สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 945 สาวใช้ตัวแสบ849

ตอนที่ 945 สาวใช้ตัวแสบ849
“แบบนี้ก็พอแล้ว พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”เย่เชินหลินเหลือบมองเจ้าอาวาสครู่หนึ่ง รอยยิ้มของฝ่ายตรงข้ามนั้นดูลึกซึ้ง เย่เชินหลินกระพริบตาบอกเป็นนัยกับเซี่ยชีหรั่นว่าเรากลับกันเถอะ คนๆนี้ไม่ธรรมดาเลย
เซี่ยชีหรั่นต้องการที่จะไปที่นั่น เย่เชินหลินนั้นไม่พูดไม่จา ขับรถพาเธอไป วนรอบตงเจียงสองสามรอบ ไม่ว่าเซี่ยชีหรั่นจะพยายามแค่ไหน เย่เชินหลินก็ไม่ยอมปริปากพูด ใบหน้านั้นไร้ซึ่งความรู้สึก ภายในใจนั้นปกคลุมไปด้วยความโศกเศร้า บางครั้งก็เหม่อลอย หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เซี่ยชีหรั่นตัดสินใจกลับบ้านไปหาพวกเขาทั้งสองเพื่อขอความช่วยเหลือ
รถนั้นแทบจะไม่ขยับ ก็เหลือบไปเห็นจงหยุนซางกับหลี่เหอไท้อยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้งสองนั้นสนิทสนมกันมาก
เย่เชินหลินชายสายตามองเซี่ยชีหรั่น จากนั้นก็หยุดรถลง
เซี่ยชีหรั่นยิ้มให้กับเย่เชินหลิน รอยยิ้มเล็กๆที่ริมขอบตาของเธอ หากสังเกตก็จะเห็นได้ไม่ยาก
“พี่เหอไท้ พี่หยุนซาง” เซี่ยชีหรั่นเปิดประตูรถแล้ววิ่งออกไป วิ่งไปพลางโบกมือไปพลาง พร้อมเรียกพวกเขาทั้งสอง
“ชีหรั่น คุณก็มาที่นี่งั้นเหรอ” จงหยุนซางจูงมือเซี่ยชีหรั่น และทักทายอย่างสนิทสนม
เมื่อเจอหน้าหลี่เหอไท้ เซี่ยชีหรั่นจึงนึกถึงเรื่องอาการป่วยของจ้าวเหวินอิงขึ้นมาได้
“พี่เหอไท้ อาการของแม่เป็นยังไงบ้างคะ?”หลังจากถามเสร็จเซี่ยอี้ชิงก็ก้มหน้า หลายวันมานี้มัวแต่ยุ่งอยู่กับงาน จึงไม่ได้ถามไถ่ทุกข์สุขของแม่เลย ตนในฐานะที่เป็นลูกก็ควรที่จะใส่ใจบ้าง เดี๋ยวอีกสักพักกลับบ้านไปก็จะต้องโทรหาท่านสักหน่อย
“ไม่ได้เป็นไรมากหรอก”หลี่เหอไท้ลูบหัวของเซี่ยชีหรั่น ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเอ็นดู เซี่ยชีหรั่นนั้นคงจะยุ่งจริงๆ มิฉะนั้นก็คงจะไม่ลืมมาเยี่ยมท่านหรอก
“ชีหรั่น ช่วงนี้ยุ่งไหม?”หลี่เหอไท้ถามคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจ
เซี่ยชีหรั่นไม่พูดอะไรออกไป ทำเพียงส่ายหัว ใบหน้านั้นยังคงรอยยิ้มอย่างเป็นมารยาท เธอนั้นไม่อยากให้หลี่เหอไท้รู้เรื่อง เพราะแม่นั้นป่วยอยู่ เกรงว่าหากหลี่เหอไท้จะเก็บความลับไว้ไม่อยู่แล้วเปิดเผยออกมา เซี่ยชีหรั่นนั้นคิดว่าการที่ตนไม่ได้โทรศัพท์หาแม่ก็เป็นเรื่องที่อกตัญญูพอแล้ว เธอไม่อยากให้แม่ต้องเป็นกังวล
หลี่เหอไท้มองเย่เชินหลินด้วยความสงสัย ว่าทำไมเย่เชินหลินถึงไม่ลงจากรถ?หรือว่าจะมีปัญหา
“พวกคุณเดินเล่นกันต่อเถอะ ฉันกลับบ้านก่อน ว่างๆไว้มาเที่ยวด้วยกันนะ”เซี่ยชีหรั่นเกรงว่าเย่เชินหลินนั้นจะรอตนไม่ไหว เกรงว่าจะหนีไปเสียก่อน จึงรีบบอกลาพวกเขาแล้วจากไป
พวกเขานั้นนั่งเงียบตลอดทาง
“เชินหลิน คุณพูดกับฉันหน่อยเถอะ การตายของเย่เจิ้งเหิงแม้ว่าส่วนหนึ่งมันเป็นความรับผิดชอบของฉัน แต่ส้งหลิงหลิงดึงฉันไว้ ฉันจึงทำได้เพียงตะโกนเรียกให้พ่อบ้านเข้ามา”เซี่ยชีหรั่นทนบรรยายการที่อึมครึม ไม่พูดไม่จานี้ไม่ไหว อีกทั้งเธอก็ยังกลัวว่าใจของเย่เชินหลินนั้นจะรู้สึกอัดอั้น และจะเป็นผลเสียต่อร่างกาย
เย่เชินหลินนั้นไม่ได้ตอบคำถามเซี่ยชีหรั่น แม้แต่คำตอบรับง่ายๆก็ไม่ได้ปริปากออกมา
“เชินหลิน คุณอย่าโกรธเลยได้ไหม” เซี่ยชีหรั่นขอร้องอยู่ภายในรถ
เมื่อรถขับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่ วันทั้งวันนี้เย่เชินหลินไม่ได้ปริปากพูดกับเซี่ยชีหรั่นเลยแม้แต่คำเดียว
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารเย็น เย่เชินหลินสั่งให้สาวใช้นำอาหารมาเสิร์ฟในห้องหนังสือ จากนั้นคนก็หายเงียบไป
“พ่อคะ แม่คะ วันนี้ฉันคิดทุกวิถีทางที่จะทำให้เย่เชินหลินนั้นพูดคุยกับฉันแล้ว แต่เขาก็ไม่สนใจฉันเลยค่ะ”เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เธอเป็นห่วงก็คือต่อไปเย่เชินหลินนั้นจะสนใจเธอหรือไม่ จะใช้งานเป็นเครื่องมือมาทำร้ายตนเองเช่นนี้อีกหรือไม่
“ทานข้าวก่อนเถอะ”เย่เฮ่าหรันพยักหน้าบอกเป็นนัยว่าท่านทราบแล้ว ข้าวของมื้อนี้แม้จะทานเข้าไปแล้ว แต่ทุกคนก็ไม่รู้สึกถึงความอิ่มเอม
งานเสิร์ฟอาหารของสาวใช้นั้นถูกเย่เฮ่าหรันทำแทน เขาปัดมือเพื่อบอกให้สาวใช้นั้นถอยไป
หลังจากที่เย่เฮ่าหรันเคาะประตูแล้วเดินเข้าไปเขานั้นยังไม่ได้เอ่ยปากพูด ส่วนเย่เชินหลินนั้นก็จดจ่ออยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จึงไม่ได้สังเกตว่าเย่เฮ่าหรันนั้นเข้ามา เสียงที่ฟังดูเย็นชาและไร้ซึ่งความรู้สึกก็ดังขึ้น:“เอาวางไว้ตรงนั้น แล้วออกไป อย่ามารบกวนผม”เย่เชินหลินจ้องมองรูปของเย่เจิ้งเหิงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเหม่อลอย ดวงตานั้นมีคราบน้ำตา แต่หากไม่สังเกตดีๆก็คงจะมองไม่เห็น
“เย่เชินหลิน ลูกผู้ชายเสียเลือดได้แต่อย่าเสียน้ำตา ยิ่งอยู่ในสถานะของลูกชายของตระกูลเย่แล้วด้วยจะต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มากๆ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ แม้ว่าจงหวีฉวนนั้นจะเงียบหายไป แต่สุนัขจิ้งจอกตัวนี้จะต้องสะสมพลังความเข้มแข็งและรอคอยโอกาสที่จะจู่โจมเป็นแน่ พวกเรามีใครบ้างที่ไม่รู้ ”เย่เฮ่าหรั่นเมื่อเห็นว่าจงหวีฉวนนั้นนิ่งเงียบไป ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
“ทราบแล้วครับ”
“เซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นเด็กดี”หลังจากที่เย่เฮ่าหรันพูดจบก็ออกไปจากห้อง เรื่องบางเรื่องไม่ใช่ว่าจะสามารถพูดให้ชัดเจนได้ พ่อก็เป็นแค่แสงไฟ ที่คอยชี้นำทาง แต่สุดท้ายลูกก็ต้องเป็นคนเดินเอง
เย่เชินหลินก็รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นผู้หญิงที่ดี เพียงแต่พอคิดถึงเรื่องที่ลูกของตนต้องตาย เย่เชินหลินก็รู้สึกว่าตนนั้นรับความจริงนี้ไม่ได้
สุนัขจิ้งจอก จงหวีฉวนในช่วงเวลานี้นั้นเงียบเป็นพิเศษ แต่ฝนจากภูเขามักจะมามีลมพัดไปทั่วหอสูง เย่เชินหลินหรี่ตาลง เขานั้นจำเป็นที่จะต้องเตรียมการรับมือ
เขานั้นไม่ได้ออกจากห้องหนังสือ ยังคงนั่งทำงานอยู่เพียงลำพังจนกระทั่งถึงตีหนึ่ง ไม่ได้ดื่มน้ำเป็นระยะเวลานาน เย่เชินหลินจึงอยากจะออกไปดื่มน้ำก่อนที่จะเข้ามาทำงานต่อ ใช้ช่วงค่ำคืนที่ไร้ผู้คน เย่เชินหลินก็ออกจากห้องหนังสือแล้วเดินมาที่บริเวณทางเดิน
เวลานี้ อากาศนั้นสดชื่นมาก เสียงดังเอะอะในช่วงกลางวันนั้นเงียบหายไปจนหมดสิ้น ค่ำคืนที่เงียบสงบนี้ทำให้ได้ยินเสียงหัวใจเต้นชัดเจนยิ่งขึ้น บรรยากาศโดยรอบนั้นเริ่มจับตัวเข้าด้วยกัน
เย่เชินหลินออกมาเดินเล่น ต้องการที่จะใช้ค่ำคืนอันเงียบเหงานี้ในการผ่อนคลาย
“ลูก ลูก แม่ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายลูกนะ”
ส้งหลิงหลิง?หล่อนยังไม่นอน?ประโยคนี้ทำให้เย่เชินหลินตะลึงงัน การตายของเด็กน้อยนั้นมีเงื่อนงำ เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่ได้พูดโกหก
เย่เชินหลินนั่งฟังอย่างเงียบๆตลอดทั้งคืน
แล้วเมื่อใกล้สว่างก็กลับไปที่ห้องหนังสือ ช่วงเวลาตีสามเซี่ยชีหรั่นถึงได้นอนหลับสนิท
กระทั่งสาวใช้เรียกให้เธอมาทานข้าว เซี่ยชีหรั่นถึงได้ตื่นขึ้นมา
บนโต๊ะอาหารไม่เพียงแต่มีฝู้เฟิ่งหยี เย่เฮ่าหรัน แม้แต่ส้งหลิงหลิงก็อยู่ที่นั่น เมื่อเซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามาและเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกเจ็บปวด เชินหลิน คุณยังไม่เชื่อฉันอีกเหรอ?คุณเลือกที่จะเชื่อคนโกหกนั้นใช่ไหม?
“ชีหรั่น มานั่งข้างๆแม่สิ”ฝู้เฟิ่งหยีกวักมือเรียกเซี่ยชีหรั่น จากนั้นก็จูงมือเซี่ยชีหรั่นให้นั่งลง
ส้งหลิงหลิงถามขึ้นอย่างไรเดียงสาว่า:“คุณป้าคะ เธอเป็นลูกสาวของท่านเหรอคะ?คุณป้า พี่สาวทำร้ายลูกของฉัน”ความไร้เดียงสาที่แสดงออกมานั้นกลับแฝงไว้ด้วยจิตใจที่โหดเหี้ยม เดิมทีฝู้เฟิ่งหยีนั้นก็เอ็นดูและเป็นกันเองกับเธอเช่นนี้เหมือนกัน แต่การมาของเซี่ยชีหรั่น เธอได้เข้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของส้งหลิงหลิงไป
“พี่สาวจะไปทำร้ายเด็กน้อยได้อย่างไร” เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างราบเรียบ แม้ว่าจะเป็นเพียงประโยคสั้นๆง่ายๆที่ออกมาจากปากของเขา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความหนักแน่น
ส้งหลิงหลิงก้มหน้าลงเพื่อไม่ให้เย่เชินหลินนั้นเห็นสายตาของหล่อน แกล้งทำเป็นกลัว แล้วพูดขึ้นว่า:“เธอทำร้ายเด็ก ไม่ ไม่ พี่สาวตีฉัน”ภายในหัวของส้งหลิงหลิงได้ปรากฏภาพการเสียชีวิตของเย่เจิ้งเหิง หล่อนเริ่มปวดหัว สายตาพร่ามัว สองมือของหล่อนนั้นกุมที่หัว จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไม่หยุดว่า:“ฉันไม่ได้ฆ่าลูก ลูกรักอย่าตายนะ ลูก แม่ไม่ได้ตั้งใจ”
เซี่ยชีหรั่นมองดูท่าทางของส้งหลิงหลิง หรือว่าครั้งนี้จะเสียสติจริงๆแล้ว?
เย่เชินหลินขยิบตาให้กับสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ สาวใช้รีบพาส้งหลิงหลิงลงไป
การรับประทานอาหารมื้อเช้าก็สิ้นสุดลงอย่างลวกๆ
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นทักทายฝู้เฟิ่งหยีและเย่เฮ่าหรันเรียบร้อยแล้วก็จากไป
“หลิน ฉันไม่ได้ทำร้ายเด็กน้อยจนถึงแก่ความตายจริงๆ ฉันอยากจะช่วย แต่ส้งหลิงหลิงมาขวางไว้ พวกพ่อบ้านและสาวใช้ก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น”
“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ทำร้าย”หลายวันที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่เย่เชินหลินเอ่ยปากพูดกับเซี่ยชีหรั่น ประโยคที่เย่เชินหลินพูดออกมานี้ ทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องน้ำตาไหลอย่างไม่ขาดสาย
การที่เย่เชินหลินนั้นเชื่อเธอ ทำให้เธอนั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อจิ่วจิ่วและเหยนชิงเหยียนกลับออกมาจากการไปเที่ยวข้างนอกเมื่อได้ยินข่าวร้ายนี้ จิ่วจิ่วก็รีบวิ่งไปหาเซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่น คุณโอเคใช่ไหม?” จิ่วจิ่ววนอยู่รอบๆเซี่ยชีหรั่น พยายามสำรวจเซี่ยชีหรั่นโดยรอบด้วยความไม่วางใจ เธอนั้นดูออกว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นชอบและเอ็นดูเย่เจิ้งเหิงมาก การจากไปของเย่เจิ้งเหิงนั้นสะเทือนใจเซี่ยชีหรั่นไม่น้อย
“ไม่เป็นไร จิ่วจิ่ว ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว?”เซี่ยชีหรั่นนึกถึงงานเต้นรำที่ทั้งคู่นั้นจูบกันในที่ลับตาคน แล้วยังคิดว่าไม่มีใครมองเห็นอีก
“ฉัน ฉัน……” สีหน้าของจิ่วจิ่วนั้นแดงก่ำ อ้ำๆอึ้งๆไม่พูดไม่จา เซี่ยชีหรั่นเอามือป้องปาก สายตามองไปจิ่วจิ่วเพื่ออวยพรพวกเขา เมื่อเห็นท่าทางของเด็กน้อยคนนี้ ก็รู้แล้วว่าเรื่องดีๆกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่รู้ว่าการไปเที่ยวของพวกเขาในครั้งนี้ จิ่วจิ่วและเหยนชิงเหยียนได้พากันสาบานต่อทะเลและภูเขาว่าจะรักกันชั่วฟ้าดินสลายแล้วหรือยัง
จิ่วจิ่วนั้นนึกถึงคำพูดที่เหยนชิงเหยียนได้พูดกับตนเองว่าจะดูแลตนเป็นอย่างดี จะทำให้ตนนั้นกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดบนโลกใบนี้ คิดไปคิดมา ลักยิ้มบนใบหน้าของจิ่วจิ่วก็ลึกลงเรื่อยๆ ลักยิ้มทั้งสองข้างที่น่ารักของจิ่วจิ่วนั้น แสดงให้เซี่ยชีหรั่นนั้นเห็นว่าตนนั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก
ทั้งสองคนพูดคุยกันจนลืมไปเลยว่าข้างๆนั้นมีเจ้าชายใหญ่ของตระกูลเย่ยืนอยู่ กระทั้งเหยนชิงเหยียนนั้นเอ่ยเรียกขึ้นว่า พี่เย่เชินหลิน จิ่วจิ่วจึงได้สังเกตเห็นว่าเจ้าชายใหญ่ของตระกูลเย่นั้นยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าไม่สบอารมณ์ ถึงว่าตนนั้นไม่ได้ทักทายเขา?ไม่น่านะ ปกติแล้วเจ้าชายใหญ่ของตระกูลเย่ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยเช่นนั้น นอกเสียจากว่าจะทะเลาะกับเซี่ยชีหรั่น จิ่วจิ่วมองเซี่ยชีหรั่น อย่างระวัง หวังว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากเธอ
เมื่อเห็นหล่อนทั้งสองสบตากันไปมา เย่เชินหลินจึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ว่า ผมมีธุระ ขอตัวก่อน จากนั้นก็เดินจากไป
“ชีหรั่น เกิดอะไรขึ้นกับเด็กน้อย ทำไมถึงได้จากไปอย่างกะทันหันเช่นนี้?” จิ่วจิ่วถามขึ้นด้วยความอยากรู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่ความรู้สึกของเธอนั้นคิดว่าส้งหลิงหลิงจะต้องแอบทำเป็นแน่
“เสี่ยวห้าน พ่อกับแม่อยู่ที่นี่ คุณไปทักทายพวกเขาก่อนเถอะ จิ่วจิ่วคุณก็ไปด้วยเถอะ เดี๋ยวฉันจะรออยู่ที่นี่” เซี่ยชีหรั่นนึกถึงท่านทั้งสองที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ จึงให้ทั้งสองคนเป็นทักทายท่านทั้งสองก่อน พวกเขาจะได้วางใจ
“ชีหรั่น งั้นคุณรอฉันอยู่ตรงนี้เถอะ ฉันไปครู่เดียว” จิ่วจิ่วเดินถอยหลังไปด้วยพร้อมกับกำชับเซี่ยชีหรั่นไปด้วย เมื่อเหยนชิงเหยียนเห็นท่าทางเช่นนั้นของจิ่วจิ่ว ก็หัวเราะแบบไม่ส่งเสียงออกมา
“ไปกันเถอะ ชีหรั่นไม่ไปไหนหรอก” เหยนชิงเหยียนจูงจิ่วจิ่วให้ออกไปอย่างเอ็นดู เขานั้นชอบการที่จิ่วจิ่วเป็นเช่นนี้ เป็นห่วงเพื่อน ซื่อสัตย์ มีน้ำใจ ไม่เหมือนผู้หญิงบางคนที่คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ หน้าไหว้หลังหลอก
เมื่อเซี่ยชีหรั่นเห็นท่าทางที่เหยนชิงเหยียนจูงจิ่วจิ่ว เธอนั้นก็ดูออกว่าเหยนชิงเหยียนนั้นชอบจิ่วจิ่วเด็กคนนี้ ขอเพียงแค่สามารถทำให้จิ่วจิ่วนั้นมีความสุข เซี่ยชีหรั่นนั้นก็ไม่สนใจสถานะของอีกฝ่าย และก็ไม่สนใจด้วยว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นใคร
และเมื่อกลับมาคิดเรื่องของตนเอง เซี่ยชีหรั่นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกจากกลอุบายที่ส้งหลิงหลิงนั้นวางไว้อย่างไร เธอกับเย่เชินหลินนั้นแม้ว่าจะยังไม่ได้เดินทางมาจนถึงถ้ำที่ตัน แต่พวกเขาก็มาถึงปากถ้ำแล้ว เชินหลิน คุณจะเชื่อฉันอีกสักครั้งได้ไหม?แม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นคนทำร้ายเด็ก แต่ใจของคุณจะไร้ซึ่งข้อสงสัยแล้วเดินไปกับฉันไหม?เซี่ยชีหรั่นไม่กล้าคิด เมื่อคิดว่าจะไม่มีเย่เชินหลินอีกต่อไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกว่าชีวิตของเธอที่เหลือก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset