิงนั้นแกล้งบ้า ไม่ว่าหล่อนนั้นจะพูดดีแค่ไหน เซี่ยชีหรั่นก็คงจะไม่มีทางยอมให้เธอตามไปแน่
“พี่สาว พี่ดูสิ เขามีลูก ฉันก็มีลูกเหมือนกัน”ส้งหลิงหลิงชี้ไปที่ตุ๊กตาผ้าที่อยู่ในมือ แล้วพูดขึ้น ไม่มีใครสงสัยตุ๊กตาผ้าที่อยู่ในมือของหล่อน เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว คิดว่าส้งหลิงหลิงนั้นเสียสติไปแล้วจริงๆ
เซี่ยชีหรั่นอย่าคิดนะว่าแค่คุณส่ายหัวคุณก็ชนะแล้ว ฉันก็แค่อยากให้คุณเข้าใจว่าฉันนั้นเสียสติไปจริงๆ
“ได้ๆๆ หลิงหลิง เชื่อฟังฉันนะ” เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้น แล้วจูงมือส้งหลิงหลิงมานั่งข้างๆพี่เลี้ยง
“เมื่อสักครู่นี้เด็กคนนี้ร้องไห้ไม่หยุดเลย แต่ตอนนี้เด็กน้อยหยุดร้องแล้ว คุณเซี่ย ขอบคุณนะครับ”พ่อบ้านยิ้มแล้วพูดขึ้น
เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วส่ายหน้า ความดีความชอบในเรื่องนี้เธอนั้นไม่อยากรับไว้จริงๆ เพราะส้งหลิงหลิงนั้นก็อยู่ข้างๆ เรื่องที่เด็กนั้นหยุดร้อง และหากต้องการที่จะหาคนมารับความดีความชอบนี้จริงๆแล้วล่ะก็ น่าจะต้องยกความดีความชอบนี้ให้กับส้งหลิงหลิงน่าจะเหมาะสมกว่า
เนื่องจากพ่อบ้านมีธุระจึงออกไปจัดการธุระข้างนอกก่อน และหลังจากที่พี่เลี้ยงช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็กน้อยเสร็จก็เดินออกไปจากห้อง ทำให้ภายในห้องนั้นเหลือเพียงส้งหลิงหลิง กับเซี่ยชีหรั่น
“อาจจะสองสามวัน หรือไม่ก็สองสามเดือน”คำพูดของเย่เชินหลินนั้นกลับมาวนเวียนอยู่ในหูของเซี่ยชีหรั่นอีกครั้ง
หากทำให้เย่เชินหลินนั้นเข้าใจผิดคิดว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นทำร้ายลูกของเธอ เย่เชินหลินจะยอมใช้ชีวิตอยู่กับฆาตกรไหม?หากไม่มีเซี่ยชีหรั่นบางทีสักวันหนึ่ง เย่เชินหลินก็อาจจะหันมาชอบเธอ ความเมตตาที่อยู่ในตัวของเขา คงไม่ทำให้ฉันนั้นไม่มีที่ยืนหรอก!
สมาธิของเซี่ยชีหรั่นนั้นจดจ่ออยู่ที่เย่เจิ้งเหิงตลอด เธอนั้นจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นสายตาอาฆาตแค้นและยิ้มเยาะของส้งหลิงหลิงที่อยู่เบื้องหลังของเธอ
เมื่อเห็นเย่เจิ้งเหิงนอนอยู่บนเปลอย่างสงบสุข เธอจึงรู้สึกว่าหากตนนั้นมีลูกเป็นของตนเองคงจะมีความสุขไม่น้อย เมื่อคิดเช่นนั้นได้ไม่ทันไร เธอก็ส่ายหัว เธอไม่ควรที่จะเห็นแก่ตัวเช่นนี้ ส้งหลิงหลิงนั้นได้เสียสติไปแล้ว เธอควรที่จะดูและเย่เจิ้งเหิงให้ดีๆ
“เด็กน้อย แม่ของเธอนั้นเสียสติไปแล้ว ต่อไปฉันจะดูแลเธอเอง ฉันจะดูแลเธอเหมือนลูกแท้ๆของฉัน”เซี่ยชีหรั่นพูดพึมพํากับตนเอง
“เซี่ยชีหรั่น อย่าได้ฝันไปเลย ฉันต่างหากที่เป็นแม่แท้ๆของเด็กคนนี้ คุณอย่าได้หวังเกินตัวไปเลย”ส้งหลิงหลิงยืนอยู่ด้านหลังเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นนั้น ไม่เห็นสีหน้าท่าทางของส้งหลิงหลิงที่แสดงออกมา
ลมพัดเข้ามาจากด้านนอกหน้าต่างเป็นระยะๆ เซี่ยชีหรั่นเดินไปที่บริเวณด้านหน้าของหน้าต่าง จากนั้นปิดหน้าต่างลง เพราะเกรงว่าเด็กน้อยจะหนาว
เธอนั้นไม่รู้ว่าธุระที่เย่เชินหลินนั้นต้องไปจัดการที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เซี่ยชีหรั่นยิ้มให้กับส้งหลิงหลิง แต่หล่อนกับเบี่ยงหน้าหนีแล้วยิ้มเยาะ กัดฟัน ลูกรัก คงไม่มีทางรักษาลูกแล้ว เป็นเพราะเซี่ยชีหรั่นที่ทำให้พอลูกลืมตาดูโลกก็ต้องป่วยเป็นโรคนี้ แม้ว่าลูกจะตายไป แม่ก็คงไม่มีปัญญาจะแก้แค้นให้กับลูก ลูกก็คงต้องตายฟรี สู้ ……สายตาของหล่อนนั้นเต็มไปด้วยประกายของความอาฆาตแค้น
เด็กเล็กๆนั้นมักมีสัญชาตญาณที่จะรับรู้อันตรายจากภายนอกได้มากกว่าปกติ ท่าทางที่น่ารักของเด็กน้อยนั้นค่อยๆจางหายไป อุแว้ อุแว้ เสียงร้องของเด็กน้อยเริ่มดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่เคยดูแลเด็กมาก่อน เมื่อเย่เจิ้งเหิงร้องไห้ เธอจึงไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร
พ่อบ้าน คนรับใช้ พี่เลี้ยง เซี่ยชีหรั่นคิดว่าตอนนี้คงทำได้เพียงเรียกพวกเขา ท่าทางของส้งหลิงหลิงนั้นยังคงลนลาน ผมของเธอนั้นยุ่งเหยิง เสื้อผ้าของเธอนั้นก็สกปรก ไม่เป็นระเบียบ สายตาของหล่อนนั้นจ้องมองไปที่เย่เจิ้งเหิงราวกับงูพิษ
“ส้งหลิงหลิง คุณไม่ได้บ้า?”พอเซี่ยชีหรั่นเห็นปฏิกิริยาเช่นนั้นของส้งหลิงหลิง ก็เข้าใจได้ทันทีว่าส้งหลิงหลิงนั้นแกล้งเสียสติ
“เซี่ยชีหรั่น คุณจะชนะฉันได้ง่ายๆงั้นเหรอ?”ส้งหลิงหลิงยิ้มเยาะและพูดขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของหล่อนนั้นไม่ปรากฏความไร้เดียงสาอยู่เลย
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจ หากจะโทษก็ต้องโทษตัวเธอเองที่ใจอ่อน ส้งหลิงหลิงนั้นโหดเหี้ยมจริงๆ เด็กน้อยที่นอนอยู่ในเปลนั้นยังร้องได้ไม่หยุด เสียงร้องของเขานั้นเริ่มติดๆขัดๆ
“ส้งหลิงหลิงตอนนี้นั้นไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน รีบเรียกให้พ่อบ้านเข้ามาเถอะ”เซี่ยชีหรั่นพยายามที่จะบอกกับส้งหลิงหลิงว่า อย่างสร้างความวุ่นวายอีกเลย
เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่รู้เลยว่า ส้งหลิงหลิงนั้นจะทำอะไร จึงยอมเปลืองน้ำลายพูดเช่นนั้นกับหล่อน
เสือร้ายนั้นไม่กินลูกของตัวเอง ส้งหลิงหลิงนั้นถูกความอิจฉาริษยาเข้าครอบงำ หล่อนนั้นคิดไว้เรียบร้อยแล้วว่า จะใช้ลูกของหล่อนนั้นเป็นเครื่องมือ เพียงแต่ว่ายังไม่มีโอกาส วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะหล่อนกับเซี่ยชีหรั่นได้อยู่ลำพังสองคน ซึ่งโอกาสเช่นนี้นั้นหาได้ไม่ง่ายนัก
เย่เจิ้งเหิงร้องไห้จนเริ่มหายใจติดขัด
“ส้งหลิงหลิง ตูตูนั้นเป็นลูกของเธอนะ ถอยไปนะ หากคุณไม่สนใจว่าเด็กคนนี้นั้นจะเป็นตายร้ายดียังไง ก็ถอยไปซะฉันจะเรียกคนมาช่วยเอง” เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกไปผลักส้งหลิงหลิง ส้งหลิงหลิงคว้ามือของเซี่ยชีหรั่นไว้แน่น แล้วพูดขึ้นว่า:“คุณคิดว่าหากเด็กตายไปแล้ว เย่เชินหลินจะเสียใจไหม?เขาจะคิดว่าคุณนั้นเป็นคนฆ่าเด็กคนนี้ไหม?”เสียงคำพูดนั้นผ่านไปราวกับลมพัด แม้จะฟังดูอ่อนโยน แต่กลับแฝงไว้ด้วยอันตราย เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว เธอไม่คิดว่าส้งหลิงหลิงจะใช้วิธีนี้มาทำร้ายเธอ
“ส้งหลิงหลิง ถอยไป!”เซี่ยชีหรั่นผลักส้งหลิงหลิงออกสุดแรง เสียงร้องของเด็กนั้นเริ่มผิดปกติ
ส้งหลิงหลิงนั้นได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะใช้เด็กคนนี้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายเซี่ยชีหรั่น แล้วจะให้เธอนั้นออกไปได้อย่างไร หล่อนนั้นกัดฟัน ไม่ยอมหันไปดูเย่เจิ้งเหิง
เซี่ยชีหรั่นนั้นใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่ตีส้งหลิงหลิงหนึ่งที
“คุณบ้าไปแล้ว!เขาเป็นลูกชายแท้ๆของคุณนะ!ทำไมคุณถึงได้ทำร้ายเขาอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้?บนโลกใบนี้ มีแม่ที่ไร้ยางอายเช่นนี้ด้วยเหรอ”เซี่ยชีหรั่นทนไม่ได้กับการกระทำของส้งหลิงหลิง จึงเริ่มพูดจาอย่างไม่เกรงใจเหมือนในตอนแรกเริ่ม จากนั้นตะโกนเรียกพ่อบ้านที่อยู่ด้านนอก
“เซี่ยชีหรั่น ร่องรอยที่คุณตีฉันนั้น มันช่างมีประโยชน์กับฉันเสียจริง”หล่อนยิ้มพร้อมปล่อยมือเซี่ยชีหรั่น เสียงร้องของเด็กน้อยนั้นเบาลงเรื่อยๆ สำเร็จแล้วใช่ไหม?ชีวิตของเขานั้นฉันเป็นคนให้ แม้จะเพียงไม่กี่วัน และในไม่กี่วันนี้เขาก็ต้องคืนให้กับฉัน
ภายในใจของส้งหลิงหลิงนั้นเริ่มรู้สึกเจ็บปวด
หล่อนหันหน้าออกไป ไม่กล้าที่จะสบตาเด็กน้อย แต่อีกใจหนึ่งก็อยากที่จะมองหน้าเด็กน้อยนี้เป็นครั้งสุดท้าย
เย่เจิ้งเหิงที่นอนอยู่ในเปลนั้น เริ่มยกขาขึ้น ส่วนปากของเขานั้นเดี๋ยวหุบเดี๋ยวเปิด ใบหน้าของเขานั้นแดงก่ำ ดวงตานั้นเบิกกว้างอย่างไร้ความรู้สึก
ทันใดนั้นส้งหลิงหลิงก็นิ่งไป ไม่พูดไม่จา สายตานั้นแสดงออกมาถึงความรู้สึกที่ไม่ชัดเจน
พ่อบ้านรีบเข้ามาด้วยความรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจลึก จากนั้นก็สั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
“เย่เจิ้งเหิงอาการกำเริบอีกแล้ว รีบไปแจ้งหมอส้ง เถอะ เรียกให้เซี่ยอี้ชิงออกมาขับรถด้วย ฉันจะพาเด็กน้อยไปโรงพยาบาล”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด
เมื่อพ่อบ้านเห็นใบหน้าของคุณชายน้อยที่เริ่มซีดลงเรื่อยๆ สีหน้าของเขาก็เริ่มไม่ค่อยจะสู้ดี เซี่ยชีหรั่นไม่ได้เหลือบมองส้งหลิงหลิงเลยแม้แต่น้อย รีบอุ้มเด็กน้อยแล้วเดินตามพ่อบ้านลงมาจากชั้นสอง
เมื่อเซี่ยอี้ชิงเห็นเซี่ยชีหรั่นก็รีบวิ่งออกมา
“ไปกันเถอะ”เซี่ยชีหรั่นไม่พูดมาก เพราะตอนนี้ไม่สามารถเสียเวลาได้แม้แต่วินาทีเดียว
พ่อบ้านก็รีบขึ้นรถตามเซี่ยชีหรั่นไปติดๆ
“คุณนายเย่ ผมจะไปเป็นเพื่อนครับ”
เซี่ยชีหรั่นนั้นคิดว่าพ่อบ้านนั้นมีประสบการณ์มากกว่าตน มีพ่อบ้านไปด้วยก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เธอจึงได้พยักหน้า
หลังจากที่ส้งหลิงหลิงถูกทิ้งไว้ตรงนั้น หล่อนก็ไม่พูดไม่จา ในสมองของหล่อนนั้นเต็มไปด้วยภาพใบหน้าของเย่เจิ้งเหิงที่ขาวซีด ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างแล้วจ้องมองมาที่หล่อน
“อย่าโทษฉัน อย่าโทษฉัน”สองมือของส้งหลิงหลิงนั้นกุมหัวแน่น “อย่า ลูกอย่า”
ไม่ ลูกคงไม่เป็นไร ใช่ เซี่ยชีหรั่นกำลังจะพาลูกไปโรงพยาบาล
ลมหายใจของเย่เจิ้งเหิงนั้นแผ่วลงเรื่อยๆ เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ริมฝีปากคล้ำของเด็กน้อย เธอนั้นเริ่มรู้สึกกลัว
“พ่อบ้าน มาอุ้มเด็กน้อยแทนฉันหน่อย ฉันจะโทรหาเขา”แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะไม่ได้เอ่ยชื่อว่าจะโทรหาใคร แต่พ่อบ้านก็ทราบว่าเธอนั้นหมายถึงใคร จึงรีบรับเด็กมา ภายในใจนั้นสับสนวุ่นวาย จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับคำ
เซี่ยชีหรั่นหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกัดฟันพูดขึ้นว่า ฉันต้องขอโทษด้วยที่ฉันโทรมารบกวนการประชุมผู้ถือหุ้นของคุณ แต่ว่าตอนนี้เย่เจิ้งเหิงเขา เชินหลินฉันขอโทษ
ในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป ทุกคนกำลังถกเถียงกันอย่างเงียบๆเกี่ยวกับปัญหาที่เย่เชินหลินนั้นได้นำเสนอออกไป
บรรยากาศของการประชุมนั้นค่อนข้างเงียบ เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นนั้น เป็นเสียงเฉพาะของเซี่ยชีหรั่นที่เย่เชินหลินนั้นได้ตั้งไว้
ในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่อย่างเงียบๆนั้น ไม่มีใครรับรู้ได้เลยว่า อารมณ์ของประธานกรรมการบริหารบริษัทวัยรุ่นคนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว
เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์แล้วรีบเดินออกจากห้องประชุม
พอรับสาย เสียงที่คุ้นเคยของเซี่ยชีหรั่นก็ดังเข้าไปในหูของเย่เชินหลิน
“ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด” เย่เชินหลินนั้นรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“หลิน ฉันเอง ตูตูกำลังตกอยู่ในอันตราย” เซี่ยชีหรั่นพยายามพูดขึ้นอย่างกล้าหาญจนจบประโยค หลังจากพูดจบ ก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ
เย่เชินหลินก็นิ่งเงียบอยู่นานเช่นกัน ท้ายที่สุดเขานั้นก็วางสายลง โดยไม่ได้เอ่ยอะไรอีกเลย
“หลินหลิง ต้าฮุย พวกคุณทั้งสองคนรับผิดชอบการประชุมผู้ถือหุ่นในวันนี้แทนผมหน่อย เรื่องทุกเรื่องในวันนี้ ผมให้อำนาจคุณทั้งสองในการตัดสินใจ เมื่อเย่เชินหลินสั่งการเสร็จ ก็รีบขึ้นลิฟต์ส่วนตัวออกมา แม้ว่าบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปนั้นจะสำคัญ แต่ลูกของเขาก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งเขานั้นก็เชื่อใจหลินหลิง และต้าฮุยพอสมควร

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset