สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 946 สาวใช้ตัวแสบ850

ตอนที่ 946 สาวใช้ตัวแสบ850
ผ่านไปไม่นานเซี่ยชีหรั่นก็เห็นจิ่วจิ่วเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ เหยนชิงเหยียนไม่ได้มาด้วย คิดว่าคงถูกพ่อแม่รั่งตัวไว้ที่นั่นมั่ง ส่วนใบหน้าที่แดงระเรื่อของผู้หญิงคนนี้ คิดว่าคงถูกสองเฒ่าเอ่ยถึงเรื่องความรักของคนทั้งคู่แน่
เซี่ยชีหรั่นคาดเดาได้ถูกต้อง เมื่อฝู้เฟิ่งหยี เห็นจิ่วจิ่วจับมือกันกับเหยนชิงเหยียนเดินเข้ามาก็ยิ้มแป้นพลางเอ่ยถามพวกเขาว่าจะหมั่นกันเมื่อไหร่ เหยนชิงเหยียนบอกว่าทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เฒ่าทั้งสองฝู้เฟิ่งหยีถามจิ่วจิ่ว จิ่วจิ่วก็ตอบด้วยใบหน้าแดงระเรื่อว่าเอาตามที่ฝู้เฟิ่งหยีว่า ปกติคนที่มักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยแคร์อะไร ตอนนี้ก็รู้จักเขินอายเป็นด้วย
“เสี่ยวห้าน จิ่วจิ่วพรุ่งนี้พวกเธอเตรียมหมั่นกันเถอะ” ฝู้เฟิ่งหยีพูดให้ตกใจไม่หยุด เธอติดค้างลูกมากเกินไป ตอนนี้ได้ลูกกลับมาแล้ว ฝู้เฟิ่งหยีหวังว่าเขาจะมีความสุข
“ห๊ะ เร็วไปแล้วมั่ง”จิ่วจิ่วถามขึ้นเสียงดัง จากนั้นก็พูดเสียงเบาว่า“คุณนายแค่ล้อพวกเราเล่นใช่ไหม”สีหน้าไม่ได้เชื่อเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างเรื่องนี้ก็กะทันหันเกินไป
เธอกับเหยนชิงเหยียนอยู่แค่ในช่วงออกหน่อ ยังห่างไกลกับคำว่าหมั่นหมายมากเลยนะ ฝู้เฟิ่งหยียิ่งมองยิ่งชอบจิ่วจิ่วเมื่อรักเขาแล้วก็ต้องรักทุกอย่างที่เป็นเขา เหยนชิงเหยียนชอบเธอฝู้เฟิ่งหยีก็ชอบตาม
“หนูจะไปหาชีหรั่นแล้ว” จิ่วจิ่วไม่สามารถทนต่อสายตาที่ร้อนแรงของฝู้เฟิ่งหยีได้ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะหนี ถ้ายังไม่หนีไป เธอเกรงว่าคงจะกลายเป็นคนที่ถูกย่างทั้งตัว
ฝู้เฟิ่งหยีพยักหน้า เย่เจิ้งเหิงจากไป เซี่ยชีหรั่นก็กระทบอย่างหนักเช่นกัน ฝู้เฟิ่งหยีหวังว่าจิ่วจิ่วจะพาเซี่ยชีหรั่นออกมาจากหมอกมืดได้ไวขึ้น เซี่ยชีหรั่นถึงจะสามารถพาเย่เชินหลินเดินออกมาได้ด้วย
ฝู้เฟิ่งหยีรั้งเหยนชิงเหยียนไว้ จิ่วจิ่วปิดหน้าที่เห่อร้อนไว้ และหลบหนีจากสายตาอันร้อนแรงของฝู้เฟิ่งหยี เธอมาหาเซี่ยชีหรั่นเพียงคนเดียว
“ชีหรั่น คุณไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม” จิ่วจิ่วเดินเร็วข้าไปหาเซี่ยชีหรั่น เห็นว่าเธอกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ ใบหน้าเสื่อมโทรม เมื่อดูดีๆจะเห็นว่าผอมลงกว่าแต่ก่อนมาก พวกเขาเพิ่งจะแยกกันได้ไม่กี่วัน เธอก็เปลี่ยนไปได้ขนานนี้แล้ว จิ่วจิ่วเองก็ไม่เคยคาดคิดว่าเพียงไม่กี่วันตระกูลเย่จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้
“ไม่เป็นไร ฉันยังโอเคอยู่ แต่เย่เชินหลินไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่”เซี่ยชีหรั่นเริ่มกังวลเกี่ยวกับเย่เชินหลินที่ไม่ได้กินไม่ได้นอน เธอก็ไม่ได้กินไม่ได้นอนตามไปด้วย นึกถึงปฏิกิริยาเมื่อกี้ที่เย่เชินหลินมีต่อเธอ ถือว่าวันนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดี เซี่ยชีหรั่นจะพยายามอย่างหนักต่อไป
เย่เชินหลินอยู่ในห้องทำงานที่กว้างใหญ่คนเดียว นึกถึงเรื่องต่างๆที่ได้ฟังเมื่อวาน เขาต้องการที่จะไปตรวจสองอย่างเข้มงวด ส้งหลิงหลิงถ้าเธอตั้งใจฆ่าลูกจริงๆ ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าอะไรเรียกว่าความกลัว นัยน์ตาของเย่เชินหลินเต็มไปด้วยความดุร้าย ราวกับซาตานที่มาจากอเวจี
ในเวลานี้ประตูห้องทำงานถูกเคาะดังขึ้น
“เข้ามา”เย่เชินหลินไม่ได้มองว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร เขากำลังคิดเรื่องปัญหาเมื่อกี้อยู่
“ต้าฮุย คุณไปบันทึกความเคลื่อนไหวและความผิดปกติของส้งหลิงหลิงในช่วงนี้มาให้ผมอย่างละเอียด เรื่องนี้มีแค่คุณที่รู้ก็พอ”
เย่เชินหลินจำได้ว่าชีหรั่นบอกว่าส้งหลิงหลิงแกล้งบ้า ชีหรั่นไม่มีทางพูดอย่างไม่มีที่มาที่ไปแน่ ส้งหลิงหลิงเธอจะแกล้งบ้าได้นานแค่ไหนกัน เธอนี่ความทะเยอทะยานไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
หลินต้าฮุยยังไม่ทันออกไป โทรศัพท์ของเย่เชินหลินก็ดังขึ้น เย่เชินหลินโบกมือส่งสัญญาณให้หลินต้าฮุยออกไป
“มีอะไร? ”น้ำเสียงที่เย็นชามาโดยตลอดดังก้องขึ้น ตอนนี้ความเย็นชาเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
“คุณเย่คะ มีคนหนึ่งที่ชื่อว่าเซี่ยชีหรั่นต้องการขึ้นไปพบคุณค่ะ” วันนี้ที่ล็อบบี้เกิดเรื่อง พนักงานต้อนรับคนใหม่เพิ่งมา ไม่รู้เรื่องของเย่เชินหลินเลยสักนิด
“พาเธอไปที่ห้องรับรองของผม ไม่ต้องให้เธอมาหาผม” เงียบไปหลายนาที ตอนที่พนักงานต้อนรับนึกว่าเขาจะไม่พูดแล้ว เย่เชินหลินก็พูดขึ้น พนักงานต้อนรับถึงกับเหงื่อตก ดีที่เมื่อกี้ไม่ได้รีบไล่เซี่ยชีหรั่นไป
“ขอโทษด้วยนะค่ะคุณเซี่ย คุณเย่ให้คุณตามฉันมาค่ะ” พนักงานต้อนรับยิ้มและนำทางให้เซี่ยชีหรั่น คนที่สามารถทำให้คุณเย่ออกคำสั่งแบบนี้ด้วยตัวเองได้ไม่ใช่คนธรรมดา คนสวยๆที่อยู่ตรงหน้าเป็นอะไรกับคุณเย่นะ พนักงานต้อนรับเดินไปด้วยคาดเดาไปด้วย
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้สร้างความลำบากใจให้พนักงานต้อนรับ คิดถึงตอนที่ตัวเองถูกกับดัก เย่เชินหลินวิ่งวุ่นเพื่อเธออย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ถ้าตอนนี้เธอจากเขาไปเพราะความยากลำบากเพียงเล็กน้อยนี้ เซี่ยชีหรั่นทำไม่ลง น้ำหนึ่งหยดก็ถือเป็นบุญคุณต้องตอบแทน
“คุณเซี่ยคะ คุณเย่ให้คุณพักผ่อนอยู่ที่นี่ค่ะ” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า แต่เธอคิดไม่ถึงว่าการรอครั้งนี้คือต้องรอทั้งคืน
เย่เชินหลินทำงานล่วงเวลามาถึงตีสาม ค่ำคืนที่มืดมิดเงียบสนิท เขาพิงอยู่ข้างหน้าต่าง ในใจสับสนวุ่นวาย เมื่อคิดถึงเซี่ยชีหรั่น ในใจก็จะคิดถึงลูกด้วย
“ชีหรั่น?”เย่เชินหลินนึกถึงสายที่โทรเข้ามาวันนี้ เขาขมวดคิ้วมุ่นพลางเปิดประตูออกจากห้องทำงาน เดินไปยังห้องรับรองที่คุ้นเคย ก้าวเดินที่หนักแน่นและเงาที่โดนไฟสะท้อนลากยาว
เย่เชินหลินหวังว่าเซี่ยชีหรั่นจะกลับไปแล้ว และยังหวังว่าด้วยจะได้เห็นเธอ ความสับสนในใจแบบนี้ แม้แต่ตัวเขาเองยังแยกไม่ออก เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับแผ่นหลังที่คุ้นเคย ในใจของเขาเกิดความสงบอย่าไม่อธิบายไม่ถูก
เซี่ยชีหรั่นพิงอยู่บนโซฟาหลับอยู่เงียบๆ สีหน้าของเธอยุ่งเหยิง เย่เชินหลินจ้องไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างไม่คาดสายตา และไม่ยอมขยับไปไหน คิดถึงเงียบๆและไม่อยากจาก บางทีคงเป็นเพราะว่าเหนื่อยเกินไป เซี่ยชีหรั่นจึงหลับลึก เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในลิฟท์ช้าๆ
หลินต้าฮุยเห็นเย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นไว้ จึงชิ่งเปิดประตูรถไว้ให้ก่อน ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อน คุณเซี่ยนอนหลับอยู่ที่นี่ คงจะไม่เป็นหวัดหรอกนะ คุณเซี่ยไม่มีความสุข คุณเย่ก็คงไม่มีความสุขแน่ ถ้าคุณเย่ไม่พอใจ งั้นคนที่ต้องรับกรรมก็คือพวกเขาพนักงานกลุ่มนี้ จะว่าไปทำไมคุณเซี่ยถึงได้มาหลับอยู่ที่ห้องรับรอง ดึกดื่นเที่ยงคืนทำไมเธอยังรอคุณเย่อยู่ เมื่อนึกถึงเรื่องที่เย่เชินหลินให้เขาไปสืบเรื่องของส้งหลิงหลิง หลินต้าฮุยจึงมองไปที่เย่เชินหลินอย่างระมัดระวังแวบหนึ่ง หวังว่าจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิดนะ? เย่เชินหลินเห็นเซี่ยชีหรั่นหลับอยู่ที่ห้องรับรอง ถ้าจะบอกว่าไม่ห่วง นั้นก็คือโกหกแล้ว
เย่เชินหลินให้หลินต้าฮุยขับช้าลงหน่อย หลินต้าฮุยดูออกว่าเย่เชินหลินเป็นห่วงเซี่ยชีหรั่นที่นอนหลับอยู่ กลัวว่าเธอจะตื่น
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ ไฟที่ห้องรับแขกยังคงสว่างไสวอยู่
เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในคฤหาสน์ เห็นเย่เฮ่าหรันนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก คิดว่าเย่เฮ่าหรันคงมีเรื่องจะคุยกับเขา
เขาว่างเซี่ยชีหรั่นลงที่เตียงพลางห่มผ้าให้อย่างใส่ใจ มองอย่างไม่อยากจะจากไปอยู่แวบหนึ่ง ถึงได้เดินออกไปอย่างเบามือเบาเท้า
เย่เชินหลินยืนอยู่ด้านหน้าของเย่เฮ่าหรันพลางมองไปทางพ่ออย่างสงสัย ดึกขนานนี้แล้วเย่เฮ่าหรันยังรอเขาอยู่อีก เรื่องที่จะพูดจะต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่
“นั่งลงสิ” น้ำเสียงของเย่เฮ่าหรันแฝงไปด้วยความผ่านโลกมาอย่างโชกโชนและจนปัญญากับชีวิต
เย่เชินหลินพยักหน้าพลางนั่งลง รอให้เย่เฮ่าหรันพูดออกมา มองไปที่พ่อของตัวเองรู้สึกราวกับว่าท่านแก่ขึ้นอีกแล้ว
“เชินหลิน ลูกน้อยจากไปแล้ว แต่ชีวิตยังต้องเดินต่อไปนะ การจากไปของลูกน้อยใครก็คาดไม่ถึง อย่าให้ความลำบากเพียงเล็กน้อยมาทำลายเราได้ ความดีของชีหรั่นที่มีต่อเย่เจิ้งเหิงพวกเราไม่ว่าใครก็ล้วนสัมผัสได้ แกเจ็บ เธอจะไม่เจ็บได้ยังไง” เย่เฮ่าหรันมองไปยังลูกชายตรงหน้าที่เป็นพ่อคนแล้ว เขาชื่นชมและดีใจ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงด้วย
“ผมรู้แล้ว พ่อกลับไปพักผ่อนเถอะ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว” ในใจของเย่เชินหลินรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นไม่ได้เป็นคนฆ่าลูก ส้งหลิงหลิงเป็นบ้าจริงรึเปล่า เย่เชินหลินต้องสืบให้รู้แน่ชัด เขาไม่ต้องการปล่อยระเบิดเวลาไว้ข้างกายแน่
เย่เชินหลินบอกลา เย่เฮ่าหรันจากนั้นก็กลับไปที่ห้อง เห็นเซี่ยชีหรั่นนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ มองจากที่ไกลๆร่างของเธอเล็กลงไปมาก
เซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมาหลังจากที่เย่เชินหลินปิดประตูจากไป ในใจคิดตลอดเวลาว่าจะอธิบายกับเย่เชินหลินยังไง ทำยังไงเย่เชินหลินถึงจะไม่ทำงานเอาเป็นเอาตายแบบนั้น ถ้าเธอใส่ใจรายละเอียดให้มากกว่านี้ ส้งหลิงหลิงก็ไม่มีทางทำเรื่องนี้ได้ จิตใต้สำนึกของเซี่ยชีหรั่นก็เอาโทษตัวเอง
เมื่อคิดถึงส้งหลิงหลิง เซี่ยชีหรั่นอยากจะไปดู เธอแกล้งบ้าคงไม่ทำเรื่องไม่ดีกับเชินหลินหลอกนะ เซี่ยชีหรั่นรับรู้ว่าเย่เชินหลินออกไปแล้ว แต่ไม่ได้รับรู้ถึงการมาของเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นยกผ้าห่มขึ้นพลางใส่รองเท้าอย่างลวก ๆ พลางรีบวิ่งออกไปข้างนอก จึงชนเข้ากับเย่เชินหลินที่ด้านข้างประตู เธอถึงได้รู้ตัวว่ายังมีอีกคนอยู่ในห้องด้วย
“หลิน คุณกลับมาแล้วเหรอ?”เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินที่ไม่ได้มีปฏิกิริยาสักเท่าไหร่ เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้เย่เชินหลินเชื่อเธอ ถ้าอธิบายมากไป คุณชายเย่จะรำคาญรึเปล่า ไม่อธิบายเซี่ยชีหรั่นก็ทนมองเย่เชินหลินทำงานโดยไม่ห่วงร่างกายไม่ได้
“คุณจะไปไหน?”เย่เชินหลินคิ้วขมวดเล็กน้อย เห็นเซี่ยชีหรั่นเป็นแบบนี้ เธอจะต้องมีเรื่องแน่ๆ เขามองไปที่เวลา ตอนนี้ใกล้ตีสี่แล้ว เธอยังจะมีเรื่องอะไรได้อีก?
“คุณรีบไปพักเถอะ ฉันจะออกไปเดินสักหน่อย” เซี่ยชีหรั่นไม่อยากบอกเย่เชินหลินว่าเธอต้องการจะไปดูส้งหลิงหลิง ดูว่าเธอจะทำเรื่องไม่ดีกับตระกูลเย่รึเปล่า ไม่มีหลักฐาน เซี่ยชีหรั่นไม่อยากกล่าวหาคนอื่น แม้ว่าส้งหลิงหลิงจะใช้เรื่องของเย่เจิ้งเหิงมาใส่ร้ายเธอ แต่เธอไม่มีหลักฐานก็จะไม่พูดเหลวไหล
เมื่อคิดถึงส้งหลิงหลิง เซี่ยชีหรั่นเห็นใจหล่อนมาก เธอไม่ชิงชังหล่อนอีกแล้ว คนใกล้ตายคนหนึ่งที่เห็นแก่ตัวเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ใช้ประโยชน์ได้แม้กระทั่งลูกในไส้ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าส้งหลิงหลิงบ้ามาตั้งนานแล้ว
“ไม่ให้ไป”เย่เชินหลินพูดด้วยนำเสียงที่เย็นชา ดึกดื่นไม่พักผ่อน ทั้งจะออกไปข้างนอก เขาไม่อนุญาต เขาลากเซี่ยชีหรั่นตรงไปที่ห้องน้ำ นอนหลับที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป ไม่รู้ว่าร่างกายดูดซับอากาศเย็นไปเท่าไหร่ เย่เชินหลินเปิดน้ำอุ่นพลางมองเซี่ยชีหรั่น
“คุณออกไปเถอะ ฉันทำเอง”เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างเอาใจยาก สีหน้าแดงอย่างกับเมฆสีไฟ
เย่เชินหลินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เซี่ยชีหรั่นหวังว่าเย่เชินหลินจะออกไป แต่เย่เชินหลินออกไปโดยไม่พูดไม่จาเลยแบบนี้ ในใจของเซี่ยชีหรั่นก็เริ่มกังวลอีกครั้ง
แต่ก่อนเย่เชินหลินไม่ใช้โอกาสนี้เอาเปรียบเธอก็ไม่เรียกว่าเย่เชินหลินแล้ว
เชินหลิน คุณยังคิดว่าฉันเป็นคนฆ่าลูกอยู่เหรอ?
คืนนี้เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นนอนเตียงเดียวกันแต่คิดกันคนละเรื่อง
เซี่ยชีหรั่นคิดถึงช่วงเวลาที่ตื่นขึ้นมาแล้วเจอเย่เชินหลิน ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่พอลืมตาขึ้นมาข้างกายก็เย็นเฉียบ หัวใจของเธอก็เย็นเฉียบตามไปด้วย เขาไม่เชื่อเธออย่างนั้นเหรอ? เธอรักเขา ดังนั้นเธอก็รักเย่เจิ้งเหิงด้วย เธอไม่เคยคิดจะฆ่าเย่เจิ้งเหิงมาก่อน
เธอสูดลมหายใจแรงๆหนึ่งที ไม่เป็นไร เธอจะต้องทำให้เย่เชินหลินเชื่อให้ได้ว่าเธอไม่ได้ฆ่าลูก
เมื่อเปรียบเซี่ยชีหรั่นกับส้งหลิงหลิงแล้ว ในทุกๆคืนส้งหลิงหลิงล้วนแต่สับสนวุ่นวาย เย่เจิ้งเหิงและเย่เชินหลินเข้ามาทรมานเธอในฝันทุกวัน เธอเห็นลูกหน้าตาซีดเซียวและน้ำเสียงที่น่าสงสารและสายตาเย็นชาอันดำมืดของเย่เชินหลิน ในตอนกลางคืนส้งหลิงหลิงไม่กล้านอน เธอกลัวว่าสองพ่อลูกจะปรากฏตัวออกมาจากความฝัน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset